รีวิว realme GT 2 Pro สมาร์ทโฟนตัวแรง จอระดับ 2K ดีไซน์สุดล้ำ ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 และเป็นครั้งแรกกับกล้อง Ultra-Wide ที่กว้างถึง 150 องศา เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับอีกหนึ่งรุ่นเรือธงที่หลายคนรอคอยกับ realme GT 2 Pro สมาร์ทโฟนตัวแรง ที่มาพร้อมจุดเด่นในหลายจุด ทั้งการออกแบบด้วยดีไซน์สุดล้ำ สวย และยังออกแบบด้วยวัสดุและกรรมวิธีที่ห่วงใยต่อโลก ตามมาด้วยจอความละเอียดระดับ 2K ให้ความคมชัดสีสันสมจริง พร้อมด้วยชิปเซ็ตประมวลผลมาตรฐานใหม่แห่งชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 8 Gen 1 และเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ทโฟนกับกล้อง Ultra-Wide ความกว้างถึง 150 องศา!!
หลังจากได้อ่านรีวิวนี้ เชื่อได้เลยว่าประสิทธิภาพและความสามารถของ realme GT 2 Pro จะต้องโดนใจใครหลายคน และจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นคุ้มค่าที่น่าสนใจมากๆ อีกตัวในปีนี้
ตัวเครื่องภายนอก realme GT 2 Pro
realme GT 2 Pro รอบนี้มาพร้อมกับคอนเซปต์ที่เน้นห่วงใยโลกอย่างแท้จริง ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่องอย่าง Bio-Based Material โพลีเมอร์ชีวภาพ หรือชีวมวลที่มาจากธรรมชาติ โดยได้ร่วมมือกับ Sabic บริษัทชั้นนำด้านปิโตรเคมี นับว่าเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ทโฟน ที่นำวัสดุนี้มาใช้เพื่อการประกอบตัวเครื่อง และเป็นวัสดุที่ได้ผ่านการรับรองจาก ISCC ว่ามีการปล่อยคาร์บอนน้อยลงถึง 35.5% ต่อกิโลกรัม ลดการปล่อยมลพิษจากคาร์บอนถึง 63%
หรือถ้าตีแบบง่ายๆ ก็คือ ในทุกๆ การผลิต 1 ล้านเครื่องของ GT 2 Pro เทียบเท่ากับการผลิตขวดพลาสติกน้อยลงถึง 3.5 ล้านขวด และไม่ใช่แค่เพียงวัสดุตัวเครื่องเท่านั้น แต่บรรจุภัณฑ์ก็มีการออกแบบใหม่ให้เป็นมิตรต่อโลกอีกเช่นเดียวกัน สามารถย่อยสลายง่ายหรือนำมา Reuse ใหม่ได้
ส่วนพื้นผิวของฝาหลังใช้กระบวนการแกะสลักด้วยเลเซอร์ ซึ่งจะเป็นการจำลองให้พื้นผิวมีสัมผัสคล้ายกระดาษ เรียกว่า Paper Tech Master Design เป็นดีไซน์ที่ถูกออบแบบจากนักออกแบบชื่อดัง นาโอโตะ ฟุคะซาวะ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นผู้ที่ออกแบบ GT Master Edition ตัวก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีนั่นเอง เป็นดีไซน์ที่ให้สัมผัสนุ่มมือ จับถือติดมือ ไม่ลื่นหลุดได้ง่าย และที่สำคัญคือไม่ติดรอยนิ้วมือด้วย
โดยรุ่นนี้ในประเทศไทยจะวางขายเพียงสีเดียวเท่านั้นคือ สีขาว Paper White ที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อโลกมากที่สุด และเป็นดีไซน์ที่มีความพรีเมี่ยม หรูหรา มีลายเซ็นต์ของคุณ นาโอโตะ ฟุคะซาวะ ประดับเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ฝาหลังดูมีความเป็น Limited สูง
ขนาดจอของ realme GT 2 Pro ขนาดใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว เป็นจอ AMOLED แบบเรียบ ความละเอียดระดับ WQHD+ 2K (1440 x 3216) หน้าจอคุณภาพสูง 525 PPI พร้อมขอบเขตสี DCI-P3 100% จอแสดงสี 10-bit รองรับ HDR 10+
นอกจากนี้ยังเป็นเทคโนโลยี LTPO 2.0 อัตราการรีเฟรชเรทที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz ช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 50% พร้อมด้วยอีกหนึ่งจุดเด่นของหน้าจอคือ Turbocharged Touch Sampling สูงถึง 1000Hz ใช้งานหน้าจอได้อย่างลื่นไหล และตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างดีสุดๆ
ส่วนความสว่างของหน้าจอสูงถึง 1400 nits เป็นความสว่างของหน้าจอที่ค่อนข้างมากทีเดียว ใช้งานกลางแจ้ง หรือที่แสงแดดลงจัดก็ยังคงเห็นหน้าจออย่างชัดเจน ในเรื่องของความทนทาน จอแสดงผลเป็น Gorilla Glass Victus ซึ่งจะทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เป็น 2 เท่าของ Gorilla Glass 6 โดยจอของ realme GT 2 Pro ได้รับการการันตีด้วยคะแนนจาก Display Mate ถึงระดับ A+ เลยล่ะ เป็นจอคุณภาพดีมากๆ
เรื่องจอก็ว่าดีแล้ว เรื่องระบบเสียงก็ไม่ธรรมดากับลำโพงคู่ Dual Stereo Speakers การันตีคุณภาพด้วย Dolby Atmos คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Certification จอดีเสียงกระหึ่ม ใครที่ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีย์ จะต้องถูกใจสิ่งนี้
การใช้งานภายใน
realme GT 2 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 กระบวนการผลิต 4nm ที่ได้รับคะแนน AnTuTu มากกว่า 1 ล้านคะแนน มี AI Engine เจนเนอเรชั่น 7 ที่ช่วยให้ความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
หน่วยความจำ RAM 12GB + RAM Expansion สามารถเลือกปรับได้ตั้งแต่ 3GB, 5GB และสูงสุด 7GB เท่ากับจะได้ RAM สูงสุดถึง 19GB เพื่อการรับส่ง ถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็ว ROM 256GB พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการณ์ Android 12 (realme UI 3.0)
พอเป็นชิปเซ็ตตัวแรง หลายคนอาจจะรู้สึกกังวลเรื่องความร้อน แต่ใน realme GT 2 Pro มี ระบบระบายความร้อนด้วย Stainless Steel Vapor Cooling ขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของรุ่นก่อน จึงมีพื้นผิวระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในสมาร์ทโฟนทุกรุ่นตอนนี้ และมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน 26% เท่านั้นไม่พอยังมีระบบระบายความร้อนถึง 9 ชั้น อีกทั้งระบบระบายความร้อนยังครอบคลุมจุดฮอตสปอตหลักทั้งหมด ช่วยถ่ายเทความร้อนให้กระจายตัวได้มากขึ้น ทำให้ Snapdragon 8 Gen 1 ไม่ร้อนอย่างที่กังวล ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ได้สบายฃ
ในเรื่องของการเชื่อมต่อ realme GT 2 Pro มีการปรับปรุงการรับสัญญาณแบบ Antenna Array Matrix System ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Hardware และ Software ปรับปรุงการรับ สัญญาณ Wi-Fi, 5G หรือ NFC และยังมีเทคโนโลยี Omni-directional Wi-Fi ช่วยให้การรับสัญญาญเสถียรมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะจับโทรศัพท์ด้วยท่าทางอย่างไร มือก็จะไม่ไปบดบังสัญญาณ ใช้งานได้อย่างลื่นไหล เชื่อมต่อได้ไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ยังมี 360° NFC เพื่อแก้ไขปัญหาการสแกน NFC ไม่ค่อยขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะไม่ตรงกับจุุดรับสัญญาณ ตัวนี้จะสามารถสแกน NFC ได้ทุกจุดของโทรศัพท์แบบ 360° ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นยิ่งขึ้น
ส่วนใครที่เป็นสายเกมมิ่ง ชื่นชอบในการเล่นเกม มี GT Mode 3.0 อันเป็นเอกลักษณ์ของ realme ซึ่งจะช่วยรีดพลังงานของเครื่องและ CPU ให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจะเป็นการดันอัตราเฟรม อัตราการรีเฟรช และความละเอียดให้สูงขึ้น เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลและเสถียรที่สุด มาลองเข้าเกมกันดู ก่อนเข้าเกมอย่าลืมเปิดโหมด GT กันก่อนล่ะ เมื่อเข้าเกมไปแล้ว สามารถเลื่อนนิ้วจากมุมบนซ้ายของจอเพื่อตั้งค่าการเล่นเกม ทั้งการอัดหน้าจอ การปิดแจ้งเตือน Application ไม่ให้มารบกวนระหว่างเล่นเกม และอื่นๆ ก็เลือกปรับได้ตามการใช้งาน
การเล่นเกม
เริ่มต้นเกมแรกด้วยเกมที่มีกราฟิกจัดจ้านอย่าง Asphalt เกมแข่งรถสุดเฟี้ยวฟ้าว การปรับความละเอียดของตัวเกมสามารถปรับได้ในระดับสูงสุด จุดเด่นในเกมนี้เป็นเรื่องของจอภาพที่คมชัด สีสันสดใสจัดจ้าน และเสียงเอฟเฟคต่างๆ ที่ดังกระหึ่ม ด้วยความเป็นลำโพงคู่ Dual Stereo Speakers คุณภาพระดับ Dolby Atmos ให้เสียงสเตอริโอรอบทิศทาง เล่นเกมได้อย่างจุใจ สามารถเล่นได้ลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุกมาขัดจังหวะแต่อย่างใด
มาต่อกันที่เกมที่ 2 กับ RoV การปรับตั้งค่าเกมทุกอย่างสามารถปรับได้สูงสุด ทั้งความละเอียดและเฟรมเรต จุดเด่นที่ได้เห็นจากเกมนี้คือความลื่นไหลของจอ เมื่อเปิดโหมด GT ก็จะได้ใช้อัตรา Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz รวมไปถึงความเป็น Turbocharged Touch Sampling สูงถึง 1000Hz ทำให้การเคลื่อนไหวตัวละคร การแตะสัมผัสที่หน้าจอ ทำได้อย่างรวดเร็วและเสถียรสุดๆ เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ภาพสวยให้รายละเอียดคมชัด
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ให้มาอยู่ที่ 5,000mAh รองรับ 65W SuperDart Charge ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วมาก จาก 0-100% ในเพียงแค่ 33 นาทีเท่านั้น มีโหมดประหยัดพลังงาน และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ซึ่งตัวเครื่องจะลดการทำงานบางอย่างลง เพื่อเซฟแบตเตอรี่ให้อยู่ได้ยาวนานที่สุด ในกล่องมี Adapter ชาร์จและสาย USB Type-C ใส่มาให้ในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อแยกให้วุ่นวาย เสียดายเงิน
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง 3 ตัวของ realme GT 2 Pro นับว่าเป็นอีกจุดทื่น่าสนใจมากๆ ด้วยกล้องเลนส์หลักความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล เป็นเซนเซอร์เรือธง Sony IMX766 พร้อมด้วยกันสั่น OIS & EIS 2.0um Pixel ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 ให้รายละเอียดคมชัด สามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมต่อได้โดยแทบไม่เสียความละเอียด
Ultra-wide 150° ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลอีกเช่นเดียวกันเป็นเซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL JN1 การสลับใช้ระหว่างเลนส์หลักและเลนส์ Ultra-wide ความละเอียดสูง สลับใช้ได้อย่างง่ายดายแค่สัมผัสเดียว ในฟีเจอร์ 50MP สะดวกใช้งานมากๆ ซึ่ง Ultra-wide ใน realme GT 2 Pro นับว่าเป็นครั้งแรกของโลกกับการให้มุมมองภาพกว้างมามากถึง 150°
และเป็นครั้งแรกอีกเช่นเดียวกันที่มีโหมด Fish-eye มาให้ใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน ซึ่งทั้งสองเลนส์เป็นเลนส์ที่สามารถถ่ายได้สนุกสนาน ให้มุมมองภาพที่แปลกใหม่เสมือนถ่ายด้วยกล้องมืออาชีพ เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทุกองค์ประกอบ
และเลนส์ตัวสุดท้ายที่จัดว่าเป็นทีเด็ดอีกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ Ultra-macro หรือ Microscope เป็นเลนส์จุลทรรศน์กับระยะการซูมขยายภาพได้มากสุดถึง 40 เท่า ความละเอียดระดับ FHD ประสิทธิภาพของเลนส์ตัวนี้
เป็นการถ่ายภาพในระยะใกล้เสมือนถูกซูมขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์ เป็นมุมมองภาพใกล้ในระยะที่สายตาเราไม่สามารถมองเห็นได้ จะต่างจากมาโครทั่วไป ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเลนส์ที่สนุกสนานในการใช้งานมากๆ สามารถนำไปส่องขยายสิ่งของรอบๆ ตัวเพื่อดูรายละเอียดในระยะใกล้ ซึ่งเลนส์ตัวนี้ก็มักจะคอยสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับทุกๆ ภาพถ่ายที่ออกมา สามารเลือกขยายได้ตั้งแต่ระยะ 20 เท่า และสูงสุด 40 เท่า
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล สามารถทำระยะหน้าชัดหลังละลายโดยเลือกปรับความเบลอได้ตั้งแต่ f0.95 – f16 และมีรีทัชชิ่งให้ได้ปรับผิวได้เช่นเดียวกับกล้องหลัง มีกรอบล็อคโฟกัสที่ใบหน้า ทำให้ภาพที่ได้คมชัด ไม่หลุดโฟกัสได้ง่าย
ในการถ่ายภาพตอนกลางคืน มี Night Mode ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น มีการจัดการคอนทราสต์ สีสันของภาพ การลดนอยซ์และแสงรบกวนได้ดี ไม่ใช่ Night Mode ที่มีแค่การดันแสงทั่วๆ ไป ให้คุณภาพระดับมืออาชีพจริงๆ
การถ่าย Portrait มีรีทัชชิ่งที่สามารถปรับผิวได้ตั้งแต่ 1-100 ระยะ เลือกความเนียนใสได้ดั่งใจ รวมไปถึง ยังมีฟีเจอร์ภาพถ่ายบุคคลให้ได้เลือกปรับเล่นใช้งานกันได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งจะสร้างโบเก้ฉากหลังที่มีความแปลกใหม่ แตกต่างจากการถ่ายภาพ Portrait โบเก้ทั่วไป
อย่างเช่น Bokeh Flare Portrait เพื่อสร้างโบเก้เป็นดวงสวยงามฟรุ้งฟริ้ง AI Color Portrait ดูดสีจากฉากหลัง หรือ Dynamic Bokeh กับโบเก้ที่เหมือนมีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ อยู่ด้านหลัง เลือกเล่นกันได้หลากหลายทีเดียว
โหมด Street อันเป็นเอกลักษณ์ของ realme เพื่อคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแนวสตรีท ในโหมดนี้จะสามารถปรับระยะของการถ่ายภาพได้อย่างง่ายดายและสะดวกมากๆ มี 3 ระยะ ให้ได้เลือกปรับแบบรวดเร็วตั้งแต่มุมมองภาพกว้าง 16mm 24mm และ 50mm หรือจะเลือกคุณภาพของไฟล์เป็น RAW หรือ JPG ก็เลือกใช้ได้อย่างง่ายดาย ถูกใจสายสตรีทเลยทีเดียว
ส่วนการถ่ายวีดีโอ กล้องหลังสามารถถ่ายด้วยความละเอียดสูงสุดระดับ 8K มี AI Hilight เพื่อช่วยปรับภาพอัตโนมัติ และปรับระยะความเร็วของฉากหลังได้ตั้งแต่ f0.95 – f16 มีกันสั่นที่ทำให้การถ่ายวีดีโอเป็นไปด้วยความสมูทลื่นไหล ไม่ต้องใช้ไม้กันสั่นหรือไม้ gimbal ก็ให้คุณภาพของวิดีโอที่นิ่งสนิท เหมาะสำหรับคนที่เป็นสาย Content Video ถ่ายวีดีโอได้ง่าย คุณภาพดีแถมความละเอียดสูงอีกต่างหากนอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวีดีโอ 2 หน้าจออีกด้วย
ตัวอย่างภาพภ่ายที่ถ่ายด้วย realme GT 2 Pro
สรุปท้ายรีวิว
realme GT 2 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์ในทุกๆ ด้านอย่างที่บอกไปในตอนแรกอย่างแท้จริง จัดสเปคมาสุดทุกทาง ตั้งแต่ดีไซน์ที่มีการคิดและออกแบบมาอย่างดี มี Concept ความห่วงใยต่อโลกที่ชัดเจนและเห็นเป็นรูปธรรมจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเครื่องก็ยังคงความพรีเมี่ยมหรูหรา ไม่ใช่การลดคุณภาพของวัสดุแต่อย่างใด ภาพรวมของดีไซน์ออกแบบมาได้สวยงาม แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์มากๆ
ในเรื่องของประสิทธิภาพก็จัดเต็มด้วยชิปเซ็ตเรือธงตัวแรง Snapdragon 8 Gen 1 ที่ไม่ได้มาแค่เพียงความแรง แต่ยังมาพร้อมระบบการจัดการความร้อนของตัวเครื่อง เพื่อการใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมด้วยการปรับปรุงการเชื่อมต่อให้สามารถรับสัญญาณได้อย่างทั่วถึงและเสถียร เสมือนรวบรวมจุดขัดใจที่เคยมีมา แล้วแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
และอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ ก็คือความสามารถของกล้องหลังที่โดดเด่นประทับใจทั้ง 3 ตัวตั้งแต่กล้องเลนส์หลัก เลนส์ Ultra-wide และเลนส์ Microscope สร้างความแปลกใหม่ในวงการกล้องบนสมาร์ทโฟน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ realme GT 2 Pro เป็นอีกหนึ่งมือถือเรือธงที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้ ยอมรับในความเป็นเรือธงที่สมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง
โดยราคาของ realme GT 2 Pro เปิดตัวมาอยู่ที่ 24,990 บาท วางขายความจุเดียว RAM 12GB+ROM 256GB
โปรโมชั่นพิเศษ! รอบ Early bird เฉพาะช่องทาง Shopee ใน realme Official Store
เปิดให้พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ 22 มีนาคมถึง 3 เมษายนนี้ เหลือเพียง 22,999 บาท โดยจะได้รับของแถมเป็น realme Bud Air2 neo (ของแถมมีจำนวนจำกัด) และจะวางขายวันแรกผ่านช่องทางนี้ ในวันที่ 4 เมษายนนี้ สามารถสั่งซื้อได้บน Shopee ใน realme Official Global store เหลือเพียง 22,999 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้เป็นต้นไป โดยจะวางขายพร้อมกันที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายในวันที่ 8 เมษายนนี้