Samsung Galaxy Tab S2 รุ่นใหม่มาพร้อม Design ที่แตกต่างจากเดิมซึ่ง Samsung Galaxy Tab S เดิมนั้นจะมี Design ที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีในตอนนั้น Samsung Galaxy S5 แต่ว่า Samsung Galaxy Tab S2 นั้นจะได้แรงบรรดาลใจมากจากสมาร์ทโฟนยอดนิยมอย่าง Samsung Galaxy Note 4 โดยจะมีการปรับเปลี่ยนมาตราฐานอัตราส่วนหน้าจอจากเดิมที่ยึดขนาด 16:9 มาใช้ 4:3 เหมือนกับคู่แข่งแทนซึ่งก็เป็นการยอมรับกลายๆว่าอัตราส่วนหน้าจอนี้เป็นที่นิยมมากกว่า ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่ามันเป็นการกลับไปใช้อัตราส่วนที่เราคุ้นเคยในสมัยก่อน เพราะตอนที่อัตราส่วน 16:9 เป็นที่นิยมใหม่ๆมันคือการมาของมาตราฐานใหม่ในตอนนั้นเลยครับ แต่สุดท้ายเวลาก็เป็นคำตอบว่าคนเราในทุกวันนี้ชื่นชอบอัตราส่วนแบบไหนกันแน่
โดยอัตาส่วนนี้ก็จะช่วยให้เราจับถือได้ถนัดขึ้น รวมทั้งเวลาเราเล่นเวบ Browser หรืออ่านหนังสืออัตราส่วน 4:3 ก็ใช้งานถนัดกว่า 16:9 ซึ่งผมมองว่าจุดอ่อนเดียวเลยสำหรับอัตราส่วน 4:3 สู้ 16:9 ไม่ได้ก็คือการรับชมคลิปวีดีโอครับซึ่ง 16:9 ตอบสนองการรับชมได้น่าประทับใจกว่ามาก และยังคงเป็น Tablet ที่เราสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์โดยสมบูรณ์แบบได้เช่นเคย
Samsung Galaxy Tab S2 มาพร้อมขนาดหน้าจอ 2 ขนาดเช่นเคยครับได้แก่ขนาด 8 นิ้วและ 9.7 นิ้วซึ่งในวันนี้ทาง AppDisqus ได้ยืมขนาด 8 นิ้วมารีวิวให้อ่านกันครับ สัมผัสแรกต้องบอกว่ามันดูหรูหราพรีเมี่ยมไม่เบาเลย ดูคล้ายๆ Samsung Galaxy Note 4 มากครับ วัสดุประกอบด้วยโลหะและพลาสติค
ตัวเครื่องจับได้เหมาะมือ บางและเบาดี โดยรุ่นนี้มีความบางเพียงแค่ 5.6 มม. เท่านั้นเอง ต้องบอกว่าสัมผัสแรกนั้นถูกใจผมมากๆเลยละ และมีให้เลือก 2 สีได้แก่สีขาวและสีดำ ซึ่งเมืองนอกจะมีโมเดลที่รองรับ WIFI เท่านั้นออกมาทำตลาดด้วยนะครับแต่บ้านเราจะนำเฉพาะรุ่นี่รองรับ 4G LTE เข้ามาจำหน่ายเท่านั้นในราคาที่ผมว่าเหมาะมากๆโดย Samsung Galaxy Tab S2 8 นิ้วราคา 15900 บาทส่วน Samsung Galaxy Tab S2 9.7 นิ้วราคา 18900 บาท
สเปคของ Samsung Galaxy Tab S2 8 นิ้ว
3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100
4G LTE 700 / 800 / 850 / 900 / 1800 / 1900 / 2100 / 2600
ขนาดตัวเครื่อง 198.6 x 134.8 x 5.6 มม. น้ำหนัก 272 กรัม
Fingerprint sensor
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 8 นิ้วความละเอียด 1536 x 2048 pixels (320ppi)
Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI
ชิบเซ็ต Samsung Exynos 5433 Octa Core, Quad Core 1.9 GHz & Quad Core 1.3 GHz
RAM 3GB
หน่วยความจำภายใน 32GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
Bluetooth 4.1, A2DP, LE
microUSB v2.0
GPS รองรับ GLONASS
เซนเซอร์ Accelerometer, gyro, compass
กล้องความละเอียด 8MP, 3264 x 2448 pixels, autofocus
บันทึกวีดีโอความละเอียด 1440p@30fps
กล้องหน้าความละเอียด 2.1MP
แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
ราคาเปิดตัว 15900 บาท
Samsung Galaxy Tab S2 อย่างที่เห็นตามภาพครับ อัตราส่วนแปลกตาขนาด 4:3 วัสดุการประกอบรวมๆดูคล้าย Samsung Galaxy Note 4 ขอบตัวเครื่องน่าจะเป็นโลหะมีเจียรขอบเงาวับเป็นประกาย และเคลือบสีอีกทีเหมือน Galaxy Note 4 ส่วนวัสดุฝาหลังจะเป็นพลาสติคด้าน โดยรวมดูสวยงามดีครับ และเป็นรอยได้ยากดีด้วยนะ
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 8 นิ้วความละเอียด 1536 x 2048 pixels (320ppi) ดูสวยมากครับ สีสดคม และมุมมองหน้าจอกว้างดีมาก ด้านบนมีลำโพงสนทนา เสียงคุยชัดเจนดีมาก ถัดมาเป็นเซนเซอร์ และกล้องหน้าความละเอียด 2.1MP แอบน่าเสียดายตรงไม่มีไฟแจ้งเตือน (Notification Light) มาให้นะครับ
ด้านล่างประกอบด้วยปุ่ม Home ปุ่ม Recent App และปุ่ม Back โดยปุ่ม Home ทำหน้าที่เป็น Fingerprint sensor ซึ่งใช้งานได้แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S6 เลยครับไม่ต้องลากนิ้วแล้ว เพียงแค่แตะเท่านั้นก็เป็นอันใช้ได้เลย ซึ่งความแม่นยำต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ
ด้านบนเรียบๆครับมีแต่ไมค์ตัดเสียงรบกนเท่านั้น น่าเสียดายที่าง Samsung ตัดฟังก์ชั่น Infrared port ออกไปซะแล้ว เราเลยอดใช้เจ้า Samsung Galaxy Tab S2 มาใช้งานเป็นรีโมทในบ้านเลย
ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงคู่ครับ เสียงลำโพงถือว่าเยี่ยมมากเลยทีเดียว เสียงดังดูมีมิติ สมราคามากครับสำหรับลำโพงของ Tablet เครื่องนี้ และมีช่องฟูฟังมาตราฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟน รวมทั้งพอร์ท Micro USB
ด้านขวามีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ซิมกับช่องใส่ Micro SD แยกกัน ส่วนด้านซ้ายจะเรียบครับ
ด้านหลังยังคงมาพร้อมปุ่ม 2 ปุ่มที่กดลงไปได้นั่นคือตัวยึดกับ Case เหมือนใน Samsung Galaxy Tab S รุ่นแรก ซึ่งรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมเคสสุดหรูเข้าชุดมาให้เลือกซื้อกันเช่นเคย (ไม่แน่ใจว่าขายแยก หรือแถมมาในชุดจำหน่ายนะครับ แต่แนะนำว่าควรซื้อเป็นอย่างยิ่ง)
หน้าตา Case ของ Samsung Galaxy Tab S2 สวยจัดๆมากครับ วัสดุจะเป็นหนังเทียม งานดีมากๆเนี๊ยบจริงๆดูมีราคา (ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าขายราคาเท่าไหร่) โดยตัวเคสจะมีแม่เหล็กอยู่ด้วยครับ รองรับการปิดหน้าจอด้วยเคส
สามารถตั้งตัวเครื่องได้ทั้งหมด 3 ระดับตามที่มีแนะนำเอาใว้ด้านใน ด้านในจะเป็นผิวกำมะหยี่นุ่มๆครับ เวลาวางบนโต๊ะแนะนำว่าควรปัดให้สะอาดหน่อย เพราะค่อนข้างสกปรกได้ง่าย
วิธีใส่ก็ง่ายนิดเดียวครับ ติดตัวยึดตามปุ่มด้านหลังที่ตัวเครื่อง เวลาตั้งใช้งานจะออกมาแบบนี้ ดูสวยน่าใช้มากเลยนะครับ และมั่นคงดีมาก รวมทั้งแม้เราจะหยิบขึ้นมาก็ถนัดมือดีเพราะขอบทั้ง 2 ด้านมีแม่เหล็ก และใครที่กลัวจะหลุดผมทดสอบแล้วมันไม่ได้หลุดง่ายๆเลยครับ ปลอดภัยเลยละ
สำหรับ Samsung Galaxy Tab S2 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ซึ่งน้อยกว่ารุ่นเก่านะครับเพราะ Samsung Galaxy Tab S 8.4 นิ้วจะมีแบตเตอรี่มาให้ 4900 mAh ซึ่งจากการทดสอบก็ต้องบอกว่าแบตเตอรี่ถือว่าพอจะอยู่ครบวันได้เหมือนกันนะครับ แต่ไม่ใช่ Tablet ที่แบตอึดนะ ถ้าจะให้สบายใจควรพกพา Power Bank
และยังคงมาพร้อมมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด (Ultra Power Saving Mode) ซึ่งจะแตกต่างจากโหมดประหยัดพลังงานแบบปกติ โดยจะเป็นการปรับหน้าจอเป็นโหมดขาว-ดำ และใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นที่โหมดนี้จำกัดให้ใช้ครับ
แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อ 3G, 4G LTE หรือ WIFI และ GPS ได้นะครับ แถมยังสามารถเล่น Facebook, Twitter, Google+ และ Line ได้แบบขาวดำเก๋ดีนะครับ ซึ่งในโหมดนี้จะทำให้ Tablet ของเราใช้งานได้นานหลายวันเลยละครับ ถือว่าสุดยอดมากๆเพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว Samsung สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นได้มากมายแม้จะอยู่ในโหมดประหยัดพลังงานขนาดนี้ก็ตาม
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 30007 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 51821 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 59.2fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
จับสัญญาณ GPS ได้รวดเร็วดี
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy Tab S2 แรงดีมากครับสมกับเป็น Tablet ระดับเรือธง
Samsung Galaxy Tab S2 มาพร้อม Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI ดูสวยงามและน่าใช้มากครับ ความลื่นไหลทำได้ดีมาก ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 4:3 ผมว่ามันเหมาะสมกับ Tablet จริงๆนั่นแหละครับ เมนูการใช้งานและแอพพลิเคชั่นจะเหมือนยก Galaxy S6 มาเลย
หน้า Briefing บน Samsung Galaxy จะอยู่ด้านซ้ายสุด เราสามารถเปิด-ปิดได้ ส่วนตัวแนะนำว่าปิดจะดีกว่าครับเพราะมันจะช่วยให้ใช้งานได้ลื่นกว่าเดิม แต่ว่าเท่าที่เล่นดูบน Samsung Galaxy Tab S2 ทำตรงนี้มาดีนะผมว่าลื่นกว่าบน Samsung Galaxy S6 ด้วยซ้ำแจ๋วเลยครับ
สำหรับหน้า Briefing บน Samsung Galaxy จริงๆแล้วมันก็คือ Flipboard นั่นเองเสียดายไม่รองรับการเลือกสื่อจากบ้านเรา ใครที่นิยมอ่านบทความต่างประเทศจะได้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นนี้มากครับ ส่วนใครไม่ถนัดก็ปิดซะดีกว่า หรือไปเลือกดาวน์โหลด Flipboard จริงๆมาใช้งานแทน
มีแบบตัวอักษรให้เลือกโหลดเพิ่มเพียบ (แต่ไม่ฟรี) และใครที่กลับตัวหนังสือเล็กสบายใจได้ครับ ปรับสุดนี่ตัวเท่าหม้อแกงเลย อิอิ และสามารถปรับสีสันหน้าจอเองได้ครับ ถ้ารู้สึกว่าสดเกินไป หรือยังไม่สดสะใจพอ
Fingerprint sensor ปรับปรุงใหม่เปลี่ยนจากลากนิ้วผ่าน มาเป็นการแตะเหมือนฝั่ง iOS แล้ว ความแม่นยำทำได้ดีมากครับ (แต่ยังต้องแตะนิ้วตรงๆนะครับ จะใช้ข้างนิ้วแตะแบบ iOS นั้นจะไม่ติด)
อัลบั้นรูปออกแบบมาได้ดีขึ้น เมนูปรับแต่งภาพน่าใช้และให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถหมุนเอียงภาพโดยเรากำหนดเอง หรือจัดภาพแบบเป็นตารางๆแบบ Photo Grid ได้ด้วย
Microsoft จัดเต็มครับติดตั้งแอพพลิเคชั่นของตัวเองมาบน Samsung Galaxy แต่แรกเลยเท่าที่ลองเล่นดู OneNote, Skype และ OneDrive เปิดใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ
แต่ว่าไม่สามารถอัพเดตเพื่อเปิดใช้งาน 3 โปรแกรมหลักที่รอยคอยกันอย่าง Word, Excel และ PowerPoint ได้แหะ ซึ่งก็อาจจะเป็นข้อบังคับที่ยังไม่สามารถใช้งานในไทยได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นบัคที่คงต้องรอให้อัพเดตแก้ไขกันอีกทีนะครับ เห็นมีผู้ใช้งานไปทิ้งคอมเม้นท์เอาใว้แล้ว
Smart Manager จะรวมการตั้งค่าจัดการสำคัญๆในเครื่องเราเอาใว้ด้วยกัน หน้าตาเรียบง่ายน่าใช้ จะมีจัดการแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, RAM และฟังก์ชั่นที่ทาง Samsung เคยชูเป็นจุดข่ายอย่าง KNOX สำหรับระดับองค์กรผมว่า Samsung KNOX ออกแบบมาดีครับ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นสำคัญจริงๆตัว UI ในโหมด Samsung KNOX ผมว่าก็สวยงามและดูดีมากๆน่าใช้ ส่วนถ้ามองความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ผมว่าบางคนน่าจะชอบครับโดยเฉพาะพวกความลับเยอะเพราะถ้าไม่รู้รหัสผ่านข้อมูลสำคัญๆของเราจะไม่มีทางหลุดออกมาเลย เพราะโหมด Samsung KNOX และโหมดปกตินั้นแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์
และ Multi Window ยังคงมีให้ใช้งานเป็นการใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมๆกัน สามารถสลับตำแหน่ง และย่อขยายหน้าต่างได้ตามใจชอบ รองรับแอพพลิเคชั่นและคำสั่งต่างๆได้อย่างหลากหลาย และสามารถย่อหน้าจอที่เราใช้อยู่ให้กลายมาเป็นคำสั่ง Multi Window ได้โดยการลากนิ้วจากมุมหน้าจอลงมาเท่านั้นเอง ช่วยให้การใช้งานบน Smartphone ของ Samsung สะดวกขึ้นมาก แต่จะแตกต่างจากเดิมเพราะไม่มีคำสั่งแตะปุ่ม Back ค้างเพื่อเปิดแถบตัวเลือกแอพพลิเคชั่นแล้วนะครับ
SideSync เป็นการเชื่อมต่อหน้าจอโทรศัพท์ Smartphone มาแสดงผลบนหน้าจอ Tablet แถมยังสามารถบังคับการใช้งานโทรศัพท์เครื่องนั้นๆได้อย่างสมบูรณ์ เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมากครับ และเป็นฟังก์ชั่นที่น่าสนใจจนล่าสุดตอนนี้มีหลายแบรนด์เลยที่นำไปพัฒนาออกมาแข่งขันกันในตลาด
นอกจาก Play Store แล้ว Samsung ก็มี Store ของตัวเองครับ Galaxy Essentials ซึ่งจะรวบรวมแอพพลิเคชั่นเฉพาะที่พัฒนาโดย Samsung สำหรับ Samsung Galaxy โดยเฉพาะมารวมใว้ด้วยกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ภายหลัง รวมทั้งในส่วนของ Galaxy Gifts ซึ่งจะรวมสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy โดยเฉพาะเอาใว้อย่างจุใจ (เป้นแนวคิดของทีมงาน Samsung ประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับนำไปใช้สู่สากลด้วยนะครับ น่าภูมิใจมากๆ)
เครื่องเล่นวีดีโออย่างที่เห็นครับว่าด้วยอัตราส่วน 4:3 มันจึงเห็นแถบดำข้างบนและข้างล่าง ซึ่งตรงจุดนี้จะสู้หน้าจออัตราส่วน 16:9 ไม่ได้ แถบควบคุมการทำงานจะสามารถสลับตำแหน่งซ้าย-ขวาได้ และยังคงมีลูกเล่น Popup Play มาให้ใช้งานกันเช่นเคย
เครื่องเล่นเพลงสามารถปรับแต่งเสียงด้วยหูเราเองได้โดยฟังก์ชั่นนี้ Samsung มีมานานแล้วเรียกว่า Adapt Sound ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่ามันยอดเยี่ยมมากเลย และยังมาพร้อม SoundAlive+ และ Tube Amp มาให้ใช้กันด้วย สำหรับ Samsung Galaxy Tab S2 จะใช้ชิปเสียงของ Wolfson ครับ
จากการทดสอบผลออกมาน่าประทับใจมากเสียงดีเลยละ ยิ่งถ้าได้จับคู่กับหูฟังตัวเก่งด้วยแล้ว เชื่อว่าจะประทับใจกันแน่นอนกับคุณภาพเสียงของ Samsung Galaxy Tab S2 เครื่องนี้ครับ
ด้วยหน้าจออัตราส่วน 4:3 การแสดงผล Browser และการอ่านหนังสือจึงออกมาน่าประทับใจครับ เหมาะกว่าหน้าจออัตราส่วนเดิมมาก ผมเองอ่านเพลินจบไปหลายตอนเลย (ควรซื้อฉบับลิขสิทธ์มาอ่านและสะสมด้วยนะครับ ผมเองมีเต็มบานเลย^__^)
ทดสอบเล่นเกมอย่าง Marvel Contest of Champions และ Implosion ผลออกมาลื่นไหลดีมากครับ ใครที่กังวลว่า Samsung Galaxy Tab S2 เลือกใช้ชิปเซ็ต Exynos 5433 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 32 bit แล้วจะสู้ชิปเซ็ตแบบ 64 bit รุ่นใหม่ๆได้หรือเปล่าต้องบอกว่ามันไม่เกี่ยวกันนะครับ สำหรับการใช้งานทั้งเรื่องทั่วไปรวมทั้งเรื่องเกม Samsung Galaxy Tab S2 ทำได้น่าประทับใจในระดับสูงจริงๆ
Samsung Galaxy Tab S2 มาพร้อมกล้องความละเอียด 8MP และกล้องหน้าความละเอียด 2.1MP เท่าเดิม แต่สามารถบันทึกีดีโอความละเอียดสูงขึ้นเป็น 1440p และมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพบางอย่างเหมือนใน Samsung Galaxy S6 เช่นโหมด Pro และ Virtual Shot รวมทั้งยังสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้อีกด้วย
คุณภาพของกล้องอยู่ในระดับใช้ได้เลยครับ และถือว่าดีเมื่อเทียบกับ Tablet รุ่นอื่นๆ ส่วนกล้องหน้าถือว่าทำได้ตามมาตราฐาน อาจจะไม่ดีเยี่ยมแต่ก็ทำได้ไม่เลวนะครับ เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Samsung Galaxy Tab S2 กันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Tab S2
ข้อดีของ Samsung Galaxy Tab S2
1. Design สวยมาแนว Galaxy Note 4 วัสดุและงานประกอบคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม
2. หน้าจออัตราส่วนใหม่ 4:3 เหมาะกับการใช้งานโดยรวมมากยิ่งขึ้น
3. หน้าจอสวยงามมาก
4. สเปคสูงการใช้งานลื่นไหล และรวดเร็วดีมาก
5. Fingerprint sensor
ุ6. คุณภาพเสียงดีมากทั้งจากลำโพง และผ่านหูฟัง
7. สำหรับ Tablet ถือว่ากล้องคุณภาพดีมาก
ข้อด้อยของ Samsung Galaxy Tab S2
1. เลือกใช้ชิปเซ็ต 32bit
2. ตัด Infrared port ออกไป
3. วัสดุยังใช้พลาสติค ทั้งๆที่หลายคนคาดหวังว่า Tablet ระดับเรือธงจะเลือกใช้โลหะหรือกระจกเพื่อความหรูหรา
4. แบตเตอรี่ความจุไม่สูงสำหรับ Tablet
Samsung Galaxy Tab S2 โดยรวมสมเป็น Tablet ระดับเรือธงจากแบรนด์เจ้าตลาด Android อย่าง Samsung ครับตัวเครื่องดูพรีเมี่ยม แม้จะขัดใจหลายคนที่คาดหวังวัสดุที่ดูหรูหรายิ่งกว่าเดิม แต่เท่าที่ทำออกมาก็อยู่ในระดับคุณภาพสูงทีเดียว และมีจุดเด่นที่เป็นรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือได้ยาก รวมทั้งความบางเพียง 5.6 มม. เท่านั้นก็ชวนให้น่าใช้งานมากๆ
หน้าจอคุณภาพสูงสวยมาก และมีมุมมองที่กว้างกับอัตราส่วนใหม่ 4:3 ก็เหมาะกับการใช้งานจริงๆครับ จับถือได้ถนัดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเวลาใช้งานแนวตั้ง ความลื่นไหลก็ทำได้ดีมาก ไม่รู้สึกติดขัด อย่างที่ผมบอกใว้ในข้างต้นสำหรับคนที่คิดมากเรื่องชิปเซ็ต ผมว่าผลที่ออกมาในการใช้งานจริงไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับ
และจุดที่ชอบมากคือเรื่องของคุณภาพเสียง ทั้งผ่านลำโพงและหูฟังทำออกมาได้คุณภาพน่าประทับใจ กล้องก็ทำได้ดีกว่าที่คาดใว้ซะอีกครับสำหรับ Tablet ผมว่าทำได้ดีมากแล้วนะ จะติก็ตรงกล้องหน้าความละเอียดน้อยไปซักหน่อย ถ้าจัด 5MP มาตรามมาตราฐานใหม่ของ Samsung ก็จะดีมากเลย
และน่าแปลกที่คราวนี้ Samsung ตัด Infrared port ออกทั้งๆที่มันมีประโยชน์ออกนะครับ และเป็นจุดขายที่น่าสนใจจะตายไป และบตเตอรี่ที่ให้มาน้อยกว่ารุ่นก่อนซะงั้น ซึ่งแม้การใช้งานจะไม่ได้หมดเร็วอะไรจนดูผิดปกติ แต่ออกรุ่นใหม่มาทั้งทีน่าจะจัดหนักครับ แต่อย่างว่านะครับมันบางเพียง 5.6 มม. เท่านั้นเอง
ที่ต้องชมอีกจุดคือเรื่องของ Case ครับทำออกมาได้หรูหราน่าใช้ดีแต่ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าจะแถม หรือจะขายแยกซึ่งแนะนำว่าควรซื้อมาใช้คู่กันครับ สำหรับ Samsung Galaxy Tab S2 ดูแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือน Samsung จะยังยั้งๆอยู่นะ ดูแล้วยังไม่จัดเต็มเท่าไหร่ซึ่งผมแอบเสียดายอยู่เหมือนกันนะเนี่ย แต่เท่าที่ออกมานี่ก็ถือว่าน่าใช้มากแล้วละครับ อยากจะจัดซักเครื่องเลยละ
[gradeB]