Sennheiser CX Plus True Wireless หูฟังไร้สายเสียงดี เบสนุ่ม ตัดเสียงเยี่ยม
เป็นหูฟังที่น่าสนใจอีกรุ่นสำหรับหูฟังไร้สายที่มาจากแบรนด์หูฟังและไมโครโฟนโดยเฉพาะ ระบบตัดเสียง ANC ที่เงียบสนิท โหมด Transparent Hearing ที่ช่วยให้ไม่พลาดการรับรู้จากรอบข้าง มีแอปพลิเคชั่นรองรับเพื่อช่วยปรับแต่ง EQ ตามความชอบของผู้ฟัง ในราคาที่เอื้อมถึงได้
The Good
- รองรับการตัดเสียงรบกวน ANC
- ใส่กระชับไม่หลุดง่าย
- คุณภาพเสียงดี เบสนุ่ม
- มีแอปพลิเคชั่นรองรับ
The Bad
- ดีไซน์กล่องเก็บหูฟังเป็นเหลี่ยม ดูไม่ค่อยสวย
- วัสดุและงานประกอบดูค่อนข้างธรรมดา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
เปิดตัวกันไปสักพักแล้วกับ CX Plus True Wireless หูฟังในตระกูล True Wireless ของเซนไฮเซอร์(Sennheiser) แบรนด์หูฟังคุณภาพเยี่ยมจากประเทศเยอรมณี แค่ชื่อเซนไฮเซอร์ก็การันตีคุณภาพเสียงได้ในระดับหนึ่งแล้ว ตัว CX Plus เป็นหูฟังตัวใหม่ที่ต่อยอดมาจากตัว CX True Wireless มีคำว่า Plus ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่ตัดเสียงได้เงียบมาก เบสนุ่ม มิติเสียงกว้าง เปิดตัวมาในราคา 6,390 บาท มี 2 สี สีขาวและสีดำ ตัวที่ Appdisqus จะมารีวิวให้ชมกันจะเป็นตัวสีดำค่ะ
ดีไซน์และการใช้งานของ CX Plus True Wireless
ดีไซน์ทรงเดียวกับรุ่นแบบเป๊ะๆ กับรุ่น CX True Wireless ที่ออกมาก่อนหน้านี้ทั้งตัวเคสชาร์จและตัวหูฟัง ทรงเหลี่ยมโค้งมนจับละมุนมือผิวสัมผัสด้านแต่ก็แอบติดฝุ่นง่ายนิดๆ ตัวเคสชาร์จเป็นพลาสติกที่ดูทนทานบานพับดูแข็งแรงเปิดปิดได้แบบไม่ต้องกลัวจะหักคามือ
ด้านบนฝาเคสฝังโลโก้เซนไฮเซอร์โลหะสีเงิน ด้านในบุยางกันกระแทกบริเวณฝาปิด ด้านในฝาเคสสกรีนชื่อ Sennheiser น้ำหนักของตัวเคสชาร์จรวมหูฟังเบามาก หนักเพียง 47 กรัม ตัวเคสหนัก 35 กรัม ตัวหูฟังหนักเพียงข้างละ 6 กรัม ด้านในมีแม่เหล็กดูดตัวหัวฟังไม่ให้หลุดง่าย
ด้านหลังเป็นพอร์ตชาร์จ USB Type C
ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะของแบตเตอรี่ 3 สี สีแดงแจ้งแบตเตอรี่ต่ำกว่า 25% สีเหลือง 50% สีเขียวแบตเตอรี่เต็มพร้อมใช้งาน แบตเตอรี่และเคสชาร์จใช้งานได้ยาวนาน 24 ชม.
ตัวหูฟังน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัดสวมใส่ได้พอดีกระชับกับช่องหู ใส่ออกกำลังกายแบบไม่ต้องกลัวหลุดไม่ต้องกังวลว่าหูฟั
พร้อมการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 การเชื่อมต่อบลูทูธ ที่สามารถจัดการได้ง่ายดายผ่านแอปฯ Sennheiser Smart Control ใส่ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง แล้วแตะค้างไว้ 3 วินาทีเป็นการ Pairing กับสมาร์ทโฟนที่เราต้องการเชื่อมต่อ ในคู่มือจะมี QR Code ให้โหลดแอปฯ Sennheiser Smart Control ที่ใช้ได้กับทั้งระบบ Android และ IOS
ตัวหูฟังควบคุมการใช้งานแบบ Touch Control ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ด้วยการแตะสัมผัสที่ตัวหูฟังได้เลย สามารถปรับแต่งเมนูตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบเสียง การโทรออก รวมไปถึงการใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงที่ทั้งสะดวกและใช้งานง่าย
- แตะ 1 ครั้ง (ข้างซ้ายหรือขวา) รับสายโทรศัพท์
- แตะ 2 ครั้ง (ข้างซ้ายหรือขวา) ปิดสายโทรศัพท์
- แตะ 1 ครั้ง ข้างขวา ปิด/เปิด เพลง
- แตะ 1 ครั้ง ข้างซ้าย เปิดรับเสียงจากภายนอก (Transparent Hearing)
- แตะ 2 ครั้ง ข้างขวา เลื่อนเพลงต่อไป
- แตะ 3 ครั้ง ข้างขวาเป็นคำสั่งเสียง Voice assistant
- แตะ 3 ครั้ง ข้างซ้าย เปิด Active Noise Cancellation
- แตะค้างข้างขวา เป็นการเพิ่ม Volume
- แตะค้างข้างซ้ายเป็นการลด Volume
โดยตัวหูฟังแต่ละข้างประกอบไปด้วยไมโครโฟนคู่ที่สามารถปรับเสียงพูดเวลาคุยโทรศัพท์ และการใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงมีความคมชัด การพูดคุยผ่านโทรศัพท์เป็นไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงของตัวเองในระหว่างการโทรได้ ไมโครโฟนที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน ช่วยให้มั่นใจว่าเสียงในการใช้งานโทรศัพท์และระบบสั่งเสียงสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Smart Pause โดยสามารถหยุดเล่นเสียงได้อัตโนมัติเมื่อดึงหูฟังออก และเล่นต่อเองโดยทันทีเมื่อใส่กลับเข้าไปใหม่หูฟังแต่ละข้างยังถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระต่อกัน จึงสามารถใช้ได้ทั้งการใช้งานแบบสองข้างพร้อมกัน หรือจะเลือกใช้เพียงข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ตามความต้องการของผู้ใช้หูฟังทุกรุ่นในตระกูล True Wireless ของเซนไฮเซอร์ได้รับการพัฒนามาจากการศึกษาค้นคว้าในเรื่องของสรีรศาสตร์โดยเฉพาะ
มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellationเพื่อให้ได้สัมผัสกับเสียงที่มีความคมชัด ละเอียด นอกจากนี้ยังมีโหมด Transparent Hearing ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานรับรู้ถึงสถานการณ์รอบตัวที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างดีโดยไม่ต้องถอดหูฟัง อย่างในสนามบินหรือรถไฟฟ้า
Built-in Equalizer & Bass Boost ฟังก์ชั่นการปรับแต่งเสียงที่มีในตัว (Built-in Equalizer) ผ่านแอปฯ Sennheiser Smart Control ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ฟังก์ชั่นการปรับแต่งเสียง (EQ) ที่มาพร้อมกันยังช่วยปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน แอดการตั้งค่า EQ ที่เราปรับแล้วตั้งชื่อได้ใหม่ด้วย อีกทั้งยังตั้งค่ำ Bass Boost ที่ทรงพลังได้ล่วงหน้ำอีกด้วย เสียงสเตอริโอที่มีความเที่ยงตรงสูง พร้อมกับเสียงเบสที่นุ่ม ทุ้ม เสียงกลางที่ชัดเป็นธรรมชาติและเสียงสูงที่มีความละเอียดปราณีต
อุปกรณ์ภายในกล่อง
มาดูกันค่ะว่าในกล่องมีอะไรมาให้กันบ้าง
- หูฟัง CX Plus True Wireless
- เคสชาร์จ
- สาย USB Type C
- จุกซิลิโคน 4 ขนาด L,M,S,XS (ไซส์ M อยู่ที่ตัวหูฟัง)
- คู่มือใช้งานแบบย่อสารพัดภาษา (ที่ไม่มีภาษาไทย = = )
- Safety Guide
ใช้งานได้นานตลอดทั้งวันหูฟังมีขนาดกะทัดรัดนี้สามารถสวมใส่ได้พอดีกับหู ดังนั้นไม่ว่าจะขยับเขยื้อนขนาดไหนก็มั่นใจได้เลยว่าหูฟังจะไม่หลุด นอกไปจากนี้หูฟังยังมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ซิลิโคน 4 ขนาด ที่นอกจากจะให้ความสบายในขณะใช้งานแล้ว ยังเป็นส่วนช่วยให้ฟังก์ชั่นการตัดเสียงรบกวนทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ Bluetooth 5.2 ที่ติดตั้งมากับหูฟังยังมาพร้อมกับตัวแปลงสัญญาณเสียง SBC, AAC, aptX และ aptX Adaptive Codec ที่รองรับเสียงที่มีความคมชัดแบบ high resolution และค่าดีเลย์ที่ต่ำเมื่อใช้งานเวลาฟังเสียงจากคลิปวิดีโอ ผ่านแอปฯ Sennheiser Smart Control
สรุปโดยรวมก็เป็นหูฟังที่น่าสนใจอีกรุ่นสำหรับหูฟังไร้สายที่มาจากแบรนด์หูฟังและไมโครโฟนโดยเฉพาะ ระบบตัดเสียง ANC ที่เงียบสนิท โหมด Transparent Hearing ที่ช่วยให้ไม่พลาดการรับรู้จากรอบข้าง มีแอปพลิเคชั่นรองรับเพื่อช่วยปรับแต่ง EQ ตามความชอบของผู้ฟัง ในราคาที่เอื้อมถึงได้
หูฟัง CX Plus Ture Wireless จะวางจำหน่ายในรูปแบบสีดำด้าน หรือสีขาวด้าน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 และจำหน่ายในราคา 6,390 บาท ผ่านเว็บไซต์เซนไฮเซอร์ (https://th.sennheiser.com/) และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็