Samsung Galaxy Buds3 Pro หูฟัง AI ตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi
หูฟังไร้สายเสียงดี มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่จะรองรับการใช้งานกับ Galaxy AI ของสมาร์ตโฟน Samsung ทำงานได้อัตโนมัติหลายอย่างด้วย AI ภายในตัวเอง เช่นตรวจจับลักษณะการสวมใส่และรูปร่างใบหู, ตรวจจับเสียงรอบข้างและปรับเปลี่ยนระบบตัดเสียงรบกวนด้วยตัวเอง รวมถีงใช้งานในการแปลภาษาส่งตรงเสียงที่แปลแล้วจากสมาร์ตโฟนเข้าสู่หูฟังเราโดยตรง และเปลี่ยนภาษาที่เราพูดออกไปเป็นภาษาฝั่งตรงข้ามผ่านลำโพงสมาร์ตโฟนเพียงเท่านั้น หรือจะใช้ในดักแปลเสียงพูดในภาษาอื่นให้กลายเป็นภาษาของเราด้านเดียวก็ได้เช่นกัน
น้ำหนักเบาใส่สบาย รองรับเสียงคุณภาพสูง Ultra High-Quality (UHQ) 24bit/96kHz ใช้ระบบแอมป์คู่ ทำงานกับลำโพงคู่สองตัวที่ติดตั้งอยู่ภายใน
งานผลิตใส่ใจ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดดี กันน้ำกันฝุ่น IP57 ใช้การออกแบบหูฟังในรูปทรงที่ทำให้เราทัชและกดบนตัวหูฟังได้ง่าย รองรับการสไลด์ขึ้นลงเพื่อปรับระดับเสียงได้จากหูฟังโดยตรง
มีฟังก์ชั่นเสริมเยอะ ทั้งการค้นหาตัวหูฟัง, การเตือนผู้ใช้ก้มศีรษะเป็นเวลานาน, ตัวเคสรองรับการชาร์จทั้งแบบเสียบสายและไร้สาย และสามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทีล็อคอิน Samsung Account เดียวกันได้ทันที
The Good
- ปรับเปลี่ยนระบบตัดเสียงรบกวนด้วยตัวเองตามสภาพแวดล้อม
- มีระบบตรวจจับการพูดของผู้ใช้ และเสียงสัญญาณรถฉุกเฉิน เพื่อปิดการทำงาน ANC ได้แบบอัตโนมัติ
- รองรับเสียงคุณภาพสูง Ultra High-Quality (UHQ) 24bit/96kHz ใช้ระบบแอมป์คู่ ทำงานกับลำโพงคู่สองตัวที่ติดตั้งอยู่ภายใน
- กันน้ำกันฝุ่น IP57
- ใช้การออกแบบก้านหูฟังในรูปทรงเหลี่ยม ที่ทำให้เราทัชและสไลด์เพื่อปรับระดับเสียงได้จากหูฟังโดยตรงได้ง่าย
- มีฟังก์ชั่นเสริมเยอะ รองรับ Galaxy AI, การค้นหาตัวหูฟัง, การเตือนผู้ใช้ก้มศีรษะเป็นเวลานาน
- รองรับการชาร์จทั้งแบบเสียบสายและไร้สาย Qi
- มีไฟ Blade Light ที่ก้านหูฟังเป็นเอกลักษณ์
- หูฟังกึ่ง In-Ear ใส่เข้าไปในหูเล็กน้อย แน่นกระชับแต่ไม่เจ็บหรือรำคาญ
The Bad
- การควบคุมเปลี่ยนจากการทัช เป็นการจีบนิ้วคล้ายการกดปุ่ม
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
Galaxy Buds3 Pro เป็นหูฟังไร้สายที่มีฟังก์ชั่นเยอะครับ มีโหมดที่สามารถทำงานได้เองอัตโนมัติหลายอย่าง ตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi รวมถึงความสามารถในด้านการทำงานร่วมกับ Galaxy AI ของทาง Samsung ด้วย
Galaxy Buds3 Pro เปิดตัวออกมาพร้อมกับ Galaxy Buds3 รุ่นปกติ สิ่งที่แตกต่างหลักๆ ของสองรุ่นนี้ก็คือเรื่องของการดีไซน์ตัวหูฟัง ที่ตัว Buds3 Pro จะเป็นหูฟังในลักษณะกึ่ง In-Ears (ส่วนตัว Buds3 รุ่นปกติจะเป็น EarBuds) เสียบเข้ารูหูเล็กน้อยเพื่อการฟังเพลงที่จริงจังมากขึ้น ตัดเสียงรบกวนได้ดีมากขึ้น รวมถึงเรื่องระบบเสียงของรุ่น Pro ที่ภายในจะใช้ระบบแอมป์ขับเสียงสองตัว ทำงานกับลำโพงคู่สองตัว (ไดนามิกกับทวิตเตอร์) ซึ่งจะแตกต่างกับหูฟังไร้สายปกติที่จะใช้ลำโพงไดนามิกเป็นตัวขับเคลื่อนเพียงตัวเดียว
และที่ก้านหูฟังจะมีมีแสงไฟ Blade Light ช่วยเพิ่มการมองเห็นในที่มืดและเป็นเอกลักษณ์เสริมจุดเด่นของรุ่นด้วย
และยังมีฟังก์ชั่นเสริมพิเศษสำหรับ Galaxy Buds3 Pro ที่จะมี AI คอยรับรู้สถานการณ์รอบข้างได้ เช่นเมื่อตรวจจับเวลาเราเริ่มพูด หรือมีเสียงไซเรนของรถฉุกเฉินดังขึ้นรอบตัว ระบบตัดเสียงรบกวนจะปิดการทำงานได้เองอัตโนมัติ เพื่อให้เราสามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ในทันที
นี่คือความแตกต่างหลักๆ ของ Galaxy Buds3 Pro และ Galaxy Buds3 ที่มีราคาแตกต่างกันประมาณสองพันบาทครับ (7,490 บาท และ 5,490 บาท)
Galaxy Buds3 Pro เป็นหูฟังที่มาในรูปทรงแบบกึ่ง In-Ears ผมหมายถึงมันเป็นหูฟังแบบเสียงหูแต่ว่ามันเสียบเข้าไปตื้นมากๆ เพื่อให้เกิดการกระชับกับใบหู และส่งออกทิศทางเสียงเข้าสู่หูเราได้แม่นยำที่สุดครับ เพราะรุ่นนี้ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) จัดเต็มด้านฟังก์ชั่นมาค่อนข้างครบทีเดียว
ตัว AI จะวิเคราะห์การสวมใส่ของเราได้เองแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มุมเสียงที่ส่งออกมาถูกต้องกับหูเรามากที่สุด ใช้ข้อมูลจากการตรวจจับเสียงผ่านไมโครโฟนด้านในและด้านนอก (มีไมค์รวมทั้งหมดข้างละ 3 ตัว) เพื่อใช้เป็นข้อมูลพิจารณารูปร่างหูและมุมการสวมใส่ของเราในทุกครั้งทีเ่ราสวมใช้งาน
Galaxy Buds3 Pro มีไดรเวอร์ขนาด 11mm สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้แบบ Adaptive ครับ เปิดและปิดได้เองเมื่อตรวจจับเจอเสียงรอบข้าง เช่น เมื่อเราเริ่มสนทนากับคนรอบข้าง หรือมีเสียงไซเรนเข้ามาในระยะ ตัวหูฟังจะเปิดรับเสียงรอบข้างเข้ามาอัตโนมัติได้ทันที
ใช้การออกแบบหูฟังในรูปทรงที่ไม่เหมือนกับรุ่นไหนๆ ของทาง Samsung ที่เคยออกแบบมา แต่อาจจะคุ้นตาว่าคล้ายกับหูฟังทรงมีก้าน ที่มาจากแบรนด์สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นอีกมากมายที่ใช้รูปทรงคล้ายๆ กันนี้
ใช้ก้านหูฟังแบบสามเหลี่ยม สามารถทัชควบคุมบนก้านได้ง่ายขึ้นด้วยมุมการจับและกด รองรับทั้งการทัชและการสไลด์เพื่อควบคุมการเล่นเพลง และปรับระดับเสียง
ทำมุมออกมาได้พอดีกับนิ้วเราเลยครับ ปลายก้านใช้สัญลักษณ์สีแทนการระบุข้างของหูฟัง พร้อมสกรีน R,L ไว้ชัดเจน รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP57
น้ำหนักหูฟังเบาครับ 5.4 กรัม ขนาดรวมไม่ใหญ่ 18.1 x 19.8 x 33.2 มิลลิเมตร ติดตั้งไมค์รับเสียงไว้ข้างละถึง 3 ตัว เพื่อตรวจจับเสียงรอบตัวและใช้ในการตัดเสียงรบกวน
ส่วนตัวเคสจะมาเป็นแบบฝาเคสโปร่งใส ทำให้เห็นหูฟังที่อยู่ภายใน ทำให้รู้ว่าได้เก็บหูฟังเข้าเคสไปแล้วหรือยัง รองรับการชาร์จพลังงงานผ่านพอร์ต USB Type-C และสามารถชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi ได้ด้วยครับ
จากที่ทดสอบเรื่องแบตเตอรี่ค่อนข้างอึดใช้ได้ สามารถใช้งานหูฟังได้ต่อเนื่องประมาณ 6 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และสามารถเก็บเข้าเคสชาร์จไฟได้อีกประมาณ 5 รอบครับ
ตัวเคสใช้พลาสติกเนื้อดี ดูแข็งแรง เก็บงานลบขอบมุมและเคลือบสีมาได้สวยงาม มีปุ่มสำหรับเปิดการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ใต้ตัวเคส (เปิดฝาแล้วกดปุ่มเชื่อมต่อค้างไว้ 3 วินาที) ทาง Samsung นำเข้ามาจำหน่ายสองสีครับสำหรับรุ่น Pro นั้นคือสีขาว และสีเงิน Silver ที่เห็นในรีวิวนี้
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมี Ear Tips สำหรับการเปลี่ยนขนาดจุกยางหูฟังมาให้ 3 ขนาด พร้อมกับสายชาร์จ USB Type-C และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นครับ
คุณภาพเสียงและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Galaxy Buds3 Pro จะรองรับกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธได้ทั้งหมด (รองรับ Bluetooth 5.4) นำไปใช้ไดัดับอุปกรณ์เช่น PC, Notebook, เครื่องเกม, สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, แต่ในอุปกรณ์สมาร์ตโฟนจะสามารถใช้แอป Galaxy Wearable ในการเชื่อมต่อ เพื่อเข้าไปตั้งค่าการทำงานต่างๆ ที่จะมีความละเอียดมากขึ้นของตัวหูฟัง และยังใช้เแอปสำหรับการอัปเดตซอฟท์แวร์ให้กับตัวหูฟังได้ด้วย
ภายในแอป Galaxy Wearable เราจะสามารถเปิดปิดโหมดต่างๆ ทั้งหมดของ Buds3 Pro กำหนดวิธีการควบคุมบนตัวหูฟังได้แบบแยกข้าง และสามารถปรับเลือกพรีเซ็ต EQ รองรับคุณภาพเสียงระดับสูง UHQ (24bit/96kHz)
ให้เสียงที่แน่นๆ ทั้งเสียงแหลม เสียงเบส เสียงมีพลังมากๆ แม้ไดรเวอร์จะทีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ให้แหลมชัด เสียงกลางแน่นๆ กลองดีดๆ เบสมีความหนัก การเสริมลำโพงทวิตเตอร์เ้ข้ามาอีกหนึ่งตัว ทำให้รายละเอียดเสียงมีเลเวลขึ้นมาเลยครับ
ระบบทำมาครบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งระบบการตัดเสียงรบกวนที่ปรับระดับได้, การเปิดและปิดระบบตัดเสียงรบกวนได้เอง เช่นเวลาเราเริ่มพูดคุยกับคนรอบข้าง ตัวหูฟังจะรับรู้ได้ครับ หรือมีเสียงรถฉุกเฉินเข้ามาในบริเวณ ตัวหูฟังจะเปิดรับเสียงรอบข้างให้เราในทันที
รวมถึงระบบไมค์สำหรับการใช้งานในที่เสียงดัง มีความสามารถการเร่งเสียงไมค์ให้เสียงพูดของเราชัดเจนมากขึ้นได้
รองรับระบบเสียง 360 องศา ซึ่งจเป็นโหมดเพิ่มมิติเสียงให้ตัวเราเหมือนอยู่ในศูนย์กลางของแหล่งเสียง แนะนำเปิดใชั้สำหรับเวลาเราฟังคอนเสิร์ตหรือรับชมภาพยนตร์ เหมาะมาก
และสามารถเปิดโหมด “ตรวจจับการหมุนของศีรษะ” จำลองทิศทางเสียงให้เหมือนว่ามาจากทิศทางเดิมแม้เราหมุนศีรษะไปทางอื่น แต่ฟังก์ชั่นนี้ผมไม่ชอบเปิดใชันะครับ มันยังทำได้ไม่สมจริง 100% ทิศทางเสียงยังไม่แม่นยำมากพอกับคำว่าสมจริง และมีฟังก์ชั่น “โหมดเกม” เป็นโหมดพิเศษที่จะลดค่าความหน่วงของเสียงให้ต่ำลงมากกว่าปกติ แต่จะแลกกับการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น
สามารถค้นหาหูฟังได้จากภายในแอป Galaxy Wearable ด้วยครับ ถ้าตัวหูฟังของหายไปไม่อยู่ในเคส เราสามารถกดค้นหาหูฟังข้างนั้นเพื่อให้หูฟังส่งเสียงออกมาได้ จะมีความดังให้เราพอได้ยินในระยะประมาณ 5 เมตรได้ครับ
ภายในหูฟังมีการติดตั้งเซนเซอร์ไว้หลายตัว (Accelerometer, Gyro Sensor, Hall Sensor, Pressure Sensor, Proximity Sensor, Touch Sensor, VPU(Voice Pickup Unit) สามารถตรวจจับการสวมใส่และการถอดออกได้ และยังมีสามารถพิเศษในการตรวจจับการก้มศีรษะผู้ใช้เป็นเวลานานๆ หูฟังจะสามารถช่วยเตือนให้เราเงยคอ และทำการยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวดเมื่อยได้ด้วยนะครับ คอยดูแลด้านสุขภาพไปให้เราด้วยในตัว ^^
และจะมีข้อดีของการใช้งานกับสมาร์ตโฟนจากแบรนด์ Samsung ด้วยกันที่ทำได้มากกว่าปกติด้วย นั้นคือเมื่อเราเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์สมาร์ตโฟนที่ใช้ Samsung Account เดียวกัน จะสามารถเชื่อมค่อได้หลายเครื่องและใช้กันแบบต่อเนื่องครับ หูฟังจะสลับการทำงานไปมาระหว่างเครื่องได้ทันทีเมื่อมีสัญญาณเสียงถูกส่งมาจากอีกอุปกรณ์หนึ่ง และสลับกลับไปได้โดยที่ไม่ต้องกดเชื่อมต่อใหม่
รวมถึงความสามารถในการใช้งานร่วมกับ Galaxy AI อย่างเช่นการทำงานกับอุปกรณ์ที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันเช่น Glalaxy Z Flip6 และ Z Fold6 เราสามารถใช้หูฟังให้เป็นล่ามแปลภาษา เพื่อส่งเสียงออกมาเป็นภาษาที่เราเข้าใจได้ผ่านหูฟังโดยตรง
เสียงคู่สนทนาที่เข้าสู่อุปกรณ์สมาร์ตโฟนจะถูกแปลและส่งออกมาเป็นภาษาที่เราต้องการผ่านทางหูฟังที่เราสวมใส่เท่านั้น ส่วนเสียงของเราที่พูดออกไปจะดังออกเป็นภาษาปลายทางผ่านลำโพงสมาร์ตโฟนเพื่อให้ฝั่งตรงข้ามได้ยินเป็นภาษาของเขา
หรือจะใช้เป็นอุปกรณ์แอปฟังผู้ที่กำลังพูดภาษาอื่นอยู่ก็ได้นะครับ ^^ มันจะถูกแปลออกมาเป็นภาษาที่เราต้องการบนตัวหูฟังโดยตรง ทีนี่ใครนินทาเราเป็นภาษาอื่น เราก็สามารถเข้าใจได้แล้วนะครับ ^^
สรุปท้ายรีวิว
หูฟังไร้สายเสียงดี มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่จะรองรับการใช้งานกับ Galaxy AI ของสมาร์ตโฟน Samsung ทำงานได้อัตโนมัติหลายอย่างด้วย AI ภายในตัวเอง เช่นตรวจจับลักษณะการสวมใส่และรูปร่างใบหู, ตรวจจับเสียงรอบข้างและปรับเปลี่ยนระบบตัดเสียงรบกวนด้วยตัวเอง รวมถีงใช้งานในการแปลภาษาส่งตรงเสียงที่แปลแล้วจากสมาร์ตโฟนเข้าสู่หูฟังเราโดยตรง และเปลี่ยนภาษาที่เราพูดออกไปเป็นภาษาฝั่งตรงข้ามผ่านลำโพงสมาร์ตโฟนเพียงเท่านั้น หรือจะใช้ในดักแปลเสียงพูดในภาษาอื่นให้กลายเป็นภาษาของเราด้านเดียวก็ได้เช่นกัน
น้ำหนักเบาใส่สบาย รองรับเสียงคุณภาพสูงง Ultra High-Quality (UHQ) 24bit/96kHz ใช้ระบบแอมป์คู่ ทำงานกับลำโพงคู่สองตัวที่ติดตั้งอยู่ภายใน
งานผลิตใส่ใจ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดดี กันน้ำกันฝุ่น IP57 ใช้การออกแบบหูฟังในรูปทรงที่ทำให้เราทัชและกดบนตัวหูฟังได้ง่าย รองรับการสไลด์ขึ้นลงเพื่อปรับระดับเสียงได้จากหูฟังโดยตรง
มีฟังก์ชั่นเสริมเยอะ ทั้งการค้นหาตัวหูฟัง, การเตือนผู้ใช้ก้มศีรษะเป็นเวลานาน, ตัวเคสรองรับการชาร์จทั้งแบบเสียบสายและไร้สาย และสามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทีล็อคอิน Samsung Account เดียวกันได้ทันที
ราคาและโปรโมชั่น
Galaxy Buds3 Pro เปิดจำหน่ายในราคา 7,490 บาท มีให้เลือกสองสี สีขาว White และสีเงิน Silver มีโปรโมชั่นส่วนลดให้สำหรับผู้ซื้อ Galaxy Z Fold6 และ Z Flip6 สามารถแลกซื้อในราคาลด 30% เมื่อสั่งซื้อในบิลเดียวกันด้วยครับ