Samsung Galaxy Watch หรือถ้าจะเรียงตามลำดับไทม์ไลน์ของมัน ก็น่าจะชื่อว่า Gear S4 แต่ Samsung ตัวสินใจตั้งชื่อใหม่เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ว่ามันคือ Watch หรือนาฬิกานั้นเองครับ โดย Galaxy Watch มันไม่ได้เน้นที่การทำงานเพียงเพื่อผู้ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่มันคืออุปกรณ์ที่จะให้ผู้ใช้ ใช้ชีวิตในแต่ละวันได้มีคุณภาพมากขึ้น
(Galaxy Watch รองรับทั้งระบบ iOS 9.0 ขึ้นไป เครื่องสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และ Android ทุกยี่ห้อที่ใช้ Android 5.0 หรือสูงกว่าขึ้นไป)
Samsung Galaxy Watch เปิดตัวพร้อมเปิดจำหน่ายในเมืองไทยกันอย่างแน่นอนแล้ว โดยจะเปิดขายในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้เป็นต้น โดยนำเข้ามาทั้งไซส์ครับ นั้นคือขนาด 42 มม. (หน้าจอนาฬิกา 30 มม.) นับเป็นขนาดเล็ก โดยจะมีสีมิดไนท์แบล็ค และสีโรสโกลด์ และขนาดที่ใหญ่กว่านั้นคือ 46 มม. (หน้าจอนาฬิกา 33 มม.)โดยจะมีมาในสีเดียวนั้นคือสีเงินครับ
คลิปแกะกล่องพรีวิว Samsung Galaxy Watch
การออกแบบภายนอกนับเป็นที่สุดแล้วสำหรับ Smart Watch สวยมาก เนื้อวัสดุก็ผิวสัมผัสดีมาก ผมเชื่อว่า 99.99% ตัดสินใจซื้อเจ้า Smart Watch ตัวนี้จากงานออกแบบภายนอกเลยละครับ ^^
เท่สุด ดูแพง ใช้หน้าจอกลม Circular Super AMOLED ความละเอียด 360 x 360 สีสด โคตรชัด พร้อมหน้าปัดนาฬิกางามงดเป็นร้อยแบบ และไม่ใช่แค่ความสวยเท่านั้นนะครับที่ออกแบบมาดี แต่การใช้งานที่ทาง Samsung ออกแบบมาก็ใช้งานง่ายด้วย ขอบหน้าจอ (Bezel) ของ Galaxy Watch จะถูกใช้เป็นตัวควบคุมการทำงานหลัก ด้วยขนาดวงแหวนที่ใหญ่ หมุนง่าย มีความหนืดฝืนนิ้วกำลังดี ทำให้การควบคุมการใช้งาน Galaxy Watch คล่องตัวมากในยามใช้งานจริง
แม้หน้าจอของ Galaxy Watch จะรองรับการทัชสกรีนทั้งแบบทัชและสไลด์เลื่อน แต่ในการทดลองใช้งานมาร่วมอาทิตย์ ผมจะใช้หน้าจอของมันแค่การ ‘แตะ’ เท่านั้นเองครับ เพราะว่าวงแหวนหน้าจอของมันใช้งานถนัดและง่ายกว่ามาก อีกทั้งเป็นหนึ่งในจุดเตะตาด้านความสวยงามด้วย ^^ ผมเชื่อว่าใครได้เห็นหน้าตามัน จะรู้สึกถึงจุดสวยจาก Bezel วงแหวนของมันเนี่ยแหละครับ
ตัวเครื่องสีเงินสำหรับรุ่นใหญ่ เหมาะกับคนชอบความเข้มข้น และกับสีโรสโกลด์ที่โดนใจผู้หญิงสุดๆ อย่างที่ผมเกริ่นไปในหัวรีวิว “แค่ความสวยภายนอกก็คุ้มแล้ว!”
อย่าคิดว่าสวยๆ หรูๆ แล้วจะบอบบางนะจ๊ะ เพราะ Galaxy Watch ผ่านมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ MIL-STD-810G (Military Standard) แถมกันน้ำระดับลงว่ายเป็นกีฬาได้เลย (5 ATM + IP68)
กระจกจอใช้ Corning Gorilla Glass DX+ กระจกลิงสำหรับอุปกรณ์ระดับหรูเท่านั้น เพราะนอกจากจะโคตรทน แกร่งลดรอยขีดข่วนและกันการแตกร้าวได้ง่ายแล้ว กระจกตัวนี้จะมีคุณสมบัติลดแสงสะท้อนบนพื้นผิวได้มากกว่ากระจกจออื่นๆ ถึง 75% และเพิ่มความคมชัดในการใช้งานกลางแสงแดดได้มากขึ้น ทำให้ผมสามารถใช้งาน Galaxy Watch ในที่แจ้ง แต่ยังคงมองเห็นหน้าปัดของมันได้ชัดอยู่ครับ
ตัวเรือน Galaxy Watch จะมีปุ่มควบคุมด้านข้างตัวเรือนอีกสองปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มย้อนกลับ และปุ่มโฮม รวมถึงใช้ในการเรียกผู้ช่วยรับคำสั่งเสียง Bixby ของขึ้นมาได้ครับ (พูดถึง Bixby ทีไร เสียดายที่มันยังฟังไทยไม่ออกสักที – -)
ด้านหลังตัวเรือนมีเซ็นเซอร์สแกนชีพจรที่ออกแบบมาใหม่ ส่วนสวยนาฬิกาก็ใจกว้างพอที่จะใช้สายขนาด 20 มม. และ 22 มม. (สำหรับรุ่น 42 มม. และ 46 มม. ตามลำดับ) ตามมาตรฐานของสายนาฬิกาโดยทั่วไป เรียกว่าอยากเปลี่ยนสายที่ไหน ร้านนาฬิกาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาซื้อใช้สายสำหรับตัวมันโดยเฉพาะ
Galaxy Watch ใช้ระบบการชาร์จแบบไร้สายครับ โดยในกล้องจะมีที่ชาร์จ สาย และแท่นชาร์จมาให้ครบครับ เวลาชาร์จค่อนข้างง่าย เพราะแค่วางตัวนาฬิกาบนแท่นเท่านั้นเอง ตัวนาฬิกาก็จะเปลี่ยนโหมดแสดงผลเป็นแนวนอน เพื่อกลายเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะให้กับได้ทันที
ในการทดลองใช้งาน สิ่งแรกที่ผมค่อนข้างประทับใจกับการใช้ Galaxy Watch รุ่นนี้ ก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ครับ เพราะว่าแบตเตอรี่เต็ม 100% ของ Galaxy Watch สามารถใช้งานได้ถึง 4 วันเลยทีเดียวครับ
เปิดซิงค์ข้อมูลให้มีการแจ้งเตือนต่างๆ สามารถใช้งานได้สามวันแน่นอน เข้าวันที่สี่ยังพอไหว ถ้าเปิดจอขึ้นมาเห็นแบตเกิน 30% ออกบ้านได้เลย ใช้งานได้ทั้งวันแน่นอนครับ ถือว่าเป็น Smart Watch ที่แบตได้ใจมากๆ เพราะส่วนใหญ่เรื่องแบตเป็นปัญหาหลักของ Smart Watch เลยละครับ ใช้งานกันได้วันสองวันก็หมด แล้วก็จะลืมชาร์จกันได้ตลอด 555
ถ้าฉุกเฉินจริงๆ ก็มีโหมดประหยัดพลังงาน ที่จะลดสีและลดการทำงานให้ประหยัดแบตมากขึ้น ซึ่งเราสามารถเปิดพวกโหมดพิเศษ และเข้าการตั้งค่าสำคัญๆ ได้จากการสไลด์ขอบจอด้านบนลงมาครับ
มีโหมดโรงภาพยนตร์ด้วยนะ ป้องกันแสงไปส่องหน้าคนนั่งข้างๆ กดเปิดได้จากในหน้าพิเศษเช่นกัน เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เข้าโรงหนังได้ไม่ต้องปิดเครื่องครับ
การใช้งานภายใน
ความสามารถหลักๆ ของ Galaxy Watch ก็คือการเป็นคู่หูของผู้ใช้ในทุกๆ กิจกรรมชีวิต โดยเน้นการทำงานคู่กันกับสมาร์ทโฟนได้ในทั้งระบบ Android และ iOS ครับ เชื่อมต่อการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นของ Samsung ที่ชื่อว่า “Galaxy Wearable”
จุดโดดเด่นของ Galaxy Watch ที่เหนือกว่าอุปกรณ์ Wearable ทั้งโลกหล้าก็คือ Watch Face หรือหน้าปัดนาฬิกานั้นเองครับ
หน้าปัดนาฬิกาในระบบ Tizen Wearable OS 4.0 เรียกว่ามีเป็นร้อยๆ แถมสวยมาก มีมาจากทุกสถาบันแบรนด์ดังออกแบบมาให้ แค่เปลี่ยน Watch Face ไปวันๆ ปรับให้เข้ากับการแต่งตัวก่อนออกจากบ้านก็คุ้มแล้ว โดย Watch Face ที่มีให้ดาวน์โหลดก็มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินนะครับ ซึ่งเราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้จากในแอพ โดยภายในนั้น เราจะสามารถเข้าไปดาวน์โหลดหน้าปัดและแอพพลิเคชั่นใช้งานได้จาก Galaxy Apps Store ครับ
แอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่จะเพิ่มประโยชน์ในการใช้งาน Galaxy Watch ได้ ทั้งแอพสำหรับการเดิน ความบันเทิง มียันเกมที่เราสามารถเล่นบนหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วย ก็เรียกว่าหลากหลายมากๆ และก็มีเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ เพราะว่ามีนักพัฒนาทำแอพลงในสโตร์ของ Tizen Wearable ค่อนข้างเยอะครับ เป็นระบบนาฬิกาที่ไม่เหงาแน่นอน
แต่ความสามารถหลักๆ ของตัว Galaxy Watch เอง ก็มีเยอะมากแล้วครับ มันสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแจ้งเตือนต่างๆ ให้กับเราได้แทบทั้งหมด และด้วยหน้าปัดที่ชัดและใหญ่ของมัน ทำให้เราสามารถใช้งานในการอ่านข้อความการติดต่อเข้ามาได้แบบจริงจัง เช่นอ่านข้อความ อ่านเมล อ่านข้อความเฟสบุ๊ค
หรือแม้แต่จะกดรับสายโทรเข้าและสนทนาผ่านนาฬิกาเลยก็ได้นะครับ เพราะว่าตัว Galaxy Watch มีทั้งไมค์สนทนาและลำโพงในตัวมันเองครบ และตัวไมค์ยังมีคุณภาพมากพอสมควรที่จะคุยในที่มีลมหรือเสียงบรรยากาศรบกวนเช่นริมถนนได้ครับ ยกนาฬิกาขึ้นมาใกล้พอจะได้ยินเสียงจากลำโพง แล้วพูดเสียงตามปกติ ปลายทางฟังเสียงเรารู้เรื่องชัดเจนครับ
การแจ้งเตือนต่างๆ เราสามารถกำหนดได้จากในแอพพลิเคชั่น รองรับภาษาไทยสมบูรณ์อ่านได้ชัดเจน สระตัวอักษรและบรรทัดไม่เพี้ยนครับ
แสดงหน้าบุคคล และรายชื่อติดต่อได้ หน้าตาการใช้งานในแต่ละเมนูสวยงามครับ
การควบคุมสามารถควบคุมผ่านได้ทั้งการหมุนขอบหน้าปัดนาฬิกาและสไลด์บนหน้าจอโดยตรง จากหน้าโฮมที่เป็น Watch Face เราสามารถสไลด์จากขวาไปซ้ายเพื่อเข้าหน้าวิตเก็ตต่างๆ ที่เราตั้งได้ตามใจ ต้องการให้อะไรมาอยู่หน้าแรกเพื่อการใช้งานบ่อยๆ ก็ลากมาวางได้เลยครับ เช่นการออกกำลังกาย สายติดต่อบ่อยๆ หรือข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย
ในการสไลด์จากซ้ายไปขวา จะเป็นการเข้าการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เข้ามายังโทรศัพท์ของเราครับ โดยจะมีจุดสีเหลืองแสดงเป็นสัญลักษณ์บนหน้าปัดให้เรารู้ แล้วเราก็สามารถสไลด์หน้าจอเพื่อไปไล่ดูการแจ้งเตือนได้เลย
จากการใช้งาน Galaxy Watch นอกจากจะสะดวกรวดเร็วในการเช็คการติดต่อต่างๆ แล้ว มันยังช่วยเราประหยัดแบตโทรศัพท์ในทางอ้อมด้วยนะครับ เพราะผมจับโทรศัพท์น้อยลงกว่าเดิมมาก ส่วนใหญ่มีการติดต่อเข้ามาแค่ดูบนนาฬิกาก็รับรู้แล้ว
ตัว Galaxy Watch จะมีหน่วยความจำภายในตัวเอง 4GB สำหรับจัดเก็บรูปภาพหรือไฟล์เพลงได้ครับ ทำให้มันสามารถทำงานเป็นเครื่องเล่นเพลงได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ ใช้ฟังเพลงได้ขณะออกกำลังกายเป็นต้น
โดยเราสามารถโอนไฟล์ภาพหรือเพลงจากเครื่องสมาร์ทโฟนเข้าตัวนาฬิกาได้โดยตรงแบบไม่ต้องเชื่อมต่อสาย และตัวเล่นเพลงของ Galaxy Watch ยังหลากหลายด้วยความสามารถอีกด้วยนะครับ
มันสามารถทำงานเป็นเครื่องเล่นเพลงที่เชื่อมต่อไฟล์จากสมาร์ทโฟนได้ กดสั่งงานให้สมาร์ทโฟนของเราเล่นเพลงได้ แถมยังระบุได้ด้วยว่า ต้องการให้เล่นเพลงจากแอพพลิเคชั่นใดเป็นพื้นฐาน เช่นแอพฟังเพลงหรือให้เปิด Youtube เป็นต้นครับ
รวมทั้งใช้ตัวมันเองเป็นเครื่องเล่นเพลง ตัวเก็บเพลง และเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธด้วยตัวมันเองก็ได้เช่นกันอีกด้วย เรียกว่าความสามารถในการฟังเพลงครบเครื่องทุกรูปแบบครับ
แสดงชื่อเพลงและปกเพลงครบถ้วนสวยงาม จะสังเกตว่า UI การแสดงผลของ Tizen Wearable OS 4.0 ค่อนข้างสวยทุกโหมดเลย
และแน่นอนด้วยความเป็นสมาร์ทวอทช์ในเทรนด์ยุครักสุขภาพ ก็ต้องมีความสามารถในด้านการออกกำลังกายแบบจัดเต็มมาไม่น้อย และ Galaxy Watch ก็จัดมาไม่น้อยจริงๆ ครับ แถมยังมาพร้อมการดูแลสุขภาพที่ออกแบบมาสำหรับทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มคนรักการออกกำลังกายด้วยครับ
ในด้านการออกกำลังกาย ตัว Galaxy Watch จะมีฟังก์ชั่นการตรวจจับการออกกำลังกายได้มากถึง 39 ประเภทครับ เช่น การเดิน, การวิ่ง, การปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, การเดินขึ้นเข้า หรือกระทั่งการออกกำลังกายด้วยเครื่องต่างๆ เช่นลู่วิ่ง จักรยานออกกำลังกาย เครื่องยกน้ำหนัก หรือพวกเวทเทรนนิ่งเช่น ครันซ์ ลันจ์ สควอท วิดพื้น ซิดอัพ และอีกมากมายที่บางอย่างผมก็ไม่รู้จักเลยครับ เพราะมันเยอะถึง 39 รูปแบบ อ่อ รวมถึงการออกกำลัง “โยคะ” ด้วย และมีโหมดสำรองที่หากจะนอกเหนือจากนี้ ด้วยการตรวจจจับการออกกำลัง “อื่นๆ” ^^
ที่ Galaxy Watch สามารถตรวจจับและเป็นผู้ช่วยคนออกกำลังกายได้เยอะขนาดนี้ เพราะเซ็นเซอร์ของมันที่มีมาให้ภายใน มีมาทั้ง Accelerometer ตัววัดความเร็วการเคลื่อนไหว, Gyro ตัววัดการหมุนควง, HRM วัดชีพจรการเต้นของหัวใจ, Ambient Light เซ็นเซอร์วัดแสงค่าความสว่าง GPS ตัวจับตำแหน่ง, และบารอมิเตอร์ ซึ่งเป็นเซนเซอร์วัดความดันอากาศ และตัววัดความสูงครับ
ฉะนั้น Galaxy Watch มันจะรู้หมดว่าคุณกำลังเดิน เคลื่อนที่ เดินขึ้นเขาขึ้นบันได หรือนั่งไม่มีการขยับตัว โดยอาศัยเซ็นเซอร์ทั้งหมดมาตรวจจับเพื่อคำนวนเพื่อหาค่าในการออกกำลังกายออกมาได้เป็นเวลา ระยะทาง ความเร็ว จำนวนการเคลื่อนไหว และพลังงานที่ใช้ไป
โดยจะมีฟังก์ชั่นเสียงโค๊ชผู้ช่วยการออกกำลังกายที่ถูกโปรแกรมเอาไว้ในโหมดต่างๆ สำหรับคนต้องการโค๊ชเพื่อการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องครับ
ต่อให้เราไม่ได้ออกกำลังกายเป็นจริงเป็นจัง การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราก็จะได้ประโยชน์จาก Galaxy Watch ด้วยครับ เพราะมันจะควรตรวจสอบการใช้ชีวิตแต่ละช่วงเวลา และยุ่งกับเราไปซะทุกเรื่อง 555
เช่นนั่งนานเกินไป ก็ควรขยับร่างกายซะบ้าง หรือเดินน้อยเกินไปก็ควรเดินเพิ่มเติมก่อนที่จะหมดวันเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่เหมาะสม ติดตามบอกเราได้แม้กระทั่งใส่เข้านอนก็สามารถใช้ตรวจจับการนอนได้ด้วยนะครับ
แล้วยังแอบจับชีพจรการเต้นของหัวใจเราในแต่วันเอาไว้ เก็บเป็นข้อมูลให้กับเราได้ทราบถึงสุขภาพชีวิตในช่วงนั้นๆ
มันสามารถใช้บันทึกบริมาณน้ำ กาแฟ ของกินในแต่ละวันของเราเอาไว้ได้ โดยข้อมูลทั้งหมดของการเคลื่อนที่ การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตทุกอย่าง จะถูกรวมไว้ที่ Samsung Health ซึ่งเป็นโปรไฟล์ข้อมูลส่วนตัวที่จะจัดเก็บไว้ได้ในไอดีของเราครับ
จะเห็นว่า Galaxy Watch ยัดมาเพียบ! จะใช้ไม่ใช้ไม่รู้ แต่ใส่เข้ามาให้ก่อนเผื่อจะใช้ แม้หน้าตา Galaxy Watch จะออกไปทางแฟชั่น แต่ความสามารถภายในครบครันสำหรับช่วยเสริมชีวิตผู้ใช้ทั้งการติดต่อสื่อสารและความสะดวกต่างๆ ครับ และรองรับถ้าจะนำไปใช้ในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเพื่อเพิ่มความสนุกและครบเครื่องในการจัดเก็บข้อมูลหรือเป็นโค๊ชให้กับเรา
ความสามารถเยอะมาก ตัวเครื่องสวยมาก มาตรฐานความทนทานสูงมาก หน้าปัดนาฬิกาสวยและมีเยอะมาก รองรับกับสมาร์ทโฟนเยอะมาก ใช้กับสายนาฬิกาได้เยอะมาก ศูนย์ซ่อมและบริการก็เยอะมากเช่นกัน ^^ ก็ขอชมว่ายอดเยี่ยมมาก และน่าใช้มากครับ
แถมยังใช้เป็นอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉินได้ด้วย
จริงๆ แล้ว แม้จะตัดทุกเหตุผลด้านความสามารถออกไป เหลือแค่ความสวยงามภายนอกของมันในฐานะเครื่องประดับ สำหรับผมก็ว่ามันพอแล้ว 555 เพราะสวยมากจริงๆ ครับ Galaxy Watch