Samsung Galaxy Buds Pro สุดยอดหูฟังไร้สายของ Samsung เลยครับ จัดเทคโนโลยีมาเต็มสองเม็ด ทั้งระบบตัดเสียงรบกวนที่ต้องบอกว่านี่คือแนวหน้าของหูฟังไร้สาย และระบบเสียงล็อคเป้า Audio 360 องศา เพียงหนึ่งเดียวในตลาดหูฟังสำหรับ Android ที่มีให้ขนาดนี้ แต่ละฟังก์ชั่นมันดียังไง เราจะมารีวิวให้เข้าใจกันในบทความนี้ครับ
Galaxy Buds Pro เรียกว่ามาพร้อมคุณภาพเสียงและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของหูฟังไร้สายจาก Samsung ในปัจจุบันแล้วครับ ตัวนี่คือตัวท็อปเลย ใช้การออกแบบที่ต่อยอดมากจากรุ่นเม็ดถั่วที่ดีไซน์ทำได้เข้าตา แต่อาจจะใหญ่คับหูใครบางคนไปสักหน่อย มาในรุ่นนี้ปรับใหม่ ให้ตัวอุปกรณ์ลอยตัวเหนือใบหู ไม่กระทบหรือโดนให้ระคาย ใช้การออกแบบศูนย์ถ่วงใหม่ให้ส่วนของก้านลำโพงหูฟังอยู่ตรงกลางอุปกรณ์มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องอาศัยการทิ้งน้ำหนักหรือการเหน็บกระชับกับใบหู ลดการสัมผัสก็ลดการระคาย
วิธีใส่ผมแนะนำ เล็งเอาตัวอักษร R และ L หมุนให้ตัวอักษตรงกับแกนแนวนอนโลก แล้วยัดเข้าไปในหูองศานั้นเลยครับ ตัวหูฟังจะอาศัยแค่ Ear Tips ในการยึดกับหูของเรา ส่วนอื่นแค่ประคอง ถ้าคุณเลือกขนาด Ear Tips ให้ตรงกับขนาดรูหูของเราแล้วจริงๆ รับรองว่าจะเป็นหู In Ear ที่แทบจะไม่สัมผัสกับส่วนอื่นของใบหูเลยครับ และลดโอกาสเจ็บหูน่อยลงมากๆ อุปกรณ์ภายมนกล่องจะมี Ear Tips มาให้เลือกสลับไซด์ 3 ขนาด พร้อมสายชาร์จ USB Type C
เสียงระดับสตูดิโอที่ดีที่สุดจากซัมซุง ใช้ลำโพงขับสองตัว เป็นวูฟเฟอร์ 11 มม. สำหรับเสียงเบสเน้นพลัง อีกหนึ่งคือทวีตเตอร์ 6.5 มม. สำหรับเสียงแหลมที่แยกออกมาเพื่อให้เป็นเสียงแหลมที่ตรงความต้องการ ให่ความนุ่มนวลและคมชัดกว่าและช่วยเสียงให้โปร่งกว้าง การจูนและพัฒนาระบบเสียง เป็นผลงานของทีม AKG เข้ามาดูแลทั้งหมดครับ สำหรับการสนทนาก็ใส่มาเต็มกับไมโครโฟน 3 ตัว และเทคโนโลยีกรองเสียงลม จากที่ทดสอบการสนทนาเสียง คมชัด เงียบมากครับ แม้จะคุยสนทนาในที่สาธารณะก็ตาม
ผลิตมาภายใต้มาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 ตกจมน้ำลึกไม่เกินเมตร งมขึ้นมาภายในครึ่งชั่วโมงใช้ต่อได้เลยไม่ต้องเช็ดด้วยซ้ำ ฉะนั้นถ้าจะใส่อาบน้ำ หรือจะใส่ออกกำลังกาย ก็เอาอยู่หมดครับ แต่ห้ามเอาเก็บเข้าเคสในขณะหูฟังเปียกชื้นนะครับ เพราะตัวเคสและระบบชาร์จในกล่องเคสไม่ได้กันน้ำ เช็ดให้แห้งซะก่อน และระวังเรื่องการเสื่อมของซีลต่างๆ เมื่อวันเวลาผ่านไปด้วยนะ
ตัวเล็ก น้ำหนักเบามาก ข้างละ 6 กรัม! ชั่งให้แล้ว กล่องเคสหนักแค่ 45 กรัม รวมทั้งชุด 58 กรัม พกพาเบาๆ เลยละเพราะกล่องเล็กด้วย เปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 สี Phantom Black, Phantom Violet และ Phantom Silver ที่เห็นในบทความรีวิวนี้ครับ เปิดราคามา 6,990 บาท
ตัวกล่องช่องเก็บหูฟังเป็นแบบวางแปะมีแม่เหล็ก ใช้ที่ชาร์จแบบ USB Type C แต่รองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charging ด้วย มาตรฐาน Qi แท่นชาร์จไหนเป็น Qi ก็ใช้ได้หมดไม่เรื่องมาก และแบตเตอรี่อึดซะด้วยนะครับ ลำพังหูฟังเปิดโหมด ANC แล้วก็ยังใช้งานได้ต่อเนื่องเกือบ 5 ชั่วโมงเลย แล้วตัวเคสสามารถชาร์จไฟกลับเข้าหูฟังได้ประมาณเกือบสามรอบครับ (รอบที่สามจะได้แบตกลับมาไม่เต็ม 100%)
เสียงดีครับ เสียงเล่นใหญ่ ซาวด์มีอารมณ์ เหมาะสำหรับทั้งการรับฟังเพลงและรับชมภาพยนตร์ และจะบอกว่าระบบเสียงของมันนั้นสุดยอดไปกว่านั้น มันคือเรื่องของ “นวัตกรรม” เลยละครับ ^^
ตัวอุปกรณ์จะรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ในระบบ Android 7.0 ขึ้นไป และมี RAM มากกว่า 1.5GB ขึ้นไปนะครับ การเชื่อมต่อและการตั้งค่าต่างๆ จะใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable
ภายในแอพ เราจะใช้ในการเชื่อมต่อ และอัพเดทซอทฟ์แวร์ของอุปกรณ์ รวมถึงกำหนดค่าการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ANC หรือกำหนดคำสั่งลัดสำหรับการทัชค้างบนตัวหูฟังทั้งข้างซ้ายและขวาครับ
จุดที่โดดเด่นเหนือใครของ Samsung Galaxy Buds Proโ คือเรื่องของ “นวัตกรรม” ตั้งแต่ระบบ Active Noise Cancelling (ANC) หรือระบบตัดเสียงรบกวนก็ทำมาได้ในขั้น “อัจฉริยะ” มันมีโหมดการทำงานในแบบเปิด ANC และปิด ANC และโหมดเปิดรับเสียงจากรอบข้าง จะเป็นโหมดที่ใช้ภาครับเสียงเร่งเสียงภายนอกให้เข้ามายังหูฟังเพื่อชดเชยกับการที่เรากำลังใส่หูฟังอยู่ ให้ได้ยินสิ่งรอบข้างได้ชัดเจน ซึ่งปรับไว้ได้ 4 ระดับ เป็นโหมดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและใช้รับฟังเพื่อสนทนากับคนรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดเข้าถอดออกตัวหูฟังครับ
แต่ที่น่าสนใจ คือนี่เป็นครั้งแรก ที่เราสามารถสลับโหมดตัดเสียงรบกวนที่เรากำลังเปิดไว้ ให้เปลี่ยนเป็นโหมดฟังเสียงรอบข้างได้โดยเราไม่ต้องกดปุ่มหรือสัมผัสใดๆ “แค่เพียงพูด”
เมื่อตัวหูฟังจะตรวจจับเจอเสียงพูดของเรา มันก็จะสลับไปเป็นโหมดรับฟังเสียงรอบข้างให้เราทันทีครับ เพิ่มการรับรู้รอบข้าง ลดเสียงเพลงที่กำลังเล่นในขณะนั้น เพื่อให้พร้อมกับการสนทนาหรือรับฟังสิ่งรอบข้างได้มากขึ้น และจะสลับกลับมาในโหมดเดิมได้เอง เมื่อครบเวลาที่เรากำหนดไว้เมื่อเราไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เอาไว้สำหรับการเริ่มการสนทนากับคนรอบข้างได้สะดวกเลยละครับ
ซึ่งจะบอกว่า โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกของเจ้าตัวนี้ มันเงียบมากนะครับ ตัดเสียงรอบข้างได้สูงสุดถึง 99% เลยทีเดียว
แต่ว่าแม้จะใช้งานกับอุปกรณ์ Android ได้ไม่จำกัดรุ่นหรือยี่ห้อ ของแค่เป็น Android 7.0 ขึ้นไป และมี RAM มากกว่า 1.5GB ขึ้นไป แต่การทำงานขั้นสูงหลายๆ ฟังก์ชั่น จะทำงานได้เต็มที่บนอุปกรณ์ Samsung Galaxy เท่านั้นนะครับ
การใช้งานด้วยกันเองในกลุ่มอุปกรณ์ Galaxy Ecosystem จะทำงานได้สะดวกและเต็มฟังก์ชั่นที่สุด เช่นฟีเจอร์ Auto Switch ที่สลับการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้โดยอัตโนมัติ แค่ล็อคอิน Samsung Account ไอดีเดียวกันไว้ ตัวหูฟังก็พร้อมจะสลับไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เรากำลังใช้งานในปัจจุบันอยู่โดยอัตโนมัติทันทีไม่ต้องกดเชื่อมต่อใหม่
มีฟีเจอร์ SmartThings Find ที่ระบุตำแหน่งหูฟังล่าสุดที่อาจจะทำหล่นหายได้ ซึ่งระบบการค้นหาหูฟังจะทำได้ทั้งอยู่ในระยะบลูทูธเพื่อหาว่าวางไว้ตรงไหนโดยการให้หูฟังส่งเสียงออกมา (พยายามบีบเสียงให้ได้ยินง่ายอยู่นะ แต่ไม่อยากให้ทำบ่อย กลัวลำโพงหูฟังเสียงแตก) และแบบสั่งให้หาแบบออฟไลน์เอาไว้ เมื่อตรวจพบเจอตัวระบบจะแจ้งให้เราทราบได้ครับ
และฟังก์ชั่นไม้เด็ดสุดท้าย ที่เรียกว่าเป็นของใหม่และเปิดโลกของการใช้งานหูฟังไร้สายไปอีกขั้นเลย ก็คือระบบเสียง “Audio 360” มันคือระบบใหม่จากเทคโนโลยี Dolby Head Tracking การตรวจจับการหันศีรษะ ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหนก็ตาม แต่ทิศทางของเสียงหูฟังจะไม่ขยับตาม มันจะเหมือนคุณนั่งอยู่หน้าชุดเครื่องเสียงที่อยู่ตรงหน้า ทิศทางลำโพงอยู่ตรงไหน เวลาหันหน้าไปทางอื่นเสียงจากลำโพงต้องคงอยู่ที่เดิม ทิศทางจากแชนเนลเสียงเดิมต้องมาจากมุมเดิม ซึ่งตัวหูฟังจะตรวจจับการขยับศีรษะแล้วปรับทิศทางเสียงที่เข้ามาหาเราให้อยู่ในองศาเดิมได้แบบเรียลไทม์เลยครับ ใครฟังครั้่งแรก “อึ้งแน่นอน” ^^
ด้วยความสามารถของหูฟังที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos อยู่แล้ว มันจึงแยกทิศทางเสียงได้หลายแชนเนลมากครับ และนำประโยชน์จากแชนเนลเสียงต่างๆ มาปรับใช้ให้เกิดความมั่นคงของทิศทางเสียงแม้เราจะขยับหัวของเราไปมา ให้อรรถรสในการรับฟังเพลง และรับชมภาพยนตร์เป็นอย่างมากกกกกกกกก เลยละครับ ^^
แต่การใช้งานฟังก์ชั่นเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ Samsung Galaxy Buds Pro คู่กับอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่ใช้ระบบ One UI เท่านั้นนะครับ โดยเฉพาะฟังก์ชั่น Audio 360 ต้องใช้กับ One UI 3.1 ใหม่ล่าสุดเท่านั้น ซึ่งอุปกรณ์ที่รองรับปัจจุบันก็จะเป็นบรรดาอุปกรณ์ระดับสูงรุ่นใหม่ๆ เช่น Galaxy Note 20, Galaxy S21 หรือ Galaxy Tab S7 Series ที่เพิ่งได้รับอัพเดทไปเช่น แต่ในอนาคต One UI 3.1 จะปล่อยให้ได้อัพเดทกันไปจนถึงเครื่องระดับสูงในปีก่อนๆ ด้วยนะครับ เช่น Galaxy S10 Series, Galaxy Tab S6 เป็นต้น
สรุปท้ายรีวิว
Samsung Galaxy Buds Pro เต็มไปด้วยเทคโนโลยีครับ เป็นหูฟังที่มีดีไซน์สวยงาม เป็นตัวของตัวเอง ทันสมัยทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและฟังก์ชั่นการใช้งานภายใน สมเป็นหูฟังจากแบรนด์ไฮเทคโนโลยีอย่าง Samsung ให้ลำโพงเสียงดีมีมิติสองตัว ตัวหูฟังเบาออกแบบให้ใส่ได้นานไม่ระคายใบหู มาตรฐานกันน้ำ IPX7 รองรับการชาร์จไร้สาย น้ำหนักเบามาก ข้างละ 6 กรัมเท่านั้นเอง
ระบบอัจฉริยะไม่มีใครเหมือน ระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในรุ่น ด้วยอัตราการตัดเสียงรบกวนได้สูง 99% Active Noise Cancelling ที่อาศัย AI จับเสียงพูดและสลับโหมดการทำงานเพื่อตรวจจับเสียงแวดล้อมได้เองอัตโนมัติ
การใช้งานร่วมกับระบบนิเวศน์ของแบรนด์ตัวเอง ที่ทำได้ดีกว่า ระบบสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่กำลังต้องการใช้งานได้อัตโนมัติ แค่ล็อคอินแอคเคาท์ซัมซุงเดียวกันเอาไว้
และระบบที่สุดยอดที่สุดของหูฟังฝั่ง Android นั้นคือ “Audio 360” มันคือระบบใหม่จากเทคโนโลยี Dolby Head Tracking การตรวจจับการหันศีรษะ เพื่อรักษาทิศทางของเสียงไว้ให้คงตำแหน่งเดิม และรองรับ Dolby Atmos ระบบเสียงรอบทิศทาง ที่ใช้งานได้ทั้งการฟังเพลง เล่นเกมหรือดูหนัง