Redmi Note 13 Pro 5G โดดเด่นครบเครื่อง! คมทุกช็อต! กล้อง 200MP พร้อม OIS และระบบ AI
รุ่นนี้มีความสามารถครบรอบด้าน สเปกเครื่องแรง มาพร้อม RAM 12GB และ ROM ขนาดใหญ่ในความจุ 512GB สามารถติดตั้งแอปและเก็บอะไรได้เต็มที่
มีกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงที่มีกันสั่น OIS ให้ภาพที่สวย คมชัด โทนสีภาพสว่างดูสดใสตามสไตล์วัยรุ่น สามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงสุดได้ถึง 200MP และตัวกล้องยังมีระบบจัดการภาพด้วย AI ที่ทำให้การตัดแต่งและจัดการภาพหลังการถ่ายสามารถทำอะไรได้อีกมากมายเลยทีเดียวครับ
หน้าจอแสดงผลก็ยอดเยี่ยม ขอบจอเล็กบางเฉียบ เป็นหน้าจอเกือบเต็มพื้นที่เครื่องด้านหน้า รองรับการแสดงผลคมชัด 1.5K รีเฟรชเรท 120HZ เป็นจอ AMOLED สีสันสดใส ความสว่างสูงสุดถึง 1800nits รองรับ Dolby Vision
และยังมากับระบบสเตอริโอคู่ที่มีเสียงที่ดีมาก เนื้อเสียงแน่นมีมิติ รองรับระบบ Dolby Atmos เป็นสมาร์ตโฟนที่มีเสียงจากลำโพงที่สุดยอดเครื่องนึงในตลาดครับ
แบตเตอรี่ใหญ่ 5100mAh รองรับชาร์จไว 67W turbo charging ชาร์จแบตได้เต็ม 100% ในเวลาแค่ 44 นาที
ครบครันพร้อมใช้แล้วในทุกด้านครับ เป็นตัวในกลุ่มตลาด Mid-High end จัดว่าเป็นตัวจบสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่านี้แล้วครับ
The Good
- กล้องคุณภาพสูง ความละเอียด 200MP พร้อมกันสั่น OIS และระบบจัดการภาพด้วย AI ที่มีลูกเล่นเยอะและฉลาดมาก
- หน้าจอคุณภาพสูง 1.5k CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว 120Hz ขอบจอบาง ความสว่างสูงสุดถึง 1800nits รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision
- ลำโพงคู่สเตอริโอคุณภาพสูง เสียงดังมีมิติ มีพลังเสียงไม่แหลมบางแสบหู รองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos
- ชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 2 เทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และให้ RAM 12GB และหน่วยความจำขนาดใหญ่ 512GB
- แบตเตอรี่ขนาด 5100mAh รองรับ 67W Turbo Charge
- ตัวเครื่องบาง เบา ทนทานกันน้ำกันฝุ่น IP54 และใช้กระจอจอ Gorilla Glass Victus
The Bad
- ไม่รองรับการใส่ microSD Card เพิ่มเติม
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
มาแล้ว Redmi Note 13 Pro 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมจำหน่าย สมาร์ตโฟนตลาดกลางที่สเปกครบเครื่อง มีเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกด้าน และให้กล้องคุณภาพสูงบนความละเอียดระดับ 200MP มาพร้อมกันสั่น OIS ภาพถ่ายจึงคมชัดได้ทุกช็อตในการถ่ายภาพ
Redmi Note 13 Pro 5G เปิดราคาในไทยออกมาสำหรับรุ่นแรมและรอมขนาดใหญ่ 12GB+512GB อยู่ที่ 12,990 บาทเท่านั้น
ตัวเครื่องภายนอก | “ทนทาน สวยและบางเบา”
Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์ขอบเครื่องตัดเหลี่ยม เล็กกระทัดรัดแม้จะเป็นเครื่องที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ก็ตาม ใช้ดีไซน์เรียบหรู ผิวสัมผัสด้านหลังคล้ายโลหะ รู้สึกได้ถึงความแข็งแรง ตัวเครื่องบางแค่ 7.98 มม. และน้ำหนัก 187 กรัม ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 โดนความชื้นหรือโดนน้ำกระเซ็นก็ยังปลอดภัยในการใช้งานครับ
มีเข้ามาจำหน่ายในไทยทั้งหมด 3 สี โดยจะมีตัวเครื่องสีดำ Midnight Black และสี Aurora Purple ซึ่งเป็นสีแนวพาสเทลหลากหลายสีอยู่รอบบริเวณโมดูลกล้อง และสุดท้ายคือสีโทนฟ้าอมเขียว Ocean Teal ซึ่งเป็นสีที่เห็นในบทความนี้ครับ
สีเครื่อง Ocean Teal จะออกแนวคล้ายโลหะ สะท้อนเงากับแสง ใช้การเคลือบผิวเป็นสีเดียวกันรอบตัวเครื่องรวมถึงบริเวณขอบ แม้จะดูเป็นโลหะเงาแต่ว่าจะไม่เกิดคราบมันนิ้วมือในการถือใช้งานนะครับ
กล้องหลังออกแบบมาโดดเด่นมากด้วยขอบเลนส์โลหะ มองจากขนาดก็จะเห็นว่าเป็นเซนเซอร์กล้องขนาดใหญ่ ใช้ระบบกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักจะมีความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมติดตั้งกันสั่น OIS ทำงานร่วมกับกล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 8MP และสุดท้ายคือกล้องมาโครขนาด 2MP
ด้วยความละเอียดกล้องหลักที่สูงและชุดกล้องมีมาครบพร้อมกันสั่น OIS รุ่นนี้บอกได้เลยว่าเป็นรุ่นที่ถ่ายภาพได้สวยเลยครับ ถ่ายง่ายภาพไม่เบลอ มีความละเอียดสูง เรามีตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูกันในท้ายรีวิวด้วย
รุ่นนี้จะใช้กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus จึงมีความแข็งแรงทนทานต่อการตกกระทบและการเกิดรอบขีดข่วนได้ดี ปุ่มกดต่างๆ แน่นหนา เก็บงานละเอียด ขอบมุมต่างๆ ไร้คม
รุ่นนี้ใใส่พอร์ตต่างๆ มาครบ มีทั้งช่องหูฟัง 3.5 มม. และ IR ฺBlaster ซึ่งเป็นอินฟราเรดสำหรับใช้มือถือเป็นรีโมตควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ครับ
ถาดใส่ซิมเป็นแบบสองสล็อต น่าเสียดายเพียงเรื่องเดียวคือรุ่นนี้ไม่รองรับการใส่ microSD card เพิ่มเติม (แต่เขาก็ให้หน่วยความจำมาถึง 512GB อาจจะมากพอแล้ว) รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด และรองรับ Wi-Fi 2.4GHz และ 5GHz ทดสอบใช้งานไม่ปัญหาใดๆ ในการจับสัญญาณ
แบตเตอรี่ภายในมีขนาดใหญ่ 5100mAh รองรับระบบชาร์จไว 67W turbo charging จากที่ทดสอบสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ได้ในเวลาประมาณแค่ 44 นาทีเท่านั้นเอง ตัวเครื่องไม่มีความร้อนสะสม แม้จะชาร์จไฟพร้อมกับใช้งานไปพร้อมกัน
อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบสำหรับรุ่นนี้ ทั้งเคสซิลิโคน, สายชาร์จ USB Type-C และที่ชาร์จ 67W turbo charging ก็มีมาให้ภายในกล่องด้วยเช่นกัน
หน้าจอขั้นสุด | ขอบจอบางเฉียบ ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos
Redmi Note 13 Pro 5G ให้หน้าจอแสดงผลที่เทคโนโลยีสูงมาให้ครับ เป็นจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว มีขอบจอที่บางเฉียบจนแทบเป็นเส้นบางๆ ความละเอียดหน้าจอระดับ 1.5K (2712 x 1220) และให้ความสว่างสูงสุดถึง 1800nits รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision แสดงผลสี 12-bit DCI-P3 wide color gamut รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้โดยตรง
หน้าจอมีอัตรารีเฟรชที่ปรับเปลี่ยนได้เองอัตโนมัติ AdaptiveSync 120Hz เวลาที่ระบบตรวจพบได้ว่ากำลังแสดงภาพนิ่ง ก็จะทำการปรับลดอัตรารีเฟรชเรทลงได้เองเพื่อประหยัดพลังงาน และเมื่อตรวจพบการใช้งานที่รองรับรีเฟรชเรทระดับสูง ก็จะเพิ่มเรทเข้าไปเพื่อทำให้การเลื่อนหน้าจอดูราบรื่นได้มากขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เป็นจอที่เหมาะกับการเล่นเกมอย่างยิ่งครับ เพราะมีอัตราตอบสนองต่อการสัมผัสในระดับ 2160Hz ฉะนั้นต่อให้เราเล่นเกมที่ต้องทัชจอกันแบบรัวๆ หน้าจอของรุ่นนี้ก็รองรับได้ทันทั้งหมดแน่นอน
ภาพสวยสด สีสันสดใส แสงสว่างก็ดีมาก เป็นจอภาพที่คุณภาพสูงใช้งานกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ชัด และเวลาเข้าในที่ร่มก็จะมีคุณสมบัติลดแสงแบบ PWM ในระดับความถี่สูง 1920Hz สามารถปรับลดแสงได้ละเอียดถึง 16,000 ระดับ ใช้งานในที่ร่มก็จะมีความสบายตาได้ด้วยเช่นกัน
เป็นสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าปลอดภัยต่อสายตาด้วยองค์ประกอบที่ผ่านมาตรฐานทดสอบ 3 อย่าง นั้นคือ 1. ปราศจากการกระพริบ (Flicker Free), 2. เป็นมิตรทางชีวภาพของผู้ใช้งานได้ในทุกสภาพแสงตลอดทั้งวัน (Circadian Friendly) และ 3. มีแสงสีฟ้าที่ต่ำ (Low Blue Light) ใครที่ชอบใช้งานโทรศัพท์ในตอนกลางคืนหรือก่อนนอน (จริงๆ ก็ไม่ควรนะครับ) สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็จะเป็นหนึ่งรุ่นที่จะช่วยลดภาระของสายตาเราลงได้ครับ
สามารถรองรับ Dolby Vision เวลารับชมภาพยนตร์บนแอปพลิเคชั่น Netflix
หน้าจอเต็มพื้นที่ ขอบจอบางมากๆ ตำแหน่งวางกล้องหน้าก็ใช้พื้นที่เล็กนิดเดียว เป็นกล้องหน้าความละเอียด 16MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้
และไม่ใช่เด้รแค่เรื่องจอภาพนะครับ แต่ยังให้ลำโพงที่มีคุณภาพเสียงดีมากๆ มาให้กับเราด้วย ระบบเสียงรอบทิศทางจากลำโพงคู่ Dolby Atmos เสียงดังชัด มีเนื้อเสียงที่ดี ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มีลำโพงดีมากๆ รุ่นหนึ่งในตลาดเลยครับ
เรียกได้ว่าพอได้ลองใช้แล้วก็ชอบทั้งจอภาพและลำโพง ดูดีทั้งภาพและเสียง ใครชอบดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ชมคลิปต่างๆ รุ่นนี้ไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม แถมตัวเครื่องบางถือก็ง่ายไม่หนักมือ ใครชอบเสพคอนเทนต์สายบันเทิงทั้งวันก็เพลินกันแน่นอน ^^
แบตเตอรี่ก็อึดด้วยนะครับ บางวันสามารถใช้ได้ข้ามคืนเลย ถ้าเปิดหน้าจอใช้ต่อเนื่องจะกินแบตเตอรี่ประมาณชั่วโมงละ 10% ฉะนั้นจึงสามารถเปิดดูคลิปได้ต่อเนื่องประมาณ 10 ชั่วโมง และมีระบบยืดอายุแบตเตอรี่ในระยะยาวใส่เข้ามาในระบบด้วย เป็นการปรับระดับแรงดันไฟชาร์จแบบอัจฉริยะ แนะนำให้เปิดกันไว้ในการตั้งค่าแบตเตอรี่นะครับ
กล้องถ่ายภาพระดับเรือธง 200MP พร้อมกันสั่น OIS และระบบแต่งภาพหลังการถ่ายด้วย AI ที่ทำงานได้ยอดเยี่ยม
Redmi Note 13 Pro 5G มีกล้องที่คุณภาพสูงมากครับ ทั้งความละเอียดของภาพ ความคมชัด และฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ รวมถึงระบบ AI ที่ใช้ในการตกแต่งแก้ไขภาพหลังการถ่ายก็ทำมาได้ยอดเยี่ยม ทุกอย่างทำออกมาได้อย่างดีในทุกฟังก์ชั่น
สำหรับฮาร์ดแวร์กล้องหลังของรุ่นนี้ ตัวกล้องหลักจะมีความละเอียดสูงถึง 200MP f/1.65 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.4″ พร้อมติดตั้งกันสั่น OIS กล้องที่สองเป็นกล้อง Ultra-WIde มุมกว้างพิเศษความละเอียด 8MP f/2.2 และกล้องที่สามเป็นกล้องมาโครขนาด 2MP f/2.4
ระบบถ่ายภาพสามารถทำงานร่วมกับตัวช่วย AI รองรับการซูมภาพตั้งแต่ระยะมาโคร 4 เซนติเมตร การถ่ายมุมกว้าง 0.6x (16mm) ไปจนถึงการซูมแบบดิจิทัลที่ 10x (232mm)
มีโหมดรองรับครบ ทั้งโหมดกลางคืน, โหมดพอร์ตเทรต และที่เป็นจุดเด่นเฉพาะของรุ่นก็คือโหมด 200MP เราสามารถถ่ายภาพขนาดใหญ่มากๆ (12240x16320px) เพื่อนำมาครอบตัดใช้งานบางส่วนในภายหลัง
ภาพความละเอียด 200MP ขยายเพื่อตัดใช้งานบางส่วนก็ยังมีรายละเอียดที่ดี
และจะมีฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Xiaomi ProCut ซึ่งระบบจะทำการตัดภาพจากภาพความละเอียดสูง 200MP ออกมาในสัดส่่วนขนาดต่างๆ โดยอัตโนมัติ ให้เราเลือกใช้ได้ครับ
ภาพบุคคลก็ทำได้ยอดเยี่ยม ตัดฉากออกจากตัวแบบได้คม ทั้งแบ็คกราวด์และโฟร์กราวด์ ภาพของกล้อง Redmi Note 13 Pro 5G จะออกโทนสดใส สีสว่าง เหมาะกับการถ่ายภาพของวัยรุ่น โดยตัวกล้องจะมีให้ปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้ก่อนถ่ายและปรับได้ใหม่หลังถ่าย และปรับใบหน้าเนียนใส (เขาใช้คำว่า “ฟรุ๊งฟริ้ง” ^^ ) และมีฟิลเตอร์สีสันมาให้ใช้งานหลายโทนสีอยู่ในระบบกล้อง
ภาพบุคคลออกมาในโทนสดใส ดูขาวสว่างสบายตามากครับ ^^
สิ่งที่ยอดเยี่ยมของการจัดการภายในเครื่องรุ่นนี้คือระบบ AI ในการแก้ไขภาพหลังการถ่าย มันไม่ใช่แค่การปรับระยะชัดลึกชัดตื่นได้ใหม่ แต่ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปทรงร่างกายของตัวแบบ การปรับความเนียนใสของใบหน้าได้ใหม่อีกครั้งหลังการถ่าย
หรือการเพิ่มงานแบบละเอียดให้กับการปรับใบหน้านางแบบ ด้วยความสามารถ “พอร์ตเทรตบุคคลแบบ HD” จะเป็นการปรับละเอียดทั้งใบหน้าและการเพิ่มแววตาให้ดูสดใสครับ สวยอยู่แล้วด้วยโหมดบิวตี้ก็ยังสวยขึ้นได้อีก (สังเกตที่แววตาที่ Wink! มากขึ้น ^^ )
เราสามารถใช้ AI ในการปรับเปลี่ยนโปเก้ฉากหลังให้เป็นรูปแบบพิเศษ เช่น โบเก้หมุนวน, โบเก้รูปหกเหลี่ยม, โบเก้รูปดาวหรือหัวใจ ทั้งหมดปรับได้หลังการถ่ายไปแล้วครับ
และมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนท้องฟ้า ในวันที่ฟ้าไม่สวยหรืออยากได้แสงดาวตอนกลางคืน หรือบรรยากาศแบบ ฝนตก หิมะตก ตัว AI สามารถเปลี่ยนให้เราได้ในคลิ๊กเดียวครับ รวมถึงการทำภาพนิ่งให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเช่นหิมะตก หรือฟ้าที่เมฆกำลังเคลื่อนไหวเป็นต้น
มีความสามารถในการลบวัตถุด้วย AI มีความฉลาดอย่างมาก เราสามารถระบุสิ่งที่ต้องการลบแค่คร่าวๆ ตัวระบบจะตรวจจับได้เองและทำการลบวัตถุ (หรือบุคคล) ออกไปจากภาพได้แบบเนียนๆ และทำการชดเชยฉากหลังเข้ามาให้ภาพยังคงมีความสมบูรณ์
จากที่ทดสอบหลายภาพที่นำมาลองลบ ทำได้เนียนและว่องไวมากจริงๆ ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากหลายๆ โหมดของ Redmi Note 13 Pro 5G
การใช้งานภายใน | ชิปเซ็ต 4 นาโนเมตร กับ RAM+ROM ขนาดใหญ่
Redmi Note 13 Pro 5G เป็นเครื่องที่ได้รับชิปเซ็ตระดับเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรมาใช้งาน เป็น Snapdragon 7s Gen 2 เป็นรุ่นน้องของซีรี่ส์ใหญ่ มีความแรงพอตัวสำหรับสมาร์ตโฟนในกลุ่มตลาดกลาง ประสิทธิภาพการใช้งานเพียงพอแม้จะใช้เล่นเกมกราฟิกสวยๆ ทำงานทุกอย่างได้ลื่นไหลแล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วงเลยในด้านประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งข้อดีที่เข้ามาเสริมเพิ่มความคล่องตัวก็คือ RAM LPDDR4X ที่ให้มาในขนาดใหญ่มาก 12GB สามารถขยายเพิ่มได้อีก 6GB รวมถึงหน่วยความจำ (ROM) ที่มาให้ในขนาด 512GB เลยทีเดียว รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS
ระบบเบาตอบสนองได้ไวครับ ประสิทธิภาพชุดประมวลผลดีอยู่แล้วทำอะไรได้คล่องครับรุ่นนี้ แม้จะไม่ตอบสนองเร็วเท่าเครื่องเรือธงรุ่นใหญ่ แต่แรงมากพอแล้วสำหรับทุกคน
ระบบ HyperOS มีฟังก์ชั่นรองรับการทำงานด้านความปลอดภัยและความสะดวกให้หลายฟังก์ชั่นครบในตัวอยู่แล้ว และรู้สึกดีที่ระบบนี้ยังคงมีธีมสโตร์ที่แจกธีมฟรีให้ใช้งานกันอยู่มากมายครับ (ระบบแบรนด์อื่นเก็บเงินกันหมดแล้ว)
รองรับการแบ่งหน้าจอใช้งานพร้อมกันหลายแอปพลิเคชั่น ทั้งแบบแบ่งครึ่งหน้าจอและเป็นแบบป๊อบอัป ด้วยแรมที่มีขนาดใหญ่มาก การทำงานหลายแอปสลับไปมาหรือเปิดพร้อมกันก็ยังมีความลื่นไหลที่สูงครับ ตัวระบบจะไม่ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลังลงไปง่ายๆ เพราะแรมเขาเยอะ
สามารถโคลนแอปพลิเคชั่นให้ทำงานได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน ซึ่งรองรับกับแทบทุกแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งลงเครื่องเลยทีเดียว
ระบบด้านความปลอดภัยมีใส่มาให้ทั้ง ล็อคแอป, ซ่อนแอป, รวมถึงตัวสแกนความปลอดภัยของเครื่อง นอกจากทำหน้าที่สแกนหาไวรัสได้แล้ว ยังเป็นจุดศูนย์กลางความปลอดภัยและจะสแกนไฟล์ขยะของเครื่องให้เราด้วย ฟังก์ชั่นจัดการระบบทุกอย่างจะรวมไว้ในที่เดียว สะดวกดีครับ
ราคาและโปรโมชั่น
Redmi Note 13 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
โปรโมชั่นพิเศษ เมื่อซื้อตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 67 จะได้รับ
- ฟรี! ลำโพงบลูทูธมูลค่า 990 บาท และหมอนอิง BamBam Pillow (เฉพาะซื้อผ่าน Xiaomi Store เท่านั้น)
- เข้าโครงการ เครื่องเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท
- โครงการผ่อนชำระ ที่ Xiaomi จะช่วยผ่อนให้ 1 เดือน (สูงสุด 1,299 บาท )
*สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดขาย