ในขณะที่หลายๆ คนกำลังรอทาง Samsung ว่าจะมีข่าว Galaxy Note ตัวใหม่ที่เป็นแท็บเล็ตออกมาอีกมั๊ย แต่ตัวที่ถูกปล่อยออกมาจริงๆ ในตอนนี้ กลับเป็น Tab A ที่คลอดออกมาแทน
แท็ปเล็ต Samsung Galaxy Tab A 10.1 With S pen ซึ่งเปิดราคามาเพียง 12,900 บาท และพร้อมจะจำหน่ายกันในเดือนตุลาคมนี้แล้ว
[section label=”ตัวเครื่อง” anchor=”Body”]เริ่มที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย
ตัวเครื่องมาในทรงแบบคลาสสิค Samsung Style หน้าตาแบบนี้ซัมซุงแน่นอน บอดี้เป็นพลาสติกแต่ก็ดูแข็งแรง หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ขนาด ยาว 254.2 มม. กว้าง 155.3 หนา 8.2 มม. น้ำหนัก 560 กรัม ( ซึ่งเบากว่าตัว Note 10.1 ( 2014 ) ที่หนักประมาณ 600 กรัม ) ขอบจอหนาประมาณครึ่งนิ้ว..ว๊า มันดูหนาก็ตรงนี้แหละ แต่บางคนก็ชอบที่มีขอบให้จับแบบไม่ไปโดนหน้าจอ
รูปทรงการใช้งานออกแบบมาเป็นทรงตั้งมากกว่าแนวนอน จอแสดงผล TFT ความละเอียด 1,200 x 1,920 px มีช่องใส่ซิม 1 ช่อง ( Micro Sim ) และช่องสำหรับใส่ MicroSD ที่เพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดอีก 256GB
มาพร้อม S pen ที่มีฟังชั่นใหม่หลายอย่างแบบเดียวกับ Note 7 แต่หน้าตาตัวปากกาจะไปคนละทางกันนะคะ มีลายริ้วจับแล้วไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ ค่ะ หน้าตาตัวปากกาจะเหมือนกันกับ S pen ในรุ่น Tab A 8.0
ไม่ต้องกลัวเรื่องใส่ปากกากลับข้างนะคะ ใส่เข้าไปไม่ได้แน่นอน กลับด้านก็ไม่ได้ค่ะ
แม้ตัวเครื่องจะไม่หนัก แต่ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้วก็ไม่ใช่จะถือใช้งานมือเดียวได้นานๆ นะ เมื่อยอยู่เหมือนกัน ซึ่งทาง Samsung ก็มีตัว Smart Cover ที่ออกแบบมาให้ใช้งานคู่กันออกมาด้วย ติดกับด้านหลังตัวเครื่องด้วยแม่เหล็ก แน่นหนา ไม่หลุดง่ายๆ แน่นอน รองรับการใช้งานเป็นขาตั้งในตัวได้สองระดับ และเปิดปิดหน้าจออัตโนมัติเมื่อปิดเปิดฝาเคสโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
ที่บอกว่าตัวเครื่องเน้นการใช้งานในแนวตั้งมากกว่าแนวนอน นั้นเพราะปุ่มโฮมและปุ่มควบคุมการใช้งานหลักของตัวเครื่องอยู่ที่ด้านแนวตั้งนี่เองค่ะ รวมถึงลำโพงคู่ก็อยู่ในตำแหน่งแนวตั้งเช่นกัน
โดยรวมภายนอกแล้ว ตัวเครื่องมีการประกอบที่แน่นหนาดี น้ำหนักเบาเมื่อดูว่าเป็นเครื่องหน้าจอขนาด 10 นิ้ว อีกทั้งมาพร้อมปากกา S-pen ที่เป็นปากกาเขียนหน้าจอที่ดีที่สุดในขณะนี้แล้วละ
[section label=”การใช้งานภายใน” anchor=”performance”]การใช้งานภายใน
Galaxy Tab A 10.1 With S pen ต้องมีอะไรที่เหนือกว่าแท็บเล็ตระบบแอนดรอยด์โดยทั่วไปแน่นอน นั้นเพราะมันถูกออกแบบการใช้งานมาให้รองรับกับปากกา S-Pen นั้นเอง
หน้า UI ที่ออกแบบมาคล้ายๆ กับบนสมาร์ทโฟน และสามารถใช้งานการโทรออกรับสายได้เหมือนโทรศัพท์ (แต่คุยแนบหูไม่ได้นะ)
นอกจากหน้า UI ปกติที่เราคุ้นตาโดยทั่วๆ ไป ก็จะมีการเรียกใช้งาน Air Command ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ชักปากกาออกมาจะขึ้นตัวเลือกทางลัดการใช้งานแอพและฟังก์ชั่น สามารถเลือกเพิ่มหรือเปลี่ยนทางลัดได้
โดยคุณสมบัติหลักๆ ก็จะคล้าย Galaxy Note 7 เลยค่ะ มีไอคอนลัดสำหรับการสร้างบันทึกด่วน, การเลือกอัจฉริยะที่สามารถเซฟภาพบางส่วนหรือข้อมูลบนหน้าจอเพื่อจัดเก็บไว้, การเขียนหรือการทำเครื่องหมายลงไปบนภาพหน้าจอโดยตรง และการแปลภาษาที่รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา ซึ่งไอคอนทางลัดเหล่านี้เราสามารถเพิ่มเติมแอพหรือการทำงานที่เราต้องการเรียกใช้งานบ่อยๆ เพิ่มเข้าไปได้เองอีกด้วย
รองรับมัลติวินโดว์ทำงานสองแอพพลิเคชั่นสองหน้าจอพร้อมกัน เปิดดูหนังไปพร้อมกับแชตเฟสบุ๊ค หรือทำงานจัดการเอกสารไปด้วยพร้อมๆ กันก็ยังได้ ซึ่งมัลติวินโดว์รองรับทั้งการใช้งานในมุมมองแนวตั้งและแนวนอน ทดสอบใช้งานแล้ว ไม่เจออาการกระตุกหรือหน่วงในเวลาเปิดทำงานสองจอพร้อมๆ กันนะ แต่มีข้อแม้ในเรื่องของแอพพลิเคชั่นบางตัวจะไม่รองรับเท่านั้นค่ะ
ด้วยความเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ Galaxy จาก Samsung แอพพลิเคชั่นดีๆ และสิทธิพิเศษที่จะได้รับมากกว่าใครก็ต้องมีตามมาแน่นอนจาก Samsung Apps และ Galaxy Gift อย่าลืมใช้งานกัน
ภายในจะมีแอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์สำหรับการทำงานหลายตัว โดยเฉพาะเกี่ยวกับไฟล์เอกสาร มีแอพพลิเคชั่นที่ใช้แก้ไขและเขียนลงไปบนไฟล์ PDF แอพพลิเคชั่นสำหรับเปิดใช้งานเอกสารออฟฟิศ รวมทั้งฟีเจอร์อื่นๆใน Samsung Notes ที่ใช้พิมพ์บันทึกหรือเขียนบันทึก การจดโน๊ตต่างๆ ที่พร้อมนำรูปเข้ามาแนบเหมือนเป็นสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ ที่รวมฟีเจอร์สมัยใหม่เข้าไป ทั้งหมดติดตั้งมาให้ในเครื่องพร้อมใช้งานตั้งแต่แรกเริ่มเลย
ด้วยหน้าจอสัดส่วนที่เน้นไปในทางกว้าง เวลาเอียงเครื่องใช้งานแนวนอน ก็สามารถพิมพ์งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดภายนอกได้อยู่นะ แถมตัวคีย์บอร์ดยังออกแบบมาตามที่เราเคยชิน รองรับการกดช็อตคัท Ctrl+C หรือ Ctrl+A เหล่านี้ได้บนตัวคีย์บอร์ดได้ด้วย สามารถติดตัวไปทำงานนอกบ้านได้เลยนะ
นอกจากการจัดการงานเอกสาร ก็ยังรองรับงานศิลปะได้ดีด้วยเช่นกัน แอพพลิเคชั่นสำหรับการวาดที่ชื่อว่า “Samsung Notes” น่านำเสนอมาก ตรงที่จะเพิ่มเติมในส่วนของพู่กันสีน้ำและสีน้ำมันเข้ามาให้ใช้ ซึ่งทำออกมาได้เสมือนจริงมากโดยเฉพาะตัวสีน้ำ ส่วนสีน้ำมันนั้นเนื้อสีจะยังดูด้านและทื่อไปหน่อย ส่วนการใช้ลงลายเส้นของดินสอก็สัมผัสได้ว่ามันสมูทกว่าแอพพลิเคชั่น S-note ตัวเก่าอยู่มากค่ะ
ทั้งงานเอกสาร ทั้งสร้างสรรค์ศิลปะ สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นการทำงานที่โดดเด่นที่สุดแล้วของเครื่อง Tab A With S-Pen ด้วยการออกแบบซอฟท์แวร์และอุปกรณ์ที่ให้ใช้งานมาคู่กัน ทำให้อุปกรณ์อื่นๆ ไม่สามารถทำได้เท่าเทียมแน่นอนค่ะ
ทดสอบวาด Doctor Strange ด้วย Galaxy Tab A 10.1 With S-Pen บอกได้เลยว่าประสิทธิภาพในการใช้ขีด วาด บันทึก ดีมาก
ในด้านความบันเทิง ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขนาด 10.1 นิ้ว ก็เหมาะในด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เช่นกัน ดูหนังฟังเพลง ได้ชัดเต็มตา หน้าจอความละเอียด 1,200 x 1,920 พิกเซล คมชัดมากแล้วในการใช้งานจริง สีสันของจอก็สดใสดี เป็นจอ TFT ที่มุมมองกว้างและแสงสว่างก็มากเพียงพอ
เสียงลำโพงถือว่าดังเลยทีเดียวค่ะ เป็นลำโพงคู่ด้านล่างเสียงดังฟังชัด เปิดดังๆ เสียงไม่แตกแต่ก็ไม่ได้ใสกิ๊กนะ มีข้อเสียอยู่ว่าเมื่อนำมาใช้รับชมภาพยนตร์ในแนวนอน เสียงมันจะกลายเป็นว่าออกมาข้างเดียว เพราะเครื่องออกแบบมาในแนวตั้งนั้นเอง
อย่าลืมว่าตัวนี้ทำงานแบบแยกหน้าจอได้ (ด้วยการแตะค้างที่ปุ่ม Recent ด้านซ้าย) หน้าจอใช้งานปัจจุปันก็จะแยกไปอยู่ด้านบน และเลือกเปิดแอพที่สองได้ที่หน้าจออีกด้าน ปรับขนาดหน้าต่างของแต่ละแอพที่แยกกันได้อีกด้วย ทำให้เสพอะไรได้หลายอย่างไปพร้อมๆ กัน
ทดสอบการเล่นเกม รับชมคลิปความละเอียด Full HD เข้าเว็บไซด์ อ่านข่าวอ่านหนังสือ แม้จะเปิดการทำงานสองหน้าจอก็รองรับไหวสบายๆ (ไม่สามารถใช้งานสองหน้าจอได้ทุกแอพนะคะ) เรื่องประสิทธิภาพ มากพอแน่นอนค่ะ
แน่นอนว่าความบันเทิงที่ไม่อยากจะสะดุดระหว่างวันจำเป็นต้องอาศัยแบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วย Galaxy Tab A 10.1 With S-Pen ใสแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,300 mAh เข้ามาให้ค่ะ ทดสอบใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้งานเต็มวันได้สบายๆ ค่ะ เรียกได้ว่าถอดสายชาร์ตตอนเช้าก็ไปเสียบชาร์จอีกทีตอนเข้านอน จะข้ามวันค่อยชาร์จก็ยังไหวค่ะ
จะนำไปให้เด็กใช้งานก็ไดนะคะ เพราะมีโหมดสำหรับเด็กที่คนไม่ค่อยจะพูดถึงกัน ในโหมดนี้นั้นจะมีการกรองกั้นสื่อที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเด็กๆ เท่านั้น ก็เปิดใช้ตอนที่อาจจะต้องการให้ลูกเล่นในบางโอกาสก็ได้ค่ะ
ผลทดสอบโน้นนี้นั่น ใช้เวลาในการจับสัญญาณ GPS ไม่นานมาก
[section label=”กล้องถ่ายภาพ” anchor=”camera”]กล้องถ่ายภาพ
แม้จะเป็นแท็บเล็ต เราก็ต้องทดสอบกล้องกันหน่อย กล้องถ่ายภาพของ Galaxy Tab A 10.1 With S-Pen ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชค่ะ และกล้องหน้า 2 ล้าน การใช้งานทั่วๆ ไปก็พอไหวอยู่นะ
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหน้าค่ะ
[section label=”สรุปสั้นๆ ท้ายรีวิว” anchor=”synopsis”]สรุปสั้นๆ ท้ายรีวิว
ได้แบบนี้ ในราคาเท่านี้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ความสามารถเหนือกว่าแท็บเล็ตในราคาเท่าๆ กันแบบเห็นๆ ประสิทธิภาพมากพอจะใช้งานแอพพลิเคชั่นหรือเกมต่างๆ ในระบบ Android ได้เพียงพอ และเห็นเครื่องใหญ่ๆ แบบนี้พกใส่กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงได้นะ โทรออกรับสายใช้เป็นโทรศัพท์ในยามฉุกเฉินก็ได้ด้วย ยิ่งใส่เคสยิ่งดูสวยไปใหญ่ สรุปสเปคขนาดนี้เทียบกับราคาถือว่าควรค่าแก่การมีมากๆ ค่ะ
Cherry Cola รีวิว: