ก็หลังจากที่ทำให้เราอยากรู้ว่าตัว “S” ที่ Vivo แพลมๆ ออกมาตลอดอาทิตย์มันคืออะไร มันก็คือ Vivo S1 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในชื่อจำง่ายรุ่นนี้ที่ผมนำมารีวิวนี่เองครับ
Vivo S1 เป็นรุ่นที่ดูเหมือยจะเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของทาง Vivo นะครับ งานออกแบบดูสวยงาม หรูแบบเริศๆ ดูมีความเป็นแฟชั่นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจจากนิยามของรุ่นนี้ “Unlock Your Style”
เครื่องที่ผมได้มารีวิวเป็น Vivo S1 สี Skyline Blue นะครับ จะออกฟ้าๆ ไล่โทนไปชมพูม่วง มีลวดลายด้านหลังเป็นเงาเส้นโค้ง สวยงาม หวานตาดีทีเดียว โดย Vivo S1 จะมาในสองสีครับ อีกสีคือ Diamond Black ซึ่งเป็นสีเข้มตัดขอบสีทอง สวยไปอีกแบบ
การวางแนวของเครื่องก็ปรับมาเป็นแนวนอน แปลกใหม่สำหรับ Vivo ด้วยการเอาสัญลักษณ์และเลนส์กล้องเรียงเป็นแนวเดียวกัน ปล่อยฝาหลังโล่งๆ โชว์สีเครื่องกันชัดๆ
ขอบเครื่องเคลือบตัดเงากับสีตัวเครื่อง งานประกอบเนี๊ยบ ปุ่มกดแน่นหนาครับ ยืนยันชัดเจนว่ารุ่นนี้ Vivo ใส่ใจงานออกแบบมามากเป็นพิเศษ
เลนส์กล้องหลังสามตัว ที่มีความละเอียด 16 + 8 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมสำหรับการถ่ายในมุมกว้างแบบเลนส์ไวด์ และโหมดการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอปรับค่ารูรับแสงได้ทั้งก่อนและหลังการถ่ายครับ ซึ่งซอฟท์แวร์กล้องของ Vivo คือหนึ่งในจุดแข็งของแบรนด์เขาไปแล้ว ตัวซอฟท์แวร์ทำมาปรับได้หลากหลายและใช้งานได้ดีมาก
หน้าจอแสดงผลใหญ่ 6.38 นิ้ว เป็นหน้าจอ Super AMOLED แบบ Halo Fullview Display หรือหน้าจอขอบบางของ Vivo นั้นเองครับ ความละเอียด FullHD+ สีสด ภาพสวยครับ จอดูใหญ่และขอบจอบางจริง มีขอบเหลือเพียงนิดเดียวกับจุดวางกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซลไว้เพียงเท่านั้น
หน้าจอของ S1 ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจออีกด้วยครับ ซึ่งสแกนได้ไวมาก ผมจะบอกว่าเจ้า Vivo S1 มันสแกนตอนเข้าใช้งานได้เร็วมาก ทั้งระบบการสแกนนิ้วมือและสแกนใบหน้าเลยครับ ทำได้ไวและแม่น แทบจะในทันที่กดเปิดหน้าจอเลยทีเดียว
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G และ Dual VoLTE แบบสามซิมสล็อตครับ พร้อมรองรับสัญญาณ WI-Fi ทั้ง 5Ghz และ 2.4GHz
จะบอกว่ารุ่นนี้สวยยันถาดใส่ซิม 555 สีขาวนมๆ
พอร์ตชาร์จใต้เครื่องใช้เป็น Micro USB รองรับระบบชาร์จไวแบบ Dual Fast Charge 9V2A ของทาง Vivo ครับ
บนตัวเครื่องจะมีปุ่มพิเศษที่ขอบด้านซ้ายมือสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant และการค้นหาข้อมูลภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอได้ในทัน ซึ่งจริงๆ เจ้าปุ่มพิเศษตัวนี้ยังสามารถกำหนดการทำงานอื่นๆ เอาไว้ได้ดว้ยนะครับ เช่นใช้เปิด Google Search เป็นต้น รองรับการกดสามรูปแบบนั้นคือ กดครั้งเดียว, สองครั้ง และกดค้างครับ
ในด้านพลังงาน Vivo S1 ก็มีจุดเด่นคือ “แบตเตอรี่ขนาดใหญ่” ภายในเครื่องที่เห็นหรูๆ บางๆ แบบนี้ ใส่แบตเข้ามาให้ถึง 4,500 mAh เลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องมีครบทั้งเคส, ชุดหูฟัง, อุปกรณ์ชุดชาร์จไฟพร้อมสายเชื่อมต่อ และตัวเครื่องพร้อมติดกันรอยมาให้แล้วตั้งแต่โรงงานผลิต
ตัวเครื่องภายนอกของ Vivo S1 เป็นเครื่องที่สวยมากครับ ค่อนข้างจะสะดุดตาเลย สีสันทำมาสวยและงานออกแบบที่ปรับใหม่ ปกติเครื่อง Vivo งานภายนอกมีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้ว เจ้า S1 แม้จะขายในราคา 8,999 บาท แต่งานเครื่องก็มีคุณภาพได้ไม่แพ้เครื่องในราคาหลักหมื่นแน่นอนครับ
การใช้งานภายใน
หน่วยประมวลผล Helio P65 ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่รุ่นใหม่ของ MediaTek นะครับ ทำงานกับ RAM 6GB และ ROM 128 ถ้าไม่มองว่าต้องเป็น Snapdragon ตัวนี้ถือว่าแรงระดับกลางไม่น้อยหน้าใครในเรทราคาใกล้ๆ กัน
ในเรื่องของ UI ถ้าใครชอบจุดเด่นของ Vivo ในการใช้สไลด์นิ้วจากด้านล่างหน้าจอขึ้นมาเพื่อเรียกใช้งาน Toggle เปิดปิดฟังก์ชั่นต่างๆ และรายการแอพพลิเคชั่นย้อนหลัง และศูนย์ทางลัดที่เราเลือกเซ็ตค่าไว้ได้ในหน้าเดียวกันทั้งหมด เจ้า Vivo S1 ก็ใช้ Funtouch OS 9 ( based on Android 9.0) ซึ่งเป็น UI ตัวเก่งล่าสุดของ Vivo ครับ
มีธีมสโตร์สำหรับดาวน์โหลดปรับแต่งหน้าตาการใช้งาน วอลล์เปเปอร์ และหน้าล็อกสกรีน รวมทั้งฟอนท์ใช้งานก็มีให้โหลดเปลี่ยนนะครับ
ทาง Vivo ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่มีบริการจัดทำสโตร์สำหรับการดาวน์โหลดแอพที่คัดสรรมาให้ผู้ใช้แล้ว ใน V-AppStore แอพพลิเคชั่นในสโตร์นี้จะสามารถโหลดได้เลยโดยไม่ต้องมีไอดีของ Google ก่อนแต่อย่างใดครับ มีความปลอดภัยจากการคัดกรองรอบนึงแล้วจาก Vivo ก่อนจะหยิบมาแนะนำกัน
ในระบบของเครื่อง Vivo S1 มีฟังก์ชั่นเยอะมากนะครับ ถือว่าเป็น UI ที่มีความสามารถย่อยเยอะมาก ทั้งด้านการช่วยเหลือเพื่อความสะดวกของผู้ใช้เช่นปุ่มลอย EasyTouch ปุ่มเดียวที่ลอยอยู่เหนือการทำงานทั้งมวลของเครื่อง เป็นศูนย์รวมเครื่องมือสำคัญและแอพพลิเคชั่นโปรดที่เราเลือกใส่เอาไว้ได้ มีการออกแบบที่ฉลาด เมื่อไม่ใช้งานสักระยะ เจ้าปุ่ม EasyTouch จะซ่อนตัวเข้าด้านข้างขอบจอเพื่อไม่ให้เกะกะลูกตาครับ
การทำงานในหมวดหมู่ “การใช้งานอัจฉริยะ” เป็นฟังก์ชั่นการสั่งงานเครื่องโดยอาศัย Gesture และเซ็นเซอร์ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของเราครับ เช่นการวาดเส้นเพื่อเปิดการใช้งานด่วน การเปิดหน้าจอโดยการสะบัดมือเหนือหน้าจอเป็นต้น
รองรับการใช้งานแยกสองแอพทำงานพร้อมกันได้ จอใหญ่ๆ แบบนี้ก็เหมาะดี สามารถโคลนแอพ Line, Facebook จากหนึ่งให้เป็นสองเพื่อล็อคอินสองไอดีในเครื่องเดียวกัน และยังมีฟังก์ชั่นย่อยอีกมากมายครับ FunTouch OS ใช้งานสนุกอย่างชื่อของมันจริงๆ
จากการทดสอบผมลองเล่นเกมภาพกราฟิกสวยๆ หน่อย ชุดประมวลผลชุดนี้เล่นได้ไม่มีปัญหานะ อาการแลคกระตุกมีบ้างแต่น้อยไม่น่าหงุดหงิดใจครับ เอามาใช้เล่นเกมได้
เล่นเกม จอมันเต็มดีนะครับ ใหญ่แต่ขอบเล็กนิดเดียว
ตัว Vivo S1 มีโหมด “อัลตร้าเกม” ซึ่งเป็นการตั้งค่ากำหนดการทำงานและประสิทธิภาพของเครื่องในขณะเปิดเล่นเกมโดยเฉพาะครับ กำหนดการใช้สัญญาณเน็ต การรบกวนจากผู้ติดต่อภายนอก และการรีดประสิทธิภาพเครื่องเพื่อนำมาใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ
เราไม่จำเป็นต้องเลือกเกมเฉพาะที่รองรับกับระบบนะครับ ทาง Vivo เปิดให้เราสามารถ Add เกมที่ต้องการให้ระบบคอยจัดการได้เองเลย อยากเล่นเกมไหน ก็แต่กดเพิ่มเข้าไปในรายการของโหมดอัลตร้าเกมเท่านั้น
หน้าตาการเข้าใช้งานในโหมดเกม ออกแบบมาสวยมาก ผมชอบโหมดนี้มากที่สุดใน Vivo เพราะมันดูเป็นมุมเข้มๆ สำหรับคนเ่นเกมโดยเฉพาะจริงๆ ครับ 555 มีการเก็บประวัติการเล่น แจ้งความร้อนของเครื่องและการใช้งาน CPU GPU ออกแบบสวยมากครับ
ลำโพงเดี่ยวเระดับสียงดังฟังชัดเจน คุณภาพเสียงประมาณกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรในด้านเสียงจากลำโพงมากนักครับ แต่ข้อดีคือ Vivo S1 ยังมีรูหูฟังให้ใช้กันนะครับ ^^ หูฟังที่แถมมาเสียงดีใช้ได้ไม่ต้องไปซื้อใหม่สำหรับคนชอบฟังเพลงแบบชิวๆ
แบตเตอรี่ขนาด 4.500 mAh นี่คืออีกหนึ่งจุดแข็งที่ผมเจอจากเจ้าเครื่องนี้ แบตของมันเมื่อชาร์จเต็ม 100% อยู่กับผมได้เต็มวันมาตลอด ไม่เคยหมดระหว่างวันเลยครับ การใช้งานก็อยู่ในระดับไม่น้อย ทั้งเล่นเกม ทั้งเช็คเมล และใช้งานติดต่อสื่อสารทุกช่องทางในชีวิตประจำวัน กะดูคร่าวๆ น่าจะเปิดใช้หน้าจอราวๆ 6 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน สแตนด์บายซิงก์ทุกอย่างไว้ตลอดเวลา กลับมาบ้านแบตเหลือตลอด
การชาร์จพลังงานกลับเข้าเครื่อง เมื่อใช้งานกับที่ชาร์จภายในกล่อง จะสามารถชาร์จแบต 4,500 mAh ได้ประมาณ 1% ต่อ 1 นาทีครับ ชาร๋จแบตเต็ม 100% ได้ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS ค่อนข้างแรงครับ จับสัญญาณได้เร็วแม้ไม่ใช้อินเตอร์เน็ตช่วย
กล้องถ่ายภาพ
Vivo S1 ให้กล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล และให้กล้องหลังเรามา 3 เลนส์นะครับ ซึ่งกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดลึก 2 ล้านพิกเซลสำหรับช่วยจับโฟกัสและกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้น
หน้า UI ของ Vivo S1 ถือว่าเป็นกล้องที่มีลูกเล่นเยอะมาก ปรับแต่งได้เยอะ มีโหมดถ่ายภาพ HDR, พาโนรามา มีโหมดบิวตี้โดยการใช้ AI เข้ามาปรับแต่งใบหน้าให้ดูสวยโดยอัตโนมัติ
การถ่ายภาพบุคคลของ Vivo S1 ปรับแต่งได้เยอะมากครับ มีหลายโหมด มีโหมดเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับการถ่ายภาพบุคคล ในกรณีที่เราต้องการถ่ายภาพเหมือนใช้ไฟช่วยถ่ายแบบในสตูดิโอ แนวแสงแปลกๆ เหมือนมีการจัดไฟจัดสเตจ กล้องของ Vivo S1 ทำได้ครับ มีการปรับโหมดเอฟเฟ็กต์แสงใน 5 รูปแบบให้เราเล่นกัน และทั้งการใช้ AI เข้าปรับแต่งให้อัตโนมัติ หรือการกำหนดรูปหน้าได้แบบทีละชิ้นทีละส่วน ทั้งปรับขนาดจมูก แก้ม คาง ปรับหน้าบาง กราม ตาโต หน้าผาก หรือแม้กระทั้งความหนาบางของริมฝีปาก ปรับได้เพียบเลยครับ
โดยในละการปรับเลือกระดับได้มากน้อยต่างกันถึง 50 ระดับ ผมเรียกมันว่า “อุปกรณ์แต่งหน้าบนมือถือ” ^^ แปลงมากแปลงน้อยเลือกเอาตามแต่ใจเลยครับเพราะใช้งานได้ทั้งกล้องและกล้องหลังซะด้วย ผมว่าสาวๆ น่าจะชอบ
และโหมดสำคัญที่เราชอบใช้กันคือ “หน้าชัดหลังละลาย” เป็นโหมดที่ให้เราสามารถกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้น สามารถเลือกขนาดรูรับแสงได้ทั้งก่อนถ่ายหรือนำมาปรับหลังถ่ายได้ แต่เป็นการปรับรูรับแสงจำลองด้วยซอฟท์แวร์นะครับ เพิ่มความเด่นให้กับแบบดูลอยออกมาจากฉากหลังมากขึ้น
ในโหมดนี้เราสามารถนำไปใช้ทั้งการถ่ายรูปคน ละลายหลังเพิ่มความเด่นให้กับแบบได้ และยังสามารถนำไปประยุกต์ถ่ายวัตถุที่ไม่ใช่คนเพื่อเพิ่มความโดดเด่นของสิ่งที่ต้องการโฟกัสได้เช่นกันครับ
ตัวซอฟท์แวร์จะประมวลผลสร้างรูปแบบจำลองการถ่ายชัดลึกชัดตื้นเหมือนการปรับเลนส์จริง ปรับได้ทั้งก่อนและหลังการถ่าย แต่ที่ทำค่าปรับให้เป็นขนาดรูรับแสงแบบนี้เพื่อให้ผู้ใช้ง่ายต่อความเข้าใจเท่านั้นครับ และจะต้องใช้การกะเกณฑ์จากสายตาของเราเป็นตัวช่วยครับ ตัวซอฟท์แวร์จะปรับตามค่าที่เราเลือกกำหนดไว้เป็นอันดับแรกครับ
และแน่นอนว่า Vivo S1 มีโหมด Wide หรือการถ่ายภาพมุมกว้างมาให้ใช้งานกัน ข้อดีที่ผมชอบก็คือมันสามารถทำงานร่วมกันกับโหมด HDR ได้ครับ จุดนี้สำคัญมากเลยโดยเฉพาะการถ่ายภาพมุมกว้าง มันช่วยได้เยอะเวลาถ่ายภาพย้อนแสง องค์ประกอบมีเงามืด หรือถ่ายท้องฟ้าในแสงเวลากลางวันเป็นต้น ฟ้าจะสวย รายละเอียดจะไม่หายครับ
ทดสอบการถ่ายภาพกลางคืน แม้ตัว Vivo S1 จะไม่มีโหมดการถ่ายภาพกลางคืนโดยตรง แต่มันมีการปรับแต่งกล้องของมันให้เหมาะสมกับถ่ายกลางคืนได้เองครับ อยู่ในโหมดปกติก็สามารถถ่ายกลางคืนได้ค่อนข้างดีเลยสำหรับ S1 และกล้องไวด์ก็ทำงานกลางคืนได้ในผลลัพท์ที่ดีเช่นกันครับ
กล้องถ่ายภาพของ Vivo S1 เก็บรายละเอียดได้ดีมาก เป็นกล้องที่มีคุณภาพดีครับ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย ถ่ายง่าย การกำหนดจุดโฟกัสจับได้ไว ในเรื่องการถ่ายภาพผมว่าน่าจะชอบกันครับใน Vivo S1
สรุปท้ายรีวิว
ตัวเครื่องสวยงาม การออกแบบรุ่นนี้ดูพิเศษมากสำหรับ Vivo S1 ระบบการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้าทำได้ไวมาก ประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับทำงานรอบด้านได้เพียงพอครับ แต่มีจุดเด่นคือแบตอึด อยู่กับเราได้ตลอดทั้งวัน
ระบบตัวเครื่องมีลูกเล่นเยอะ ปรับแต่งได้แยะ การตอบสนองทำมาได้ดีมาก สั่งงานอะไรตอบรับเร็วรู็สึกได้แม้กระทั่งการเซฟภาพหน้าจอ ตัวระบบทำมาได้นิ่ง เสถียร ไม่เจอปัญหาเลยในการทดสอบใช้งานมาก
กล้องถ่ายภาพมีคุณภาพที่ดีครับ ดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ถ่ายง่ายมีฟังก์ชั่นให้ใช้เยอะเช่นกัน การปรับแต่งใบหน้าบุคคลด้วย AI ฉลาดและทำภาพออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติครับ
ซึ่งก็เหมาะแล้วที่ทาง Vivo ดึงใบเฟิร์น พิมพ์ชนก มาเป็นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด สวย และดูเป็นเด็กวัยรุ่นฉลาด ^^ ผู้รีวิวชอบเครื่องเพราะพรีเซ็นเตอร์จะถือว่าผิดมั้ย 555
Vivo S1 เปิดราคามา 8,999 บาท และจะเริ่มเปิดให้ Pre – Order ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยมีรายละเอียดเงื่อนไขการสั่งจอง ดังนี้
รายละเอียดเงื่อนไขการสั่งจอง
ลูกค้าสามารถทำการสั่งจองผ่านร้าน Vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายโดยมีรายละเอียดดังนี้ :
- ลูกค้าที่ทำการจอง Vivo S1 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขาและร้านตัวแทนจำหน่าย รับสิทธิ์ได้เครื่องก่อนใครพร้อมทั้งได้รับสิทธิพิเศษอื่น ๆ มากมาย :
- ลูกค้าจะได้รับ S series box Set
- ลูกค้าจะได้รับ กระเป๋าเป้สะพาย
- ลูกค้าจ่ายค่ามัดจำในการจองเพียง 500 บาท พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดการจองและตรวจสอบการจองให้ครบถ้วน หากเกิดข้อผิดพลาดจากตัวผู้จองเอง ทางบริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น ในทุกรณี
- ต้องนำใบการจอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมารับสินค้า พร้อมทั้งชำระค่าส่วนต่างในวันรับเครื่อง
- ลูกค้าสามารถรับเครื่อง Vivo S1 ในสาขาที่ทำการจองเท่านั้น มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ในการรับของแถม พร้อมทั้งสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำในทุกกรณี
- ระยะเวลาเปิดรับการจองเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2562 เท่านั้น Vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- หากมีข้อสงสัยในการสั่งจองสามารถติดต่อได้ที่ : บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 729/117-121 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทร. 02-284-0333 Fax. 02-2943988 Call Center. 02-294-3111-2 หรือที่ vivo.co.th
- สำหรับผู้ที่ทำการจอง Vivo S1 สามารถรับเครื่องพร้อมของแถมในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป
- หรือสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada ได้ที่ลิ้งค์นี้ https://bit.ly/2SoqsUM