ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา realme ได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริมในสายของ AIoT ออกมาติดๆ กันต่อเรื่องเลยนะครับ ก็จะเป็นสินค้าในประเภทพของอุปกรณ์สวมใส่เช่นหูฟัง หรือสายข้อมือ โดยใช้สไตล์การกำหนดราคาสินค้าต่อสเปคการใช้งานที่ “คุ้ม” เป็นจุดขาย คล้ายๆ กับเส้นทางการเติบโตของสินค้าสมาร์ทโฟนของเขา ที่ใช้เวลาแค่เพียงปีเดียวในการเข้ามาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลก และตอนนี้ในประเทศไทย เข้าได้เปิดตัวสองอุปกรณ์สวมใส่ตัวใหม่ นั้นคือ realme Buds Air Neo ซึ่งเป็นหูฟังไร้สาย True Wireless และนาฬิกาอัจฉริยะ realme Watch
โดยทั้งคู่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ทำราคามาได้น่าสนใจครับ เรียกว่าใครได้เห็นราคาของมัน ต้องหันมามองก่อนเลย โดยตัว realme Buds Air Neo 1,499 บาท และนาฬิกา realme Watch ในราคา 2,499 บาทเท่านั้นเองครับ ซึ่งแต่ละอุปกรณ์มีคุณสมบัติอะไรบ้าง มาดูกันทีละตัวดีกว่าครับ
realme Watch ในราคา 2,499 บาท
เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ราคาดีมาก โดยที่ตัวนาฬิกาให้หน้าจอที่ใหญ่ครับ หน้าจอสัมผัสแบบจอสีขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 320×320 พิกเซล สีสันไม่สดมากแต่ภาพคมชัดพอประมาณ รองรับการทัชสกรีนที่ตอบสนองได้ดี ไม่ช้า ตัวระบบใช้งานง่ายๆ พร้อมกับปุ่มกดข้างตัวเรือนที่เป็นปุ่มย้อนกลับใช้กระจกกันรอย Corning Gorilla Glas 2.5D หน้าจอกระจกแกร่งพอตัวครับ แต่ตัวเรือนของมันไม่ใช่เป็นโลหะแบบนาฬิกาเรือนหรู ดูจะเป็นนาฬิการาคาเบาๆ ที่เอาไว้ใส่ในวันลำลองหรือวัยรุ่นใช้งานครับ
จอเหลี่ยม ขอบมน ไม่ระคายผิว ไม่มีมุมคม ค่อนข้างปลอดภัยต่อการสวมใส่ น้ำหนักเบามากครับ งานประกอบมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 สามารถใส่ในขณะอาบน้ำหรือล้างมือได้โดยไม่ต้องถอด
ด้านหลังเป็นที่สแกนชีพจรสำหรับตรวจจับอัตตราการเต้นของหัวใจ ใช้ประกอบกับซอฟท์แวร์ภายในของตัวนาฬิกาเพื่อจัดเก็บการเต้นของหัวใจของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติ รวมถึงมีการแจ้งเตือนให้กับผู้สวมใส่ในเวลาที่มันตรวจจับเจอการเต้นของหัวใจที่สูงเกินไป หรือช้าเกินไป ได้ด้วยครับ
สายนาฬิกาเป็นยางที่ไม่ระคายต่อผิว เหมาะสำหรับการออกกำลังกายเพราะไม่ชุ่มเหงื่อ ระบบล็อคสายแน่นหนาใช้หมุดยึดและมีสายคล้องเก็บปลายสายเข้าไปด้านใน เพื่อไม่ให้เกะกะ
ทาง realme นำเข้าสายนาฬิการเข้ามาอีกหลายสีนะครับ สามารถเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่ต้องการเลย โดยตัวล็อคของสายนาฬิกาปลดล็อกง่ายๆ ครับอยู่ด้านหล้ง
การทำงานต่างๆ ของ realme Watch สามารถกำหนดได้ผ่านแอพพลิเคชั่น realme Link ซึ่งในตอนนี้รองรับกับสมาร์ทโฟนในระบบ Android 5.0 ขึ้นไป โดยไม่จำกัดยี่ห้อครับ แต่ความเข้ากันได้มากที่สุดก็คงไม่พ้นสมาร์ทโฟนของ realme นั้นแหละครับ
โดยภายในแอพ จะให้เราทำการล็อคอินเป็นไอดีประจำตัว ซึ่งจะจัดเก็บสถิติการเคลื่อนไหวต่างๆ ของเราได้เหมือนอุปกรณ์ฟิตเนสแทรคเกอร์เลยครับ ทั้งตรวจจับการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ การตรวจจับการนอน และการเตือนให้เราลุกขึ้นนั่งเพื่อยืดเส้นยืดสาย
รวมถึงการแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำได้ด้วย ^^ นาฬิกาจะสั่นเตือนเมื่อถึงเวลาที่เราควรดื่มน้ำครับ เหมาะมากสำหรับคนที่ดื่มน้ำน้อย และต้องการผู้ช่วยแจ้งเตือน ตั้งค่าให้แจ้งเตือนได้หลายอย่างเลยครับ เป็นผู้ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างดี ช่วยประหยัดแบตมือถือด้วยเพราะยกขึ้นมาดูน้อยลง
โดยตัวนาฬิกาก็เป็นผู้ช่วยสำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนได้ในหลายๆ ด้าน เช่นรับการแจ้งเตือนจากตัวโทรศัพท์ ซึ่ง realme Watch สามารถแสดงผลภาษาไทยได้ครบถ้วนนะครับแม้หน้าเมนูจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม
เราสามารถการกำหนดค่าการแจ้งเตือนต่างๆ เอาไว้ได้ในหน้าแอพพลิเคชั่นครับ โดยในหน้าแอพตัวนี้จะใช้ในการอัพเดทซอฟท์แวร์ของนาฬิกา และเป็นศูนย์รวมการควบคุมของอุปกรณ์ AIoT ของ realme ด้วยครับ
หน้าปัดนาฬิกาสวยๆ ที่สามารถเลือกใช้งานได้จากในแอพพลิเคชั่น ในปัจจุบันมีให้เลือก 12 รูปแบบครับ ซึ่งความสามารถต่างๆ ของ realme Watch ก็จะถูกเพิ่มเติมในอนาคตจากการอัพเดทของแอพพลิเคชั่นนี้แหละครับ
นอกจากนั้น เรายังสามารถใช้งานเป็นรีโมทในการควบคุมระยะไกลกับสมาร์ทโฟนของเราได้ด้วย เช่นการเปิดปิดการเล่นเพลงของสมาร์ทโฟน และใช้ชัตเตอร์กล้องระยะไกล รวมถึงการกดค้นหาสมาร์ทโฟนเพื่อให้มือถือเราส่งเสียงได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งความเข้ากันของระบบเหล่านี้ แนะนำว่าใช้งานสมาร์ทโฟน realme จะใช้งานได้ครบถ้วนมากกว่านะครับ
การทำงานต่างๆ ก็สามารถเรียกใช้ได้จากตัวนาฬิกาเลยนะครับ เช่นการตรวจจับชีพจร การตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด การตรวจจับการออกกำลังกายเป็นต้น หรือถ้าจะเปลี่ยหน้าจอนาฬิกา ก็สามารถทัชค้างเพื่อเลือกหน้าปัดนาฬิกาที่ชอบได้ทันที ไม่ต้องเปลี่ยนผ่านแอพบนสมาร์ทโฟนเสมอไป
เราสามารถกำหนดโหมดการทำงานของนาฬิกาได้คร่าวๆ จากหน้าการตั้งค่าหน้าจอแบบด่วนครับ เช่นการปรับความสว่างของหน้าจอที่ปรับได้ 3 ระดับ รวมถึงการปิดแสงหน้าจอไม่ให้ทำงานอัตโนมัติในยามที่เรายกมือขึ้นได้ เอาไว้ใช้ในโรงหนังเป็นต้น และการเปิดโหมดห้ามรบกวนในกรณีเราต้องการพักผ่อนจะได้ไม่ต้องแจ้งเตือนเข้ามารบกวนเราครับ
การใช้งานของ realme Watch ใช้การสไลด์หน้าจอเป็นหลัก สไลด์ไปทางซ้ายหรือขวาเป็นการเข้าหน้า Widget ต่างๆ ที่ตัวนาฬิกาจะแสดงผลลัพท์สำคัญให้เราดูได้ง่ายๆ และใช้การสไลด์จากด้านบนลงมาเพื่อหน้าการแจ้งเตือนที่พุชมาจากตัวสมาร์ทโฟน และใช้การสไลด์จากด้านล่างขึ้นมาเพื่อเรียกใช้ความสามารถต่างๆ ที่ตัวนาฬิกาทำได้นั้นเองครับ โดยมีปุ่มกดย้อนกลับ
ตัวนาฬิกา realme Watch มีความสามารถครบถ้วนดีครับ ใช้งานในการเป็นผู้ช่วยตรวจจับการออกกำลังกายก็ได้ด้วย เช่นการวิ่ง การเดิน หรือการปั่นจักรยาน โดยจะใช้การตรวจจับอ้างอิงจาก GPS ของเครื่องสมาร์ทโฟนในการระบุตำแหน่งเส้นทางการออกกำลังกาย รองรับการออกกำลังกายได้ 14 รูปแบบ ได้แก่ การเดิน การวิ่งในร่ม การวิ่งกลางแจ้ง การปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานออกกำลังกาย การเต้นแอโรบิค ฟุตบอล บาสเกตบอล เทเบิลเทนิส แบตมินตัน การฝึกกล้ามเนื้อ การเล่นฟิตเนส โยคะ และคริกเกต
แบตเตอรี่ของตัว realme Watch สามารถใช้งานได้นานครับ เปิดใช้งานฟลูฟังก์ชั่นต่อเนื่องกัน 4 วันแบตยังไม่หมด ซึ่งตัว realme Watch ใช้ตัวชาร์จเฉพาะของตัวเองที่มีให้มาภายในกล่องนะครับ
สรุปโดยรวมสำหรับ realme Watch
เป็นสมาร์ทวอทช์ความสามารถครบในราคาประหยัดครับ ใช้งานได้ครอบคลุมตามที่สมาร์ทวอทช์ควรจะมี รองรับภาษาไทย มีเซนเซอร์วัดหัวใจที่มีคุณภาพ และซอฟท์แวร์ใช้งานที่พร้อมรองรับทำออกมาคู่กันในทันทีที่วางจำหน่าย
เหมาะสำหรับคนมองหาสมาร์ทวอทช์ราคาเบาๆ เน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นผู้ช่วยการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนเพื่อการแจ้งเตือนต่างๆ จากตัวโทรศัพท์ และเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของตัวเอง ตัวเรือนเบา ไม่มีเหลี่ยมมุมคม เด็กหรือผู้ใหญ่ก็ใส่ได้ครับ สบายๆ
ถ้าจะหาข้อเสียของนาฬิกาตัวนี้ก็คงเป็นเรื่องของการแจ้งเตือนจากฟังก์ชั่นสุบภาพต่างๆ เช่นการให้ลุกขึ้นนั่งหรือดื่มน้ำ มาแล้วก็หายไปค่อนข้างเร็วครับ ที่เหลือก็ใช้งานได้ดี ราคาก็ไม่แพงด้วย ด้วยราคาสมาร์ทวอทช์ 2,499 บาท คุ้มครับ
realme Buds Air Neo ในราคา 1,499 บาท
จิ๋วแจ๋วแต่เบสหนักมาก! การันตีความแน่นของเสียงที่มาพร้อมกับเบสเป็นลูกๆ หูฟังไร้สายที่มาในราคาแค่ 1,499 บาท แต่ภายในใส่ไดร์เวอร์ขนาดใหญ่มากสำหรับวงการหูฟังไร้สาย ในขนาด 13 มิลลิเมตร ใหญ่กว่าเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับไดร์เวอร์เสียงของ True wireless โดยทั่วไป ใช้เทคโนโลยีเพิ่มเบสให้หนักขึ้นอีกด้วย Dynamic Bass Boost เสียงเบสนุ่ม แน่น หนัก ออกมาเป็นชุดๆ จากหูฟังตัวจิ๋วตัวนี้เลยครับ
realme Buds Air Neo มาพร้อมชิปเซ็ต R1 เพื่อควบคุมการทำงาน รองรับการทัชบนตัวหูฟังทั้งสองข้างในสามรูปแบบด้วยกัน นั้นคือดับเบิ้ลทัช (2 ครั้ง), ทริปเปิ้ลทัช (3 ครั้ง) และการทัชค้าง โดยเราสามารถกำหนดการควบคุมการทัชของหูฟังทั้งสองข้างได้แยกอิสระกัน ทั้งการเล่นเพลง รับสาย การข้ามเพลง หรือการเรียกใช้งานคำสั่งเสียงเป็นต้น โดยเป็นการแยกอิสระไม่ได้จำกัดว่าต้องเหมือนกันหรือต่างกันครับ แล้วแต่ถนัดได้เลย
ซึ่งตัวหูฟัง realme Buds Air Neo ได้ใส่ระบบ Google Fast Pair มาให้ครับ ทันทีที่เราเปิดฝากล่องหูฟัง ก็จะถูกพบโดยสมารทโฟนในระบบ Android ได้อย่างรวดเร็ว
โดยเราสามารถกำหนดค่าต่างๆ ได้ด้วยแอพพลิเคชั่น realme Link ด้วยเช่นกันครับ เป็นแอพเดียวกับตัวนาฬิกา realme Watch นั้นเอง จริงๆ แล้วก็เป็นแอพที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ AIoT ของ realme ทั้งหมดแหละครับ ถูกรวมเอาไว้ในแอพพลิเคชั่นเดียวกันเพื่อควบคุมทั้งหมดด้วยกันในแอพนี้
ตัวหูฟังทั้งสองข้าง ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อสมัยใหม่นะครับ รองรับ Bluetooth 5.0 เพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล โดยใช้เทคนิคการรับส่งสัญญาณเสียงแบบ 2 ช่อง โดยจะส่งตรงสัญญาณไปยังหูฟังทั้งสองข้างแบบตรงๆ ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณแบบเรียงลำดับจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง เพื่อเป็นการลดความหน่วงของเสียงให้ต่ำมากที่สุด โดยตามสเปคของ realme Buds Air Neo จะมีอัตตราความหน่วงของเสียงอยู่ประมาณ 119.2 มิลลิวินาที ถือว่าเร็วพอสมควรครับ ใช้งานรับฟังภาพยนต์ได้ คุยสนทนาได้ไม่หน่วง ไมค์เสียงชัดเจนปลายสายไม่รำคาญ แต่นำมาใช้เล่นเกมจะหน่วงเล็กน้อยครับ หูฟัง True Wireless ไม่ค่อยเหมาะกับการใส่เล่นเกมสักเท่าไหร่
จากที่ทดสอบเจ้าหูฟังผมบอกเลยว่าคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมมาก ละมุนแต่หนัก มีมิติเสียง ซาวด์ลึกและกว้างพอประมาณ ทำให้ฟังดนตรีแล้วรู้สึกถึงความแกรนด์จากเครื่องดนตรีต่างๆ ที่มีระยะของแต่ละเสียงค่อนข้างชัดเจน
ตัวนี้เรื่องของเสียงเกินราคาครับฟันธงให้เลย!
โดยตัวหูฟังจะมีขนาดเล็ก กล่องหูฟัง realme Buds Air Neo ก็มีขนาดเล็กมากเช่นกันครับ มีปุ่มด้านหน้าสำหรับเปิดการเชื่อมต่อจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธ พร้อมไปแจ้งเตือน
กล้องหูฟังชาร์จได้ด้วยสาย Micro USB สามารถใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครับ และเมื่อเก็บกลับเข้าเคสก็จะชาร์จไฟได้เพิ่มประมาณ 5 รอบแบตของเคสก็ยังไม่หมดครับ
แต่เจ้าตัวนี้ก็จะมีจุดแตกต่างกับหูฟัง True Wireless ตัวอื่นอยู่เรื่องนึงนะครับ คือมันไม่มีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ฉะนั้นเมื่อเอาหูฟังออกจากหูของเรา มันจะไม่มีระบบตัดการทำงานโดยอัตโนมัติของมันเองนะครับ ต้องกดปิดการเล่นเพลงซะก่อนด้วยการทัชบนตัวหูฟัง หรือเก็บเข้ากล่องเพื่อเป็นการปิดการทำงานของหูฟังครับ
สรุปท้ายรีวิว realme Buds Air Neo
คุ้มมาก คุณภาพเสียงดี ซาวด์ใหญ่ เบสแน่น เสียงนุ่มมีพลังไม่แสบหู กล่องมีขนาดเล็กพกง่ายมาก รองรับการควบคุมได้ข้างละสามคำสั่งที่แยกตั้งได้อิสระ จุดด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องของการที่ไม่มีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เราจึงต้องกดปิดเพลงเองหรือเก็บเข้ากล่อง แต่เมื่อดูจากราคาและคุณภาพของมันแล้ว ข้อเสียก็ไม่เป็นปัญหาครับ ต้นทุนไปเน้นที่คุณภาพของการสร้างเสียงที่สุดยอดออกมามากกว่า
realme Buds Air Neo วางจำหน่ายในราคา 1,499 บาท สามารถสั่งสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ realme online official store ทาง Shopee และ Lazada และ BaNANA, TG Fone, IT CITY และ CSC
ช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์
Lazada : : https://bit.ly/2A9F1q5
Shopee : : https://bit.ly/2TCeE31