realme 12 5G และ 12X 5G คุ้มค่าที่สุด กล้อง Portrait 3X และหน่วยความจำใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์
realme 12 5G และ 12X 5G มาในตัวเครื่องที่สวยงาม แข็งแรง และมีราคาที่คุ้มค่าที่สุด ออกแบบตัวเครื่องภายนอกมาได้อย่างปราณีต มีความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมสเปกภายในให้มาคุ้มทั้งชิปเซ็ต, RAM และ ROM ซึ่งมีขนาดใหญ่
realme 12 5G ได้กล้องคุณภาพสูง 108MP ที่สามารถซูมภาพพอร์ตเทรตได้ 3X แบบไม่สูญเสียรายละเอียด หน้าจอคมชัด รีเฟรชเรทสูง ความละเอียดดี เป็นรุ่นระดับ Mid-End ที่มาขายอยู่ในราคาแค่หลักพัน
realme 12X 5G รุ่นราคาประหยัด ที่ประหยัดจริงเพราะนอกจากจะได้ชิปเซ็ต Dimensity 6100+ 5G และ RAM/ROM ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ราคา ตัวเครื่องก็ยังบาง ใช้งานได้ยาวนาน เพราะมีการการันตีด้านความทนทานจาก TÜV SÜD Fluency ว่าสามารถใช้งานได้ราบลื่นแบบมีประสิทธิภาพได้นานเป็นเวลาถึง 48 เดือน
The Good
- ตัวเครื่องสวยงาม การประกอบดีมาก ดีไซน์ฝาหลังโดดเด่น ใช้เทคนิคการผลิตระดับสูง
- ตัวบาง น้ำหนักเบา ทนทานต่อการใช้งาน ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54
- หน่วยความจำขนาดใหญ่ 8GB+256GB ใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ราคาเดียวกัน
- realme 12 5G ให้กล้องถ่ายภาพแบบ Portrait 3X Zoom 108MP ถ่ายภาพบุคคบระยะ 3 เท่าได้แบบไม่เสียรายละเอียด
The Bad
- ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้ภายในกล่อง
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
realme 12 5G และ realme 12X 5G สมาร์ตโฟนสองรุ่นใหม่ที่รองรับ 5G ตัวเครื่องสวยด้วยการใช้ดีไซน์จากเครื่องเรือธง กำหนดสเปกเครื่องมาได้คุ้มราคาอย่างมาก เพราะเป็นเครื่อง 5G ที่เปิดตัวมาเป็นตัวเลือกในช่วงราคาแค่ไม่ถึงหกพันบาทเท่านั้นเอง
realme 12 5G และ 12X 5G ยังคงมาในสไตล์ของ Number Series ที่เป็นรุ่นหลัก จะสังเกตเห็นตั้งแต่ตัวเครื่องภายนอกที่ผลิตมาด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในการออกแบบในการทำลวดลายฝาหลัง ใช้ตัวเครื่องทรงเหลี่ยมตัดขอบกระชับเน้นความเบาบาง และได้ความแข็งแรงตามมาตรฐานการทดสอบ realme ทั้งความทนของปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ
แค่แรกสัมผัสเครื่องทั้งสองรุ่นนี้ก็รับรู้ได้ว่า แม้ realme มักขายเครื่องออกมาในราคาไม่แพงเพื่อเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าวัยรุ่น แต่มาตรฐานการเลือกใช้วัสดุและงานประกอบของแบรนด์นี้ถือว่าดีมากครับ
กล้องหลังออกแบบสวยงาม เป็นกล้องทรงกลมแบบเครื่องเรือธง แกะสลักลายเส้นลักษณะคล้ายหน้าปัดนาฬิกา พร้อมขัดเงาด้วยเทคนิค Sunburst สะท้อนแสงเป็นเงาแวววาวสวยงาม
realme 12 5G และ 12X 5G ตัวเครื่องภายนอกจะมีขนาดและรูปทรงที่แทบจะเท่ากันพอดี แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่หลายจุดนะครับ ทั้งตัวเครื่องภายนอก, ลวดลายฝาหลัง และสีของตัวเครื่องที่ให้มาแตกต่างกัน ให้หน้าจอมาคนละแบบ รวมถึงสเปกกล้องและสเปกเครื่องภายใน
จะมีอะไรที่แตกต่างกันและเป็นจุดเด่นของแต่ละรุ่นกันบ้าง เรามาดูรายละเอียดของทั้งสองรุ่นกันด้านล่างได้เลยครับ
“realme 12 5G” ขอบเงา จอเทพ กล้องคุณภาพสูง
realme 12 5G จะสังเกตได้ง่ายด้วยการออกแบบภายนอกที่ไม่เหมือนเครื่องราคาหลักพัน เพราะใช้เทคนิคการชุบขอบแบบ PVD ขัดเงา ที่นิยมใช้กับการผลิตเคสนาฬิกา ทำให้ขอบเครื่องดูสวยงามคล้ายโลหะ และยังใช้กระบวนการนี้ในการสร้างเอฟเฟ็กต์ลายเส้นผ่าบนกลางฝาหลังเป็นเส้นตรงคล้ายกับเครื่องเรือธง งานออกแบบจึงดูไม่ธรรมดา ผิวสัมผัสแบบด้าน ไม่เหนียวติดมือ และใช้งานไม่เกิดคราบมันรอยนิ้วมือครับ
หน้าจอสแดงผลด้านหน้าก็ใช้เป็นจอคุณภาพสูง เป็นจอ IPS ขนาด 6.72 นิ้ว ขอบจอบางมาก ได้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 91.4% ความละเอียด FHD+ แสดงสีสันได้ 16.7 ล้านสี ให้ความสว่างสูงสุด 950nit มีรีเฟรชเรทแบบไดนามิกที่ปรับตัวเองได้ 6 ระดับ ตั้งแต่ 45Hz, 48Hz, 50Hz, 60Hz, 90Hz ไปจนถึง 120Hz ติดตั้งกล้องหน้าไว้ 8MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
หน้าจอสวยและยังประหยัดแบตด้วยครับเพราะเมื่อภาพบนหน้าจอไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นระยะเวลาประมาณหนึ่ง ตัวระบบจะปรับรีเฟรชเรทของจอลงมาเหลือ 45Hz โดยอัตโนมัติ ทำให้ใช้พลังงานระหว่างวันได้น้อยลงอย่างมากครับ
ในด้านระบบเสียงก็รองรับระบบเสียงลำโพงคู่สเตอริโอ และสามารถเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติได้ 200% เสียงดังชัดมากครับ ทั้งเสียงมีเดียและเสียงแจ้งเตือน รวมถึงสายเรียกเข้า
สามารถปรับแต่งระบบเสียงได้ภายในระบบ โดยมีการใส่ระบบเสียง OReality Audio เข้ามาให้ใช้ เป็นพรีเซ็ตเสียงที่มาใน 3 รูปแบบ เกม, เพลง, ภาพยนตร์ และระบบอัจฉริยะที่จะปรับเปลี่ยนพรีเซ็ตเสียงไปตามคอนเทนต์ที่กำลังใช้งานได้อัตโนมัติ
ตัวเครื่องบางเบาเพียง 7.69 มม. และมีน้ำหนักเพียง 188 กรัม กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54
จุดสแกนลายนิ้วมือด้านข้างที่เป็นปุ่มพาวเวอร์ ได้มีการใส่ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dynamic Button ให้เราสามารถกำหนดค่าของปุ่มพาวเวอร์และที่สแกนนิ้ว เป็นการเรียกใช้งานด่วนได้ด้วย เรากำหนดหน้าที่ได้ตามต้องการในการตั้งค่าภายในระบบครับ
ภายในติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh มาให้ พร้อมกับรองรับระบบชาร์จไว 45W SUPERVOOC จากที่ทดสอบชาร์จแบตได้ 100% ในเวลาประมาณ 65 นาทีครับ และตัวเครื่องไม่ร้อน มีความปลอดภัยสูง เพราะระบบชาร์จจะมีอัลกอริธึมปรับแรงดันไฟฟ้าในระหว่างการชาร์จ โดยเฉพาะในช่วง 10% สุดท้ายจะมีการลดแรงดันไฟลงอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานได้มากขึ้น
รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิมการ์ด ใส่สล็อตซิมมาเป็นแบบไฮปริด สลับใส่ซิมที่สองกับ microSD Card ได้ รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 5.0
การจับสัญญาณทำได้ดีไม่มีปัญหาใดๆ โดยตัวเครื่องมีการออกแบบเสาอากาศหลายอันในแต่ละมุมของสมาร์ตโฟนเพื่อจับสัญญาณความถี่ต่างๆ โดยถูกออกแบบให้มีตรวจสอบคุณภาพสัญญารแบบเรียลไทม์เพื่อประเมินว่าเสาอากาศใดมีสัญญาณที่ดีที่สุด และจะสลับไปใช้เสาอากาศที่เหมาะสมนั้นได้ทันที เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่เสถียรและจับสัญญาณได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึน
realme 12 5G จะมีเข้ามาจำหน่ายสองสี คือ Twilight purple สีโทนม่วงเทรนด์ยอดนิยมของแวดวงแฟชั่นในปี 2024 และสี Woodland Green สีโทนเขียวดูสุขุม สงบ และดูหรูหราไปพร้อมกันซึ่งเป็นสีที่เห็นในบทความรีวิวนี้ครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ realme 12 5G ก็มีเคสใสซิลิโคน พร้อมกับสาย USB และที่ชาร์จ 45W SUPERVOOC แถมมาให้ครับ
กล้องถ่ายภาพของ realme 12 5G นับว่าเป็นของที่พิเศษเกินเรทราคา เพราะว่าให้มาเป็นกล้องหลังที่สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบ Portrait Zoom 3X ซูมอินเซ็นเซอร์ เปลี่ยนมุมมองการถ่ายได้แบบไม่สูญเสียรายละเอียด
ติดตั้งกล้องหลัง 108MP ทำงานคู่กับกล้องช่วยจับโฟกัส 2MP ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 20 เท่า
ตัวกล้องถ่ายบุคคลได้คมและสนุกมาก ตัดฉากหลังได้เนียนสวย การซูมภาพ 1x และ 3x ที่จะได้ระยะ 72 มม. ซึ่งเป็นระยะเลนส์ที่นิยมใช้ในการถ่ายภาพบุคคล ตัวกล้องมีฟังก์ชั่นบิวตี้เพิ่มความเนียนใสของใบหน้า ปรับค่ารูรับแสงได้อิสระ f1.4 ไปถึง f16
การถ่าย 1x จะได้ระยะภาพ 24mm เป็นระยะมุมกว้างที่จะเก็บบุคคลพร้อมฉากหลัง ส่วนระยะ 3x จะได้ระยะ 72 มม. ฉากหลังจะถูกดึงมาใกล้แบบมากขึ้น จึงดูมีมิติที่ต่างออกไปจากปกติ ภาพดูลึกขึ้นครับ
มีโหมดถ่ายภาพบุคคลแบบกลุ่มใส่เข้ามาให้ใช้งานด้วย ซึ่งภาพบุคคลแบบกลุ่มนี้จะเป็นการถ่ายภาพที่มีขนาดความละเอียดสูงมาก ระดับ 12000×10290 พิกเซลเลยทีเดียว ช่วยให้ทุกคนที่อยู่ในภาพจะอยู่ในโฟกัส มีรายละเอียดที่ชัดเจน ไม่หลุดไปกับฉากหลังที๋โดนเบลอ
ด้วยขนาดภายที่ใหญ่มากจากโหมดถ่ายภาพบุคคลแบบกลุ่ม เราจึงสามารถถ่ายก่อนแล้วค่อยมาครอบส่วนที่ต้องการได้ในภายหลัง ภาพก็ยังมีรายละเอียดครบถ้วนคมชัดครับ
ระบบกล้องของ realme 12 5G มีการใส่ฟิลเตอร์ที่น่าสนใจมาให้มากมาย โดยเฉพาะฟิลเตอร์โทนสีที่ได้จากธีมของภาพยนตร์ โดยจะเป็นฟิลเตอร์ที่ได้รับการออกแบบจากคุณ Claudio Miranda ผู้ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่เข้ามาปรับแต่งฟิลเตอร์แนวภาพยนตร์เอาไว้ให้ใช้สามแบบ
โดยทั้งฟิลเตอร์และการซูมภาพบุคคล 3X สามารถทำงานร่วมกันได้ในโหมดถ่ายภาพบุคคลครับ อยากได้อารมณ์ภาพในสีโทนไหน สามารถเลือกใช้งานได้ตามใจในตัวกล้องของรุ่นนี้ได้เลยครับ
- ฟิลเตอร์การเดินทาง (Journey Filter) – ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ “Life of Pi“ เพิ่มสีที่มีคอนทราสต์สูงและเน้นโทนสีเหลือง สร้างบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในความฝัน
- ฟิลเตอร์ความทรงจำ (Memory Filter) – ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ “The Curious Case of Benjamin Button“ ฟิลเตอร์นีจะเน้นไปที่สีโทนเย็น เพิ่มบรรยากาศภาพที่ดูสงบเหมือนเป็นภาพความทรงจำ
- ฟิลเตอร์มาเวอริค (Maverick Filter) – ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ “Top Gun: Maverick”: เน้นโทนสีเหลืองเขียว เพิ่มคอนทราสต์ตามสไตล์ย้อนยุค ชวนให้นึกถึงการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม 35 มม. แบบคลาสสิกในอดีต
มีโหมดถ่ายภาพแนวสตรีท (ท้องถนน) โดยในโหมดนี้ตัวระบบจะเร่งความเร็วของสปีดชัตเตอร์ไว้สูง เพื่อการถ่ายแบบสแนปช็อตหรือแคนดิตในทุกโอกาสได้คมชัด และใส่ข้อมูลการซูมให้เป็นตัวเลขระยะเลนส์เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เราสามารถใช้โหมดนี้ร่วมกับฟิลเตอร์ภาพต่างๆ ของกล้องได้ทั้งหมด เหมาะสำหรับใช้เดินถ่ายภาพไปตามสถานที่ต่างๆ ถ่ายโน้นถ่ายนี้อิสระตามใจเราเลยครับ ^^
และในโหมดถ่ายภาพสตรีทของ realme 12 5G จะมีความสามารถพิเศษใส่เอาไว้นั่นคือ “ซูมอัตโนมัติ” แค่เรากดเปิดโหมด “ZOOM” บริเวณด้านบนขอบหน้าจอ แล้วติ๊กเลือกไปที่ตัวแบบ ตัวกล้องก็จะจัดเฟรมและซูมภาพเข้าไปที่ตัวแบบได้อัตโนมัติทันทีครับ
กล้องหน้า 8MP ก็สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ละลายหลังได้เช่นกัน มีฟิลเตอร์ถ่ายภาพในแนวภาพยนตร์ให้ใช้งานเหมือนกล้องหลังด้วย และยังสามารถปรับแต่งใบหน้าเนียนได้ละเอียดทุกอวัยวะบนใบหน้า รวมถึงฟังก์ชั่นเซลฟี่ในที่แสงน้อยที่ตัวเครื่องจะใช้แสงหน้าจอเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้าของแบบได้ทันที เมื่อตรวจพบสภาพแสงแวดล้อมที่มีความสว่างน้อยเกินไป
ตัวอย่างภาพกล้องหน้า
“realme 12X 5G” ฝาหลังลวดลายพิเศษ เครื่องบางที่สุดในเซกเมนต์ สเปคแรงคุ้มค่า ราคาประหยัด
realme 12X 5G แม้จะเป็นรุ่นที่ราคาเบาลง ราคาประหยัดมาก แต่ทาง realme ก็ยังใช้ดีไซน์ที่มรขั้นตอนการผลิตที่ไม่ง่าย เพื่อความสวยงามและแตกต่างไม่เหมือนใคร
โดยรุ่นนี้มีเข้ามาจำหน่ายด้วยกัน 2 สี นั่นคือสี Glowing Black สีดำโทนเข้มที่ให้ผิวสัมผัสด้านแบบไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือในขณะถือใช้งาน และสี Feather Green สีโทนเขียวที่เป็นลวดลาย 3D คล้ายขนนก ซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวนี้ครับ
ทำลวดลายฝาหลังออกมาคล้ายขนนก ผลิตด้วยเทคนิค Photolithography Process-Feather Texture เกิดเป็นโครงสร้างลวดลายขนนกที่มีความลึก 3 มิติแบบสมจริงบนพื้นผิวโทรศัพท์ สวยงามแปลกตา ลวดลายสะท้อนเงากับแสงที่มากระทบ
ตัวเครื่องบางเพียง 7.89 มม. ถือว่าบางที่สุดในเซกเมนต์ราคาเดียวกัน กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่องตรงปุ่มพาวเวอร์เหมือนรุ่นพี่
แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh มาให้ ซึ่งรุ่นนี้จะรองรับระบบชาร์จ 15W SUPERVOOC แม้จะไม่ได้มีความเร็วในการชาร์จที่สูงมาก แต่เป็นระบบชาร์จไฟความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานของ SUPERVOOC ชาร์จไฟทั้งวันตัวเครื่องก็ไม่ร้อน จากที่ทดสอบชาร์จแบตได้ 1% ในเวลา 1 นาทีโดยประมาณ
รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิมการ์ด ใส่สล็อตซิมมาเป็นแบบไฮปริด สลับใส่ซิมที่สองกับ microSD Card ได้ รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 5.0 การจับสัญญาณไม่มีปัญหา เสาอากาศมีการจัดวางแบบเป็นวงกลม 360° ตามแนวกึ่งกลางของเฟรม ทำให้ในขณะใช้งานสัญญาณจะมีเสถียรและไม่ถูกรบกวนจากการจับถือ ไม่ว่าจะใช้งานในแนวตั้งหรือแนวนอน
หน้าจอสแดงผลด้านหน้า เป็นจอ IPS ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด HD+ เป็นเพียงรุ่นเดียวในระดับนี้ที่ได้รับการรับรอง TÜV Rheinland Low Blue Light มาเรียบร้อยแล้ว เพราะหน้าจอของ realme12x 5G สามารถช่วยลดแสงสีน้าเงินที่เป็นอันตรายได้อย่างมากแม้จะใช้งานในที่แสงน้อยระดับความสว่าง 1nits ก็ไม่ทำให้ตาพร่า
ความสว่างสูงสุด 625nit มีรีเฟรชเรทแบบไดนามิกที่ปรับตัวเองได้ 4 ระดับ 120/90/60/50Hz ตัวระบบจะปรับรีเฟรชเรทของจอลงมาโดยอัตโนมัติเมื่อพบว่าภาพบนหน้าจอไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้ลดการใช้พลังงานระหว่างวันลงได้ ติดตั้งกล้องหน้าไว้ 8MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
นอกจากนั้นด้วยประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งมาแล้ว และการออกแบบประสิทธิภาพด้านซอฟต์แวร์ทั้งการดูแลระบบเครื่องในระยะสั้น และการดูแลสุขภาพเครื่องในระยะยาว ทำให้ realme 12x 5G เป็นเครื่องที่ได้รับการรับรอง TÜV SÜD Fluency เป็นเวลา 48 เดือน ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รับรองว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้งานเครื่องรุ่นนี้ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ล่าช้า ตลอดอายุการใช้งานเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปีนั่นเองครับ
ในด้านระบบเสียงของ realme 12X 5G เป็นลำโพงเดี่ยวที่สามารถเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติได้ 200% เสียงดังชัด และสามารถปรับแต่งผ่านระบบเสียง OReality Audio ที่มีพรีเซ็ตเสียงมาให้ 3 รูปแบบ เกม, เพลง, ภาพยนตร์ พร้อมตัวเลือกในระบบอัจฉริยะที่จะปรับเปลี่ยนพรีเซ็ตเสียงไปตามคอนเทนต์ที่กำลังใช้งานได้อัตโนมัติ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ realme 12X 5G มีเคสซิลิโคน, สาย USB และที่ชาร์จ 15W SUPERVOOC แถมมาให้
กล้องถ่ายภาพของ realme 12X 5G ให้มาเป็นกล้องหลังตัวเดียวเลยครับ 50MP แต่ก็มีโหมดถ่ายภาพมาครบไม่ขาดอะไรไป ทั้งโหมดถ่ายภาพบุคคล โหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมดถ่ายภาพแนวสตรีท (ท้องถนน) สามารถซูมภาพแบบดิจิทัลได้สูงสุด 10 เท่า
แต่การถ่ายภาพบุคคลก็ยังทำได้คมนะครับ แม้จะเป็นกล้องจากรุ่นเล็กแต่ก็ทำมาได้ดีเช่นกัน มีฟังก์ชั่นบิวตี้เพิ่มความเนียนใสของใบหน้า ปรับค่ารูรับแสงได้อิสระ f1.4 ไปถึง f16 และมีฟิลเตอร์ให้ใช้งานอยู่หลายโทนสี และกล้องหน้า 8MP สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ละลายหลังได้เหมือนกล้องหลัง ปรับแต่งใบหน้าได้ละเอียดทุกอวัยวะ และฟังก์ชั่นเซลฟี่ในที่แสงน้อย ตัวเครื่องจะใช้แสงจากหน้าจอเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้าของแบบได้
ตัวอย่างภาพจากหลายๆ โหมดของ realme 12X 5G
สเปกเครื่องและการใช้งานภายในของ realme 12 5G และ realme 12X 5G
realme 12 5G และ realme 12x 5G จะใช้สเปคภายในที่เป็นชิปเซ็ตเดียวกัน นั่นคือ Dimensity 6100+ ชิปเซ็ต 5G ที่ผลิตในเทคโนโลยีระดับ 6 นาโนเมตร แต่จะแตกต่างกันที่ขนาด RAM และ ROM เท่านั้นครับ
โดยในรุ่น realme 12 5G จะให้ RAM 8GB (ขยายได้อีกสูงสุด 8GB) + ROM 256GB มีเข้ามาในขนาดเดียว (ราคา 7,999 บาท)
ส่วนในรุ่น realme 12X 5G จะให้ RAM 6GB (ขยายได้อีกสูงสุด 6GB) + ROM 128GB (ราคา 5,999 บาท) โดยจะมีนำเข้ารุ่นขนาดความจำ 8GB/256GB เข้ามาด้วย (ราคา 6,999 บาท) ถือว่าเป็นเครื่อง 5G ที่ให้สเปกมาใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ราคาเดียวกันเลยครับ
ประสิทธิภาพของชิปเซ็ตตัวนี้ถือว่าแรงเลยครับ จัดให้ไปอยู่ในกลุ่ม Mid-End สามารถเล่นเกมกราฟิก 3D ได้ลื่นมากพอแล้วครับในระดับไม่ติดขัดอะไร การใช้งานต่างๆ ลื่นไหล รวมกับหน้าจอรีเฟรชเรทระดับ 120Hz ของทั้งสองรุ่นทำให้ใช้งานด้านความบันเทิงกันสนุกครับ
ทั้งคู่รันดัวยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0 มีความสามารถใหม่ใส่เข้ามาให้หลายอย่าง เช่น ฟังก์ชั่นที่เรียกว่า “มินิแคปซูล” ที่จะเปลี่ยนบริเวณพื้นที่กล้องหน้า ให้เป็นพื้นที่แจ้งเตือนพิเศษ คอยบอกสถานะบางอย่างเอาไว้ เช่นสภาพอากาศ, สถานะแบตเตอรี่, เพลงที่กำลังเล่นอยู่ เป็นต้น เพิ่มความสวยงามให้หน้าจอได้อย่างเก๋ๆ เลยครับ ^^
ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dynamic Button หรือ “ปุ่มไดนามิก” จะเป็นการกำหนดหน้าที่ให้กับปุ่มพาวเวอร์ เพื่อใช้เป็นช็อตคัทสั่งงานด่วน เช่น ใช้เปิดปิดโหมดต่างๆ ของระบบ, ใช้เปิดการทำงานของกล้อง, เปลี่ยนโหมดเสียง หรือตั้งค่าใว้ให้เปิดแอปพลิเคชั่นตัวหนึ่งตัวใดเอาไว้ เปิดใช้ได้ทันทีแค่ แตะสองครั้ง, กดสองครั้ง หรือกดค้างไว้
ระบบ File Dock พื้นที่ฝากไฟล์ ทั้ง ไฟล์ภาพ ลิงก์ ข้อความ สามารถไปพักไว้ในพื้นที่พิเศษนี้เพื่อเรียกใช้งานได้ในภายหลัง ทำให้เราสามารถก็อบบี้ใช้งานสิ่งต่างๆ ได้ข้ามแอปพลิเคชั่น รวมถึงสามารถใช้งานได้ข้ามอุปกรณ์ของ realme ถ้ามีการล็อคอินระบบ HeyTap เอาไว้ในระบบคลาวด์ของเครื่อง
ราคาและโปรโมชั่น
realme 12 5G หน่วยความจำขนาด 8GB+256GB ราคา 7,999 บาท
– ช่องทางเครือข่าย AIS TRUE DTAC เปิดขายวันแรก 26 เมษายน
– ตัวแทนจำหน่ายและ realme Brand Shop เปิดขายวันแรก 26 เมษายน
– ช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, tiktok Shop เปิดขายวันแรก 23 เมษายน พร้อม voucher ส่วนลด 500 (ตามระยะเวลาที่กำหนด)
realme 12X 5G หน่วยความจำขนาด 6GB+128GB ราคา 5,999 บาท
**** จำหน่าย Exclusive เฉพาะช่องทาง Dtac และ True มีราคาพิเศษซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจราคาเริ่มต้นเพียง 3,499 บาท เปิดขายวันแรก 26 เมษายน
realme 12X 5G หน่วยความจำขนาด 8GB+256GB ราคา 6,999 บาท
– ช่องทางเครือข่าย AIS เปิดขายวันแรก 26 เมษายน
– ตัวแทนจำหน่ายและ realme Brand Shop เปิดขายวันแรก 26 เมษายน
– ช่องทาง Shopee, Lazada, tiktok Shop เปิดขายวันแรก 23 เมษายน พร้อม voucher ส่วนลด 500 (ตามระยะเวลาที่กำหนด)