realme X2 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์น้องใหม่ ที่กระโดดเข้ามาในโซนของเครื่องระดับสูงอย่างเต็มตัวครับ แต่ที่เขาให้สเปคมาแบบนี้ เทคโนโลยีมาระดับนี้ ไม่ใช่แค่สเปคสูงเท่านั้นครับ แต่เป็นการใช้มาตรฐานนระดับยอดมงกุฎของสายการผลิตสมาร์ทโฟนกันเลยทีเดียว
realme X2 Pro ว่ากันแค่หน้าสเปคบนแผ่นกระดาษก็น่าสนใจมากแล้วครับ หน้าจอเครื่องขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ แบบ Super AMOLED เทคโนโลยีจอ Ultra Smooth Display ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz แบบเครื่องสมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับสูง รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ไวมาก ใช้กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดกล้องหลักสูงถึง 64 ล้านพิกเซล พร้อมความสามารถในการซูมภาพแบบไฮบริดได้ถึง 20เท่า ระบบชาร์จไวตัวท็อปของโลก Super VOOC 50W ชาร์จ 35 นาทีได้แบตเต็ม 100% ระบบเสียงลำโพงคู่ เสียงดีสุดๆ ใช้ชิปเสียง Dolby Atmos พร้อมหน่วยประมวลผลตัวท็อปของวงการสมาร์ทโฟน Qualcomm Snapdragon 855+ เทคโนโลยีผลิต 7นาโน ให้แรมมา 12 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 256 GB ซึ่งเป็นแบบ UFS 3.0 ครบเครื่องความแรงในทุกด้านเลย
realme X2 Pro มีเข้าไทยสองสีครับ และสีที่สวยกว่าสำหรับผมซึ่งฟันธงจากความชอบส่วนตัวได้เลยว่า “สีขาว Lunar White” เป็นสีกึ่งขาว กึ่งมุก อมชมพูนิดๆ ในบางมุมที่ต้องแสง งานออกแบบของ realme รุ่นนี้ดูผู้ใหญ่ขึ้นหน่อยเพราะน้องเขาโตแล้ว อาจจะด้วยการวางโลโก้แบบแนวตั้งในตำแหน่งที่ไม่ค่อยคุ้นตา มองผ่านๆ เหมือนกระเป๋าหน้าของเสื้อสูทเก๋ๆ สักตัวหนึ่ง
ตัวเครื่องภายนอกไม่เคยผิดหวังอยู่แล้วสำหรับ realme ผมพูดย้ำเสมอในทุกๆ รีวิวว่า สมาร์ทโฟน realme เป็นแบรนด์ที่ขายถูกแต่เน้นปราณีต ไม่ขายของถูกที่ดูราคาถูก ทำมาได้สวยทุกรุ่น ซึ่งเจ้า realme X2 Pro มันคือตัวสเปคท้อปของเขา ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G ใช้พอร์ตชาร์จ UAB Type-C ซึ่งรองรับ OTG และระบบชาร์จแบบ SuperVOOC
อุปกรณ์ภายในกล่องมีที่ชาร์จ SuperVOOC กับสายชาร์จมาให้ มีเคสใส และคู่มือ แต่ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับสำหรับรุ่นนี้
การใช้งานภายใน
คอนเซปในการวางสเปคของรุ่นนี้ เขาใช้นิยามว่า “แรงเต็มขั้น พลังเรือธง” มันสุดไปทุกด้านจริงๆ ครับ ไล่ตั้งแต่หน้าจอแสดงผล ขนาดจอใหญ่กำลังน่าใช้ 6.5 นิ้ว รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรงที่สแกนได้ไวมาก แค่วางนิ้วปั๊บก็เข้าใช้งานได้เกือบจะในทันทีเลยครับ รองรับการสแกนใบหน้าด้วย และมีการปรับแต่งให้เราปรับใช้ได้เยอะ รวมถึงมีสโตร์สำหรับกาวดาวน์โหลดแอพและเกมพร้อมบริการให้ผู้ใช้
สีสันสวยด้วยจอแบบ SuperAMOLED รองรับ HDR10+ แต่ที่สำคัญมันเป็นจอ Ultra Smooth Display ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ความลื่นไหลของการกระพริบจอสูงกว่าจอปกติที่จะเป็นจอ 60Hz มันส่งผลต่อการใช้งานในทุกๆ ด้านเลยครับ
ด้วยสเปคที่แรง แรมที่เยอะ หน่วยความจำที่ใช้ UFS 3.0 มันอ่านข้อมูลได้ไวกว่าเดิมถึง 3 เท่า และหน้าจอแบบ 90Hz เราจะเห็นความแตกต่างตั้งแต่การใช้งานพื้นฐานเลย อย่างการสไลด์หน้าโฮม การใช้งานเฟสบุ๊คเวลาเลื่อนฟีดอ่านข่าว และงานอื่นๆ แทบจะทุกอย่าง สมูธลูกตา ลื่นไหลตามนิ้ว การตอบสนองมาไว
โดยในเครื่องจะให้เราสามารถกำหนดใช้อัตตรารีเฟรชเรทของหน้าจอได้ ทั้งแบบ 60Hz และ 90Hz ครับ ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดใช้ 90Hz จะกินแบตเตอรี่เยอะกว่า แต่การันตีว่าคุ้มค่าน่าลอง และควรเปิดใช้เป็นอย่างยิ่งครับ
หน้าจอแสดงผลสวย กรอบจอเล็กมากๆ เรองรับ HDR10+ ด้วย ฉะนั้นคลิปภาพยนตร์ที่เป็น HDR ก็จะรองรับกับหน้าจอของเครื่องรุ่นนี้ แต่มันไม่ได้มีดีแค่จอภาพครับ แต่ลำโพงก็ขั้นเทพ เพราะใช้ลำโพงคู่สเตอริโอชิพเสียงดีจาก Dolby เสียงดังและมีมิติมากๆ เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของทาง realme ที่ติดตั้งลำโพงคู่มาให้ครับ เสียงดังทั้งสองลำโพง รวมกันแล้วเพียงพอต่อการรับฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้แต่การเล่นเกมให้เต็มอรรถรสโดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่มภายนอกได้ครับ
มีฟังก์ชั่นใหม่ถอดด้ามจากตัวระบบ ColorOS6.1 อย่างเช่นในโหมดสำหรับการเล่นเกม กับ Game Mode หน้าตาใหม่ ที่แสดงอัตตรารีเฟรชเรท การทำงานของ CPU และ GPU ตลอดจนถึงระดับสัญญาณเน็ต พร้อมไอคอนเปิดโหมดพิเศษสำหรับเล่นเกมใหม่ๆ อย่างเช่น ระบบสั่นแบบ 4มิติ เป็นการเพิ่มรูปแบบการสั่นจากมอเตอร์ Tactile linear motor ซึ่งเป็นระบบมอเตอร์สองตัว สองแกน คอยทำงานสร้างความสั่นที่แตกต่างกันในระหว่างการใช้งานของเครื่อง นำมาสั่นสร้างความแตกต่างในขณะเล่นเกมที่รองรับระบบนี้ได้ด้วยครับ
และยังมีฟังก์ชั่นสำหรับการเปลี่ยนเสียงพูดเมื่อใช้งานไมค์ในขณะเล่นเกมเพื่อสนทนาในเกมได้ ฟังก์ชั่นเหล่านี้ถูกเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อรองรับเกมที่จะใช้งานได้ในอนาคตครับ
แม้สเปคเครื่องจะสุดโหดกระโดดกัดคอคนเล่นเกมได้แล้ว ทาง realme ยังใส่ HyperBoost2.0 ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยให้เราเล่นเกมได้ไหลลื่นกว่าเดิม ตอบรับการทัชและสั่งงานได้ดีขึ้น เกมไหนที่รองรับระบบนี้จะขึ้นสัญลักษณ์สายฟ้าสีเขียวให้เราทราบชัดเจนเลยครับ แต่ผมบอกเลยว่าไม่ต้องสนใจระบบ HyperBoost ก็ไม่ผิด เพราะจะเกมไหนมาเล่นบนสเปคแบบนี้ก็ลื่นสุดๆ ของ Android แล้วครับ
แรงขนาดนี้ แบตเตอรี่ 4,000 mAh อยู่กับเราได้นานแค่ไหน? สำหรับ realme 2X Pro ไม่ใช่เครื่องประเภทแบตอึดใช้งานกันข้ามวันครับ แต่เราก็สามารถเปิดฟลูฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องได้โดยไม่ต้องกลัวแบตมันจะหมดไว มันสามารถใช้งานได้วันต่อวันแบบสมาร์ทโฟนโดยทั่วไป และจุดเด่นของ realme 2X Pro คือการเติมไฟกลับเข้าเครื่องครับ
SuperVOOC 50W ชาร์จเร็วจนต้องร้องให้รอก่อน เสียบไฟปั๊บนับเปอร์เซ็นแบตแทบไม่ทัน เพราะหน้าตาตอนชาร์จออกแบบมาได้โคตรเร้าใจครับ มันขึ้นเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นวิ่งโชว์เลย เหมือนกำลังดูดไฟบ้านเข้าเครื่องแบบหิวกระหาย 555
เสียงชาร์จแค่ 30 นาทีนิดๆ ต่อให้แบตเกือบจะหมดก้อน 0% แบตก็กลับมาเต็มแน่นอนครับ แม้จะเปิดใช้งานไปชาร์จไปก็ใช้เวลาใกล้กัน มันชาร์จเร็วมากๆ ครับ ถ้าได้ลองใช้ SuperVOOC กันเป็นครั้งแรก คุณจะตกใจ
แถมเป็นระบบที่ชาร์จไปใช้ไป เครื่องก็ไม่ร้อน แม้ภายในจะใส่ของแรงอย่าง Snapdragon 855+ มาก็ตาม เพราะภายใน realme 2X Pro ใส่ระบบระบายความร้อนแบบของเหลว VC liquid cooling เอาไว้ให้ด้วย ตลอดระยะการทดสอบใช้งานมา เครื่องไม่เกิดความร้อนในระดับที่น่าเป็นห่วงเลยครับ
กล้องถ่ายภาพ
คุณภาพกล้องก็ดีมาก ถ่ายง่าย ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องความละเอียดภาพที่สูงระดับ 64 ล้านพิกเซลนะครับ และยังไม่ได้พูดถึงความสามารถในการซูมภาพได้ 20X แต่พูดถึงด้านคุณภาพผลลัพท์ของภาพเพียงอย่างเดียวก็น่าใช้แล้วครับสำหรับกล้อง realme X2 Pro
กล้องหลังสี่ตัว โดยมีกล้องหลักความละเอียด 64ล้านพิกเซล แน่นอนว่าความละเอียดระดับนี้ต้องเป็นเซนเซอร์ของ Samsung GW1 นั้นเอง และเลนส์ที่สองเป็นเลนส์มุมแคบ Telephoto สำหรับช่วยในเรื่องของการซูมภาพ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องที่สามคือกล้องมุมกว้าง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ 115 องศา และยังรับหน้าที่ในการถ่ายภาพแบบ Macro หรือโหมดถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ ได้ถึง 2.5 เซนติเมตรอีกด้วย สุดท้ายคือกล้อง Depth sensor ตัวช่วยการจับโฟกัสสำหรับการถ่ายรูป Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลมี AI beauty มาให้พร้อมสำหรับการถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ
ตัวกล้องมี AI สำหรับการจับสิ่งที่ถ่ายได้โดยอัตโนมัติ มีการปรับแสงและเปิดใช้ HDR เพื่อช่วยให้ภาพที่ถ่ายเห็นรายละเอียดสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น ด้วยระบบ AI และซอฟท์แวร์กล้องทีดี บวกกับโมดูลกล้องที่คุณภาพสูง ทำให้การถ่ายภาพของ realme X2 Pro ถ่ายง่าย และได้ภาพที่สวยในหลากหลายสถานการณ์และหลากหลายสภาพแสงนั้นเองครับ
ความละเอียดกล้องสูง โหมดกล้องเยอะ และมีเลนส์หลากหลายระยะอีกด้วย ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 115 องศา สำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการเก็บบรรยากาศรอบข้างให้มากขึ้นกว่าปกติ
ถ่ายใกล้ได้สูงสุด 2.5 เซนติเมตร และถ่ายไกลได้สูงสุด 20x แบบดิจิทัล และแบบซูม 5X โดยไม่เสียความละเอียดของภาพ ฉะนั้นการซูมภาพระดับ 1x, 2x, 5x จะใช้งานได้ดีมาก เป็นการเปลี่ยนระยะมุมมองและเพิ่มความลึกได้ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพคนมากๆ ครับ
ในเรื่องของลูกเล่น ก็มีโหมดการถ่ายภาพที่สำคัญเช่นการถ่ายภาพบุคคลหรือหน้าชัดหลังเบลอที่เลือกระยะชัดลึกชัดเบลอได้ครับ โดยตัวกล้องจะจับใบหน้าและลดความชัดเจนของพื้นหลังเพื่อเพิ่มความโดดเด่นของใบหน้าแบบให้เด่นมากขึ้น
โหมดถ่ายภาพความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เป็นโหมดสำหรับการเปิดความละเอียดสูงสุดที่กล้องจะสามารถจัดเก็บภาพได้ ปกติจะปิดไว้เพื่อการประหยัดพื่นที่จัดเก็บของเครื่อง แต่สามารถเปิดใช้งานได้ไม่ยากในกรณีที่ต้องการ จากไอคอนเมนูหน้า UI กล้องครับ
และโหมดถ่ายภาพกลางคืนในที่แสงน้อย Night Scape 2.0 ถ่ายภาพกลางคืนไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง มองเห็นรายละเอียดได้แม้ในจุดที่ตาเปล่ามองไม่เห็น โดยตัว realme X2 Pro ก็ยังจับโฟกัสวัตถุและแบบในฉากกลางคืนได้แม่นยำอยู่ดีครับ ฉะนั้น เจ้ากล้อง realme X2 Pro ลุยกับเราได้ตั้งแต่แสงเช้ายันภาพกลางคืนเลย เครื่องเดียวเอาอยู่หมด
ภาพตัวอย่างจากโหมดต่างๆ ของ realme X2 Pro
สรุปท้ายรีวิว
สุดยอดครบเครื่องในระดับเรือธงสเปคสูงสุดๆ ครบทุกด้านจริงๆ ครับ หน้าจอแสดงผลสวย เฟรมเรทสูง ลำโพงคู่เสียงดี ระบบชาร์จยอดเยี่ยม สเปคประมวลผลระดับสุดยอดของสมาร์ทโฟน Android ในขณะนี้ กล้องถ่ายภาพครบเครื่องมีเลนส์ทุกระยะ ซูมภาพได้ 20x และถ่ายใกล้ได้ 2.5เซนติดเมตร ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล คุณภาพกล้องดีงาม
ถ้าจะบอกว่า realme X2 Pro มีสเปคหลายๆ อย่างในระดับสมาร์ทโฟนราคาแพงกว่ามันหลายๆ ตัว ไม่มีจุดบกพร่องอะไรให้มันดูสมเหตุสมผลกับราคาขายของมันเลย ยังไม่นับรวมโปรโมชั่นของแถมและการซื้อผ่านเครือข่ายที่ราคาลดโหดมาก เครื่องระดับนี้เหลือราคาไม่ถึงหมื่น
สำหรับ realme X2 Pro วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 19,999 บาท และเปิดให้จองตั้งวันนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน รับของแถม VIP Card ประกันหน้าจอ 1 ปี ประกันตัวเครื่องนาน 2 ปี และ realme Buds Wireless รวมมูลค่ากว่า 15,999 บาท เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป
ผ่านทาง AIS, True Move H, CSC, Com7, Jaymart, TG Fone และ IT City ช่องทางออนไลน์ที่ Lazada