ราคาเริ่มต้นแบบประหยัด realme C12 สมาร์ทโฟนที่ทำโปรโมชั่นออกมาแบบจัดเต็ม เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วครับในประเทศไทย
realme C12 เป็นสมาร์ทโฟนในซีรีย์ C ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่ทาง realme มักจะจับทำโปรโมชั่นร่วมกันกับทางเครือข่ายครับ และในรุ่นล่าสุด มีการอัพเกรดสเปคความน่าใช้มากขึ้น แบตเยอะขึ้น ความสามารถเยอะขึ้น และโปรโมชั่นโหดมากขึ้น
realme C12 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นนะครับ ซึ่งจริงๆ แล้วสมาร์ทโฟนในระดับนี้จะเหมาะสำหรับการใช้งานเบาๆ ใช้เป็นเครื่องสำรองหรือซื้อให้เด็กหรือผู้ใหญ่ในบ้านใช้งาน ด้วยสเปคเครื่องที่ไม่สูงมากนัก การทำงานบางอย่างอาจจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยแบบเครื่องระดับสูงกว่า แต่ได้ราคาดี จ่ายน้อย ก็เป็นไปตามมาตรญานสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นนั้นแหละครับ
แต่สำหรับ realme C12 แค่เขาให้มาเยอะกว่าสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นทั่วไปครับ หน้าจอแสดงผลภาพสวยๆ ขอบจอเล็กแบบ Mini-drop ให้แบตเตอรี่มาเยอะมาก 6000 mAh และกล้องหลังสามตัวพร้อมที่สแกนลายนิ้วมือ ปกติพวกนี้ถูกตัดออกหรือไม่มีให้มาครบขนาดนี้ มันจึงเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ดูจะให้เกินราคามาหลายประเด็นนั้นเองครับ
สมาร์ทโฟนยุคใหม่ รุ่นเล็กแต่แบตต้องโต! และโตมากถึง 6000 mAh ด้วยซอฟท์แวร์และระบบจัดสรรในยุคสมัยนี้บอกได้เลยว่า จะใช้แบตขนาดใหญ่ให้หมดได้ในวันเดียว ต้องใช้กันหนักมาก ใช้กันตลอดเวลา
หน้าจอขนาดใหญ่เพื่อการใช้งานด้านการรับชมได้เต็มที่ ดูหนัง อ่านข่าว อ่านการ์ตูน หรือแม้แต่เล่นเกม ทุกอย่างอาศัยหน้าจอแสดงผลทั้งหมด ฉะนั้นจอภาพในยุคสมัยนี้ต้องจอกว้าง และเจ้ารุ่นนี้ก็ให้หน้าจอเรามาใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว เป็นหน้าจอดีไซน์ Mini-drop ขอบจอเล็กๆ มีพื้นที่ไว้วางกล้องหน้าขนาดความละเอียด 5 ล้านพิกเซล อัตราสัดส่วนหน้าจอ 20:9 ความละเอียด HD+ 720×1600
ความสวยงามของสีสันจอภาพ ขนาดและขอบที่เล็ก คิดเป็น 88.7% ของตัวเครื่อง บอกได้เลยว่าให้จอมาดีกว่าสมาร์ทโฟนราคาประหยัดในเรทราคาใกล้กันรุ่นอื่นๆ ครับ
งานออกแบบตัวเครื่องด้านหลังใช้การออกแบบคล้าย realme C11 รุ่นก่อนครับ เป็นการตัดสลับด้วยลวดลายทรงเลขาคณิต ผิวสัมผัสเป็นพลาสติก ทนทานมากครับเพราะบังเอิญได้ทดสอบโดยไม่ตั้งใจไปหลายหน ^^ กระแทกขอบ ขีดข่วน ไม่เกิดเป็นรอยง่ายๆ เลยครับ แถมเป็นผิวที่ไม่เกิดรอยนิ้วมือเลย
ด้วยลวดลายที่เป็นเส้นทแยงทำให้ไม่ลื่นมือ มีการไล่เฉดสีสลับกันไปมา ซึ่งในประเทศไทยจะมีจำหน่าย 2 สีครับ คือสีแดง Coral Red และสีน้ำเงิน Marine Blue ซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวนี่ครับ
สีสันเครื่องของรุ่นนี้ออกแนวน่ารัก เหมาะกับวัยรุ่นเป็นพิเศษ เพราะสีเด่นและทนไม้ทนมือดีครับ ^^
มีที่สแกนลายนิ้วมือมาให้ไม่เอาออกไปไหน การสแกนทำได้รวดเร็วครับ (และรองรับการสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้า ) มาพร้อมกล้องหลังสามตัว AI ใช้เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล PDAF ซูมภาพได้ 4 เท่า พร้อมเลนส์ Macro 2ล้านพิกเซล โฟกัสได้ใกล้ 4 เซนติเมตร และสุดท้ายคือ เลนส์ B&W 2ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพ Portrait เพิ่มเอฟเฟ็กต์โทนสีภาพเพิ่มความโดดเด่นและแตกต่างให้กับแบบที่ถ่าย
แบตทรงพลังมาก 6,000 mAh แต่ตัวเครื่องไม่หนาไม่หนักอะไรครับ เข้ามือพอดีด้วยด้านหลังตัวเครื่องโค้ง มาพร้อมช่องใส่ซิมแบบ 3 สล็อต สำหรับใส่ 2 ซิมการ์ดและ 1 SD Card ใช้พอร์ทชาร์จใต้เครื่องเป็น Micro USB รองรับการถ่ายโอนแบตเตอรี่จากสมาร์ทโฟนให้สู่อุปกรณ์อื่นได้เหมือนเป็นแบตเตอรี่เสริม
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีชุดชาร์จไฟ และสาย USB มาให้เท่านั้นนะครับ ไม่มีเคส หรือชุดหูฟังแถมมาให้
การใช้งานภายใน
ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G35 12 nm 8-Core 2.3Hz Cortex A53 หน่วยประมวลผลรุ่นเล็กที่เน้นในเรื่องการเล่นเกม เป็นตัวเลือกยอดนิยมบนเครื่องราคาเบาๆ เพราะดูจะทำราคาได้ดีที่สุดในตอนนี้ครับ ข้อดีคือราคาประหยัดแต่ยังมีประสิทธิภาพที่เอามาเล่นเกมได้ มาพร้อม RAM 3GB และ ROM 32GB
ระบบใช้งานเป็น realme UI ตัวใหม่ ครอบทับ Android 10 จากการทดสอบใช้งาน ทำงานทีละอย่างใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้ามีการทำงานซ้อนกันอย่างเช่นอัพเดทแอพอยู่อาจจะมีหนืดๆ ให้เรารู้สึกได้ มีธีมสโตร์ แอพสโตร์ และเกมสโตร์ ให้บริการผู้ใช้อยู้ในเครื่องเหมือนรุ่นใหญ่ของ realme ทุกประการ
โหมดสำหรับถนอมสายตาของผู้ใช้ ด้วยการลดแสงสีฟ้าโดยเราสามารถกำหนดเวลาในการเปิดใช้งานอัตโนมัติล่วงหน้าได้ และโหมดมืด หรือธีมสีดำ ก็ตั้งเวลาไว้ล่วงหน้าได้เช่นกัน
ที่ผมชอบใน realme UI คือโหมดนอนครับ ^^ มันคือการผสมกันระหว่างโหมดถนอมสายตาและโหมดห้ามรบกวน เพราะในโหมดนี้เราสามารถตั้งเวลาที่เรามักจะเข้านอนเอาไว้ล่วงหน้าได้ แล้วเมื่อถึงเวลา ตัวเครื่องจะปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับการพักสายตา โดยการปรับภาพเป็นโทนสีเทา พร้อมกับปิดการแจ้งเตือนของตัวเครื่อง ให้เราได้พักผ่อนจนกว่าจะถึงเวลาที่เรากำหนดให้เครื่องปิดโหมดการนอนครับ
สามารถแบ่งหน้าจอใหญ่ๆ ของมัน ให้ทำงานสองแอพพลิเคชั่นพร้อมกันได้นะครับ โคลนแอพหนึ่งแอพให้เป็นสองตัวเพื่อจะใช้สองแอคเคาท์ในเครื่องเดียวกันได้ จะเห็นตัว realme UI ที่อยู่ใน C12 มีความสามารถเหมือนเครื่องรุ่นใหญ่ของแบรนด์เลย เพราะว่า realme ไม่ค่อยจะแบ่งแยกความสามารถของระบบตามราคาเครื่องครับ มีอะไรก็มักจะใส่ให้ใช้กันได้หมด รุ่นเล็กของ realme จึงน่าสนใจในจุดนี้ด้วย
รองรับระบบ realme Share ที่รองรับการแชร์ไฟล์ความเร็วสูง ผ่านสัญญาณ Wi-Fi กับสมาร์ทโฟนร่วมกันระหว่างแบรนด์ realme, OPPO, Xiaomi และ Vivo ได้ครับ
แม้จะมาพร้อมแบตความจุสูงถึง 6,000 mAh แต่ภายในก็ยังมาพร้อมโหมดจัดสรรพลังงานให้แบตอึดมากขึ้นไปอีก จากผลการทดลองใน realme Lab พบว่า realme C12
สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 57 วัน ในโหมดสแตนบายเลยครับ และยังมีโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเป็นฟังก์ชั่นที่กดเปิดเพียงคลิ๊กเดียว ตัวเครื่องจะลดความสว่างของหน้าจอ
และลดเวลาล็อคหน้าจออัตโนมัติลงเหลือต่ำสุดที่ 15 วินาที และปิดการใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่างสมบูรณ์เมื่อเราเลิกใช้งานเพื่อการประหยัดแบตให้มากขึ้น และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ที่จะลดความสามารถของเครื่องลง ให้เรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นได้แค่ 6 ตัว และปรับหน้าจอให้เป็นสีขาวดำ
มีโหมด Sleep Standby ฟังก์ชั่นที่จะช่วยประหยัดพลังงานเครื่องขณะเรานอนหลับ ลดการใช้พลังงานเพื่อตรวจเช็คการแจ้งเตือนที่ติดต่อเข้ามา ซึ่งจะยืดเวลาในการใช้งานเครื่องได้นานขึ้นอีก อาจจะใช้ในกรณีเราไปนอนค้างต่างที่ต่างทางแล้วไม่ได้เอาที่ชาร์จไปด้วยครับ เจ้านี้จะได้อยู่กับเราได้นานขึ้นอีก
จากการทดสอบใช้ ผมไม่เคยใช้งานให้แบตหมดได้เลยในวันเดียวครับ เป็นจำพวกเครื่องแบตอึด แบตเยอะ แถมสเปคไม่ได้กินพลังงานมาก แบบนี้ยิ่งอึดทนเข้าไปใหญ่ ในวันใช้งานทั่วไป แบตยังลดไม่ถึงครึ่งเลยครับ
หน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงเครื่องระดับเริ่มต้นเลยครับ ^^ หน้าจอสีค่อนข้างสวย แสงสว่างดี ด้วยขอบหน้าจอเล็กๆ ผมว่าถูกใจกันแน่นอนใครซื้อไปรับชมคลิป หรือให้เด็กเล่น Youtube ดูได้เต็มตาครับ ประสิทธิภาพเครื่องไม่มีปัญหากับการเล่นคลิปวีดีโออย่างแน่นอน และลำโพงก็เสียงดังชัดเจนดีด้วย
ทดสอบการเล่นเกมฮิตๆ อย่าง ROV เล่นได้สบายๆ ครับ ปรับกราฟิกกลางๆ เล่นลื่นครับไม่สะดุด นิ่งที่ 58-60FPS ตลอดเกม
ในเครื่อง มีโหมด Game Space เป็นฟังก์ชั่นสำหรับคนเล่นเกม ที่จะรีดประสิทธิภาพเครื่อง เคลียแรม และปรับการใช้สัญญาณเน็ตมาใช้เพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก ลดโอกาสในการเจอปัญหา แลค ค้าง ช้า ลงได้อีกระดับหนึ่งครับ
แม้จะมีหลายสิ่งที่ดูจะคุ้มค่าไปซะหมด แต่ก็อย่าลืมว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นนะ มันไม่ได้เพอเฟ็กต์ระดับสูงไปซะทุกอย่าง มันมีสิ่งที่เป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัดติดตัวมาอยู่เช่นกัน เช่นมันไม่รองรับ Wi-Fi 5.0G มันไม่มีระบบชาร์จไวพิเศษ และในรุ่นนี้ภายในกล่องยังไม่มีเคสและชุดหูฟังแถมมาให้ด้วย นั้นคือสิ่งที่เป็นไปตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนราคาประหยัดนั้นเองครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องถ่ายภาพด้านหลังสามตัว ซึ่งมี AI และโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาให้ใช้ด้วยนะครับ ^^ เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รองรับโฟกัสแบบ PDAF โฟกัสไว ถ่ายนรูปสวยๆ ไม่ยากครับ ตัวกล้องซูมภาพได้ 4 เท่า ทั้งกลางวันและโหมดกลางคืนซูมได้หมดครับ
กล้องคุณภาพพึ่งพาได้เลยครับ
เลนส์ Macro 2ล้านพิกเซล ถ่ายภาพวัตถุหรือสิ่งต่างๆ ที่เน้นเอารายละเอียดได้ด้วยระยะโฟกัสได้ใกล้ 4 เซนติเมตร
และสุดท้ายคือ เลนส์ B&W 2ล้านพิกเซล เอาไว้ช่วยในการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอครับ กำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นได้ก่อนการถ่าย ตัดภาพสิ่งที่อยู่ในระยะโฟกัสได้คมใช้ได้เลยครับ
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่รองรับโหมด AI Beauty มี HDR ไว้เวลาเซลฟี่ย้อนแสง และถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยนะ ฟังก์ชั่นกล้องเยอะครับเจ้ารุ่นตัวนี้ ^^
โหมดภาพกลางคืนที่นิยมใช้งานกัน realme ก็ใส่เข้ามาให้ในรุ่นเล็กตัวนี้ด้วย เพิ่มความง่ายในการถ่ายภาพกลางคืนมากขึ้นครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดต่างๆ
สรุปท้ายรีวิว
สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ที่ถูกอัพเกรดสเปคด้วยหน้าจอที่สวย เต็มตา 6.5 นิ้วแบบ Mini-drop ให้ภาพที่น่าใช้กว่าสมาร์ทโฟนเริ่มต้นโดยทั่วไป แบตเตอรี่ถูกอัพเกรดให้เป็นขนาด 6000 mAh ใช้งานได้เต็มที่ และสามารถแสตนด์บายไว้ได้นานถึง 57 วันจากการทดสอบในแล็ปของ realme
กล้องหลัง 3 ตัวคุณภาพใช้งานได้ดีพร้อมโหมดการถ่ายภาพกลางคืนเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ และมีที่สแกนลายนิ้วมือมาให้ ตัวเครื่องทนทาน เป็นรอยยาก การใช้งานทนไม้ทนมือ สเปคเครื่องอยู่ในระดับเล่นเกมได้
แถมมาพร้อมกับโปรโมชั่นที่ร้อนแรงเหมือนได้ฟรี เพราะราคาเริ่มต้นจ่ายกันแค่บาทเดียว
โปรโมชั่นและราคาของ realme C12
เปิดจำหน่ายก่อนสำหรับช่องทางออนไลน์ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ในราคา 3,999 บาท เป็นเจ้าของก่อนใครในวันที่ 15 ได้เฉพาะที่ Shopee เท่านั้น ช่องทางการจำหน่าย Shopee
และวางจำหน่ายพร้อมกันทุกช่องทางในวันที่ 16 ตุลาคม ที่หน้าร้าน realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ Banana, BKK, KingKongPhone, CSC, TG FONE, Jaymart และ IT City
สำหรับลูกค้า AIS เป็นเจ้าของ realme C12 ได้ในราคาเริ่มต้น 1,289 บาท และสำหรับลูกค้า Truemove H เป็นเจ้าของ realme C12 ได้ในราคาเริ่มต้น 1,499 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 16 ตุลาคมนี้เช่นกัน