ROG Phone 5 สะใจ โคตรแรง! เพื่อสายพันธุ์เกมตัวจริง
แรง ทรงพลังมาก การันตีให้เลยว่าเต็มอิ่มสมใจทั้งภาพและเสียงและความทรงพลัง เกมที่เราเคยเล่นมันยังเร็วขึ้นไปได้อีก ตอบสนองไวทั้งการใช้งานและการเชื่อมต่อดึงข้อมูลของตัวเกม การออกแบบสวยทุกชิ้น ตัวเครื่องเท่ออกแบบมาในสไตล์เกมมิ่งตัวจริง ไฟ RGB สวยๆ ด้านหลังเครื่องที่ปรับแต่งได้ และอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาได้เข้ากันในแนวคนเล่นเกมทุกชิ้น ระบบซอฟท์แวร์ออกแบบมาเพื่อคนเล่นเกม เข้าใจคนเล่นเกม มีปุ่มพิเศษและการช่วยเหลือคนเล่นเกมเยอะมากๆ สมบูรณ์แบบในการใช้งานสุดๆ
The Good
- แรงมาก ทรงพลังที่สุด ตอบสนองไว ทำงานเร็ว รองรับได้เต็มที่ทุกการใช้งาน
- ตัวเครื่องสวยงาม สไตล์การออกแบบจากแบรนด์เกมมิ่งโดยตรง มาพร้อมไฟ RGB ปรับแต่งได้เหมือนอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์
- เสริมความแตกต่างเพื่อคนเล่นเกมเต็มตัว มีปุ่มทริกเกอร์บนขอบเครื่อง ที่ชาร์จด้านข้างเครื่อง และ POGO Pin สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาใช้คู่กัน
- จอภาพรีเฟรชเรทสูงมาก 144Hz คมชัด สีสด จอใหญ่ยักษ์ 6.78 นิ้ว
- ลำโพงคู่ เสียงดีที่สุดของสมาร์ทโฟนที่เคยได้ยินมา ดัง มีน้ำหนักและทิศทาง
- ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อผู้เล่นเกมโดยเฉพาะ การปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องได้ทันที และสโตร์เกมที่แบ่งแยกประเภทที่รองรับกับอุปกรณ์ไว้ชัดเจน
- อุปกรณ์เสริมทุกชิ้นสวยงาม ตั้งใจออกแบบ และมีคุณภาพในการผลิต
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระดับสูง รองรับ 5G ทั้งสองซิม และระบบ WiFi คู่ พร้อม HyperFusion ที่รวมสัญญาณมือถือเข้ากับ Wi-Fi คู่ กลายเป็นเชื่อมสามสัญญาณพร้อมกัน
- ความสามารถในการปล่อย Hotspot WiFi ในเทคโนโลยี Wi-Fi 6
The Bad
- ตัวเครื่องหนา มีน้ำหนักกว่าสมาร์ทโฟนโดยทั่วไป หนา 10 มิลลิเมตร หนัก 237 กรัม
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
ASUS ROG Phone 5 สมาร์ทโฟน Android ที่ทรงพลังด้วยความเป็น ROG ที่มาจากสายเกมมิ่ง อุปกรณ์ที่ทำออกมาจำหน่ายจึงเน้นไปที่การเล่นเกม ให้มีความทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แรงมากครับ แน่นอนว่าต้องเลือกใช้หน่วยประมวลผลที่แรงที่สุด Qualcomm Snapdragon 888 5G Mobile Platform และแรมใหม่สุด LPDDR5 ขนาดใหญ่สุดที่ 16GB และหน่วยความจำเร็วสุด UFS 3.1 มีขนาดความจำ 128GB และ 256GB ให้เลือก
จอแสดงผลขนาดใหญ่มาก 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2448×1080 รีเฟรชเรทสูงมาก ระดับ 144Hz ใช้เทคโนโลยีจอ AMOLED จาก Samsung และมีระบบเสียงลำโพงคู่สุดกระหึ่มครับ ผมไม่เคยได้ยินเสียงลำโพงสมาร์ทโฟนที่หนักและแน่น เสียงมันสะใจขนาดนี้มาก่อน
ใช้ลำโพงคู่วางด้านหน้า Cirrus Logic amplifiers หันหาผู้ใช้โดยตรง แต่ทิศทางเสียงออกกว้างกระจายรอบตัว ปรับแต่งเสียงมาให้โดย Specialist Dirac เสียงลำโพงของมือถือรุ่นนี้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ ตัวซะอีกครับ พร้อมมีรูหูฟัง 3.5mm มาพร้อมกับ ESS DAC รองรับ Hires Audio
การสั่นของตัวเครื่อง ก็ใช้มอเตอร์แบบสองแกน ให้ความสั่นที่แตกต่างกัน จะรู้สึกถึงการสั่นของเครื่องในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบครับ
แบตเตอรี่ใหญ่ระดับแท็บเล็ต ให้มาเยอะมาก 6000mAh เพราะมีฟังก์ชั่นที่กินพลังงานอยู่ในเครื่องหลายอย่างครับ รองรับการชาร์จไว 65W Hyper Charge ซึ่งเป็นการชาร์จไวในระด้บกลุ่มท็อปของตลาดในปัจจุบัน ผมทดสอบการชาร์จจากแบตประมาณ 20% แบตขนาด 6000mAh กลับมาเต็มได้ในเวลาประมาณ 50 นาทีครับ
จุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องสเปคประมวลผลหรือตัวเครื่อง แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายก็ให้มาในระดับสูงเช่นกัน รองรับการใช้งาน 5G SA/NSA รองรับสัญญาณ Bluetooth 5.2, NFC, และ Wi-Fi เทคโนโลยีใหม่ 802.11a/b/g/n/ac/ax (พร้อมรองรับ 6E ในบางประเทศ) 4×4 MIMO
สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi แบบคู่ Dual 2.4Ghz และ 5.0Ghz จับพร้อมกันสองสัญญาณ เพิ่มความเสถียรและการตอบสนองของ Wi-Fi ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
และระบบพิเศษที่เหนือกว่าใครคือระบบ HyperFusion ที่รวมเอาสัญญาณมือถือเข้าไปกับสัญญาณ Wi-Fi คู่ ให้กลายเป็นสามสัญญาณร่วมกัน ถ้าสัญญาณใดมีปัญหาหรืออ่อนลงไปก็จะมีอีกสองสัญญาณคอยประคอง ให้อินเตอร์เน็ตนิ่งตลอดเวลาในขณะใช้งาน
โดยเมื่อเปิดใช้เราจะเห็นไอคอน Wi-Fi สองไอคอน ที่มีสัญลักษณ์ + แสดงร่วมอยู่ด้วยครับ
ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีปุ่มพิเศษบนขอบเครื่อง เรียกว่า “ปุ่มทริกเกอร์” จะถูกติดตั้งเป็นจุดรับสัมผัสบริเวณขอบเครื่องด้านบนซ้ายและด้านบนขวา เราสามารถกำหนดสองปุ่มนี้แทนการทัชด้วยนิ้วบนหน้าจอโดยตรงได้ ระบุตำแหน่งที่เราต้องการให้ปุ่มทริกเกอร์ทำงานแทนการทัช อาจจะใช้ในการกดไอคอนสั่งยิง หรือกดเพื่อเลือกใช้สกิล ได้เปรียบมากสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะเกมแบบ FPS
มีพอร์ทพิเศษ POGO Pin ใช้ฝาจุกยางปิดเอาไว้กลางเครื่อง (มีจุกปิดสำรองมาให้ในกล่องอีกหนึ่งชิ้น) เป็นพินที่เอาไว้ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกของทาง ROG
อย่างเช่น Aero Active Cooler ชุดพัดลมช่วยระบายความร้อนที่เป็นอุปกรณ์เสริมขาตั้งและปุ่มกดพิเศษในตัว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผมได้มารีวิวพร้อมกัน ยังอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาใช้คู่กันอีกมากมายครับ ต่อยอดในอนาคตที่เราต้องการจะอัพเกรดให้กลายเป็นเครื่องเกมอย่างเต็มตัวมากกว่าเดิมได้
มีการวางตำแหน่งพอร์ทชาร์จใหม่และมีถึงสองตำแหน่ง พอร์ทด้านล่างจะถูกย้ายให้เยื้องไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อหลบการถือจับ และมีพอร์ทชาร์จตรงกลางเครื่องเป็นช่องที่สอง เอาไว้ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกที่ออกแบบมาใช้งานคู่กันและเป็นช่อง Type C ที่ใช้เสียบชาร์จได้ในตัว จะได้ถือเล่นเกมในแนวนอน ไม่ลำบากเวลาชาร์จไฟไปด้วยเล่นไปด้วยครับ
การออกแบบสวยเท่ สไตล์เกมมิ่ง ถ้าใครชอบอุปกรณ์แนวเกมมิ่งเกียร์อย่างการออกแบบที่ใช้แสงไฟ รุ่นนี้จัดให้! กับสัญลักษณ์ ROG ด้านหลังตัวเครื่องที่ปรับลักษณะไฟได้ด้วยซอฟท์แวร์ในตัวเครื่อง
ปรับแต่งได้ทั้งรูปแบบการกระพริบ การเปลี่ยนสีไฟ รูปแบบการไล่เฉดสี และการซิงก์ไฟให้เข้ากับการใช้งานของเครื่องในขณะนั้นแบบเรียลไทม์ ปรับเล่นได้เหมือนอุปกรณ์เกมมิ่งบน PC เลยครับ ^^
ตัวเครื่อง ROG Phone 5 จะมีความหนาและหนักสักหน่อย หนา 10 มิลลิเมตร หนัก 237 กรัม ด้านหลังตัวเครื่องให้กล้องมาสามตัว คุณภาพสูง กล้องดีครับ Sony IMX686 64 ล้านพิกเซล และกล้อง macro และ ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้งสองเลนส์ และกล้องหน้า 24ล้านพิกเซล
อุปกรณ์ภายในกล่องสวยงามทั้งแพ็กเกจ เขาใส่ใจมากครับ บนกล่องมีสกรีนตัวละคร AKIRA เป็นการ์ตูน AR ภาพเคลื่อนไหว ให้เราสแกนดูได้จากแอพพลิเคชั่น Armoury Crate ในตัวเครื่องโทรศัพท์ และเป็นแอพหลักที่ใช้ในการปรับแต่งระบบเครื่องระบบไฟทั้งหมดของ ROG Phone 5 เครื่องนี้ด้วย
สายชาร์จเป็นสายถักแบบ TypeC-To-TypeC ดูทนทาน ตัว Adaptor และเคสออกแบบได้เท่มาก มาพร้อมโลโก้จาก ROG
มีความใส่ใจในงานออกแบบไปจนถึงเข็มจิ้มซิมและถาดใส่ซิม ดูสวยงามน่าใช้ไปทุกชิ้นครับ
การใช้งานภายใน
ใช้ระบบภายในที่ออกแบบใหม่เพื่อการเล่นเกม ระบบหลักใช้ Android 11 แต่ต้องยอมรับว่ามีฟังก์ชั่นที่เกินคาดใส่มาเยอะมากครับ โดยเฉพาะใครที่ไม่เคยสัมผัสการใช้งานสมาร์ทโฟนเกมมิ่งตัวพ่ออย่าง ROG Phone รับรองว่าได้มีอะไรให้เรียนรู้ ตื่นตา และใช้งานสนุกแน่นอน
พูดกันในเรื่องของประสิทธิภาพกันก่อน ซึ่งจริงๆ แล้วเครื่องสเปคระดับนี้ความแรงไม่ต้องถามถึงแล้วนะครับ นี่มันคือสุดยอดของสมาร์ทโฟนในระบบ ไอ้ที่เคยคิดว่าเร็วแรง ตัวนี้ดันทะลวงการตอบสนองออกไปให้เร็วได้อีก ทั้งการเปิดปิดแอพ การเข้าออกสลับฉากของเกม การตอบสนองการสั่งงาน อยู่ในระดับที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนแม้ในกลุ่มเครื่องเรือธง เพราะมันไม่ได้เร็วแค่คำว่าลื่นไหลหรือผลทดสอบคะแนน Benchmark แต่มันเร็วไปหมดในการใช้งานจริง เร็วไปถึงการเชื่อมต่อดึงข้อมูล รู้สึกได้ถึงคุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมจริงๆ ครับ สรุปได้สั้นๆ ว่า “โคตรแรง!”
เพราะนอกจากเรื่องของประสิทธิภาพในชุดประมวลผลที่ใช้ของดีทุกชิ้นแล้ว ระบบ Wi-Fi ของรุ่นนี้ก็มีความสามารถกว่ามาตรฐานทั่วไปครับ สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi คู่ Dual 2.4Ghz และ 5.0Ghz ได้พร้อมกันสองสัญญาณ รวมเอาสัญญาณมือถือเข้าไปกับสัญญาณ Wi-Fi ให้กลายเป็นสามสัญญาณร่วมกัน ในโหมด HyperFusion
รองรับสัญญาณ WiFi ทั้ง 802.11a/b/g/n/ac/ax ยังมีความสามารถในการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi Hotspot เป็น Wi-Fi 6 ด้วยนะ!!! ^^ เอากันให้สุดไปเลย
การทำงานหลักผมอยากจะเริ่มที่ตัวแอพ Armoury Crate กันก่อน เป็นแอพหลักเลยครับ การทำงานต่างๆ จะถูกควบคุมเอาไว้ในแอพนี้ทั้งหมด ต้องการใช้งานในประสิทธิภาพระดับใด? แรงขั้นเทพ ก็เปิด “โหมด X” กลางๆ ใช้งานได้เต็มที่ก็ “ไดนามิค” เน้นทำงานทั่วไป แบตเตอรี่อยู่ยาวหน่อย ก็เปิด “โหมดคงทนพิเศษ”
เป็นโหมดแบบพรีเซ็ตระดับการใช้พลังงานและทรัพยากรเครื่องครับ ทำเอาไว้ให้เรียกใช้ง่าย สลับโหมดง่าย เพราะในแต่ละวันเราใช้งานหลากหลายรูปแบบครับ ต้องการความแรงสำหรับการเล่นเกมเต็มขั้น หลังจากนั้นอาจจะอยากพักรักษาแบตเตอรี่เอาไว้ใช้งานนานๆ ก็แค่เปลี่ยนโหมดเท่านั้นเอง
แต่ผมจะบอกว่า เจ้า ROG Phone 5 ขนาดเปิดโหมดประหยัดแบต มันยังเล่นเกมได้ลื่นๆ เลย
ในแอพ Armoury Crate ยังเป็นแหล่งรวมรายชื่อเกมที่ ROG คัดสรรมาให้ โดยการแบ่งประเภทเอาไว้ตามการรองรับรีเฟรชเรทของเกมครับ รวมถึงรายชื่อเกมที่รองรับการใช้งานกับปุ่มทริกเกอร์ และรองรับการใช้จอยคอนโทรลเลอร์ในการควบคุม หมดปัญหาการหาเกมไม่ที่ต้องการไม่เจอครับ ทาง ROG จัดไว้ให้เป็นแคตตาล็อกให้เลือกเลย
รวมถึงเป็นแอพหลักที่ใช้การตั้งค่าไฟด้านหลังเครื่อง และตั้งค่าอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องด้วยครับ
หน้าจอแสดงผลใหญ่ เล่นอะไรก็เต็มตากว่า อันนี้สำคัญมากเลยเพราะหน้าจอขนาด6.78 นิ้วใหญ่มากจริงๆ ครับ สะใจเลยแหละ หน้าจอสีสวยเป็น AMOLED ความละเอียดดีครับ 2448×1080 และรีเฟรชเรทระดับ 144Hz ที่ไม่ต้องเดาว่าทำงานอยู่ในระดับไหน
เพราะในโหมดการใช้งานโดยเฉพาะการเล่นเกม จะมีชุดเครื่องมือสำหรับการปรับระบบให้เข้ากับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่นเปลี่ยนโหมดประสิทธิภาพ ปิดกั้นการแจ้งเตือน และที่สำคัญ คือมีฟังก์ชั่นที่จะแสดงข้อมูลการทำงานของเครื่องขึ้นบนหน้าจอเอาไว้ได้ครับ โดยจะมีข้อมูลความร้อนของเครื่องและระดับรีเฟรชเรทที่กำลังทำงานของหน้าจออยู่นั้นเองครับ เพราะคนเล่นเกมหลายคนชอบที่จะรู้ประสิทธิภาพเครื่องของตัวเองครับ ^^
จอภาพสวย แล้วลำโพงยังโหดมากอีกด้วย เรียกว่าถ้าเปิดกันดังสุด คุณภาพเสียงอาจจะมีกลบรัศมีจากเสียงทีวีหรือลำโพงหลายๆ ตัวในบ้านเราเลยครับ
หน้าจอก็มีโหมดถนอมสายตาด้วยนะครับ ลดแสงสีฟ้าเมื่อเวลาใช้งานนานๆ หรือใช้ตอนกลางคืนอ เราก็เปิดฟังก์ชั่นนี้ช่วยลดภาระให้ดวงตากันสักหน่อย
มีหน้าจอ Alway-on Panel แสดงผลตลอดเวลาแม้จะล็อกเครื่องไว้ ออกแบบมาได้ดูเป็นเกมมิ่งดีครับ ^^ มีหลายแบบให้เลือก เอาไว้ดูเวลาหรือการแจ้งเตือนที่เราพลาดไป โดยไม่ต้องกดปลดล็อคเครื่องก่อน
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่เครื่องก็ใช้พลังงานเยอะเช่นกัน แบตขนาด 6000mAh ถ้าใช้งานแบบเปิดโหมด X ทำงานแบบเต็มประสิทฺธิภาพ ก็อยู่ได้นานปกติเหมือนเครื่องอื่นๆ ครับ ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 7 ชั่วโมง แต่ได้ความแรงมาเต็มพิกัด 100% ถ้าเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบบคงทน จะใช้แบตแค่ชั่วโมงละ 8-10% เท่านั้นเองครับ ดูหนังกันได้สามถึงสี่เรื่อง เล่นเกมได้นานประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง
ส่วนความร้อนของเครื่องถ้าใช้งานอยู่ในห้องแอร์ก็ปกติเลยครับ ประมาณราวๆ 40 องศาในขณะใช้งานเล่นเกม
ถ้าเอาไปใช้ข้างนอก ร้านอาหาร ไม่ใช่ห้องแอร์ ความร้อนจะรู้สึกมากขึ้นหน่อย ราวๆ 45% แต่ยังไม่เคยออกอาการผิดปกติมาให้ผมเห็นครับ
ทาง ROG ได้ออกแบบพัดลมระบายความร้อนมาให้ใช้งานคู่กันด้วย Aero Active Cooler ออกแบบเท่และมีปุ่มพิเศษที่ออกแบบมาให้สามารถกดโดยแม็บปิ้งเข้ากับจอทัชสกรีนของเครื่องเป็นปุ่มเพิ่มเติม และเป็นพัดลมที่จะช่วยลดความร้อนของเครื่อง
และเป็นขาตั้งให้กับเราเวลาใช้งานรับชมภาพยนตร์ และยังเพิ่มความเท่ไปในตัวด้วย เพราะมีไฟ RGB สวยๆ บนตัวอุปกรณ์ครับ ^^
ปุ่มด้านหลังของ Aero Active Cooler จะสามารถกำหนดให้เป็นปุ่มคำสั่งใช้งานบนหน้าจอทัชสกรีนโดยตรงได้ เราเข้าไประบุตำแหน่งทัชที่เราต้องการในแอพ Armoury Crate
เมื่อรวมกับปุ่มทริกเกอร์ด้านบนตัวเครื่องแล้ว ก็จะมีปุ่มพิเศษมากถึง 4 ปุ่มให้ใช้งานเพื่อความได้เปรียบและความสะดวกในการเล่นเกมครับ ^^ เสียบไฟชาร์จได้ไม่ต้องถอดครับ
ตัว Aero Active Cooler ออกแบบมาให้ใช้งานได้แม้เราจะใส่เคสของเครื่องที่แถมมาให้กล่องเอาไว้ครับ ไม่ต้องถอดเคส และยังเว้นช่องสำหรับการชาร์จแบตด้านข้างเครื่องเอาไว้ให้ พร้อมช่องหูฟัง 3.5 ที่สามารถต่อได้จากตัว Aero Active Cooler เองเลยครับ
กล้องถ่ายภาพ
พูดถึงด้านการถ่ายภาพสักหน่อยในปิดท้ายรีวิว จะบอกว่า ROG Phone 5 กล้องดีด้วยนะครับ คุณภาพสูงทีเดียว ด้านหลังตัวเครื่องให้กล้องสามตัว กล้องหลักเป็น Sony IMX686 ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และกล้องที่สองเป็นกล้อง macro 13 ล้านพิกเซล และ Ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเช่นกัน และใช้กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
UI ของกล้องก็ออกแบบเรียบง่าย มีโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ โหมดถ่ายภาพกลางคืน สามารถซูมภาพได้ตั้งแต่มุมกว้าง 0.6x ไปจนถึง 8x คุมการซูมได้ดีครับ ซูมระดับ 8X ภาพยังไม่แตกจนดูเละครับ ถ่ายหวังผลได้เลย
กล้องคมครับ คุณภาพสูงตามระดับมาตรฐานเครื่องที่มาในกลุ่มตัวท็อป ด้านกล้องก็เช่นกัน ไม่ได้ด้อยไปกว่าด้านอื่นๆ ถ่ายง่าย ภาพคม เลนส์มีคุณภาพที่ดีครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก ROG Phone 5
สรุปท้ายรีวิว
แรง ทรงพลังมาก การันตีให้เลยว่าเต็มอิ่มสมใจทั้งภาพและเสียงและความทรงพลั เกมที่เราเคยเล่นมันยังเร็วขึ้นไปได้อีก ตอบสนองไวทั้งการใช้งานและการเชื่อมต่อดึงข้อมูลของตัวเกม
การออกแบบสวยทุกชิ้น ตัวเครื่องเท่ออกแบบมาในสไตล์เกมมิ่งตัวจริง ไฟ RGB สวยๆ ด้านหลังเครื่องที่ปรับแต่งได้ และอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาได้เข้ากันในแนวคนเล่นเกมทุกชิ้น ใครชอบงานออกแบบลักษณะนี้ยิ่งใช้แต่ละชิ้นจะยิ่งชอบครับ
ระบบซอฟท์แวร์ออกแบบมาเพื่อคนเล่นเกม เข้าใจคนเล่นเกม มีปุ่มพิเศษและการช่วยเหลือคนเล่นเกมเยอะมากๆ สมบูรณ์แบบในการใช้งานสุดๆ เลยครับ
ROG Phone 5 เปิดราคา RAM 8+ ROM 128GB ที่ 22,990 บาท ส่วนรุ่น RAM 16 + ROM 256 ราคา 29,990 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน เป็นต้นไป พิเศษ!