Redmi ชื่อนี้ไม่เคยผิดหวัง คุ้มค่าด้านราคากับสเปคเครื่องที่ได้ เพราะ Xiaomi จัดเต็มมาใน Redmi 10 ใส่สเปคมาแบบเกินมาตรฐาน เปิดตัวในราคาไม่ถึงห้าพัน ถือว่าถูกมากๆ ครับ
Redmi 10 สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น ที่อัพความคุ้มค่ามาเต็มเม็ดเงินสุดๆ เลยครับ สเปคเครื่องเกินงบขาย 4,999 บาทไปไกล ให้หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ รีเรฟชเรทสูง 90Hz ใช้หน่วยประมวลผลค่อนข้างแรงครับ Helio G88 และให้แรมมา 4GB และรอม 64GB (มีรุ่นแรม 6/128 GB มาเป็นตัวเลือก) แรงและราคาประหยัด เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคาประมาณนี้
การออกแบบและตัวเครื่องภายนอก
Redmi ใช้การออกแบบนี้มาสักระยะแล้วครับ เขาออกแบบมาในทรงที่ดูวัยรุ่น การวางชุดกล้องหลังเด่น มีการใช้สีตัวเครื่องที่เงาตัดกับพื้นที่สีดำของกล้องให้ดูชัดเจน เป็นเครื่องรุ่นเริ่มต้นที่ให้มาครบ ทั้งกล้องหลังสี่ตัว ที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่องตรงปุ่มพาวเวอร์ รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบสามสล็อต พอร์ทชาร์จแบบ USB Type C ที่รองรับการชาร์จไว 18W ด้วยนะครับ พร้อมทั้งลำโพงคู่สเตอริโอ และ IR Infared ตามสไตล์สมาร์ทโฟนจากเครือ Xiaomi ก็จัดมาให้ครบ
หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว FHD+ อัตรารีเฟรชเรท 90Hz เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับที่สแกนใบหน้าได้ด้วยเช่นกันครับ ขอบจอไม่ใหญ่ หน้าจอแสดงผลมีความละเอียดดี
โดย Redmi 10 มีนำเข้ามาจำหน่ายไทยสามสีนะครับ สีขาว Pebble White จะดูเป็นเท็กซ์เจอร์เรียบๆ ลดการเกิดรอยนิ้วมือ และสีฟ้า Sea Blue เทกซ์เจอร์กลอสซี่แนวสดใส และสีดำแมตต์ Carbon Gray ที่เห็นในรีวิวนี้ครับ
กล้องหลังมาครบสี่ตัว ให้ความละเอียดมาสูงด้วยครับ กล้องหลักความละเอียด 50ล้านพิกเซล เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 8ล้านพิกเซล เลนส์มาโครความละเอียด 2ล้านพิกเซล และเซนเซอร์วัดระยะชัดลึกความละเอียด 2ล้านพิกเซล ตัวเครื่องทำหลังโค้ง ความหนาของเครื่องไม่หนามากครับแม้ภายในจะใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh มาให้ก็ตาม แต่บริเวณชุดกล้องจะมีความหนายื่นนูนออกมามาก เวลาใช้งานก็แนะนำให้ใส่เคสซึ่งมีแถมมาให้ภายในกล่องเพื่อป้องกันขอบชุดกล้องเป็นรอยเวลาวางพื้น
ในกล่องยังมีที่ชาร์จไฟระดับ 22W แถมมาให้ด้วยนะครับ แถมของดีมาเลย มาพร้อมกับเคสใส และสายดาต้า USB Type C แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับรุ่นนี้
การใช้งานภายใน
สเปคถือว่าแรงใช้ได้นะครับ ไม่ได้หมายถึงแรงในระดับราคาประหยัดเท่านั้น แต่ Helio G88 มันแรงระดับเครื่อง Mid-End มากกว่าระดับเริ่มต้นครับ สามารถใช้งานได้ทั่วไปได้เต็มที่ รวมถึงสายเล่นเกมด้วย เพราะ Helio G Series ก็ทำมาเพื่อการเล่นเกมเนี้ยแหละ แรงและราคาประหยัด ซึ่งทาง Redmi ทำให้มันราคาประหยัดกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำครับ เรทนี้ได้สเปคนี้ไม่ธรรมดา เล่นเกมลื่นๆ แบบไม่ต้องจ่ายแพงครับ แม้จะไม่เหมือนกับเครื่องรุ่นใหญ่ก็ตาม แต่วัดจากราคาเท่านี้ก็สุดยอดแล้วครับ
ให้แรมมา 4GB และหน่วยความจำ 64GB (มีรุ่น RAM 6GB+128GB ราคา 5,999 บาท ออกมาด้วย) รันด้วยระบบ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
การใช้งานเบื้องต้นไหลลื่นดีครับ ซอฟท์แวร์ของ Redmi ตัวใหม่ลื่นไหลทำงานเร็ว และผมชอบที่ขนาดไอคอนของ UI ตัวนี้ใหญ่ดีครับ มีลักษณะพิเศษที่ช่วยผู้ใช้ให้เรียกส่วนแจ้งเตือนและหน้า Toggle เปิดปิดฟังก์ชั่นลงมาใช้ได้ง่ายๆ โดยการสไลด์นิ้วลงทางจอด้านขวาจะเป็นหน้าเปิดปิดฟังก์ชั่น แต่ถ้าสไลด์นิ้วลงทางด้านซ้ายของจอ จะเป็นการเรียกดูหน้าแจ้งเตือนโดยตรง
การปรับอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอของ Redmi 10 เราต้องไปเลือกเองนะครับ ว่าต้องการใช้งานที่ 60Hz หรือ 90Hz ไม่มีระบบปรับให้อัตโนมัตินะครับต้องเลือกใช้งานไปเลยอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าต้องการยืดอายุการใช้งานระหว่างวันของแบตก็เลือกที่ 60Hz ไว้ครับ แต่ผมแนะนำว่าให้เปิดไปที่ 90Hz เลย การใช้งานที่รองรับก็จะสมูธตามากกว่า และกินแบตเตอรี่พลังงานต่างกันไม่มาก
ทดสอบการใช้งานของแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ใช้งานได้ข้ามวันเลยครับในวันใช้ตามปกติ ถ้าเปิดหน้าจอใช้งานต่อเนื่องก็จะกินแบตเตอรี่ประมาณ 14% ต่อชั่วโมงครับ จะอยู่ที่ราวๆ นี้ไม่ว่าจะเปิดหน้าจอที่ 60Hz หรือ 90Hz ไม่ค่อยต่าง แต่สิ่งที่จะกินแบตมากกว่าคือความสว่างหน้าจอ ผมเปิดความสว่างของหน้าจอไว้ที่ประมาณ 40%
การชาร์จแบตด้วยที่ชาร์จที่แถมมาให้ภายในกล่อง สามารถชาร์จไฟกลับเข้าแบตได้จาก 20% ให้เต็ม 100% ในเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งครับ โดยเฉลี่ยก็นาทีละ 1%
หน้าจอขนาดใหญ่ ใช้งานดูหนังเล่นเกมได้เต็มๆ ตา ลำโพงคู่เสียงดังใช้ได้ มีคุณภาพด้วยนะครับไม่ใช่แค่ดัง ลำโพงเสียงมีเนื้อเสียง ไม่เบาเสียงไม่บางเกินไป
หน้าจอขนาดนี้ก็เอาใช้ในการอ่านหนังสือได้อยู่ และใน MIUI 12.5 มีโหมดถนอมสายตาสำหรับการใช้งานที่ต้องมองจอเป็นเวลานานๆ เช่นการอ่านหนังสือ นอกจากจะลดแสงสีฟ้าแล้ว ก็จะมีโหมดปรับภาพให้เหมือนเป็นกระดาษ เพื่อการถนอมสายตาสำหรับนักอ่านที่มากขึ้นไปได้อีกครับ
รองรับ Wi-Fi ทั้ง 2.4 และ 5.0 จับสัญญาณ GPS ได้ไว ทำงานต่างๆ ได้ปกติไม่เจอเหตุการณ์ติด ค้าง ช้า หรือรีสตาร์ทในขณะทดสอบใช้งานครับ ระบบแน่นดีไม่มีปัญหาใดๆ
มีบริการเสริมมาให้จาก Xiaomi Redmi เป็นบริการ Xiaomi Cloud สำหรับการสำรองข้อมูลและติดตามเครื่องหาย, บริการธีมสโตร์ที่ยังคงให้ดาวน์โหลดใช้ฟรีกันมากมายเต็มสโตร์ และแอพจัดการเครื่องด้านเคลียไฟล์ขยะและดูแลผู้ใช้ด้านความปลอดภัย ทั้งหมดจัดมาให้ใน MIUI 12.5 ครับ
และแน่นอน เมื่อมี IR Infared ก็จะมีการใส่แอพพลิเคชั่น “รีโมท” มาให้ครับ แปรสภาพมือถือให้กลายเป็นรีโมทสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้แบบครอบจักรวาล ^^
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหลังสี่ตัว ตัวหลักความละเอียด 50ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 8ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร 2ล้านพิกเซล และเซนเซอร์วัดลึก 2ล้านพิกเซล กล้องหลังสี่ตัวช่วยทำการซูมภาพได้ตั้งแต่โฟกัสระยะ 0.6x ไปจนถึงซูมภาพดิจิทัล 10x มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมดถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอให้ใช้งานกันครบครับ
โหมดถ่ายภาพความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ความละเอียดสูงมาก สามารถถ่ายเพื่อนำมาครอบตัดส่วนที่ต้องการในภายหลังก็ยังคมใช้ได้ครับ
ภาพหน้าชัดหลังเบลอสำหรับโหมดถ่ายภาพบุคคล ตัดฉากหลังออกจากบุคคลได้ดีอยู่ครับ เลือกค่า f จำลองรูปรับแสงให้เห็นผลลัพท์แบบเรียลไทม์ได้ก่อนถ่าย และสามารถนำมาเลือกระดับความเบลอของฉากหลังได้หลังการถ่ายไปแล้วสำหรับรุ่นนี้ เลือกจุดโฟกัสของภาพใหม่ได้ด้วยเช่นกัน
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล คุณภาพใช้ได้ครับ ถ่ายหนัาชัดหลังเบลอได้ด้วยกล้องตัวเดียว
อย่างที่เห็น กล้องของ Redmi 10 คุณภาพอยู่ในระดับพอใช้ได้ ไม่คมกริบเหมือนเครื่องรุ่นใหญ่ แต่ถือว่าคุ้มในมาตรฐานสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้น เพราะมีโหมดการใช้งานมาให้ค่อนข้างครบ
นอกจากมีโหมด 50MP แล้ว ก็มีโหมดพาโนรามา การถ่ายวีดีโอสโลโมชั่น แล้วก็ก็มีโหมดภ่ายภาพกลางคืนให้ใช้งานด้วยเช่นกันครับ
สรุปท้ายรีวิว Redmi 10
ราคาคุ้มมาก Redmi 10 เปิดมาแค่ 4,999 บาท แต่ให้สเปคเครื่องระดับ Mid-End เต็มตัวที่ปกติอาจจะขายกันในราคาเกือบหมื่น แต่ Xiaomi จัดมาให้ในราคาเท่านี้เองครับ
กล้องถ่ายภาพเลนส์ครบคุณภาพพอใช้ได้ แบตอึดชาร์จไว มีหน้าจอใหญ่ความคมชัดดี รีเฟรชเรท 90Hz ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดัง เรทนี้แต่มีให้ครบทั้งภาพและเสียง และหน่วยประมวลผลก็ยังแรงเกินตัว ใช้เล่นเกมจริงจังได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายแพง
ครบเครื่องในราคาเบา ถ้าชอบ Xiaomi Redmi อยู่แล้วก็ไม่ต้องคิดมากอะไรแล้วครับ ในงบ 4,999 บาท หาคุ้มกว่านี้ยากครับ! (รุ่นแรม 6GB หน่วยความจำ 128GB ราคา 5,999 บาท)