SONY LinkBuds S ( รุ่น WF-LS900N ) หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ รุ่นนี้มาในรูปทรงที่กระทัดรัดสักหน่อย มีน้ำหนักเบาเพียง 4.8 กรัม แต่ใส่เทคโนโลยีหูฟังตัวเก่งของ SONY ไว้ภายในมาให้เราครบเลยครับ รองรับทั้งระบบตัดเสียงรบกวนพร้อม Adaptive Sound Control ฟังก์ชั่นตัวเก่งที่จะช่วยปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมกับสถานการณ์รอบตัวได้อัตโนมัติ ด้วยการตรวจจับตำแหน่งและการขยับร่างกายของเราเอง เพราะระบบตัวเสียงรบกวนของ SONY ปรับระดับได้ละเอียดถึง 20 ระดับด้วยกันเลยครับ
และมีฟังก์ชั่น Speak-to-Chat ที่แค่เพียงเราเริ่มพูด ตัวหูฟังจะรู้ และพักการเล่นเพลงให้เราโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เราเริ่มการสนทนากับคนใกล้ตัวได้ทันทีแบบไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
ความฉลาดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกใส่เข้ามาในเจ้าตัวเล็ก “SONY LinkBuds S” รุ่นนี้ไว้หมดแล้วครับ ^^
โซนี่ออกแบบ LinkBuds S ได้กระทัดรัดครับ ดูมีสไตล์ตั้งแต่แพ็กเกจกล่องภายนอกของหูฟังแล้ว ใช้กล่องกระดาษรีไซเคิลที่มาในรูปแบบเหมือนลิ้นชักขนาดเล็ก เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของพลาสติกเลยแม้แต่น้อย ใช้วัสดุรีไซเคิลที่มาจากชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นส่วนประกอบพิเศษที่ทำกันขึ้นมาสำหรับโซนี่โดยเฉพาะ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทโซนี่ครับ
ในแต่ละขั้นตอนของการแกะกล่องจะมีคำอธิบายไว้ให้ทำตามแบบเข้าใจง่ายๆ ออกแบบดีครับแพ็กเกจรุ่นนี้ ลิ้นชักด้านข้างแยกช่องเป็นชั้นๆ เก็บคู่มือ, สายชาร์จ และจุกยาง ear-tips ที่สำรองไว้ให้เปลี่ยน รวมมีทั้งหมด 4 ขนาดรวมกับที่ติดมากับหูฟังด้วย
ตัวเคสหูฟัง LinkBuds S มีขนาดเล็กครับ ใช้สีเคสเป็นสีเดียวกับตัวหูฟัง ผิวสัมผัสแบบขัดทราย ละมุนมือ เลอะยาก เช็ดทำความสะอาดง่าย ใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB Type C และมีไฟสัญลักษณ์ขนาดใหญ่เห็นชัดอยู่ด้านหน้า
พอร์ทรองรับ Quick Charge ที่ชาร์จไฟเพียง 5 นาที ก็สามารถใช้ฟังเพลงต่อได้นานถึง 60 นาที อายุแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟจากเคสเพิ่มเติมได้อีก 14 ชั่วโมง
รุ่นนี้มีทำปุ่มไว้สำหรับเปิดการเชื่อมต่อตัวหูฟังอยู่บนตัวเคสมาให้ กดค้างเพื่อเริ่มเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ (รองรับการใช้งานทั้งแท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน, PC และ Notebook ในระบบ Android, iOS และ Windows)
หูฟังไซด์เล็ก ออกแบบเข้ากับใบหูได้ดี เพราะเวลาใส่จะมีการสัมผัสกับใบหูส่วนอื่นน้อยมาก ตัวเล็กน้ำหนักเบาจึงแค่สวมไว้ก็เอาอยู่ ไม่หลุดง่าย ไม่ต้องใช้ใบหูส่วนอื่นๆ ช่วยพยุง จึงไม่เกิดการระคายใบหูเลยครับ
ตัวหูฟังมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ รองรับการทัชคอนโทรลด้านหลังทั้ง 4 รูปแบบ(ทัช, ดับเบิลทัช, ทริปเบิ้ลทัช และการทัชค้าง) การกำหนดรูปแบบสั่งงานสามารถเข้าไปตั้งได้ในแอพพลิเคชั่น SONY | Headphones Connect รองรับทั้ง Android และ iOS
หูฟังทั้งสองข้าง ฝังไมโครโฟนเอาไว้กรองเสียงและสิ่งสกปรกด้วยโครงตาข่าย ตัวไมค์ทั้งสองตัวนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการสนทนาเสียง ใช้คำสั่งเสียง และใช้สำหรับการรับเสียงรอบข้างเข้ามาสู่หูฟังในหลายๆ ฟังก์ชั่นด้วยครับ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้แม้ไม่ต้องถอดหูฟัง ทั้งเสียงสภาพแวดล้อมและเสียงคู่สนทนา
ต้องบอกว่าทาง SONY ออกแบบการใช้งานหูฟังของเขา เพื่อให้เราสามารถอยู่ในโลกของเสียงเพลง ไปพร้อมๆ กับการเชื่อมต่อผู้คนรอบข้างไปพร้อมกันได้อย่าง Seamless ครับ ตั้งแต่การออกแบบหูฟังไซด์เล็ก แบบนี้ ไม่ใช่แค่สวมใส่สบายเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกันมันก็ยังเล็กจนดูไม่เกะกะรำคาญสายตาของคู่สนทนาจนมากเกินไป (แต่ถ้าสะดวกก็ควรถอดออกนะครับเป็นมารยาทที่ดี)
โดยตัวหูฟังยังมีฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้เราใช้งานหูฟังไปพร้อมกับการใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งเราสามารถกำหนดเปิดปิดได้จากในแอพ SONY | Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนของเราครับ
เราสามารถเปิดรับเสียงจากภายนอกได้ตลอดเวลาขณะที่เราสวมใส่ ด้วคุณสมบัติระบบตัดเสียงรบกวนของ SONY ที่ปรับความเข้มข้นของการตัดเสียงได้หลายระดับ ตัดแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย หรือเราต้องการจะได้ยินเสียงรอบข้างอย่างชัดเจนก็สามารถทำได้ครับ โดยตัวหูฟังจะใช้ไมค์ของมันเพื่อรับเสียงเข้ามายังหูของเราให้เองเลย ปรับเลือกระดับได้ถึง 20 ระดับ
และยังมี Adaptive Sound Control ตัวระบบที่จะช่วยปรับแต่งระดับการตัดเสียงให้เหมาะกับสถานการณ์รอบตัวของเราโดยอัตโนมัติ จากการตรวจจับตำแหน่งที่เราอยู่ในปัจจุบัน หรือจากการขยับร่างกายว่าเรากำลังนั่งเฉยๆ ก็จะเน้นไปที่การฟังเพลง หรือเรากำลังเคลื่อนที่ เช่นเดินหรือวิ่ง ก็จะมีการเปิดรับเสียงรอบข้างเข้ามาเพื่อความปลอดภัย และถ้าตรวจพบว่าเรากำลังเดินทางเช่นนั่งรถหรือเครื่องบิน ตัวหูฟังก็จะเปิดระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสุด ให้เราดื่มด่ำกับการฟังเพลงแบบเต็ม 100% ให้เราได้เองครับ ^^
ฟังก์ชั่น Speak-to-Chat ความสามารถที่หูฟังจะสามารถตรวจจับการพูดของผู้สวมใส่ได้ทันทีด้วยเทคโนโลยี Precise Voice Pickup แค่เพียงเราต้องการจะพูดกับใครสักคน หรือสั่งงานเสียงอะไรสักอย่าง หูฟังจะรู้ครับ และทำการหยุดเพลงที่กำลังเล่น พร้อมกับเปิดรับเสียงจากคนรอบข้างเข้าสู่หูฟัง เพื่อเริ่มการสนทนาได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกดปุ่ม ไม่ต้องสั่งงานอะไร แค่เพียงพูดก็พูดได้เลย พร้อมคุยกับคนรอบข้างได้เสมอครับโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
และด้วยเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ที่อยู่ใน LinkBuds S ก็ยังช่วยในเรื่องของคุณภาพการสนทนาผ่านการโทรเข้าโทรออกได้ด้วยครับ ตรวจจับเสียงพูดของผู้สวมใส่ ลดเสียงรบกวน ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดมากขึ้นแม้ตัวไมค์จะอยู่ไกลจากปากเราพอสมควรก็ตามครับ
เราสามารถตั้งค่าการควบคุมจากตัวหูฟังทั้งซ้ายและขวาแยกกันได้อิสระ ว่าจะให้ทำหน้าที่อะไรบ้างผ่านการทัชทั้ง 4 รูปแบบจากในแอพพลิเคชั่นครับ ว่าต้องการทัชเพื่อควบคุมเพลง, ควบคุมการทำงานระบบเสียง หรือควมคุมระบบ ANC หรือจะใช้เพิ่มเสียงลดเสียงก็ได้เช่นกัน
รวมถึงกำหนดโหมด Quick Access ที่เป็นการอนุญาตให้ตัวหูฟังสามารถเรียกใช้งานบริการฟังเพลง Spotify หรือบริการดนตรีบำบัดอย่าง Endel ได้ทันที โดยให้เราอนุญาตสิทธิ์ให้กับตัวหูฟังเอาไว้ก่อนภายในแอพด้วยเช่นกัน
และทาง SONY ได้ใส่ฟังก์ชั่นที่ช่วยให้เราพิจารณาสุขภาพด้านการรับเสียงของเรา โดยใช้มาตรฐานคำแนะนำจาก WHO : MAKE LISTENING SAFE ที่เป็นค่าแนะนำเกณฑ์การฟังเสียงที่เหมาะสมของมนุษย์ ว่าในแต่ละวันเราควรใช้งานหูของเราในระดับเวลานานแค่ไหน ควรฟังในระดับเสียงเท่าไร โดยในฟังก์ชั่นนี้จะมีการเก็บสถิติการฟังเพลงของเรา เป็นเก็บระดับความดังและระยะเวลาในการใช้งาน โดยผู้ใช้ต้องทำการล็อคอิน SONY Account เข้าไปในระบบภายในหน้าแอพซะก่อนครับ แล้วตัวแอพจะทำการบันทึกไว้เป็นประวัติให้เราไว้เอง เพื่อให้ตัวเราได้ใช้พิจารณาตัวเองในภายหลังครับ
คุณภาพเสียงและระบบการเชื่อมต่อของ SONY LinkBuds S
LinkBuds S เป็นหูฟัง Truly Wireless ที่ใช้ชิปประมวลผล Integrated Processor V1 เป็นตัวช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงและการทำงานต่างๆ รวมถึงการดูแลด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ไดรเวอร์ขนาด 5 มม. จริงๆ ถือว่ามีขนาดไดรเวอร์ที่เล็กนะครับ แต่ให้กลับในเสียงแบบเล่นใหญ่ เสียงมาเป็นลูก มีเนื้อพลัง และยังมีเบสที่แน่นเกินตัว เด่นที่เสียงร้องและความหนาแน่นของเสียง ออกแนวชัดเจนในทุกย่านแบบจริงจัง ฟังเพลงสากลย่านเสียงร้องชัดๆ แนวเสียงร็อคอเมริกันแน่นหูดีครับ
รองรับเทคโนโลยีการเข้ารหัสตัวเด่นๆ อย่าง SONY LDAC, AAC, DSEE Extreme สามารถปรับ EQ และเปิดเพิ่มพลัง Bass Boost ได้จากภายในแอพพลิเคชั่น SONY | Headphones Connect
รองรับฟีเจอร์การเชื่อมต่อ Fast Pair ของ Google ช่วยให้การจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ได้ง่ายๆ แค่เพียงเปิดฝาหูฟังใกล้กับสมาร์ทโฟน Android ที่เปิดการเชื่อมต่บลูทูธอยู่ใกล้ ก็พร้อมจะเชื่อมต่อใช้งานครั้งแรกกันได้ทันที
จริงๆ แล้ว SONY LinkBuds S เป็นหูฟังบลูทูธที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ PC อย่างคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, Window 11 หรือ Window 10 ด้วยนะครับ พร้อมใช้งานเป็นได้ทั้งหูฟังและไมค์สำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย
สรุปท้ายรีวิว
ฟังก์ชั่นระดับสูง ที่ออกแบบเพื่อความสมดุลระหว่างการฟังเพลงและการเชื่อมต่อผู้คนรอบข้าง ชอบฟังเพลงแต่ก็ยังพร้อมที่จะอยู่ท่ามกลางผู้คนในบางจังหวะไปด้วยเช่นกัน
หูฟังตัวเล็ก น้ำหนักเบา สวมใส่สบายหู ไม่กระทบหรือระคายกับส่วนอื่นของใบหู พลังเสียงดีรองรับเทคโนโลยีเสียงทั้ง LDAC, AAC, DSEE Extreme และมีระบบที่ดีจาก SONY ทั้งระบบตัดเสียงระบกวนรอบข้างที่ปรับระดับได้ และพร้อมทำงานให้เองแบบอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ได้ด้วยเช่นกัน ปรับให้เหมาะสมกับช่วงเวลาเช่นเรากำลังเดินหรือวิ่งออกกำลังกายก็ควรจะเปิดเสียงรอบข้างให้ได้ยิน แค่ถ้าเรานั่งรถหรือโดยสารเครื่องบินก็เปิดระบบตัดเสียงรบกวนให้เต็มที่ เพื่อการฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินในการเดินทาง
ฟังก์ชั่น Speak-to-Chat แค่เพียงเราพูด! ตัวหูฟังก็พร้อมจะพักเพลงและขยายเสียงจากคำพูดคนใกล้ตัว เมื่อเราอยากจะพูดคุยก็ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ตัวหูฟังรู้ได้เองครับ
ระบบพวกนี้ทำมาได้ดี และทำงานได้ดีใน SONY LinkBuds S ครับ ต้องบอกว่าเป็นหูฟังที่ “ฉลาด” ตัวนิดเดียวแต่ความสามารถเยอะ ด้านคุณภาพเสียงก็อยู่ในระดับที่มีคุณภาพอีกด้วย
SONY LinkBuds S รุ่น WF-LS900N มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ สีขาว และสีครีม เปิดจำหน่ายในราคา 7,490 บาท เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้เป็นต้นไปครับ