Samsung Galaxy Fit 2 เป็นอุปกรณ์สมาร์ทแบนด์ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ที่ออกแบบมาเพื่อให้เราสวมใส่เอาไว้ทุกวัน เน้นแบตเตอรี่อึดที่สามารถใช้งานได้สูงสุดประมาณ 21 วัน
สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์สวมใส่แบบติดตามการออกกำลังกายและตรวจจับการเคลื่อนไหวจาก Samsung ที่ราคาประหยัดและตัวเล็กที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะแนะนำเป็น Galaxy Fit 2 นี้แหละครับ ราคาเบา ตัวเครื่องเบา และสามารถใช้งานบริการ Samsung Health ที่มีโปรแกรมการออกกำลังกายและแผนเทรนนิ่งดูแลสุขภาพระดับโลก ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าตัวอุปกรณ์ไปไกลแสนไกลครับ เพราะทุกอย่างที่ Samsung เตรียมไว้ให้ แถบจะฟรีทั้งหมด ขอแค่เพียงเรามีอุปกรณ์ตรวจจับสุขภาพของเขาสักตัว แม้จะเป็นรุ่นเล็กก็ตาม
ซึ่งราคามันก็แค่ 1,590 บาทเท่านั้นเอง เมื่อดูจากประสิทธิภาพของตัวอุปกรณ์บวกกับโปรแกรมเทรนนิ่งภายในที่เราจะใช้ได้ มันคุ้มกว่าราคาจำหน่ายมากมายเลยทีเดียวครับ แบรนด์อื่นยังไม่มีใครให้เราขนาดนี้ในราคาเริ่มต้นเพียงเท่านี้ครับ
การใช้งานของ Fit 2 เชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable ของ Samsung ผ่านสัญญาณ Bluetooth 5.0 รองรับกับอุปกรณ์ทุกยี่ห้อในระบบ Android และ iOS ทั้งคู่ (ต้องเป็น Android 5.0 ขึ้นไป และมี RAM อย่างน้อย 1.5GB ส่วนของ iOS ต้องเป็น iOS 10.0 ขึ้นไป และ iPhone 7 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า ) ก็เรียกว่าแทบจะใช้งานได้กับทุกสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ในตลาดนั้นแหละครับ
ตัวอุปกรณ์
สมาร์ทแบนด์ที่ออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่กาย ใส่ติดตัวไว้ตรวจจับทุกกิจกรรมชีวิตโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน วิ่ง หรือการออกกำลังกาย และถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานน้อย บนแบตเตอรี่เต็ม 100% เราสามารถใช้งานได้นานถึงสองอาทิตย์ และถ้าปิดฟังก์ชั่นการตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ มันจะอยู่กับเราได้มากสุดถึง 21 วัน แต่จากที่ผมได้มาลองใช้งานประมาณ 8 วัน ใช้ทดสอบการทำงานหลายๆ อย่าง จนครบ 8 วัน แบตเตอรี่มันถูกใช้ไปประมาณแค่ 55% ซึ่งก็ตรงกับคำโฆษณาของทาง Samsung ครับ ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยๆ
ตัวมันเล็กมากครับ น้ำหนักเบาด้วย หนักแค่ 24 กรัม สวมใส่แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ใส่สบายนะเพราะตัวเครื่องมันบางลงกว่ารุ่นก่อน ใช้สายรัดข้อมือแบบเว้าและก้านล็อกที่ขยับความแน่นของสายได้โดยไม่ต้องถอดออกมาครับ แค่ปลดล็อกหมุดขึ้นมากแล้วเลื่อนขยับช่องล็อคใหม่ที่ต้องการได้เลย ออกแบบดี ขยับสายง่ายไม่ต้องถอด
ใช้หน้าจอ 1.1 นิ้ว AMOLED กระจกโค้ง 3D Curved ความสว่าง 450 nits จอภาพไม่ใหญ่ ภาพชัด สีแบบจอ AMOLED มองเห็นได้ในแสงกลางวัน
ตัวเรือนมันไม่มีปุ่มใดๆ เลยครับ ใช้การทัชและสไลด์หน้าจอเพื่อสั่งงาน โดยจะมีพื้นที่ทัชใต้หน้าจอสำหรับเป็นปุ่มย้อนกลับเท่านั้น ความทนทานดูไว้ใจได้ จากที่ผมทำหน้าจอไปกระแทกหลายหน ยังไม่มีรอยและยังไม่พัง 555 มันผ่านการทดสอบทางทหาร MIL-STD 810G มาด้วย ฉะนั้นก็น่าจะทนมากพอสำหรับการกระแทกแบบที่ผมเผลอไปหลายหน ^^
กันน้ำได้แบบใช้ลงเล่นกีฬาทางน้ำได้เลยครับ สูงสุดที่ 5 ATM ลึกสูงสุด 50 เมตร IP68 และไม่ต้องกลัวว่าหน้าจอของ Fit 2 จะทำงานเองเพราะโดนน้ำเมื่อเราไปว่ายน้ำนะครับ เพราะว่ามีฟังก์ชั่นป้องกันการโดนสัมผัสจากน้ำเหมือนเครื่องรุ่นใหญ่ของ Samsung ด้วยครับ
ก็สมบูรณ์ครับทนน้ำทนฝุ่นลึกและทนต่อแรงสั่นสะเทือนหรือการกระแทก ฉะนั้นใส่ไปลุยไตรกีฬาได้เลย ^^
ภายในของ Fit 2 จะใส่เซนเซอร์ไว้สามตัว ประกอบด้วยเซนเซอร์ตรวจวัดชีพจรแบบ Photo Plethysmography อยู่ด้านหลัง และภายในเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว Accelerometer และ Gyro sensor เป็นพื้นฐานตัวตรวจจับข้อมูลร่างกาย
ตัวเครื่องโดยรวมก็ออกแบบมาเหมาะสมดีครับ ทนทาน ทนน้ำ เล็กเบาและหน้าจอแสดงผลก็สวยดี ข้อเสียก็อาจจะเป็นที่มันปิดเครื่องไม่ได้ถ้าแบตมันไม่หมดเองซะก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะปิดทำไมเพราะแบตมันอึดซะขนาดนั้น และเขาก็ออกแบบมาให้เราสวมใส่ไว้ตลอด ไม่ว่าจะอาบน้ำหรือจะเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ก็สวมใส่ไว้ครับ รวมถึงขณะที่เรานอน มันจะได้ตรวจคุณภาพการนอนของเราในแต่ละคืนได้ด้วย
อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีตัวอุปกรณ์และตัวชาร์จแบต ซึ่งเป็นแบบขั้วชาร์จยึดด้วยขาล็อค เสียบชาร์จกับอเดปเตอร์ USB ทั่วไปได้เลยครับ ใช้กำลังไฟชาร์จไม่ต้องแรงเพราะแบตมันเต็มเร็วมาก ผมใช้งานแบตยังไม่เคยหมดแต่จากที่ลองชาร์จจากแบตประมาณ 45% ไปจนเต็ม ด้วยพาวเวอร์แบงค์ 2.4A ทั่วไปชาร์จแค่ไม่ถึง 20 นาทีก็เต็มแล้วครับ
การชาร์จไม่จำเป็นต้องถอดตัวเรือนออกจากสาย ขั้วล็อคแข็งแรงไม่หลุดง่ายๆ แต่ถอดเปลี่ยนสายได้ไม่ยากครับถ้าต้องการเปลี่ยนสายใหม่ ก็บิดลงไปด้วยมือได้เลย
การใช้งาน
การใช้งานของ Fit 2 จะเริ่มต้นจากการเชื่อมต่อผ่าน แอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable ซึ่งดาวน์โหลดได้ทั้งจาก Google Play Store และ App Store ของ iOS จะเป็นแอพพลิเคชั่นศูนย์รวมการเชื่อมต่อของอุปกรณ์จาก Samsung ทั้งการตั้งค่า เปิดปิดฟังก์ชั่น รวมถึงการอัพเดทระบบบใหม่ๆ ให้กับอุปกรณ์ครับ
การใช้งานใช้การทัชและการสไลด์หน้าจอ ซ้ายขวา ขึ้นลง และใช้การทัชเพื่อเลือก ซึ่งการตอบสนองไม่ช้าอืดอาด ทัชไม่ยาก แต่ความเร็วไม่ไวมาก และจะมีจุดทัชด้านใต้จอเพื่อใช้เป็นคำสั่งย้อนกลับ
ในการตั้งค่าหลักๆ ใน Galaxy Fit2 ในแอพ Galaxy Wearable ก็จะเป็นการกำหนดแอพพลิเคชั่นที่จะให้ไปแจ้งเตือนในตัว Fit 2 โดยจะสามารถแจ้งเตือนได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้า หรือข้อความ และการติดต่อแชตผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ ซึ่งตัวระบบสามารถแจ้งเตือนเป็นภาษาไทยได้สมบูรณ์ครับ
เลือกใช้หน้าจอที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ สวยงามครับเน้นสีสันและออกแนวสปอร์ต มีการแสดงข้อมูลที่สำคัญบนหน้าจอได้ ตามลักษณะหน้าจอที่เราเลือก
สามารถเลือกใช้ และเรียงวิตเจ็ตบนหน้าจอของ Galaxy Fit 2 ได้ครับ จะเพิ่มหรือลด หรือจะเรียงอะไรไว้ก่อนหรือหลัง ก็สามารถเรียงใหม่ได้ และกำหนดชนิดการออกกำลังกายที่เรานิยมใช้บ่อยๆ ได้บนวิตเจ็ต 10 ชนิด โดยใน Fit 2 จะมีการออกกำลังกายให้เลือกมาใช้ได้ประมาณ 90 ชนิด ซึ่งเยอะมาก
หลายๆ อย่างไม่นับเป็นการออกกำลังกายหรือกีฬาด้วยซ้ำ แต่เป็นกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เจ้า Fit 2 ก็ยังมีชุดโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ เอาไว้จัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันกับการออกกำลังหรือกีฬานั้นๆ ได้อย่างเหมาะสมที่สุดครับ
เราสามารถกำหนดแอพที่จะต้องการให้แจ้งเตือน กำหนดรูปแบบการสั่นแจ้งเตือน เช่นจะเปิดหรือปิด หรือให้สั่นแบบสั้นหรือยาวได้ แต่จะไม่มีการแจ้งเตือนแบบเสียงนะครับ เพราะใน Fit 2 จะไม่มีทั้งลำโพงและไมค์ ใช้งานด้วยเสียงไม่ได้เลย
การปรับความสว่างของจอแสดงผล และเลือกระยะเวลาที่จะให้หน้าจอดับเอง มีตั้งแต่ 4วินาที ไปจนถึง 5นาที เราสามารถตั้งค่าให้หน้าจอติดขึ้นเองเมื่อยกข้อมือขึ้นมาดูได้ครับ และสามารถปิดหน้าจอได้ทันทีด้วยการใช้ฝ่ามือปิดไปบนหน้าจอ
โดยจะมีโหมด Good Night เพื่อไม่ให้หน้าจอของเครื่องและการสั่นเตือนติดขึ้นมาในระหว่างที่เรานอนหลับ และตัว Fit 2 จะสามารถซิงก์ระยะเวลา “ห้ามรบกวน” กับการตั้งค่าในสมาร์ทโฟนที่มาเชื่อมต่อได้นะครับ
จะเห็นว่าในการตั้งค่าขั้นสูง จะมีฟังก์ชั่นหนึ่งซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กันเราลืมมือถือที่เชื่อมต่อทิ้งไว้ได้ด้วยนะ โดยการเปิดฟังก์ชั่น “การเตือนเมื่อหลุดจากการเชื่อมต่อบลูทูธ” เมื่อเราลืมสมาร์ทโฟนแล้วเดินพ้นระยะการเชื่อมต่อ (จากที่ทดสอบจะหลุดการเชื่อมต่อที่ระยะ 25 เมตรโดยประมาณ) ตัวสายรัดก็จะสั่นเตือนขึ้นมาครับ
ระบบของ Fit 2 จะเปิดให้เราสร้างข้อความตอบกลับด่วนเพิ่มเติมจากพื้นฐานที่มีอยู่ สำหรับใช้ในการตอบกลับแอพแชต เช่น Messenger, Line ได้ครับ เป็นการตอบรับการติดต่อทันทีจากตัวสายรัดโดยไม่ต้องจับสมาร์ทโฟน
ตัวนาฬิกาและสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ สามารถเรียกค้นหากันและกันได้นะ โดยตัวสมาร์ทโฟนจะส่งเสียงเรียกเข้า ส่วนบน Fit2 จะเป็นการสั่นเพราะไม่มีลำโพงอย่างที่บอกนั้นเองครับ
ฟังก์ชั่นที่เรากำหนดให้แจ้งเตือนเราได้บนตัวสายรัดก็จะมีโหมดใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยอย่าง “การล้างมือ” เราสามารถตั้งค่าให้เตือนเราให้ล้างมือได้ตามระยะเวลาที่เรากำหนดระหว่างวันครับ และจะเป็นตัวคอยนับถอยหลังให้เราด้วย เพื่อให้เราได้ล้างมือนานมากพอ
เราสามารถเปิดใช้ได้เองผ่านหน้า Widget บนหน้าจอได้ด้วยนะครับ
รวมถึงการตั้งการปลุกด้วยการสั่นของสายรัดได้เป็นรายวัน รายสัปดาห์ โดยการปลุกด้วยสายรัดข้อมือมันไม่ต้องใช้เสียงที่อาจจะไปรบกวนคนอื่นที่นอนอยู่ภายในห้องเดียวกัน แต่เป็นการปลุกแบบส่วนตัวด้วยการสั่นที่ข้อมือของเราเอง
สามารถใช้งานตัว Galaxy Fit2 ในการควบคุมการเล่นเพลงบนตัวสมาร์ทโฟนได้นะครับ เล่นเพลงหยุดเพลง ข้ามเพลง ลดและเพิ่มเสียง โดยจะแสดงข้อมูลชื่อเพลงซะด้วย (รองรับภาษาไทยเช่นกัน)
การใช้งานของ Galaxy Fit2 ส่วนใหญ่ที่เหลือหลังการตั้งค่าตามที่เราต้องการไปบนแอพแล้ว ก็จะเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติซะเกือบทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับสุขภาพ การเคลื่อนไหวในแต่ละวัน เช่นการเดินในแต่ละวัน การวิ่งในแต่ละวัน อัตราการเต้นของหัวใจที่ตรวจจับเอาไว้ทั้งหมด รวมถึงคุณภาพการนอนที่ตรวจจับได้ถึงสี่ระดับ โดยจะข้อมูลได้ทั้งช่วงการตื่นระหว่างนอน และ REM หรือ Rapid eye movement sleep ซึ่งเป็นช่วงการนอนหลับที่ได้รับการผักผ่อน และระดับนอนหลับลึกและปานกลาง รวมเป็นสี่ระดับ
ตัวสายรัด Fit2 มีอัลกอริทึมที่สามารถตรวจจับความเครียดและแจ้งเตือนการเต้นของหัวใจที่อันตรายของผู้สวมใส่ได้นะครับ โดยถ้าอุปกรณ์ตรวจจับเจอการเต้นของหัวใจในระดับสูงต่อเนื่องกันเป็นเวลาที่ดูมีความอันตราย มันจะมีการเตือนขึ้นมาเพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ระวังตัว รวมถึงความเครียดของร่างกายที่ถ้าตรวจพบค่าที่สูงกว่ามาตรฐาน ในตัวชุดโปรแกรมก็จะมีเครื่องมือการทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ และขั้นตอนการผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับผู้ใช้ด้วย ทำมาครบวงจรครับ ทั้งตรวจจับและการเตือน รวมถึงวิธีการแก้ไขเบื้องต้น
มันตรวจจับอัตโนมัติได้ถึงการออกกำลังกายพื้นฐาน 5 รูปแบบได้อัตโนมัติ เดิน, วิ่ง, ยืดกล้ามเนื้อ (Dynamic Workout), เครื่องเดินวงรี (Elliptical Trainer), และ เครื่องกรรเชียงบก (Rowing Machine)
โดยข้อมูลด้านสุขภาพทั้งหมดจะแยกต่างหากจากแอพจัดการเครื่อง Galaxy Wearable นะครับ แต่จะเป็นแอพระดับพรีเมี่ยม Samsung Health ที่จะเข้ามารับหน้าที่บันทึกข้อมูลสุขภาพของเรา ซิงก์ข้อมูลการเคลื่อนไหวและการนอนในแต่ละวัน เข้ามาจัดเก็บและแสดงเป็นกราฟข้อมูลให้เราไว้ทั้งหมด ( โหลดSamsung Health บน Google Play Store และ App Store ของ iOS ) โดยจะเป็นการซิงก์ข้อมูลในโปรไฟล์ไอดีของเรา ใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดระหว่างข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่ของ Samsung ทั้งหมด ถูกจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลสุขภาพส่วนตัวของเราในแอพพลิเคชั่นนี้ครับ
โดยเจ้าแอพ Samsung Health เนี้ยแหละครับ คือความคุ้มค่าที่สุดของอุปกรณ์สวมใส่จาก Samsung มันมีคอนเทนต์ที่พรีเมี่ยมจากผู้ออกแบบโปรแกรมเทรนนิ่งระดับโลก เป็นบริการผสานการออกกำลังกายกว่า 90 ชนิด และโปรแกรมฝึกร่างกายต่างๆ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนมาให้ใช้งานกันได้ฟรี
ใครจะเทรนนิ่งตัวเองเพื่อการวิ่งระยะไกล การทำโยคะ หรือแผนการออกกำลังกายรายวัน รวมถึงการออกกำลังเพื่อการลดน้ำหนักโดยตรง มีแผนให้ใช้งานกันได้ใน Samsung Health นะครับ เลือกแผนการออกกำลังกายที่ต้องการแล้วดาวน์โหลดมาใช้งานได้เลย มูลค่าของโปรแกรมเหล่านี้ที่ไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มนี้แหละ ที่เกินคำว่าคุ้มค่า
โดยในแผนจะเป็นไฟล์วีดีโอนำการออกกำลังกายจริง พร้อมเสียงแนะนำ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สวมใส่เพื่อจัดเก็บการเคลื่อนไหวและสุขภาพของหัวใจ
โดยเจ้าโปรแกรม Samsung Health มันสามารถเชื่อมต่อการแสดงผลกับอุปกรณ์หน้าจอภายนอกแบบไร้สาย เพื่อแสดงบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ในบ้านเราได้ด้วยนะครับ ใครมีทีวีที่รองรับ หรืออุปกรณ์อย่าง Google Chromecast ก็เชื่อมต่อภาพออกบนจอใหญ่ได้เลย เห็นกันชัดๆ ทั้งภาพเทรนนิ่งและอัตราการเต้นของหัวใจที่ตรวจจับไว้แบบเรียลไทม์
ไม่ใช่แค่โปรแกรมออกกำลังพัฒนาทางกายเท่านั้นนะครับ ใน Samsung Health ยังมีแผนสำหรับการพัฒนาทางสมาธิจิตใจด้วย เป็นการพัฒนาด้วยโปรแกรมกำหนดลมหายใจ การทำสมาธิ และการผ่อนคลายก่อนการนอน ผ่านโปรแกรมเสียงของเทรนนิ่ง บรรยากาศจำลอง และเสียงเพลง ซึ่งในโหมดการพัฒนาสมาธิจะไม่เหมือนกับโปรแกรมการดูแลสุขภาพร่างกายนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ฟรี เป็นบริการแบบสมาชิกของ Calm ผู้ให้บริการด้านการนอนหลับและการทำสมาธิ ทดลองใช้ฟรีได้ 7 วัน หลังจากนั้นเสียค่าสมาชิก 49.99$ ต่อปี แต่จะมีให้ใช้ฟรีในบางฟังก์ชั่นครับ เข้าไปลองกันได้
ด้วยการที่อุปกรณ์ของ Samsung มีผู้ใช้ในโลกอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ฉะนั้นจึงมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ใช้เป็นแคมเปญที่ Samsung ออกแบบมาให้เราแชร์สถิติร่วมกันกับเพื่อนผู้ใช้ทั้งโลกที่เข้าร่วมแคมเปญ เป็นการเพิ่มความสนุกในการออกกำลังกายโดยมีเป้าหมายมากขึ้นนั้นเองครับ ^^
สรุปท้ายรีวิว
Samsung Galaxy Fit 2 ในด้านการเป็นอุปกรณ์สวมใส่ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของขนาดครับ เบามาก แต่มีความทนทานสูง หน้าจอสวย แสงสว่างและสีสันสด ใส่ติดตัวได้ตลอดเวลาด้วยมาตรฐานกันน้ำ 5ATM และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ประมาณสองอาทิตย์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไม่ต้องถอดออกบ่อยๆ เป็นสมาร์ทแบนด์ที่สามารถชาร์จได้เลยโดยไม่ต้องถอดสายออกก่อน
การทำงานค่อนข้างครบที่ควรจะมี มีการตรวจจับอัตโนมัติที่เหมาะกับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การเดิน การวิ่ง และการนอนซึ่งตรวจวัดได้ละเอียดถึง 4 ระดับ และสอดรับชีวิตในยุคสมัยใหม่ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นแจ้งเตือนการล้างมือ รองรับการออกกำลังกายมากถึงกว่า 90 รูปแบบ รวมถึงตรวจจับความเครียดและอัตราเต้นของหัวใจพร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบการเต้นหัวใจที่เป็นอันตราย และเป็นผู้ช่วยสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ในระดับหนึ่งด้วย
ความคุ้มค่าที่โดดเด่นที่สุดอยู่ที่โปรแกรมดูแลสุขภาพระดับพรีเมี่ยมที่อยู่ใน Samsung Health มีครบทุกแนว การดูแลสุขภาพ การเสริมสร้าง และการพัฒนาตัวเอง โปรแกรมการออกกำลังกายจากผู้ให้บริการระดับโลกใช้งานฟรี พร้อมเทรนนิ่งที่เป็นภาพประกอบแบบวีดีโอ สามารถเชื่อมต่อการจับการเคลื่อนไหวและอัตราหัวใจแบบเรียลไทม์จากสายรัด Fit 2 และสามารถแสดงภาพเทรนนิ่งขึ้นจอทีวี
ทำให้การออกกำลังจากสายรัดเล็กๆ ดูเป็นการออกกำลังกายในระดับมืออาชีพ เกินราคาค่าตัวไปไกลมากครับ เพราะฟังก์ชั่นและบริการเต็มขนาดนี้ ได้รับไปทั้งหมดไม่มีกั๊ก ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์แค่ 1,590 บาทครับ