Sifu เกมนี้ออกมาเมื่อประมาณต้นปี และ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ขนาดผมเองก็ยังซื้อมาเล่นบน PC ของตัวเอง แต่ว่าใน PC เกมนี้มีปัญหาอยู่อย่างเช่นการกระตุกหรือหลุดออกมาเลย แต่พอได้มีโอกาศ มาเล่น ใน Play 5 บอกได้เต็มปากว่าสนุกมากๆ และ จะสนุกยังไงดีอะไรแย่อะไรมาดูได้ในรีวิวนี้เลย!
Story
จีน! แบบ จีน! มากๆ ให้สรุปจากประโยคเดียวก็คือ ” เจ้าฆ่าพ่อข้าข้าจะฆ่าเจ้า! ” เป็นแนวล้างแค้นให้อาเตี๋ย แบบหนังจีนจ๋าๆ เลย โดยจุดเด่นของเนื้อเรื่องเกมนี้จะไปลงกับเหล่าบอสมากกว่า บอสแต่ละตัวจะอ้างอิงมาจากสมาชิกของกลุ่มที่เข้ามาโจมตีสำนักของพ่อในตอนเด็ก และพ พอเราโตขึ้น เราก็จะไปแก้แค้นพวกเขา และ ตามเก็บเบาะแสต่างๆ
เบาะแสในด่านจะเป็นเหมือนเนื้อเรื่องมาเสริมว่ากลุ่มนี้เป็นยังไงมายังไง กำลังทำอะไรอยู่ และ ไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อเรื่องเท่านั้น กุญแจในการเข้าด่านก็จะหาเจอได้ตามการสำรวจ โดยแต่ละจุดจะเป็นเหมือนเนื้อเรื่องเสริมเข้าไป เอาจริงๆ นี้ก็หมดแล้วสำหรับเนื้อเรื่องของ ชิฟู เพราะว่าเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่เป็นเส้นตรงไม่พอ ยังเข้าใจง่ายในสองคำอีก
Game Play
นี้คือจุดที่ดีที่สุดของเกมนี้เลย โดย Sifu จะเป็นเกมแนว Beat Em UP ที่มีระบบคล้ายๆ กับเกมที่มีชื่อว่า Sekiro ตรงที่ ศัตรู และ เราจะมีหลอดความเหนื๋อย หากเราหลอดความเหนื่อยเต็มเราก็จะสตั้นและศัตรูจะสามารถตีฟรีได้ แต่ หากอีกฝ่ายหลอดความเหนื่อยเต็ม เราจะสามารถ สังหารศัตรูได้ทันที
Sifu ชอบที่จะให้เราได้สู้กับศัตรูหลายตัวพร้อมกัน โดยเราสามารถฟื้นเลือดได้จากการจัดการศัตรู ทำให้การเล่นเกมนี้ลื่นไหล และ ต่อเนื่อง มากๆ ระบบความเหนื่อยนี้ส่งตรงมาจาก Sekiro เลย แต่ทำให้ยากขึ้น ซึ่งศัตรูจะเหนื่อยจากการโดนปัดป้อง หรือ โจมตี ถ้าอยากเป็นพระเอกหนังจีนคุณต้องเก่งในระดับนึงเลย เพราะทุกอย่างมันเร็ว และ เยอะมากๆ คุณสามารถใช้ของประกรอบฉากเป็นเครื่องมือได้เช่นขวดเหล้า หรือไม้เบสบอล แม้แต่กำแพงเองก็ใช้สตั้นศัตรูได้หากเราพลักให้มันไปกระแทกกำแพง
ถ้าอยากได้ความรู้สึกที่เหมือนกับ หนังจีนพระเอกคนเดียวบุกทะลวงกลุ่มศัตรู แต่เกมนี้คงจะโดนรุมยำตายสะก่อน แต่หากพูดถึงเกมนี้โดยไม่พูดถึงการตายคงไม่ได้ เวลาเราตายเราจะสามารถเกิดใหม่ได้ทันทีตรงนั้น แต่จะเสียอายุเข้าไปเรื่อยๆ ตาม Death Count ที่เรามีเราตาย 1 ครั้ง DC จะเพิ่ม 1 เราสามารถลด DC ได้จากการจัดการกับศัตรูระดับพิเศษเช่นบอส หรือ มินิบอส หากเราตายจนอายุครบทุก 10 เราจะตีแรงขึ้น แต่พลังชีวิตของเรา น้อยลงเรื่อยๆ
เราสามารถอัพสกิลได้จากการตาย หรือ เจอกับหยกเพิ่มพลัง โดยจะสามารถ อัพสกิล หรือ อัพแสตทตัวเองก็ได้ ซึ่งของบางอย่างที่อัพได้จะหายไปตามอายุของเราที่เพิ่มขึ้น
การเจอกับบอสใหญ่ของด่านนั้น จะเปลี่ยนจากการลุยแมพ สู้มอนเยอะๆ เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว แต่เพราะงั้น บอสจึงมีท่าโจมตีที่หลากหลายมากๆ และบางทีก็เล่นกับฉากด้วย ทำให้การต่อสู้นั้นจะสดใหม่ และ ท้าทายมากเหมือนกับสู้กับยอดฝีมือ
เราจะ Game over ในตอนอายุ 70 หากเราตายเราจะกลับมาเริ่มด่านั้นๆ ใหม่ วิธีเดียว ที่จะลดอายุตัวเองคือกลับไปเล่นด่านนั้นๆ ใหม่อีกครั้ง แต่อัพเกรด หรือ สิ่งที่เราปลดล็อคมาจะหายไปทั้งหมด เป็นระบบที่ดีเพราะมันจะผูกกับ ระบบแผนที่ในเกมนี้ด้วย และ เพิ่มระยะเวลาในการเล่น ได้ เพราะว่าเกมนี้สั้นมากๆ แค่ไม่กี่ ชม ก็จบแล้ว ระบบนี้ถือว่าทำออกมาให้เกมได้เล่นได้นานขึ้น
MAP
แม้เกมนี้จะเป็นเกมตะลุยตีข้ามด่านแบบปกติ แต่ดีไซน์แมพ เกมนี้ทำออกมาดีเกินคาดมากๆ ตัวแมพไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ที่เด็ดที่สุดคือมันมีหลายทางให้เข้าไป และ หากเข้าไปในคนละทางก็จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกันด้วย เช่นไปทางนี้ต้องสู้กับมอนตรงบันได ไปอีกทางจะได้สู้บนดาดฟ้าแทน แม้ทุกทางจะนำไปสู่จุดเดียวกันก็ตาม
โดยในบางจุดเราจะยังเปิดไม่ได้ เราต้องเล่นให้พ้นด่านนั้นไปก่อนแล้วค่อยกลับไปเล่น เช่นไปเจอกุญแจในด่าน 3 แต่เอาไว้เปิดของด่าน 2 เราก็สามารถวนกลับมาเล่นด่าน 2 เพื่อจะเปิดประตู้นั้นได้ หรือในแมพที่จะมีลูกสมุรบางคนที่เราสามารถคุยได้ และเหตุการณ์อาจจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ เช่น ตัวละครที่เป็นคนเฝ้าทางเข้าของด่าน 2 หากเราคุยกับมันมันจะยกพวกมาตีเรา แต่หากเราเดินไปจัดการพวกมันก่อน มันจะยอมบอกข้อมูลของ หัวหน้าให้ โดยเราไม่ต้องสู้
สรุป
เกมนี้เหมาะแก่สาย บู้หนัก Action กระจาย แบบไม่ต้องคิดเยอะแบบเกมสมัยนี้ ถึงแม้ใน Play จะดูแพงไปหน่อยเพราะเกมที่จบเร็วมากๆ ก็ตาม แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ