เปิดตัวมาแล้ว Redmi Buds 4 Pro หูฟังไร้สาย dual-driver หรือไดรเวอร์คู่ตัวแรกของ Redmi Buds Series คุณภาพเสียง Hi-Res Audio รองรับระบบตัดเสียงรบกวน ANC มีคุณสมบัติค่อนข้างครบมาก แต่เปิดราคาออกมาแค่ 2,290 บาทเท่านั้นเองครับ
Redmi Buds 4 Pro เปิดราคาออกมาดีมาก แนะนำว่าใครยังไม่มีหูฟังไร้สายใช้ หรือกำลังมองหาใหม่ในงบราคาสองพันต้นๆ ตัวนี้คุ้มครับ เพราะมีครบ คุณภาพเสียงก็ดีมากด้วย มีเปิดจำหน่ายในไทยสองสี สีขาว Moon White และ ที่เห็นในรีวิวนี้ และสีดำ Midnight Black ตัวเคสอยู่ในไซด์มาตรฐานพกง่ายขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักรวม 46 กรัม
ตัวหูฟังมาในทรงกึ่งเอียร์บัดกึ่งอินเอียร์ เสียบเข้าในหูเล็กน้อย น้ำหนักเบาและทิ้งน้ำหนักพักไว้ที่ใบหูด้วยส่วนหนึ่ง ทำให้เวลาใส่ใช้นานๆ ไม่เจ็บรูหู ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ใส่ออกกำลังได้ครับโดนเหงื่อโดนน้ำกระเซ็นใส่ไม่เสียหาย
จุดเด่นอยู่ที่คุณภาพเสียง เพราะมาในมาตรฐาน Hi-Res Audio Wireless ระบบเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สาย และยังรองรับเทคโนโลยีแปลงรหัส LDAC ในอุปกรณ์ที่รองรับอีกด้วย ตัวไดรเวอร์ที่ให้มาก็ถือว่ามีขนาดใหญ่ และเป็นหูฟังที่ใช้ระบบไดรเวอร์คู่ dual-driver ในขนาด 10มม. + 6มม. มีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ใช้การทัชสัมผัสที่ก้านหูฟัง รองรับทั้งการทัช 2, 3 ครั้ง และการทัชค้าง แยกทำงานได้ทีละข้างแบบอิสระ โดยตัวหูฟังยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สองอุปกรณ์พร้อมกันครับ สลับการใช้งานได้แบบอัตโนมัติตามสัญญาณเสียงเข้า
Redmi Buds 4 Pro สามารถใช้งานได้ทั้งกับอุปกรณ์ Android และ iOS เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth 5.3 กินพลังงานน้อยและสัญญาณมีความเสถียรสูง การตั้งค่าต่างๆ ของหูฟัง ทั้งรูปแบบคำสั่งการทัชต่างๆ และการอัพเดทระบบ สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Xiaomi Earbuds ซึ่งจะมีอยู่ใน Google Play Store ของ Android ครับ ( Xiaomi Earbuds Android ดาวน์โหลด )
ภายในแอปพลิเคชั่น เราจะสามารถใช้ความสามารถอื่นของหูฟังได้ครับ เช่นการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์เสียง เสริมแนวเสียงให้เด่นชัดได้ 4 รูปแบบ เสริมแหลม, เสริมเบส, สมดุล หรือเสริมเสียงพูด
โดยระบบ “เสียงสมจริง” เป็นโหมดที่น่าใช้สำหรับคนชอบดูหนังครับ เป็นการจำลองเสียงรอบทิศทางให้เสียงมีมิติความลึกความตื้น ความกว้างและทิศทางเสียง จากที่ทดสอบใช้ เขาทำเสียงจำลองมาได้ชัดเจนครับ เวลาเปิดเอฟเฟ็กต์เสียงสมจริงจะรู้สึกถึงความต่างของมิติเสียงชัดอมาก เหมาะสำหรับเปิดตอนรับชมภาพยนตร์
ยังมีฟังก์ชันที่จะช่วยวัดความพอดีของจุกหูฟังด้วยการเล่นเสียงแล้วใช้ไมค์ตรวจจับความรั่วไหลว่าอยู่ในขนาดที่พอดีกับหูของเรามั้ย และยังมีฟังก์ชันอี่นๆ อีกหลายตัวครับ เพราะฉะนั้นการใช้งาน Redmi Buds 4 Pro ให้เต็มประสิทธิภาพ ก็ควรจะใช้กับสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอป Xiaomi Earbuds เอาไว้เป็นเครื่องหลักด้วยครับ
เรื่องของแนวเสียงและคุณภาพอยู่ในเกรดที่ดีเลย เสียงมีความกว้าง เบสชัดดีและเสียงใสเด่น แม้จะเปิดราคามาในกลุ่มหูฟังราคาสองพันต้นๆ แต่ว่าแนวเสียงกลมกล่อมใช้ได้เลยครับ
ความสามารถของ Redmi Buds 4 Pro ก็จะมีฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน ANC ที่ปรับระดับความเข้มข้นของการตัดเสียงได้ โดยสามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุดที่ระดับ 43dB กลบเสียงสภาวะแวดล้อมทั่วไปได้หมด เสียงรถยนตร์ เสียงฝนตก หรือเสียงพูดคุยทั่วไป
สามารถเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนได้เองสามระดับครับ โหมดเบา-Light Mode, โหมดสมดุล-Balanced Mode และโหมดลึก-Deep Mode หรือจะให้ตัวหูฟังคอยปรับโดยอัตโนมัติ (Adaptive Mode) หูฟังจะใช้ไมค์รับเสียงในการตรวจจับเสียงรอบข้างแล้วเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมที่สุดให้เองโดยอัตโนมัติครับ
โดยจะสามารถเปิดรับเสียงจากภายนอกได้ทันทีด้วยโหมด Transparency Mode เพื่อใช้ในการรับฟังเสียงรอบข้างหรือเริ่มต้นสนทนากับคนอื่นโดย “Enhance Voice Mode” หรือ “เสริมเสียงพูด” ที่ตัวหูฟังจะเร่งเสียงพูดจากคนใกล้ตัวให้ได้ยินชัดเจนขึ้น เพื่อเราจะได้เริ่มสนทนาโดยไม่ต้องถอดหูฟังออกก่อนครับ (แต่อย่างไรถ้าไม่ใช่การพูดคุยกับเพื่อนหรือคนสนิท ก็ควรถอดหูฟังออกก่อนนะครับ ^^ )
ใน Android สามารถเปิดให้ข้อมูลแบตเตอรี่ของหูฟัง และโหมดการใช้งานในปัจจุบันแบบเรียลไทม์ มาแสดงอยู่ในหน้า Notify Page ไว้ได้ด้วยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Redmi Buds 4 Pro ก็จะมีสายชาร์จ USB Type C แถมมาให้ พร้อมคู่มือ และจุก EarTips อีก 2 ขนาดมาให้เปลี่ยนใช้ (รวมทั้งหมดมี 3 ขนาด)
ซึ่งตัวเคสจะมีปุ่มฟังก์ชันสำหรับกดเพื่อใช้รีเซ็ต(กดค้าง 10 วินาที) หรือใช้เชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ใหม่ (กดค้าง 2 วินาที) ใช้พอร์ตชาร์จเป็น Type C มีไฟ LED แจ้งสถานะการชาร์จแบตเตอรี่
จากที่ทดสอบใช้หูฟังทั้งสองข้าง จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานประมาณเกือบ 9 ชั่วโมงครับ และเก็บเข้าชาร์จไฟจากในเคสได้ประมาณเกือบ 4 รอบ ถือว่าเป็นหูฟังที่แบตเตอรี่อึดพอตัวเลย
สรุปท้ายรีวิว
ราคาดี คุณภาพเสียงคุ้มราคาครับ ตัวหูฟังใส่สบายเพราะเป็นทรงแบบกึ่งอินเอียร์ไม่ใส่เข้าไปรูหูมากนัก ฟ้งก์ชันครบทั้งระบบตัดเสียงรบกวนที่ปรับความเข้มข้นได่เองอัตโนมัติ และโหมดเร่งเสียงรอบข้างเพื่อฟังสภาพแวดล้อมได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
รองรับระบบเสียงไร้สายคุณภาพสูง Hi-Res Audio Wireless และ LDAC ความเสถียรของสัญญาณดีมาก ใช้งานมาไม่แกว่งหรือหลุดเสียงหายเลย เชื่อมต่อด้วยสัญญาณใหม่ Bluetooth 5.3 ใช้งานได่ทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดใช้งานได้ยาวนาน
Redmi Buds 4 Pro วางจำหน่ายในไทยแล้ว ในราคา 2,290 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์