Samsung Galaxy S22 Ultra สุดแล้วครับ! สุดใจจาก Samsung ที่ขอรวมเอาความสามารถจากสมาร์ทโฟนในตระกูล Note series และ S series ไว้ในเครื่องเดียว มอบทั้งสุดยอดกล้อง สุดยอดประสิทธิภาพเครื่อง และกับ S Pen ปากกาเขียนหน้าจอที่ดีที่สุดของวงการสมาร์ทโฟน เอามารวมไว้ให้แบบครบ จบในตัวเดียว
ปีนี้ Samsung เปิดตัว Galaxy S22 Series ออกมาสามรุ่นครับ นั้นคือ Galaxy S22, Galaxy S22+ และ Galaxy S22 Ultra ตัวท็อปสุดเลย หลักๆ ที่แตกต่างกันก็เป็นเรื่องของขนาดจอ โดย Galaxy S22 Ultra มากับหน้าจอที่ใหญ่สุดเลยครับ 6.8 นิ้ว และรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen พร้อมช่องเก็บปากกาในตัว
Galaxy S22 Ultra ทรงพลังมากครับ ตั้งแต่ภายนอกถึงสเปคภายใน รอดูไปทีละหัวข้อ จะพบว่ามันมากับไฮเทคโนโลยีใหม่แทบทุกหัวข้อเลยครับ
ตัวเครื่องภายนอก
ตัวเครื่องภายนอกเพรียวบาง จอใหญ่ ขอบข้างโค้งดูเรียบร้อย สวยหรูและดูง่าย ดูแพงแบบลงตัวไม่รกรุงรัง ผิวฝาหลังทำจากกระจกขัด ให้ผิวสัมผัสด้านแบบ Haze finish หรูหราและแข็งแกร่ง ที่สำคัญไม่เกิดรอยนิ้วมือในการใช้งาน แค่สัมผัสลูบไล้ก็รู้แล้วเป็นของดี
มีเข้ามาจำหน่ายสี่สี สวยหมดผมบอกเลย สีดำ Phantom Black, สีขาว Phantom White, สีเขียว Green, และสีโทนแดง Burgundy เป็นเครื่องที่เห็นในรีวิวนี้ครับ และยอดจองทั่วโลกสี Burgundy เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ตัวเครื่องของ Galaxy S22 Ultra แกร่งมากครับ โครงเครื่องผลิตขึ้นรูปด้วยโลหะ กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus+ งานประกอบสมเป็นเรือธงเต็มขั้น สุดหน้าจอก็เป็นตัวเครื่องฝาหลังเลยครับ จะเรียกว่าหาขอบจอแทบไม่เจอ
จอขนาด 6.8 นิ้ว เทคโนโลยีใหม่สุดๆ Dynamic AMOLED 2X adaptive display รองรับการแสดงผล HDR10+ รีเฟรชเรทปรับได้เอง ตั้งแต่ 1~120Hz ความคมชัดสูงมาก QHD+ ความสว่างหน้าจอสูงมากอีกเช่นกัน สว่างสุดที่ 1750 nits เล่นเกมกลางแดดยังมองเห็น จอเทพของจริง สมกับเป็นสินค้าที่มาจากผู้ผลิตจอรายใหญ่ของโลกทำเอง
ขนาดจอใหญ่มากๆ ครับ ขนาด 6.8 นิ้วนี่คือน้องๆ แท็ปเล็ต แต่ Samsung ทำเครื่องออกมาได้เล็กแค่นี้ เพราะจอมันชิดจรดฝาหลังเลย การออกแบบข้างเครื่องก็จะไม่มีคมเหลี่ยมให้ระคายมือ โค้งเสมอสมดุลทั้งสองด้านซ้ายขวา แต่บนล่างตัดขอบเคลือบเงาเอาไว้ทั้งด้านบนและล่าง เก็บงานเนี๊ยบครับ
หน้าจอรองรับ S Pen และแน่นอนว่าสำหรับ Galaxy S22 Ultra มาพร้อมช่องเก็บปากกา ที่เป็นช่องชาร์จปากกาในตัว เพราะปากการุ่นนี้เป็น S Pen ที่มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth ในตัว ใช้สั่งงานระยะไกลได้ เช่นเป็นรีโมทถ่ายภาพ หรือการเลื่อนสไลด์นำเสนอพรีเซนเทชั่นได้ เพราะตัวปากกามี Gyro Sensor เรียกว่ายกเอาคุณสมบัติของ Note Series มาเต็มๆ ก็เป็นการรวมตัวกันของสองซีรี่ส์อย่างสมบูรณ์ครับ
และไม่ใช่แค่ยกมา แต่พัฒนามากขึ้นด้วย เพราะสำหรับ S Pen และ Galaxy S22 Ultra มีความไวของการตอบสนองกับปากกา ที่เร็วขึ้นกว่า 70% ครับ ถ้ารุ่นก่อนใครที่ตอบสนองได้ไวถึง 9ms แบ้สยังรู้สึกได้อีกว่าปากกามีความหน่วง ตอนนี้แทบไม่เหลือแล้วครับ เพราะอัตราตอบสนอง S Pen ใหม่อยู่ที่ 0.28ms เท่านั้น เร็วขึ้นกว่า 3 เท่า และในระดับความไวนี้แทบแยกไม่ออกแล้วครับระหว่างปากกาจริงหรือปากกาดิจิทัล
งานนี้เราได้คุณ Cherry Cola รับไปทดสอบการวาดรูป เอาผลงานมาฝากให้ดูกันในคลิปด้านล่างด้วยครับ
หน้าจอรุ่นนี้จะรองรับการสแกนลายนิ้วมือโดยตรง และฝังกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซลเอาไว้ รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
กล้องหลังใส่มาชุดใหญ่สุดๆ กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล กล้องที่สองเป็นเลนส์ซูม Periscope 10 ล้านพิกเซล ตัวนี้ทำให้ Galaxy S22 Ultra สามารถซูมภาพได้ 10x optical zoom ภาพไม่มีแตกเหมือนเดินเข้าไปถ่ายเอง เลนส์ที่สามเป็นเลนส์ telephoto 10 ล้านพิกเซล ทำการซูมในระยะ 3x optical zoom และช่วยการถ่ายภาพโฟกัสบุคคล สุดท้ายคือเลนส์ Ultrawide มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ช่วยทำงานถ่ายภาพมุมกว้างและโหมดลดการสั่นไหว Super Steady ทั้งในภาพนิ่งและวีดีโอ ไม่มีธรรมดาสักเลนส์ครับ และทั้งหมดรองรับกันสั่นทั้งหมด มี OIS ฝังในเลนส์พร้อมระบบโฟกัส Laser AF ครบ! และคุณภาพกล้องสุดยอดสมการรอคอย ไม่ใช่แค่เฉพาะภาพนิ่งครับ แต่งานวีดีโอเนียนมากๆ ฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ด้วยประสิทธิภาพเครื่องที่สูงลิ่ว งานวีดีโอในฟังก์ชั่นต่างๆ ทำออกมาได้สมบูรณ์มากในการทำงานแบบเรียลไทม์เลยครับ
แบตเตอรี่ใหญ่ 5,000 mAh แต่ตัวเครื่องหนาแค่ 8.9 มิล หนัก 229 กรัม รองรับชาร์จไว 45W ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดังชัดเจน รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
ใช้พอร์mชาร์จแบบ USB Type C ที่เป็นเวอร์ชั่น 3.2 เชื่อมต่อได้หมดครับ อุปกรณ์เสียงอย่างหูฟังที่รองรับ Type C หรือ USB HUB สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมภายนอกเช่นเมาส์หรือแฟลชไดรฟ์ รวมถึงต่อจอแสดงผลภายนอกได้ ผ่านพอร์ตนี้เช่นกันครับ
รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิมการ์ด และรองรับการลงทะเบียนใช้งาน eSim ด้วยนะครับสำหรับ Galaxy S22 Ultra
ด้านหลังสามารถทำเป็นแท่นชาร์ตไร้สาย ชาร์จไฟออกให้กับอุปกรณ์อื่นได้ เป็นแบบชาร์จไวแบบไร้สายด้วยนะครับ
ในดีไซน์สุดพรีเมี่ยมของ Galaxy S22 Ultra ก็ยังมีการเลือกใช้วัสดุที่ผลิตจากการรีไซเคิลมาใช้นะครับ เป็นโครงการที่นำเอาเศษพลาสติกที่เก็บกู้ได้จากมหาสมุทร นำมาผลิตเป็นวัสดุบางส่วนของอุปกรณ์ครับ เช่นผลิตชิ้นส่วนตัวยึด Key bracket, แผ่นรองด้านในของช่องเก็บปากกา S Pen รวมถึงโมดูลลำโพง และชิ้นส่วนด้านในบริเวณปุ่มเปิด-ปิด และปุ่มปรับระดับเสียง ก็จะผลิตจากวัสดุที่ถูกนำมารีไซเคิลเช่นกันครับ ก็เป็นโครงการที่ช่วยกันคนละนิด คนละไม้คนละมือ เพื่อสัตว์ เพื่อทะเล และเพื่อโลกของเรา ที่จะได้อยู่อาศัยกันไปอีกยาวนานมากขึ้นสักหน่อยครับ
และสำหรับรุ่นนี้อุปกรณ์ภายในกล้องจะไม่มีอะไรมาให้เลยนะครับ มีเพียงตัวเครื่องกับเข็มจิ้มซิมและคู่มือเบื้องต้นเท่านั้น ไม่มีที่ชาร์จหรือสายเชื่อมต่อใดๆ แถมมาให้เลย กล่องจึงเล็กมาก เหตุผลก็เป็นการลดการใช้ทรัพยากรโลกอีกเช่นกันนั้นแหละครับ
การใช้งานภายใน
Galaxy S22 Ultra คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร คุณจะได้ใช้หน่วยประมวลเจนเนเรชั่นใหม่สุด Snapdragon 8 Gen 1 ชิปเซ็ต 4 นาโนเมตร ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Machine Learning เป็นชิปเซ็ตที่รองรับทั้ง 5G และนอกจากนี้ยังรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6E ซึ่งมีความเร็วกว่า Wi-Fi 6 ถึงประมาณสองเท่า เรียกว่า เร็ว แรง ทั้งการใช้งานและการเชื่อมต่อไร้สายครับ
สเปคแรงมากครับ แรมเยอะ ชิปเซ็ตตัวแรงท็อปล่าสุด และหน่วยความจำขนาดใหญ่ UFS 3.1 ท็อปสูดทุกด้านในขณะนี้ รันด้วยระบบ Android 12 ครอบทับไว้ด้วย One UI 4.1 และจะบอกว่าทาง Samsung ยืนยันการันตีการดูแลหลังการขาย จะอัปเดตระบบใหม่ให้ต่อเนื่องอย่างน้อย 4 เจนเนอเรชั่น! หมายถึงว่าอย่างน้อยเราจะได้ใช้ Android 16 บน Galaxy S22 Ultra เลยนั้นแหละครับ ^^
ถ้าจะมีสมาร์ทโฟนเครื่องไหนที่ใช้งานกับแพ็กเกจเน็ตที่เร็วกว่า 1Gbps ที่เริ่มให้บริการในบ้านเราได้คุ้มค่าแล้วละก็ หนึ่งในนั้นก็เป็น Samsung Galaxy S22 Sereis นี้แหละครับ
มีเปิดจำหน่ายในสามระดับหน่วยความจำ
- Galaxy S22 Ultra (8/128) วางจำหน่ายในราคา 39,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/256) วางจำหน่ายในราคา 43,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/512) วางจำหน่ายในราคา 47,900 บาท
Galaxy S22 series ได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์ม Knox Vault สามารถคัดแยกข้อมูลละเอียดอ่อน เช่นรหัสผ่าน ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของผู้ใช้ หรือบล็อกเชนคีย์ นำออกจากระบบปฏิบัติการหลักของสมาร์ทโฟนไปอย่างสมบูรณ์ครับ การโจมตีไซเบอร์ที่พุ่งเป้ามายังระบบปฏิบัติการและหน่วยความจำของสมาร์ทโฟนจะเข้าไม่ถึงข้อมูลความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกฝังไว้บริการให้กับผู้ใช่ Galaxy S22 series ทุกคนครับ
ระบบการเชื่อมต่อที่ทำให้ใช้งานได้มากกว่าการเป็นสมาร์ทโฟน นั้นคือ Dex Mode เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็น PC เชื่อมต่อจอแสดงผลภายนอกได้ทั้งแบบเสียบสายและไร้สายในทีวีที่รองรับ เพื่อใช้งานมือถือให้กลายเป็นคอมพ์พกพา ทำงานบนหน้าจอใหญ่ๆ ได้ถนัดกว่า
ทาง Samsung มีการจับมือกับ Microsoft ใส่ความสามารถที่ลิงก์ข้อมูลของเครื่องเข้ากับการทำงานแบบหลายอุปกรณ์เอาไว้ เช่น การเชื่อมต่อกับบริการ OneDrive สำหรับการสำรองรูปภาพ และบริการ Samsung Cloud สำหรับการข้อมูลส่วนตัวของเราต่างๆ ขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์ได้ฟรี เพื่อเรียกใช้งานได้จากอุปกรณ์อื่นๆ เวลาเราเปลี่ยนเครื่องใช้งานในภายหลังครับ
รวมถึงความสามารถ Link To Windows เอาไว้ใช้เรียกใช้งานสมาร์ทโฟนของเราผ่านหน้าจอของเครื่อง Windows ได้ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ เชื่อมต่อบัญชีเดียวกันเข้ากับคอมพ์พิวเตอร์ เราก็สามารถเข้าถึงการทำงานทั้งหมดของ Galaxy S22 Ultra ไม่ว่าจะดูการแจ้งเตือน การโทรออกและรับสาย รวมถึงการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น และดูหน้าจอของสมาร์ทโฟน ทั้งหมดสามารถทำได้จากหน้าจอคอมพ์ทุกอย่างเลยครับ
บริการเสริมอื่นๆ มีอีกเยอะครับ สามารถดาวน์โหลดได้ใน Galaxy Store ที่ Samsung คัดสรรแนะนำมาไว้ให้ พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะให้ผู้ใช้เครื่อง Galaxy ภายในมีเยอะครับ มีธีมสโตร์ไว้ดาวน์โหลดธีมและดาวน์โหลดพื้นหลัง
ความสามารถของปากกา S Pen ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธในตัว จึงใช้เป็นตัวควบคุมระยะไกลได้ ทั้งการปกปุ่มบนตัวปากกา และการสะบัดปากกาเพื่อเป็นคำสั่งเลื่อนในการใช้งาน เช่นการเลื่อนภาพ การเลื่อนสไลด์ ทำให้เราสามารถใช้ปากกาได้มากกว่าแค่การเขียนหรือวาดเท่านั้นครับ
เป็นชัตเตอร์สั่งถ่ายภาพ สะบัดปากกาเพื่อเลื่อนแทนการสไลด์นิ้วบนหน้าจอได้โดยตรง มีหลายคำสั่งมากครับ และใช้งานได้บนหลายโปรแกรมเลย
อย่างที่รู้ ว่าปากกา S Pen กับสมาร์ทโฟนของ Samsung ไม่ใช่แค่รองรับการใช้ร่วมกันเท่านั้น แต่จุดแข็งไม้ตายที่เหนือกว่าใครอีกหนึ่งจุดนั้นก็คือซอฟท์แวร์ เพราะ Samsung ไม่ได้แค้พัฒนาประสิทธิภาพตัวปากกาให้อยู่ในระดับสูงสุดของวงการเท่านั้น แต่เขาพัฒนาซอฟท์แวร์ Exclusive ที่ใช้งานร่วมกับที่ฝังมาในอุปกรณ์ด้วย
ใน Galaxy S22 Ultra แค่เราดึงปากกาออกจากเครื่อง ซอฟท์แวร์ที่รองรับปากกาก็พร้อมทำงานทันที เป็นชุด Quick Command เช่นการสร้างบันทึกใหม้ การเซฟภาพหน้าจอเป็นรูปร่างอิสระจากการวงด้วยปากกา หรือแอพหรือคำสั่งที่เราเซ็ตไว้ได้ล่วงหน้าครับ
S Pen นั้น พร้อมใช้งานตั้งแต่หน้าจอยังไม่ปลดล็อกเลย แค่ดึงปากกาออกมาไม่ต้องปลดล็อคเครื่อง เราก็สามารถจดบันทึกด่วนได้ทันทีแล้วครับ ใช้งานแทนสมุดโน๊ต ใช้จดอะไรด่วนๆ ได้ทันใจมาก
จดลงได้แทบทุกการทำงาน เขียนหรือเซ็นลงบนเอกสาร แก้ไขงานบนเอกสาร
เขียนบนปฏิทินด้วยลายมือ เพื่อเน้นได้มากกว่าแค่การบันทึกแจ้งเตือนปกติ
เขียนหรือวาดลงไปได้แม้กระทั่งไฟล์วีดีโอครับ เหมือนเป็นการเพิ่มเอฟเฟ็กต์ที่เราวาดเองด้วยปากกา ลงไปในวีดีโอเพื่อสร้างสรรค์อะไรก็ได้ตามไอเดียของเรา ^^ ปากกามหัศจรรย์
ความสามารถของ S Pen และ Galaxy S22 Ultra มีอีกมากมายเลยครับ อย่างที่บอกว่าไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพดีเท่านั้น แต่ S Pen ของ Samsung ขึ้นเป็นที่หนึ่งเพราะความสามารถที่ทาง Samsung พัฒนามาเพื่อใช้คู่กันด้วยนั้นเองครับ
การใช้งานของแบตเตอรี่ของรุ่นนี้อยู่กับเราได้ถึงค่ำนะครับ ถึงสเปคเครื่องจะแรง แต่ในระบบมีความสามารถในการปรับตั้งค่าเพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นลงได้ เช่นระดับความแรงของชุดประมวลผล ค่ารีเฟรชเรทที่ปรับลงมาไว้ที่ 60Hz แบบจอปกติทั่วไป และความละเอียดของหน้าจอ เราสามารถเปิดค่าสูงสุด WQHD+ 3088×1440 ได้ถ้าต้องการความคมชัดสูงสุด แต่ก็อาจจะกินพลังงานมากสักหน่อยครับ เราสามารถลดลงมาเป็น FHD+ หรือ HD+ เพื่อการประหยัดแบตได้
แต่ผมแนะนำเปิดสุดไปเลยครับ แม้จะกินแบตแต่จากที่ทดสอบก็อยู่กับผมได้เช้าถึงค่ำ ไม่ได้หมดไวมากจนเกินไป และมีระบบชาร์จไว ถ้าได้แวะชาร์จระหว่างวันสัก 20 นาที ได้แบตกลับมาครึ่งก้อนแล้วครับ ที่ชาร์จแบตควรหาตัว 45W มาใช้คู่กันนะครับ ในช้อป Samsung มีขาย ใช้ของตรงแบรนด์ไว้ใจได้มากสุดครับ
เรื่องของความบันเทิงไม่ต้องห่วง หน้าจอขนาดใหญ่แบบนี้ ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงค่อนข้างดี จอเต็มขอบภาพอย่างสวย รับชมคลิปภาพยนตร์ หรือเล่นเกมไม่ต้องต่อพ่วงอุปกรณ์ใดๆ แล้วครับ สะใจมาก
ประสิทธิภาพขนาดตัวท็อปของวงการ เล่นเกมต่างๆ ลื่นไหลระดับ 100% เข้าออกแอพรวดเร็วครับ เป็นเครื่องที่อยู่ในระดับสูงสุดของสมาร์ทโฟน Android แล้วครับในด้านประสิทธิภาพ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องจัดเต็มมาแน่นอนครับ เพราะนี่คือ Samsung Galaxy S Series ที่ถ้าไม่นับรวมความสามารถของ S Pen ที่ใส่เข้ามาไว้ด้วยกันแล้วละก็ ซีรี่ส์นี่ก็คือตัวหลักทางด้านประสิทธิภาพและคุณภาพของกล้องจากแบรนด์ Samsung นั้นเองครับ
กล้องหลักความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม Periscope ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพได้ 10x optical zoom และซูมแบบดิจิทัลได้ถึง 100 เท่า! เลนส์ที่สาม telephoto 10 ล้านพิกเซล สุดท้ายคือเลนส์ Ultrawide มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกันในคุณภาพระดับสูง ถ่ายภาพและวิดีโอได้คมชัดมากครับทั้งกลางวันและกลางคืน
ผมจะบอกว่า ด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลของ Galaxy S22 Ultra มันทรงพลังมากๆ การถ่ายวีดีโอที่เต็มไปด้วยเอฟเฟ็กต์ระดับสูงต่างๆ มันทำออกมาได้เนียนมากครับ ปรับไปมาได้แบบเรียลไทม์ โดยที่ผลลัพท์ไม่มีสะอึกเลย การจะทำแบบนี้ได้ตัวฮาร์ดแวร์ต้องประสิทธิภาพสูงมาก และซอฟท์แวร์ต้องทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผมอัดคลิปมาให้ดูกันครับว่า กล้องวีดีโอของ Galaxy S22 Ultra มีความสามารถอะไรบ้าง และผลลัพท์มันเนียนอย่างที่ผมบอกขนาดไหน รับชมได้จากคลิปด้านล่างเลยครับ
การถ่ายภาพนิ่งหายห่วง ตัวนี้คุณภาพกล้องตัวท็อปของวงการเช่นกัน ระบบซูมภาพที่รองรับถึง 100X เป็นการซูมเพื่อให้เห็น ซูมไปเห็นระเบียงห้องของตึกที่อยู่ไกลโน้นได้ชัดระดับนี้ – – กล้องมือถือนี่ออกจะน่ากลัวเกินไปแล้วละครับ ส่วนระยะหวังผลความคมชัดอยู่ที่ระดับ 10x เลยทีเดียวครับ
การถ่ายภาพบุคคลมีความเนียนเป็นธรรมชาติอย่างมากครับ ดูผิดกับการตัดเบลอฉากหลังของสมาร์ทโฟนทั่วไปเห็นได้ชัด มีความลอยเหนือฉากแบบไม่คมเกินไป มีความนัวของภาพไม่หลอกตา
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดต่างๆ
กล้องถ่ายภาพรองรับโหมดการถ่ายกลางคืน มีความคมชัดสูงเช่นกันครับ เพราะเลนส์แต่ละตัวมี OIS ช่วยในการถ่ายแทบทุกเลนส์ ภาพออกมาสวยทั้งกลางวันและกลางคืน
กล้องหน้าความละเอียดสูงมากครับ 40 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้างด้วย สามารถถ่ายภาพละลายหลังด้วยกล้องได้เช่นกันครับ คุณภาพของภาพก็ดีในระดับกล้องเรือธงเช่นเคย มีดีทุกเลนส์จริงๆ ครับ
เอฟเฟ็กต์ละลายหลัง เล่นได้มากกว่าแค่การเบลอครับ สามารถนำมาปรับให้เป็นการสร้างโบเก้แบบวน หรือระเบิดซูม นอกจากจะถ่ายภาพได้ดีแล้ว ลูกเล่นกล้องของจริงก็เยอะมากด้วยครับ ^^
สรุปท้ายรีวิว
ต้องบอกว่า นี่คือตัวท็อปของสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบันครับ สเปคสูงมาก หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ชิปเซ็ต 4 นาโนใส่เข้ามาให้ใช้ในเครื่องนี้ และเป็นเครื่องที่รวมฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของ Note series และ S series สองสมาร์ทโฟนตัวเก่งของ Samsung มาไว้ในเครื่องเดียว แรงทั้งสเปค มาตรฐานสูงทั้งงานประกอบภายนอกและภายใน กล้องคุณภาพสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ยังมีปากกา S Pen ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา รวมทุกอย่างครบจบไม่มีอะไรคาใจ
การใช้งานลื่นไหลในระดับสูงสุด และยังมีการการันตีการดูแลจาก Samsung ว่าจะมีการอัปเดตระบบให้ไปอีกอย่างน้อยๆ 4 เจนเนอเรชั่น! ใช้กันไปยาวๆ แบบไม่ต้องกลัวว่าจะตกรุ่น
นี่คือสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องและมีประโยชน์ในการใช้งานสูงที่สุดแล้วในตลาดตอนนี้ครับ
- Galaxy S22 Ultra มาในตัวเลือก 4 สี ได้แก่ สีแดงเบอร์กันดี สีดำ Phantom Black สีขาว Phantom White และสีเขียว
-
- Galaxy S22 Ultra (8/128) วางจำหน่ายในราคา 39,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/256) วางจำหน่ายในราคา 43,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/512) วางจำหน่ายในราคา 47,900 บาท