Galaxy Fit อุปกรณ์สวมใสตัวใหม่ของ Samsung หน้าตาการออกแบบมาดูเผินๆ จะเหมือนสายรัดข้อมือ แต่จริงๆ แล้วผมว่า ถ้าดูจากตามความสามารถของมันผมขอยกให้อยู่ในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ดีกว่าครับ เพราะความสามารถที่มันทำได้มากกว่าแค่การใส่ไว้เผื่อตรวจจับการขยับของร่างกายแบบสายรัดข้อมือเผื่อสุขภาพแบบนั้นมากเลยครับ
Galaxy Fit เป็นอุปกรณ์สวมใส่แบบใส่ตลอดเวลาครับ ไม่ได้ออกแบบมาให้ถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ เหมือนนาฬิกานะครับ มีคุณสมบัติพื้นฐานคือการจับการเคลื่อนไหวของร่างกายเรา และสามารถตวรจจับอัตราการเต้นของหัวใจ ฉะนั้นมันสามารถใส่เพื่อใช้ในกิจกรรมออกกำลังกายได้อย่างแน่นอน โดยทาง Samsung ใส่ประเภทกีฬาและการออกกำลังแทบจะทุกประเภทในโลกเท่าที่เราจะนึกออกกันเลยทีเดียว มีเป็นร้อยชนิด!
แต่ว่า Fit มันเหนือกว่าสายรัดข้อมือเพื่อการออกกำลังโดยทั่วไป เพราะมีหน้าจอแสดงผลเหมือนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ชั้นดีเลยครับ จอภาพแบบ Amoled สีสว่าง สวยสด เป็นจอเหลี่ยมซึ่งรองรับการทัชสกรีนสั่งงาน และมีปุ่มควบคุมด้านข้างเครื่องอีกหนึ่งปุ่มที่ทำหน้าที่ให้หลายอย่าง เช่นเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ปุ่มโฮมหรือปุ่มย้อนกลับ และยังใช้เป็นปุ่มเรียกฟังก์ชั่นด่วนได้ด้วยโดยการกดสองครั้ง เราสามารถระบุการสั่งงานของปุ่มนี้ได้จากถายในแอพพลิเคชั่นของมันครับ
ด้วยรูปแบบการแสดงผล การรองรับหน้าจอทัชสกรีน และความสามารถต่างๆ บนอุปกร์สวมใส่ที่มีหน้าจอไว้อ่านสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน ผมถึงบอกว่ามันนับเป็นกลุ่มสมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาอัจฉริยะได้เต็มปากเหมือนกันครับ
แต่งานออกแบบรูปทรงมันทำมาให้ดูเป็นสายรัดข้อมืออันไม่ใหญ่ ใส่กับแขนอีกข้างคู่กับนาฬิกาก็ยังดูไม่รุงรังมากนัก หรือจะใส่ใช้แทนนาฬิากาในวันเบาๆ ก็ได้ โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีผมว่าเอามาใส่เป็นนาฬิกาแบบสายเล็กๆ ก็ดูสวยงามเช่นกันครับ (โดยเฉพาะสีขาว ^^ เข้ากับผู้หญิงมาก) นี่คือความจงใจของทาง Samsung ที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ในซีรีย์ Fit มาโดยตลอดครับ ผมเรียกมันว่า “นาฬิกาลำลอง” ละกันนะครับ ^^
ตัวเครื่อง Galaxy Fit รุ่นใหม่นี้จะใช้ระบบการชาร์จไร้สาย แค่แปะติดกับแท่นที่แถมมาภายในกล่องตัวเครื่องก็พร้อมชาร์จและกลายเป็นนาฬิกาหัวเตียงให้เราได้ทันที
งานประกอบมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ กันน้ำได้ในระดับใส่ลงไปว่ายน้ำเต็มที่ได้เลยครับฉะนั้นใส่ไว้ได้ตลอดไม่ว่าจะอาบน้ำ ตากฝน หรือไปเล่นน้้ำ(สระว่ายน้ำ)
น้ำหนักเบา ใช้วัสดุและการออกแบบท่ไม่ระคายผิว และสายนาฬิกาถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ ด้วยสลักล็อกทั้งสองข้าง ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดใดในการถอดเปลี่ยนสายของมันเลยครับ ฉะนั้นเชื่อว่าสายนาฬิกาของ Galaxy Fit จะเป็นอีกสิ่งที่ทาง Samsung จะนำเข้าอีกหลากหลายสีเข้ามาจำหน่ายให้ผู้ใช้เปลี่ยนสายได้แก้เบื่อด้วยครับ
หน้าจอแสดงผลของ Galaxy Fit มีการทำงานเหมือนอุปกรณ์สมาร์ทวอชท์ที่มี UI ชัดเจนเลย เพราะมีส่วนของการแจ้งเตือนด้านบนที่ซ้อนทับลงมาได้ทันทีที่มีการติดต่อเข้ามา แจ้งเตือนได้ทุกหน้าการใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องสลับเปลี่ยนหน้าเพื่อจะแจ้งเตือนเหมือนอุปกร์อื่นๆ ครับ ซึ่งระบบการแจ้งที่ทำงานคล้ายกับสมาร์ทโฟนแบบนี้ นาฬิกาสมาร์ทหลายๆ รุ่นยังทำไม่ได้เลยครับ
แต่ก็จะมีหน้าที่รวมการแจ้งเตือนให้เราสามารถอ่านย้อนหลังได้อยู่เช่นกันนะครับ และตัว Fit รองรับการแจ้งเตือนแทบทุกอย่าง ทุกแอพ ที่เราเปิดซิงค์ไว้กับสมาร์ทโฟน โดยมันจะส่งมาให้เราเปิดอ่านได้ทันทีบน Galaxy Fit ตัวอักษณอ่านง่านชัดเจน รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ แต่พวกการแจ้งเข้ามาเป็นอีโมติคอน หรือสติ๊กเกอร์ในหลายๆ แอพ จะไม่ขึ้นเป็นรูปสติ๊กเกอร์ให้เราเห็นเป็นรูปนะครับ
การแจ้งเตือนของตัวเรือนจะใช้ระบบการสั่นที่ค่อนข้างชัด ไม่มีการเตือนด้วยเสียง เวลามีการโทนเข้ามามันจะแสดงสายเรียกเข้าให้เรารู้ได้เป็นรายชื่อและเบอร์โทร แต่เราไม่สามารถรับสายหรือสนทนาโดยตรงได้จากตัว Fit นะครับ เพราะมันไม่มีไมค์รับเสียงในตัว
แต่เราสามารถตั้งค่าข้อความตอบกลับด่วนเอาไว้ได้ครับ ใช้ตัว Fit ในการส่งข้อความกลับโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ได้เลยถ้าเป็นการติดต่อผ่านทางข้อความ หรืออีเมล
โดยรวมแล้วงานออกแบบของ Fit ดูง่ายๆ เข้ากับการแต่งตัวได้หลากหลาย จะใส่เป็นสายรัดสุขภาพตัวรองใส่คู่กับนาฬิกาหรือจะใส่เดี่ยวในวันอยากเบาๆ หรือผู้หญิงจะใส่เป็นนาฬิกาตัวหลักเลยก็ดูเหมาะสมครับ
การใช้งานภายใน
การทำงานโดยส่วนใหญ่ของ Fit จะกำหนดค่าและเซ็ตทุกอย่างด้วยแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “Samsung Wearable” เป็นแอพบนสมาร์ทโฟนครับ แต่แอพตัวนี้ไม่จำเป็นต้องใช้งานกับเครื่องสมาร์ทโฟนของ Samsung เท่านั้นนะครับ มันรองรับการใช้งานได้กับทุกเครื่องที่รันระบบ Android 5.0 ขึ้นไป ใช้ได้ทุกยี่ห้อ รวมถึงอุปกรณ์ iOS ที่ไล่ตั้งแต่รุ่น iPhone 7 ขึ้นไปก็ใช้ได้ด่วยเช่นกันครับ ฉะนั้น Galaxy Fit แทบจะพร้อมต้อนรับคนอยากใช้กันทุกๆ คนเลย
หนึ่งแอพ เชื่อมต่อสลับการสั่งงานได้หลายอุปกรณ์เสริมของ Samsung ครับ เป็นแอพที่ออกแบบมาสวยงามและใช้งานดีมากๆ ตัวนึงเลยทีเดียว
แอพพลิเคชั่น Samsung Wearable จะเป็นจุดศูนย์กลางการสั่งงานของ Fit ครับ จำเป็นสำหรับการใช้งานในช่วงเริ่มต้นเพราะต้องเซ็ตค่า วัน เวลา การแจ้งเตือน หน้าปัดนาฬิกา รวมถึงอัพเดทระบบของ Fit ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทุกอย่างต้องทำผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้ครับ
ภายในแอพเราสามารถกำหนดตั้งค่าการแสดงผลได้ ความสว่าง การปลุกหน้าจอ ตั้งค่าหน้าปัดนาฬิกาหน้าแรกตามที่ต้องการได้
นอกจากด้านการแสดงผลแล้ว ก็ระบุตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ครับ จะให้แจ้งเตือนอะไรบ้างกำหนดได้เลย ควบคุมเวลาห้ามรบกวน
เมื่อเสร็จสิ้นการตั้งค่าต่างๆ ตามที่เราต้องการแล้ว ในการใช้งานส่วนใหญ่ ตัว Fit จะทำงานให้อัตโนมัติครับ ทั้งการตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายเช่น ชีพจร, จำนวนก้าว, ระยะการเดิน, เวลาในการนั่ง และตรวจจับการนอน ทั้งหมดเป็นพื้นฐานที่ตัว Fit จะตรวจจับของมันเองได้อัตโนมัติโดยเราไม่ต้องกดอะไรครับ
นั่งนานๆ ตัว Fit ก็จะรู้และเตือนให้เราขยับร่างกายบ้าง หรือเอาสภาวะร่างกายและการหายใจของเรามาคำนวนเป็นความเครียดของร่างกายเป็นต้น
ซึ่งกิจกรรมร่างกายของเราทั้งหมด จะถูกซิงก์จัดเก็บเข้ากับบัญชี Samsung Health ซึ่งเป็นอีกฟังก์ชั่นที่ฝังอยู่ในแอพ Samsung Wearable ครับ โดยจะเหมือนเป็นสมุดบันทึกด้านสุขภาพส่วนตัวเลยละครับ เพราะสามารถเป็นผู้ช่วยในการบันทึกข้อมูลการดื่ม การกิน อาการทางร่างกายของเราเอาไว้ได้เกือบทุกหัวข้อสำคัญ
ภายใน Samsung Health จะเป็นข้อมูลด้านสุขภาพของเราทุกอย่าง มันจะรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวในแต่ละวันของเรา สร้างเป็นตารางกราฟให้ดูย้อนหลังได้ง่ายๆ โดยมีการประเมินออกมาให้รู้ว่าการใช้ชีวิตของเราในแต่วันนั้นส่งผลอย่างไรกับสุขภาพ นอนเพียงพอมั้ย. ใช้พลังงานกำลังกายน้อยไปหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี่รวมเอาไว้เป็นประวัติให้ผู็สวมใส่ Fit ได้รู้และดูกันย้อนหลังเป็นรายวันได้เลยครับ
Samsung Health ยังเป็นจุดศูนย์รวมของ “การออกกำลังกาย” ด้วยนะครับ เราสามารถเปิดโหมดการตรวจจับการออกกำลังกายที่มีเกือบๆ ร้อยชนิดที่ถูกบรรจุไว้ภายใน
อยากออกกำลังกายชนิดไหน ใช้แอพตัวนี้และ Galaxy Fit ร่วมกัน เป็นโค๊ชและผู้ช่วยได้ในทุกๆ กิจกรรมเลย ผมว่ามันน่าจะครบแล้วนะ เพราะมีหมดแม้แต่สิ่งที่ผมนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ 555
ตัว Galaxy Fit และอุปกรณ์สมาร์ทโฟน จะจัดเก็บข้อมูลการออกกำลังกายให้เราครบถ้วน ทั้งอัตตราการเต้นของหัวใจ ระยะทาง เส้นทาง จำนวนพลังงานที่ใช้ ทุกอย่างถูกคำนวนออกมาให้เห็นตามความเหมาะสมของการออกกำลังกายชนิดนั้นๆ ครับ
ยังมีโปรแกรมกิจกรรมพิเศษ ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับแอพพลิเคชั่นและบริการด้านสุขภาพระดับโลกเจ้าอื่นๆ ครับ ซึ่งในจุดนี้คนใช้ชอบมาก เพราะมันเหมือนกับเราไปเข้ายิมฝึกสอนกันเลยละครับ แต่อันนี้เป็นโค๊ชส่วนตัว ที่เราเรียกใช้งานได้จากใน Samsung Health ครับ อยากจะเข้าโปรแกรมกิจกรรมอะไร กดเข้าใช้งานได้เลย มีมากมายให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ที่เราต้องการ แต่ส่วนใหญ่เป็นไกด์ภาษาอังกฤษนะครับ
จะเห็นว่าตัว Galaxy Fit ได้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่น Samsung Wearable เยอะมาก ความคุ้มค่าของตัว Fit มันอยู่ที่แอพตัวนี้แหละครับ เป็นแอพระดับโลกที่ Samsung พัฒนามาร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกมาต่อเนื่องหลายปี จึงมีฟังก์ชั่นเยอะสุดๆ ครอบคลุมความต้องกานในการใช้งานแยะมากทั้งด้านสุขภาพและการเป็นอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ครับ
ข้อดีของแอพตัวนี้เมื่อเราใช้อุปกรณ์ Fit ราคาประมาณ 3,290 บาท ก็ไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์แพงหลายพันหรือเป็นบางตัวเป็นหลักหมื่น แต่ได้แอพใช้งานในระดับสูงอย่าง Samsung Wearable และ Samsung Health มาใช้งาน ซึ่งแอพเชื่อมต่อเจ้าอื่นๆ หาที่ทำได้ขนาดนี้มีน้อยมาก นี่คือจุดขายของอุปกรณ์สวมใส่ของ Samsung ครับ
ตัว Fit เองก็ออกแบบมาได้ดี สวมใส่เบาๆ ไม่ระคายเคืองผิวเลยตลอดการใช้งานสองสัปดาห์ ตัวแบตเตอรี่ก็อยู่กับเราได้ 4-5 วัน เรียกว่ากำลังดี ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยๆ ทุกวัน
สรุปท้ายรีวิว
Samsung Galaxy Fit เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ใช้ได้ในหลายสถานะครับ ความสามารถอยู่ในระดับสมาร์ทวอทช์และใส่เป็นนาฬิกาตัวหลักหรือสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพตัวรองก็ได้
หน้าจอสีสวย แสงสดใส ใช้งานได้ในที่แจ้ง กันน้ำระดับใส่ลงว่ายน้ำได้ไม่ต้องกลัวพัง รองรับการออกกำลังกายมากมายเกือบร้อยชนิดและมีกิจกรรมจากแอพระดับโลกมาให้ใช้เป็นโค๊ช ผ่านแอพพลิเคชั่นตัวเก่ง Samsung Wearable และ Samsung Health ซึ่งเป็นแอพใหญ่ที่พัฒนามาได้ไกลมากครับ
ระบบการตรวจจับร่างกายจากที่ทดสอบ สามารถตรวจจับได้แม่นยำในระดับรับได้ ทั้งในเส้นทางการเดิน เวลาในการนั่ง และตรวจจับการนอนในแต่ละวัน ทุกอย่างทำงานอัตโนมัติโดยเราไม่ต้องไปกดหรือคอยเปิดปิดอะไร แค่ใส่แล้วใช้ชีวิตไปตามปกติครับ
ถือว่าเป็นอุปกรณ์สวมใส่ร่างกายที่ใช้งานง่าย หลากหลายประโยชน์ ออกแบบได้หยืดหยุ่นว่าจะใส่เป็นนาฬิกาหรือสายรัดข้อมือสุขภาพ และถ้าต้องการใช้งานในระดับ Advance มากขึ้น ตัวแอพพลิเคชั่น Samsung Wearable และ Samsung Health ก็พร้อมรองรับ ความคุ้มเจ้าตัวนี้จึงเป็นเรื่องของการใช้งานที่ได้ประโยชน์หลากหลายมุมมากๆ ครับ