Redmi Note 10S สมาร์ทโฟนจาก Xiaomi ที่ปล่อยลงตลาดในราคาที่เด็กเจน Z สเปคดี ซื้อง่าย เล่นเกมสบาย เปิดตัวมาในราคาไทย 7,499 บาทครับ
Redmi Note 10S สเปคดีและออกแบบได้ดูเท่มากครับ เป็นซีรี่ส์ที่ตัวเครื่องสวยโดยเฉพาะการวางโมดูลกล้องด้านหลัง มาตรฐานงานประกอบดี IP53 กันฝุ่นกันฝนพรำและละอองน้ำ ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3 มีเข้าไทยให้เลือก 3 สี ได้แก่ Pebble White, Ocean Blue และ Onyx Gray สีเทาเงาดำ เป็นสีที่เห็นในรีวิวนี้ครับ
รุ่นนี้ให้ภาพและเสียงที่สมบูรณ์ดีมากครับ ใช้หน้าจอเป็นแบบ DotDisplay AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 ความละเอียดดี FullHD+ ภาพสวยคมชัด สีสันสด เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และนับเป็นรุ่นแรกในตระกูล Redmi Note ที่เลือกใช้เทคโนโลยีหน้าจอนี้มาให้ครับ
ให้ประสบการณ์ด้านเสียงเป็นลำโพงคู่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง เสียงดังชัดเจน มีมิติเพิ่มขึ้นในเวลาใช้งานรับชมภาพยนตร์หรือการเล่นเกมครับ
ใช้ที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง เป็นปุ่มพาวเวอร์และที่สแกนลายนิ้วมือไปในตัว ออกแบบให้โค้งเข้ากับขอบสันเครื่อง สแกนได้ง่าย คลำหาเจอได้ง่าย แต่มืออาจจะไปโดนโดยไม่ตั้งใจง่ายสักหน่อย เครื่องก็จะสั่นเล็กๆ ว่ามีการสแกนโดยที่เราไม่ตั้งใจ
กล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียดสูงมาก 64 ล้านพิกเซล กล้องที่สองเป็นอัลตราไวลด์ เลนส์มุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8ล้านพิกเซล และมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดระยะลึก ถ่ายภาพบุคคล 2 ล้านพิกเซล
เห็นตัวแค่นี้แต่แบตเตอรี่ภายในขนาด 5,000 mAh เลยนะครับ รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบสามสล็อต ใส่ Micro SD Card เพิ่มเติมได้ มีรูหูฟัง 3.5 มม.
ใช้พอร์ทชาร์จ USB Type-C รองรับการชาร์จไว 33W fast charging จากอุปกณ์ชาร์จที่แถมมาให้ภายในกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องมีเคสซิลิโคน ที่ชาร์จ 33W fast charging และสาย Data USB แถมมาให้ แต่จะไม่มีชุดหูฟังให้มานะครับ
การใช้งานภายใน
Redmi Note 10S แรงครับ ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 เป็นรุ่นนิยมของสมาร์ทโฟนวัยรุ่นเลย แรงเพียงพอใช้ในการเล่นเกมและการใช้งานต่างๆ ประสิทธิภาพดีแต่ราคาประหยัด อันนี้เป็นจุดเด่นแรกที่ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้น่าสนใจ ก็คือเรื่องของสเปคเครื่องที่ให้มาเกินราคากว่าตลาดปกติ
Redmi Note 10S มีรุ่นที่ให้แรม 8GB และหน่วยความจำ 128GB รันด้วยระบบ Android 11 ใหม่สุด ครอบทับด้วย MIUI 12 ซึ่งเป็น UI ที่มีฟังก์ชั่นเยอะครับ
บริการจาก MIUI ก็มีทั้งการดูแลความปลอดภัย สโตร์สำหรับดาวน์โหลดธีม วอลล์เปเปอร์ และริงโทนด้วยนะครับ ซึ่งบริการของ MIUI ทั้งหมดส่วนใหญ่จะฟรี แค่บางคอนเทนต์ที่เป็นพรีเมี่ยมอาจจะต้องแวะดูโฆษณาเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตสักหน่อย ไม่กี่วินาทีก็โหลดมาใช้งานได้ไม่เสียตังค์ครับ สวยๆ ทั้งนั้นเลย
ฟังก์ชั่นด้านความสะดวกสบายเช่น ระบบ Gesture สั่งงานด้วยการสัมผัสพิเศษ และปุ่มทางลัด ที่ใช้เปิดปิดจอ เปิดใช้งานกล้องได้โดยไม่ต้องเข้าเมนูหรือเข้าแอพกล้องก่อน การสั่งงานแม่นยำไม่มีปัญหาครับ ใช้งานได้เป็นปกติ ตอบสนองได้ไว
มีหน้าจอแสดงผลตลอดเวลา เป็นหน้าจอพิเศษที่จะแสดงข้อมูลวัน เวลา และการติดต่อ ให้เราทราบได้แม้ในขณะที่เราพักหน้าจอไว้ครับ โดยเราสามารถแต่งหน้าจอพิเศษนี้ได้ รวมถึงเอฟเฟ็กต์การแสดงผลการแจ้งเตือน มีไอคอนและเอฟเฟ็กต์สวยๆ ให้เราทำการคัสตอมเองได้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว
การดูแลรักษาดวงตา โดยการตั้งเวลาให้เครื่องทำการเปิดโหมดลดแสงสีฟ้า หรือ “โหมดอ่าน” เพื่อใช้ในกรณีเราต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ เช่นดูหนัง อ่านหนังสือ หรือใช้งานที่แสงน้อยแช่นตอนกลางคืน เปิดไว้จะช่วยลดอาการล้าของดวงตาได้ครับ
มีโหมดธีมมืด ที่จะปรับหน้าเมนูและการใช้งานต่างๆ ของเครื่องให้กลายเป็นสีดำ โดยเฉพาะ Redmi Note 10S ที่ใช้หน้าจอ AMOLED การปรับหน้าจอเป็นโทนดำจะช่วยในเรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นด้วยนะครับ ^^
มีระบบการแบ่งหน้าจอทำงานสองแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ทั้งแบบแบ่งพื้นที่หน้าจอ และแบบเป็นหน้าต่าง Pop-Up ลอยอยู่ด้านบน ให้เราสามารถใช้งานหลายอย่างได้ไปพร้อมๆ กัน โดยที่ประสิทธิภาพเครื่องของ Redmi Note 10S ทำงานสองแอพได้อย่างสบายๆ ครับ เข้าออกแอพไม่กระตุก การใช้งานส่วนใหญ่ตอบสนองได้ดีมาก ประสิทธิภาพเกินพอสำหรับวัยรุ่นใช้งานแล้วครับ
สำหรับคนชอบเล่นเกม ใน MIUI 12 มีโหมด Game Turbo สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ตัวระบบจะทำการเร่งประสิทธิภาพเครื่อง เคลียทรัพยากร เพื่อให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ 100% ที่สุด และยังมีระบบที่คอยจัดสรรปิดกั้นการแจ้งเตือนที่อาจจะเข้ามารบกวนเราในขณะเล่นเกมให้ด้วยถ้าเราต้องการครับ
ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะปิดหรือเปิดโหมด Game Turbo ของ Redmi 10S มันก็ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ดีมากแล้วครับ ผมทดสอบหลายๆ เกมที่ผมเล่น พวก MOBA, FPS, ACTRPG เล่นได้ระดับน่าพอใจทั้งหมด แม้อาจจะไม่ตอบสนองสุดขีดเหมือนเครื่องรุ่นใหญ่ตัวท็อป แต่ไม่สะดุดไม่สขัดจังหวะให้ขัดใจเราแน่ๆ ครับ
(มาเล่น CounterSide กันมั้ย ^^ ผมกำลังติดหนักเลย)
สิ่งที่สำคัญคือแบตเตอรี่ ความอึดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้งานได้ข้ามวันเลยครับ จากที่ทดสอบใช้ ในวนัทั่วไปผมใช้ได้มากกว่า 30 ชั่วโมง ถ้าเปิดหน้าจอทำงานตลอดใช้แบตเตอรี่เฉลี่ยนชั่วโมงละประมาณ 14% ครับ ก็ยังเล่นเกมดูหนัง ได้นานกว่า 7 ชั่วโมงต่อเนื่องเลยทีเดียวกว่าแบตเตอรี่จะหมด
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังมีความละเอียดสูงครับ กล้องหลักสามารถถ่ายภาพความละเอียดได้สูงสุด 64 ล้านพิกเซล ทำงานกับกล้องที่สอง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้จากตั้งแต่เลนส์มุมกว้าง 118 องศา ไปจนถึงการซูมดิจิทัลที่ 10x มี AI และ HDR ช่วยในการปรับแต่งสีสันและแสงของภาพ เก็บรายละเอียดเพิ่มในเงาเวลาถ่ายภาพย้อนแสงให้เราโดยอัตโนมัติ เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพระยะใกล้ๆ เอาไว้ถ่ายภาพมุมมองโฟกัสในระยะแค่ 4 เซนติเมตร
กล้องช่วยเหลือคนถ่ายได้เยอะครับ ไม่ต้องมีความรู้ด้านการถ่ายภาพมากนัก จัดคอมโพสแล้วกดถ่ายได้เลย ที่เหลือให้กล้องช่วยทำงานให้ ^^
และกล้องวัดระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซล ช่วยในการถ่ายภาพบุคคล ทำภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยการปรับค่ารูรับแสงจำลองได้ ตั้งแค่ f1.0 ไปถึง f16 สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องมีฟิลเตอร์ปรับแต่งสีสันมาให้เลือกใช้ และเพิ่มความ “ฟรุ้งฟริ้ง” ให้กับภาพได้หลายระดับตามที่เราต้องการ จะปรับภาพให้เมืองไทยกลายเป็นญี่ปุ่นก็ใส่ฟิลเตอร์กับความฟรุ้งฟริ้งลงไป โทนสีเมืองนอกก็จะมาได้เอง ^^
Redmi Note 10S รองรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน สามารถถ่ายภาพแสงไฟในตอนกลางคืนได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และสามารถซูมภาพในโหมดกลางคืนได้ 2x
การถ่ายวีดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด 4K ครับ สามารถถ่ายวีดีโอแบบสัดส่วนภาพยนตร์ 21:9 ได้ และสามารถโฟกัสระดับมาโครได้ในขณะถ่ายวีดีโอ และรองรับโหมดสโลว์โมชั่น ภาพเคลื่อนไหวช้า ได้สูงถึง 960FPS/720P ครับ และมี Hyperlapse หรือภาพเคลื่อนไหวเร็วมาให้
สรุปท้ายรีวิว
Redmi Note 10S ประกาศราคาไทยออกมาที่ ราคา 7,499 บาท ราคาเบาแต่เครื่องแรงสเปคดี Redmi Note 10S เหมาะมากสำหรับวัยรุ่นวัยเรียน หน้าจอสวย ตัวเครื่องสวย ประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเล่นเกมได้เต็มที่ในราคาที่ประหยัด หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED และลำโพงคู่ให้ประสบการณ์ที่ดีต่อความบันเทิงโดยตรง แบตเตอรี่อึด 5000mAh ชาร์จไว 33W กล้องความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล คุณภาพของกล้องใช้งานได้ดีเพียงพอต่อการใช้ถ่ายภาพตอนท่องเที่ยวหรือแชร์สิ่งต่างๆ ลงในโซเชี่ยลได้ชัดเจน