ภาพและเสียงเหมาะกับงานด้านความบันเทิงอยู่แล้ว ใช้จอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว FullHD+ เป็นจอ Super AMOLED สีสันสดใส Refresh Rate สูง 90Hz ขอบจอเล็ก จอภาพเต็มหน้าเครื่อง เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเอาไว้ และเป็นหน้าจอที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรงตัวเครื่องจึงมีความบาง บางแค่ 7.99 มิลลิเมตรเท่านั้น น้ำหนัก 182 กรัมเท่านั้น
ในด้านระบบเสียงของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ก็ใช้ลำโพงคู่สเตอริโอคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos มาให้ เสียงดังชัดเจนมีมิติ มาครบความน่าใช้ทั้งภาพและเสียงครับ
สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสนุกในการใช้งานมากขึ้นไปอีก คือระบบสั่นจากมอเตอร์ X-axis Motor Tactile Engine ตัวมอเตอร์ที่เข้ามาสร้างความแตกต่างในทิศทางและความแรงของการสั่นให้มีหลากหลายระดับ ปกติเราจะพบได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ครับ การสั่นหลากหลายความรู้สึก เพื่อให้สอดรับกับการรับรู้ของมือเราได้แบบหลากหลาย
เราสามารถเข้าไปกำหนดระดับการตอบสนองได้ในการตั้งค่า O-HAPTICS ผมชอบมากกับระบบมอเตอร์ตัวนี้ มันเพิ่มอรรถรสในการใช้งานได้ ให้เรารับรู้การตอบสนองในระดับที่แตกต่างได้ รวมไปถึงในการเล่นเกมก็สามารถตอบสนองได้แตกต่างกัน สนุกขึ้นเยอะครับ ^^
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด แม้เครื่องจะบางเบาแต่ภายในใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh มาใช้ พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 60W Super Dart Charge อีกด้วย ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ได้ในเวลาประมาณแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง
และรักษาอุณหภูมิขณะชาร์จได้ดีมากๆ เวลาใช้งานตัวเครื่องจะไม่มีความร้อนสะสมให้เป็นกังวลเลยครับ เพราะภายในมีการใส่ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อให้ครอบคลุมจุดกำเนิดความร้อนหลักๆ ของเครื่องได้ทั้งหมด 100%
ควบคุมความร้อนได้ดี ทำให้สมาร์ทโฟนทำงานในระดับประสิทธิภาพสูงสุดได้ยาวนาน ทดสอบการเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมง ไม่เกิดความร้อนสะสมให้เป็นกังวลครับ การควบคุมอุณหภูมิเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับเครื่องที่ต้องการจะนำมาเล่นเกมโดยเฉพาะ เพราะถ้าเครื่องร้อนง่ายประสิทธิภาพก็จะตก และสมาร์ทโฟนก็จะเสื่อมไวในระยะยาวด้วยครับ
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ให้สเปคกล้องมาแบบจัดเต็มมากครับ เรียกได้ว่าเลือกใช้เซนเซอร์กล้องที่ดีที่สุดในตลาดระดับนี้ กล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่นที่ใส่มาเป็นคู่ทั้ง OIS และกันสั่นด้วยซอฟท์แวร์ EIS เลนส์ที่สองเป็นเลนส์อัลตร้าไวด์ 119 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์สุดท้ายเป็นเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล คุณภาพหายห่วงครับ กล้องดีมากๆ และมีโหมดถ่ายภาพให้เล่นเยอะมาก ออกแนวสไตล์วัยรุ่นเพราะมีโหมดสตรีท และฟังก์ชั่นที่เล่นกับแสงสีและไฟกลางคืนเยอะทีเดียวครับ
การใช้งานภายใน
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 920 5G ตัวนิยมราคาดีที่มีประสิทธิภาพสูงครับ ผลิตในเทคโนโลยีระดับ 6 นาโน แรงและประหยัดพลังงาน เป็นหน่วยประมวลผลที่สามารถทำคะแนน Benchmark ได้คะแนนสูงกว่า 500,000 คะแนนเลยครับ การใช้งานต่างๆ ทำงานบน Android 12 ที่ครอบทับไว้ด้วย realme UI 3.0 ตัวใหม่ล่าสุด
ให้ ROM หรือหน่วยความจำภายในมา 128GB และให้แรมมาขนาด 8GB ซึ่งสามารถขยายแรมออกไปได้อีก 5GB จากพื้นที่หน่วยความจำที่ยังไม่ถูกใช้งาน ด้วยขนาดแรมรวม 13GB ขนาดนี้ การใช้งานลื่นไหลไม่มีปัญหาใดๆ ครับ ทดสอบมาไม่เจออาการแลค ค้าง หรือรีสตาร์ท ระบบนิ่งและแน่น ความเสถียรของระบบเชื่อถือได้ครับ
ด้วยความแรงของชุดประมวลผล บวกกับระบบที่ดีนิ่งและแน่น พร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System ขนาดใหญ่พิเศษ และมอเตอร์สั่น X-axis Motor Tactile Engine บนหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ และลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดี แน่นอนว่าการใช้งานในการเล่นเกม, ดูหนัง, ความบันเทิงต่างๆ ทำงานได้เต็มที่ครับ แบตเตอเตอรี่อึดอยู่กับเราได้ถึงค่ำในการใช้งานตามปกติ เปิดหน้าจอต่อเนื่องกินแบตประมาณ 13% ต่อชั่วโมงเท่านั้น
และชาร์จแบตกลับมาได้ไวมาก และไม่มีความร้อนสะสมจนให้เราต้องกังวล ทำให้ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่กำลังดีทีเดียวสำหรับการใช้งานสำหรับวัยรุ่นครับ เอามาเล่นเกมและใช้ด้านความบันเทิงต่างๆ และงานโซเชี่ยล รวมถึงงานทั่วๆ ไปที่ทำได้ดีอยู่แล้ว บนเครื่อข่าย 5G ที่รองรับทั้งสองซิมการ์ดครับ ตัวเครื่องสวยงามและแตกต่าง มีความโดดเด่นในลวดลายพิเศษอีกด้วย น่าสนใจมากๆ ครับ
ในด้านระบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน realme ได้ออกแบบธีมและไอคอนมาให้เราเป็นพิเศษใน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ที่มาพร้อมกับ Wallpaper และ ICON ที่อ้างอิงการออกแบบมาจากเกม Free Fire
ด้านความสวยงามในระบบ realme UI 3.0 ปรับแต่งได้เยอะครับ เปลี่ยนอนิเมชั่นในการสแกนลายนิ้วมือได้ เปิดใช้งานแสงของหน้าจอเพื่อใช้ในการแจ้งเตือนด้วยแสงได้ เปลี่ยนธีม เปลี่ยนไอคอน และเปิดใช้หน้าจอแสดงผลตลอดเวลา ที่จะคอยบอกวันเวลาและการแจ้งเตือนที่ติดต่อเข้ามาให้เรารู้ได้แม้ไม้ต้องกดปลดล็อกเปืดหน้าจอเพื่อดูครับ
ปรับหน้าจอให้ลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาในเวลาใช้งานตอนกลางคืน ตั้งเวลาเปิดปิดได้ล่วงหน้า เปลี่ยนสีหน้าจอให้ลดแสงสีฟ้าหรือกลายเป็นขาวดำแบบหน้ากระดาษเลยก็ได้ครับ
ระบบปรับค่ารีเฟรชเรทหน้าจอ ระหว่าง 60Hz เพื่อประหยัดแบต และแบบ 90Hz เพื่อให้ภาพที่แสดงออกมาสมูธนิ่มนวลต่อสายตา แนะนำว่าให้เปิดเป็นแบบอัตโนมัติเอาไว้ครับ ตัวระบบจะรับรู้ได้เองว่าครบใช้งานในระดับไหนเวลาเราเปิดคอนเทนต์ใช้งาน เมื่อพบคอนเทนต์ที่รองรับค่ารีเฟรชเรทหน้าจอจะถูกปรับตามได้เอง ประหยัดพลังงานมากกว่าและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อยามที่เจอคอนเทนต์ที่เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติครับ
การปรับสีสันของหน้าจอได้เอง สำหรับใครที่ต้องการโทนสีที่สดใสกว่าปกติ หรือดูเย็นตากว่าปกติ แต่ใน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ค่ามาตรฐานสีพื้นฐานจะถูกเซ็ตไว้ในมาตรฐานของ P3 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการแสดงผลในโทนสีของวงการภาพยนตร์อยู่แล้วครับ
มีโหมด ULTRA VIDEO ENGINE ที่จะเพิ่มสีและแสงในภาพวีดีโอ ปรับให้ภาพวีดีโอแบบ SDR ถูกเพิ่มรายละเอียดและเฉลี่ยแสงให้เป็นภาพวีดีโอแบบ HDR ได้ครับ
ที่น่าสนใจคือความสามารถที่ realme พัฒนามาให้ใช้ใน realme LAB เป็นความสามารถใหม่ๆ ที่ทีมพัฒนาทำมาให้เราลองใช้ได้จากในเมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่องครับ เช่นความสามารถในการใช้ที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อนำมาวัดอัตราการเต้นหัวใจของเราครับ และเก็บบันทึกไว้เป็นสถิติในระยะยาวได้ด้วย
การแชร์เพลงโหมดคู่ เชื่อมต่อฟังเพลงได้จากทั้งหูฟังแบบเสียบสายและหูฟังแบบบลูทูธไปได้พร้อมๆ กัน แชร์เพลงเดียวกันแต่ฟังกันเป็นคู่ผ่านหูฟังสองตัว ความสามารถนี้เปิดใช้งานได้ใน realme LAB เช่นกัน
โหมดเกมที่ออกแบบสำหรับคนเล่นเกม ทันที่ที่เราเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นเกมที่เซ็ตไว้ใน Game Mode ของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition จะเป็นการเปิดฟังก์ชั่นช่วยเหลือสำหรับการเล่นเกมขึ้นมาครับ เช่นการเร่งประสิทธิภาพ CPU, GPU และเครือข่ายสัญญาณเน็ต หรือฟังก์ชั่นปกป้องการแจ้งเตือนที่อาจจะเข้ามาขัดจังหวะเรา เพื่อให่เราเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเต็มอารมณ์ไม่ถูกขัดจังหวะครับ
เรียกใช้งานชุดคำสั่งในขณะเล่นเกมได้ง่ายครับ แค่สไลด์จากด้านข้างเข้ามาเท่านั้น เปิดปิดโหมดห้ามรบกวน หรือเซฟภาพวีดีโอขณะเล่นเกม ทำได้ทั้งหมดจากชุดเครื่องมือ
ประสิทธิภาพของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition สามารถเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้เต็มที่ครับ แรงเพียงพอต่อทุกเกมและแอพพลิเคชั่นที่จะนำมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ ต่อให้เปิดหลายแอพพลิเคชั่นขึ้นมาทำงานพร้อมกันจากระบบ Multi Window ก็ยังสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล 100% ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ สเปคค่อนข้างดี บนระบบที่พัฒนามาได้ดี ไม่เจอปัญหาแลค ค้าง ช้าหรือรีสตาร์ทให้พบเลยตลอดการทดสอบใช้งานครับ
กล้องถ่ายภาพ
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition อย่างที่บอกไปว่ามันถูกใส่เซนเซอร์ระดับท็อปของระดับตลาดมาเลยครับ กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่นที่มีทั้ง OIS และ EIS ทำงานร่วมกับเลนส์อัลตร้าไวด์ 119 องศา 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล ฮาร์ดแวร์ดีและซอฟท์แวร์ก็ดีมากเช่นเดียวกัน ผลลัพท์และความสนุกจากฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่มีผิดหวังครับจากกล้องสมาร์ทโฟนรุ่นนี้
รองรับระยะการซูมตั้งแต่ 0.6x ไปจนถึงซูมดิจิทัล 20x และโหมดถ่ายภาพต่างๆ ครบ ทั้งมาโครระยะ 4CM , โหมดการถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพกลางคืน และอื่นๆ อีกมากเช่น โหมด Street Photography
ภาพออกมาคม สีสันสวย และโฟกัสไวมาก เก็บภาพวิวทิวทัศน์ได้ง่ายด้วย AI และ HDR ครับทำงานให้เราโดยอัตโนมัติทั้งคู่ ความคมชัดในการซูมไม่เกิน 5X หวังผลได้ และยังคมกริบในระยะ 2X เหมือนเดินเข้าไปถ่ายครับ และโหมดกลางคืนก็ทำงานได้ดี กล้องรุ่นนี้พกติดตัวเครื่องเดียวเอาอยู่หมดครับ
โหมดถ่ายภาพบุคคล ที่ทำได้มากกว่าแค่การละลายฉากหลังแบบเดิมๆ เพราะเพิ่มลูกเล่นการปรับฉากหลังให้เป็นเส้นสปีดแบบเหมือนในการเคลื่อนไหว
การละลายฉากหลังด้วยการตัดสีสันทิ้งเหลือไว้แต่สีสันของบุคคลที่เป็นแบบ ตัดได้คม ถ่ายง่าย ผลลัพท์ออกมาค่อนข้างเป๊ะเลยทีเดียวครับ
และโหมดถ่ายภาพบุคคลที่เพิ่มความจัดเจนของดวงโบเก้ในฉากหลังให้สวยกว่าความเป็นจริง ทำผลลัพท์ในการถ่ายชัดลึกชัดตื้นได้ใกล้เคียงกับกล้องโปรมากขึ้นครับ สวยงามและถ่ายได้ง่ายๆ เช่นกัน เล่นกับไฟหรือแสงรอดจากฉากหลังได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ใน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition มีโหมดถ่ายภาพ Street Photography ที่เป็นฟิลเตอร์สีสันต่างๆ ที่เป็นแนวภาพแบบสตรีท สีสันในสไตล์ยุค 90 และระยะเลนส์ที่เราปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
มาพร้อมเทคนิคพิเศษที่เป็นการเปิดรูรับแสงเพื่อเล่นกับไฟ ปกติเป็นเทคนิคของคนใช้กล้องระดับโปรเขาชอบทำกัน แต่ในการทำงานของโหมดนี้ถูกออกแบบมาให้คนอย่างเราๆ สามารถใช้งานได้แบบง่ายๆ โดยที่แทบไม่มีความรู้อะไร หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ อย่างขาตั้งกล้อง ก็สามารถถ่ายภาพเล่นกับแสงไฟแบบนี้ก้นได้ครับ ^^
คุณภาพภาพถ่ายยอดเยี่ยม ฟังก์ชั่นเยอะ ถ่ายง่าย ภาพออกมาดีทั้งกลางวันและกลางคืน คุณสมบัติด้านกล้องก็เป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งสำหรับ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ครับ
สรุปท้ายรีวิว
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition สมาร์ทโฟนพิเศษ สเปคดี ครบเครื่องรอบตัวสำหรับการใช้งานและการเล่นเกม ออกแบบมาในลวดลายพิเศษด้วยการจับมือกับผู้พัฒนาเกมอย่าง FREE FIRE พร้อมแพ็กเกจพิเศษที่มาพร้อมของแถมภายในที่เอาใจแฟนๆ FREE FIRE แบบเต็มกล่องครับ
ประสิทธิภาพดี ภาพสวยด้วยจอ AMOLED 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz ลำโพงคู่สเตอริโอ DOLBY ATMOS รองรับ 5G ทั้งสองซิม ตัวเครื่องบางเบาแต่แบตเตอรี่เยอะ 4,500 mAh พร้อมระบบชาร์จไว 60W Super Dart Charge ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลา 40 นาที ใช้งานได้นานแบบเต็มประสิทธิภาพเพราะมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System ขนาดใหญ่พิเศษ และใส่มอเตอร์ X-axis Motor Tactile Engine แบบสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่มาให้ใช้งานกัน พร้อมกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงเกินราคาทั้งฮาร์ดแวร์โมดูลกล้องจากเลนส์ Sony IMX766 และซอฟท์แวร์กล้องที่ทำมาได้ดีมาก ฟังก์ชั่นเยอะและฉลาด ทำผลลัพท์ออกมาได้ดีในทุกๆ โหมดการถ่ายภาพ
สมาร์ทโฟนในโอกาสพิเศษที่มีดีครบครันครับ ใครที่สนใจก็ห้ามพลาดเลย ก่อนสินค้าจะหมด ราคาถือว่าประกาศออกมาดีมากๆ ครับ
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition รุ่นความจุ 8+128GB ราคา 12,499 บาท
- เอ็กคลูซีฟเฉพาะช่องทาง Shopee เหลือเพียง 11,999 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 20-30 เมษายนนี้
โดย 600 คนแรก จะได้รับ realme Fan Gift มูลค่ากว่า 3,000 บาท และยังได้รับโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆ อีกด้วย
- สำหรับช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่าย เปิดให้คุณพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 12-22 เมษายนนี้ โดยจะรับของสมนาคุณพิเศษ Gaming Set มูลค่ารวมกว่า 2,000 บาท*