6เมาส์เกมมิ่งไร้สาย Razer Naga V2 Pro ผมว่าเมาส์ตัวนี้ถือว่าเป็นเจ้าแห่งเมาส์เกมมิ่งเลยครับ เพราะความสามารถครบที่สุด และรองรับการใช้งานหรือเล่นเกมได้ทุกแนวมากที่สุด เพราะเป็นเมาส์ที่ออกแบบมาพิเศษ สามารถเปลี่ยนเพลตด้านข้างของตัวมันเองได้ 3 ชนิด เพื่อปรับลักษณะจำนวนและตำแหน่งปุ่มควบคุมให้เหมาะสมได้หมดทุกแนวเกม
Razer Naga V2 Pro เป็นเมาส์ที่ได้รับความนิยมสูงตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดจำหน่ายแล้วครับ เพราะมีจุดขายสำคัญคือแผงปุ่มด้านข้าง ที่เราสามารถสลับเปลี่ยนไปมาได้ง่าย ด้วยตัวยึดแบบแม่เหล็กที่ถอดประกอบได้ทันทีโดยไม่มีขอเกี่ยวหรือตัวล็อกที่ทำให้เกิดการเสียดสีหรือต้องงัดแงะ
ชุดเพลตปุ่มกดด้านข้างจะมีมาให้ภายในกล่องสามรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยจะมีรูปแบบ 2 ปุ่มกดที่เหมือนเมาส์เกมมิ่งทั่วไป และแบบ 6 ปุ่มกดที่เหมาะสมกับเกมที่เน้นออกสกิลแม่นๆ อย่างเกม MOBA และแบบชนิด 12 ปุ่ม เพื่อเกมที่ต้องมีช็อตคัตเยอะๆ ไว้ออกสกิลหรือตั้งปุ่มมาโครที่หลากหลาย เช่นเกม MMO หรือ FPS ที่ตั้งมาโครไว้ซื้ออาวุธในแต่ละประเภทเป็นต้น
การออกแบบตามสรีระศาสตร์ที่เยี่ยมยอดตามมาตรฐานเมาส์เกมมิ่งตัวท็อปของแบรนด์ Razer ผิวสัมผัสไม่มีคม ติดตั้งไฟ Razer Chroma RGB ที่บริเวณ Logo (และแผ่นเพรต 12 ปุ่มจะมีไฟเช่นกัน) สามารถเก็บ USB dongle ตัวเชื่อมต่อไว้ใต้ฝาเพรต ตัวน้ำหนักเมาส์รวม 134 กรัม การออกแบบสำหรับใช้งานมือขวา
อีกหนึ่งการอัปเกรดที่สำคัญในเมาส์ Naga V2 Pro คือการใช้เซ็นเซอร์ Razer Focus Pro 30K Optical Sensor โดยเซ็นเซอร์ใหม่ล่าสุดนี้จะทำให้เราสามารถนำไปใช้งานเมาส์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าเราจะนำไปใช้งานบนพื้นผิวแบบใด รวมถึงการใช้งานบนพื้นผิวกระจกด้วยครับ ยังคงแม่นยำและควบคุมเมาส์ได้ง่ายเช่นเดิม ใช้แผ่นรองใต้ฐานเมาส์เป็นวัสดุ PTFE ชนิด 100%
ปรับแต่งการใช้งานได้ละเอียดยิบ ปรับจูนค่าเซนเซอร์ให้เข้ากับพื้นผิวได้เองถ้าต้องการ มีฟังก์ชั่นช่วยในการปรับจูนเช่น Smart Tracking, Asymmetric Cut-off กำหนดค่าระยะให้เหมาะสมกับพื้นผิวได้ในโปรแกรม Razer Synapsis โหมดนี้ออกแบบมาสำหรับมืออาชีพเลยละครับ
ตัวเมาส์ยังมีหน่วยความจำภายในตัว เพื่อจดจำการตั้งค่าของปุ่มต่างๆ ในแต่ละชุดเพลตเอาไว้โดยไม่ต้องเซ็ตค่าใหม่ทุกครั้งที่สลับหรือจะใช้งาน โดยจะแยกจดจำเอาไว้ทั้งสามเพลต และยังเก็บเป็นพรีเซ็ตโฟรไฟล์ไว้ได้ในหน่วยความจำของตัวเมาส์โดยตรงได่ถึง 5 โปรไฟล์ เราสามารถกดสลับโปรไฟล์ที่เราเซ็ตไว้จากปุ่มด้านล่างของเมาส์ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมในคอมพ์พิวเตอร์ครับ
การตั้งค่าต่างๆ ของแต่ละปุ่ม รวมถึงการเซฟโปรไฟล์ลงไปเก็บที่ตัวเมาส์ สามารถทำได้ผ่านโปรแกรม Razer Synapsis ตัวเดียวจบเช่นเดิมครับ ทั้งการปรับแต่งสีไฟ รวมถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ระบบของเมาส์ด้วยเช่นกัน
และอีกหนึ่งจุดเด่นพิเศษ คือการออกแบบตัวแป้นหมุนด้านบนที่เราสามารถปรับระดับแอ็กชันสัมผัสจากการหมุนได้เองครับ ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานได้จากการตั้งค่าการหมุนแป้น 6 โหมด
โดยในแต่ละโหมดจะให้สัมผัสการตอบสนองจากตัวหมุนแตกต่างกัน ตั้งแต่เรียบลื่น, แยกเป็นลำดับชัดเจน, หรือแบบ Adaptive ที่จะปรับให้แรงต้านทำให้หมุนเร็วขึ้นด้วยการปรับระดับไปตามแรงหมุนของนิ้ว และโหมด Free ที่จะให้หมุนได้ลื่นไหลได้เร็วที่สุด และสุดท้ายคือโหมด Custom ที่ผู้ใช้สามารถปรับระดับความลื่นไหลและการตอบสนองได้เอง
และมีการใช้ตัวสวิตช์ปุ่มกดแบบ Razer Optical Mouse Switches Gen-3 ที่พัฒนามาจนเป็นสวิตช์ที่ใช้เวลาในการรับรู้การกดได้เพียง 0.2 มิลลิวินาที และไม่มีอาการหน่วงจากการเด้งกลับของปุ่มเลย ทำให้กดได้ถี่ กดได้รัว เสียงเพราะด้วยครับ “กิ๊ก” เบาๆ ใช้ระบบตรวจสอบแรงกดผ่านแสงอินฟราเรดจึงไม่เกิดปัญหาการคลิ๊กซ้อนนิ้วลั่นโดยที่เราไม่ตั้งใจ และทาง Razer การันตีความทนทาน ด้วยคุณภาพปุ่มที่รองรับกดได้มากกว่าเดิมที่ 90 ล้านครั้ง – – กดจนนิ้วพังเมาส์ยังไม่เป็นไรเลยครับ
ในด้านการเชื่อมต่อทำมารองรับสามระบบทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสายครับ โดยเมาส์ Naga V2 Pro ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ใน 2 เทคโนโลยี
HyperSpeed Wireless เทคโนโลยีเฉพาะตัวเก่งของ Razer ที่ทำให้ Naga V2 Pro สามารถรับส่งข้อมูลในแบบไร้สายระดับสูง ความหน่วงต่ำ เป็นเทคโนโลยีไร้สายเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ สามารถตรวจจับและสลับช่องความถี่สัญญาณได้แบบ Adaptive เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนอยู่มากได้ทันที
เทคโนโลยี Razer HyperSpeed จะใช้ตัวรับสัญญาณที่เป็นลักษณะ USB dongle ซึ่งมีมาให้ภายในกล่อง มีความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สายได้กับอุปกรณ์เรเซอร์หลายอุปกรณ์ได้พร้อมกันด้วยตัวรับเพียงตัวเดียว ช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีคีย์บอร์ดเทคโนโลยี Razer HyperSpeed อยู่ด้วย สามารถเชื่อมต่อร่วมกับ Naga V2 Pro ได้ผ่าน USB dongle ตัวเดียวกัน เป็นการช่วยลดการใช้พอร์ต USB บนเครื่อง PC, Notebook ลงได้
และการเชื่อมต่อผ่าน สัญญาณบลูทูธเพื่อการใช้งานแบบอเนกประสงค์ และสามารถเชื่อมต่อแบบเสียบสายเคเบิล SpeedFlex USB Type C ที่มีมาให้ภายในกล่อง เป็นสายที่ออกแบบมาแบบไร้แรงต้าย และสามารถชาร์จไฟไปได้พร้อมกันในขณะเล่นเกม
เมาส์ Naga V2 Pro สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้งแบบเสียบสาย USB และชาร์จไร้สายได้ในมาตรฐาน Qi แต่ต้องมีอุปกรณ์เสริมนั้นคือ Razer Wireless Charging Puck ที่สามารถเปลี่ยนกับฝาปิดด้านล่างของตัวเมาส์ ซึ่งมีจำหน่ายมาคู่กันเป็นแพ็กเกจ
และในชุดจำหน่ายยังมีแพ็กเกจที่มากับ Razer Mouse Dock Pro ซึ่งเป็นฐานชาร์จไร้สายที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กันเพื่อความสวยงาม และยังทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญาณไร้สายจากตัวเมาส์เข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้แทน USB dongle ได้ในตัว แต่จะเป็นเทคโนโลยีที่ดีกว่าและมีความเสถียรที่สูงกว่าครับ โดยตัวแบตเตอรี่ของ Naga V2 Pro สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวกว่า 15 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อผ่านสัญญารไร้สาย HyperSpeed Wireless และสามารถใช้งานได้นานถึง 300 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อบลูทูธ
สรุปท้ายรีวิว
Naga V2 Pro เป็นเมาส์เกมมิ่งแบบตัวเดียวจบ ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงจากเพลตข้าง 3 ชิ้น ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้ลหลากหลาย นำไปเลือกใช้งานได้เองทั้งในการเล่นเกมรวมถึงการทำงานต่างๆ ด้วยครับ ไม่ว่าจะใช้ในด้านครีเอเตอร์ตัดต่อวีดีโอหรือแต่งภาพ รวมถึงโปรแกรมเอกสารไฟล์งานต่างๆ เพราะมีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้เยอะและหลายแบบ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย Razer HyperSpeed Wireless ก็รวดเร็วในระดับเพื่อการเล่นเกมได้โดยตรง
แป้นหมุน Razer HyperScroll Pro Wheel รุ่นใหม่ ปรับเปลี่ยนเมาส์ตัวนี้ให้ลูกกลิ้งตอบสนองได้แบบที่เราชอบใจ ปรับได้เองอิสระอย่างมากครับ เซนเซอร์ด้านล่าง Razer Focus Pro 30K Optical Sensor มีความแม่นยำ และใช้งานได้หลากหลายพื้นผิว พกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ ไม่เจอปัญหา รองรับการชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้งเสียบสายหรือชาร์จไร้สายได้เมื่อมีอุปกรณ์เสริม Razer Wireless Charging Puck
ความทนทานสูง Razer Optical Mouse Switches Gen-3 ใช้งานได้มากกว่า 90ล้านครั้ง แ Naga V2 Proละการรับประกันจาก Razer ที่ยาวนานสองปี ใช้กันได้ยาวคุ้มกับราคาครับ
Razer เปิดจำหน่ายในราคา 179.99 ดอลลาร์ และแบบแพ็กเกจพร้อมตัวอุปกรณ์เสริม Razer Wireless Charging Puck 199.99 ดอลลาร์ และแพ็กเกจใหญ่สุด Razer Naga V2 Pro + Mouse Dock Pro Bundle ที่จะมี Razer Wireless Charging Puck มาให้ด้วย ในราคา 249.98 ดอลล่าร์
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Razer Naga V2 Pro ดูได้ ที่นี่