รีวิว Samsung Galaxy S6 มาตรฐานใหม่ที่น่าประทับใจอย่างเหลือเชื่อ!!!

Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ Samsung มีความตั้งใจมากที่ผลิตตระกูล Galaxy S ที่ดียิ่งกว่าเดิม และพัฒนาในเรื่องของ Design และวัสดุให้ดูพรีเมี่ยมมากยื่งขึ้น ซึ่งจากผลลัพท์ที่ออกมาผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะประทับใจรุ่นนี้กันนะครับ เพราะมันสวยงามมากจริงๆ สำหรับรูปร่างของ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge จะมีลักษณะโค้งมน ขนาดตัวเครื่องกำลังพอดีๆมือ แต่ส่วนตัวผมว่าหน้าจอเล็กกว่าที่คิดใว้ตอนแรกนะครับ ผมนึกว่าจะมาพร้อมหน้าจอประมาณ 5.5 นิ้วซะอีก แต่ออกมาจริงทั้งคู่มีหน้าจออยู่ที่ขนาด 5.1 นิ้วครับโดยจะเป็นหน้าจอ Super AMOLED และมีความละเอียดระดับ QHD เลยทีเดียวซึ่งเป็นมาตราฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในยุคนี้ หน้าจอสวยมาก

ອ່ານຣີວິວເປັນພາສາລາວ Samsung Galaxy S6 ກົດບ່ອນນີ້

 

สเปคของ Samsung Galaxy S6

• 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz
• 4G LTE
• HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps
• ขนาดตัวเครื่อง 143.4 x 70.5 x 6.8 มม. น้ำหนัก 138 กรัม
• หน้าจอ Super AMOLED capacitive touchscreen, 16M colors ขนาด 5.1 นิ้วความละเอียด 1440 x 2560 pixels (577 ppi)
• กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• Heart Rate
• Fingerprint sensor (PayPal certified)
• Samsung Pay (Visa, MasterCard certified)
• Wireless charging (Qi/PMA)
• Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่
• CPU Exynos 7420 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57
• GPU Mali-T760
• RAM 3GB
• หน่วยความจำภายในจะมีให้เลือกสามความจุ 32/64/128GB
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 4.0, A2DP, LE, apt-X
• NFC
• Infrared Port
• Micro USB 2.0, MHL 3 TV-out, USB Host
• GPS, GLONASS, Beidou
• เซนเซอร์ Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2
• กล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9, 2988 x 5312 pixels, optical image stabilization, autofocus, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, Auto HDR, panorama
• บันทึกวีดีโอความละเอียด 2160p@30fps, 1080p@60fps, 720p@120fps, HDR, dual-video rec.
• กล้องหน้าความละเอียด 5 MP, 1080p@30fps, dual video call, Auto HDR
• แบตเตอรี่ความจุ 2550 mAh
• มีให้เลือกสี่สีได้แก่ White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum, Blue Topaz
• ราคาเปิดตัวความจุ 32GB ราคา 23900 บาท

วัสดุตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge จะเป็นกระจกและโลหะ (กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) ตัวเครื่องแม้จะใช้วัสดุที่พรีเมี่ยมขนาดนี้แต่ก็มีน้ำหนักเบานะครับ หนักเพียง 132 กรัม และ 138 กรัม เท่านั้น (Galaxy S6 Edge เบากว่า) ด้านหน้าตรงปุ่ม Home ยังคงมาพร้อม Fingerprint sensor แต่พัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยใช้วิธีแตะแบบ iPhone แล้วไม่ต้องลูบเหมือนแต่ก่อน

ด้านหลังกล้องจะนูนขึ้นมาซึ่งผมว่าต้องระวังกันซักหน่อยนะครับ แต่ตรงนี้ผมก็ชอบนะเพราะ Design มันดูสวยดีครับ และเล่นสีได้เข้ากับเครื่องดีด้วย กล้องของ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge จะมาพร้อมกล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9 และกล้องหน้าความละเอียด 5MP, F 1.9 เช่นกันช่วยให้สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นมาก และผมว่ากล้องหลังของ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge ยอดเยี่ยมเลยละครับ แม้ว่าจะใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกับ Samsung Galaxy Note 4 แต่เท่าที่ทดสอบถ่ายภาพดูผมว่ามันน่าประทับใจจริงๆ ยอดเยี่ยมทั้งภาพกลางวันและกลางคืน

สำหรับ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge จะมาพร้อม Heart Rate ซึ่งตอนนี้พื้นผิวเสมอกับฝาหลังแล้วช่วยให้แตะได้ถนัดขึ้นและสามารถแตะเป็น Shutter เวลาถ่าย Selfie ได้อีกด้วย และมาพร้อม Wireless charging (Qi/PMA) ในตัวไม่ต้องเปลี่ยนฝาหลัง แถมยังมาพร้อมนวัตกรรมในเรื่องแบตเตอรี่ด้วยนะครับ โดยชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว และบริการ Samsung Pay ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีบริการในประเทศไทยครับ

Samsung Galaxy S6 Edge มาพร้อม Infrared Port ด้วยนะครับสำหรับใช้งานเป็นรีโมท ช่องใส่ซิมจะอยู่ข้างบน และด้านล่างตรงนี้ละที่แฟนๆ Apple ทับถมแฟนๆ Samsung เพราะมันไปดูคล้าย iPhone มากเลย ซึ่งก็ต้องบอกว่าคล้ายจริงๆครับ แต่มันก็คล้ายกันแค่ตรงนี้ละครับ5555

Samsung Galaxy S6 จะมีทำเป็นบากใว้อยู่ตรงนี้นอกจากจะเท่แล้วยังช่วยให้ถือได้กระชับไม่หลุดมือด้วยนะครับ และช่องใส่ซิมจะอยู่ด้านขวา คนละตำแหน่งกับ Samsung Galaxy S6 Edge

Samsung Galaxy S6 แบตเตอรี่รุ่นนี้ความอึดอยู่ในระดับปกติๆครับ ซึ่งก็มีจุดเด่นตรงเทคโนโลยีชาร์จใวมาให้ใช้งานกันด้วย ก็พอจะทดแทนกันได้อยู่นะครับ แนะนำให้พก Power Bank ใว้จะแน่นอนกว่า

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 35583 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 62908 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 59.7fps

รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์

แม่เจ้า……แรงขั้นมหาเทพจริงๆครับ คะแนนทดสอบโหดมากๆ

Samsung Galaxy S6 มาพร้อม Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่ เรียบง่ายยิ่งขึ้น ถึงขั้นถอดลูกเล่นเดิมๆออกหมดเลยครับ ไม่เหลือลูกเล่น Gestures ต่างๆที่เคยเป็นจุดเด่นเลยครับ ซึ่งหลายๆคนก็คงไม่ค่อยจะได้ใช้กันอยู่แล้ว แต่บางคนก็ใช้เป็นประจำ ก็เหมือนข่าวที่ออกมาแต่แรกว่า TouchWiz UI ของ Samsung จากนี้ไปจะเรียบง่ายขึ้น และสามารถถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆที่มากับเครื่องได้อีกด้วย โดยใน Samsung Galaxy S6 ก็ใส่แอพพลิเคชั่นมาให้ไม่เยอะเหมือนเคยนะครับ ซึ่งเราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาเพิ่มได้จากใน Galaxy Apps

และ TouchWiz UI รูปแบบใหม่สามารถเปลี่ยนธีมได้แล้ว แถมยังดาวน์โหลดมาเพิ่มได้อีกด้วย มีธีมจาก Samsung จาก Samsung ที่รองรับความละเอียดหน้าจอ QHD ให้เลือกมากมาย รวมทั้งมีธีมเท่ๆอย่าง Avenger 2 ด้วยนะ

Smart Manager จะรวมการตั้งค่าจัดการสำคัญๆในเครื่องเราเอาใว้ด้วยกัน หน้าตาเรียบง่ายน่าใช้ จะมีจัดการแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, RAM และฟังก์ชั่นที่ทาง Samsung เคยชูเป็นจุดข่ายอย่าง KNOX สำหรับระดับองค์กรผมว่า Samsung KNOX ออกแบบมาดีครับ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นสำคัญจริงๆตัว UI ในโหมด Samsung KNOX ผมว่าก็สวยงามและดูดีมากๆน่าใช้ ส่วนถ้ามองความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ผมว่าบางคนน่าจะชอบครับโดยเฉพาะพวกความลับเยอะเพราะถ้าไม่รู้รหัสผ่านข้อมูลสำคัญๆของเราจะไม่มีทางหลุดออกมาเลย เพราะโหมด Samsung KNOX และโหมดปกตินั้นแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์

นอกจากนี้ยังมี Easy Mode ซึ่งปรับปรุงมาได้น่าใช้ดีครับ จะช่วยให้หน้าตา Android ปกติกลายเป็นหน้าตาแบบ Feature Phone แต่ก็ยังสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อย่างสะดวก

และ Multi Window ยังคงมีให้ใช้งานเป็นการใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมๆกัน สามารถสลับตำแหน่ง และย่อขยายหน้าต่างได้ตามใจชอบ รองรับแอพพลิเคชั่นและคำสั่งต่างๆได้อย่างหลากหลาย และสามารถย่อหน้าจอที่เราใช้อยู่ให้กลายมาเป็นคำสั่ง Multi Window ได้โดยการลากนิ้วจากมุมหน้าจอลงมาเท่านั้นเอง ช่วยให้การใช้งานบน Smartphone ของ Samsung สะดวกขึ้นมาก แต่จะแตกต่างจากเดิมเพราะไม่มีคำสั่งแตะปุ่ม Back ค้างเพื่อเปิดแถบตัวเลือกแอพพลิเคชั่นแล้วนะครับ

Flipboard ยังคงมีมาให้เช่นเคยครับ (ยังคงไม่รองรับ Feed ข่าวของประเทศไทย) สามารถเลือกที่จะแสดงหรือปิดเอาใว้ได้ (แตะค้างแล้วเลือกปิดหน้าที่เราต้องการซ่อนได้เลย)

S Health มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพิ่มรายละเอียดในชีวิตประจำวันและกิจกรรมการออกกำลังที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเรื่องอาหาร การดื่ม ควบคุมคาเฟอีน ควบคุมน้ำหนักและอัตราการเต้นของหัวใจ เท่าที่ทดลองวัด Heart Rate มีความแม่นยำดีมากและใช้ง่ายกว่าเดิมเพราะพื้นผิวเสมอกับฝาหลังแล้วช่วยให้แตะได้ถนัดขึ้น และมีแนะนำอุปกรณ์เสริม (ทั้งของ Samsung เองและต่างแบรนด์) รวมทั้งแอพพลิเคชั่นที่ S Health จะแนะนำว่าควรนำมาใช้ร่วมกัน

Fingerprint sensor ปรับปรุงใหม่เปลี่ยนจากลากนิ้วผ่าน มาเป็นการแตะเหมือนฝั่ง iOS แล้วและทาง Samsung ก็ได้พัมนาระบบนี้ขึ้นมาเพื่อตอบรับบริการ Samsung Pay ซึ่งในตอนนี้บ้านเรายังไม่มีให้บริการ แต่ในอนาคตยังไงก็น่าจะได้ใช้กันแน่นอนครับ

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9 และกล้องหน้าความละเอียด 5 MP คุณภาพดีมากทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้มากมายและสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้อีกด้วย ทีเด็ดสำหรับรุ่นนี้เลยก็คือมีโหมด HDR Auto ที่ฉลาดมากๆครับ ช่วยให้ทั้งภาพถ่ายกลางวันและกลางคืนได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ และโหมด Pro สามารถปรับค่า EV (+2 และ -2), ISO (100-800), WB, ระยะ, ปรับแต่งโทนสีมีให้เลือก  6 แบบและตั้งค่าได้เองอีก 2 แบบ และตั้งค่าส่วนตัวได้ทั้งหมด 3 ชุดครับ

และลูกเล่นอีกอย่างที่ Samsung แนะนำคือ Virtual Shot ซึ่งจะแตกต่างจากการบันทึกเป็นวีดีโอตรงที่เราสามารถ ควบคุมหมุนภาพได้ด้วยการเปลี่ยนองศาของตัวเครื่องได้เอง ลองเล่นกันดูครับผมว่าเจ๋งดีนะ (ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแอพพลิเคชั่นแบบนี้ออกมาให้เล่นกัน แต่อันนี้ Samsung ใส่มาให้เลย)

สำหรับกล้องหน้าถ่ายออกมาสวยครับ รายละเอียดดี และสามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีอีกด้วย ซึ่งเป็นจุดเด่นของทั้ง Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge สำหรับ Beauty Mode จะเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนๆเพราะจะปรับค่าได้ 1-8 เท่านั้นจะไม่แยกออกเป็นส่วนๆแล้ว ซึ่งผมว่าดีนะปรับง่ายขึ้นและลลัพธ์ออกมาดีทีเดียวครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S6

ข้อดีของ Samsung Galaxy S6

1. ตัวเครื่องออกแบบสวยมาก ยกระดับมาตราฐานของ Samsung ไปอีกระดับ

2. วัสดุตัวเครื่องพรีเมี่ยมทั้งโลหะและกระจก Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

3. สเปคแรงมากแถวหน้าในตอนนี้

4. เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นน่าสนใจ Heart Rate, Fingerprint sensor (PayPal certified) แบบใหม่, Samsung Pay (Visa, MasterCard certified), Wireless charging

5. Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่

6. กล้องคุณภาพดีมากทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า ถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยมมากทั้งกลางวันและกลางคืน

ข้อด้อยของ Samsung Galaxy S6

1. ตัวเครื่องเป็นกระจกเลยเป็นคราบนิ้วมือได้ง่าย

2. แกะฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่เองไม่ได้

3. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้

ต้องบอกว่าขอแนะนำเลยครับสำหรับมาตราฐานใหม่ของ Samsung ทั้ง Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge เป็นสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งสวยงามและเปี่ยมด้วยคุณภาพ รวมทั้งประสิทธิภาพที่อยู่ในระดับแนวหน้าในตอนนี้ และที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือเรื่องของกล้อง คุณภาพดีมากจริงๆทั้งภาพกลางวันและกลางคืนหายห่วงเลยครับ สามารถพกพาไปเที่ยวได้เลยละ ใครที่มีงบไม่จำกัดและชอบ Android ผมแนะนำว่าควรมีรุ่นใดร่นหนึ่งใน 2 รุ่นนี้ใว้ในครอบครองจริงๆครับ

[gradeS]