vivo V30 Pro 5G กล้องเทพ ZEISS ที่พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ถ่ายภาพได้เทพสุด
สมาร์ตโฟนสายถ่ายภาพที่เข้ามาเป็นอันดับหนึ่งในเรทราคาไม่เกินสองหมื่นบ้าน ด้วยการขนคุณภาพของกล้อง ZEISS จากรุ่นเรือธงเข้ามาใส่ใน V Series พร้อมทั้งอัปเกรดฮาร์ดแวร์กล้องทั้ง 4 ตัวให้มีความละเอียดสูง 50MP ในทุกเลนส์
รวมกับจุดแข็งของรุ่นอย่าง Aura Light Portrait 3.0 ทำให้ระบบการถ่ายภาพของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ เกินหน้าเกินราคาของตัวเองไปไกลมาก ทั้งฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยมและซอฟท์แวร์ด้านกล้องที่ดีที่สุด สร้างผลลัพธ์ออกมาได้สวยงามมากในทุกสภาพแสง และฟังก์ชั่นให้ใช้งานได้เยอะและสนุกที่สุดในวงการขณะนี้
สเปคเครื่องแรงในระดับเกาะกลุ่มตัวท็อปของตลาด งานประกอบตัวเครื่องก็แน่นหนา แต่เบาบาง และแข็งแกร่งมากด้วยการผลิตที่คำนึงถึงอายุการใช้งานที่อยู่ได้นานมากกว่า 4 ปี
เป็นสมาร์ตโฟนที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบในการใช้งานรอบด้านด้วยงบไม่เกินสองหมื่น แนะนำเป็นตัวเลือกแรกๆ ในขณะนี้เลยครับ
The Good
- กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงในทุกเลนส์ ด้วยความละเอียด 50MP ครบทั้งสี่กล้องรอบตัว
- ครั้งแรกกับสมาร์ตโฟนในราคาไม่ถึงสองหมื่นบาท ที่ได้เทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก ZEISS
- มาพร้อมระบบ Aura Light Portrait 3.0 ที่ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ ที่อาศัยเพียงแค่ซอฟท์แวร์
- ฟีเจอร์, ฟังก์ชั่น และโหมดการถ่ายภาพ มีเยอะมากที่สุดในตลาด และสามารถทำออกมาได้ดีในทุกโหมด
- ตัวเครื่องบางเบา แต่แข็งแกร่ง ผ่านมาตรฐาน 50-Month Smooth Experience ใช้งานได้ไหลลื่นแม้จะผ่านไปนานกว่า 4 ปี
- หน้าจอ AMOLED 1.5K คุณภาพสูง 6.78 นิ้ว จอโค้ง 3D รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุดถึง 2800nits
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 80W
- ลำโพงเสียงดังชัด เร่งเสียงได้ดังมากกว่าปกติ 150%
The Bad
- ไม่มีรูหูฟังบนตัวเครื่องโดยตรง
- ไม่รองรับการใส่ micro SDcard
- ลำโพงเดี่ยว
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนสายถ่ายภาพ เป็นครั้งแรกในกลุ่มสมาร์ตโฟนราคาไม่ถึงสองหมื่นบาทที่ได้รับกล้องคุณภาพจาก ZEISS ที่มีความละเอียดสูง 50MP ครบทั้งสามเลนส์ด้านหลังรวมถึงกล้องหน้า และยังบวกกับความสามารถเฉพาะของ V Series นั้นคือระบบ Aura Light Portrait 3.0 ส่งให้มือถือรุ่นนี้เป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีกล้องที่ดีที่สุด และถ่ายภาพได้สวยงามมากที่สุดในงบประมาณไม่เกินสองหมื่นบาทครับ
ไม่ใช่แค่เรื่องของกล้องถ่ายภาพเท่านั้น แต่สำหรับ vivo V30 Pro 5G ยังมีหน้าจอแสดงผลระดับสูง พร้อมกับสเปคเครื่องที่มีความแรงระดับกลุ่มเรือธง และรูปทรงตัวเครื่องที่บางเบาสวยงาม การผลิตในมาตรฐานที่ทนทานต่อการใช้งานได้มากกว่า 4 ปี ซึ่งเทคโนโลยีทุกอย่างถูกใส่มาอย่างคุ้มค่าและเกินมาตรฐานราคาที่ทาง vivo ประกาศออกมาอย่างมากครับ เป็นเครื่องที่สมกับโอกาสในการครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ vivo ได้อย่างเต็มตัวเลยครับ
สมาร์ตโฟนใน V Series ของทาง vivo จะเป็นกลุ่มที่เน้นมาทางด้านการถ่ายภาพเป็นหลักอยู่แล้ว โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ vivo V Series ได้เปิดตัวออกมาสองรุ่นด้วยกันนั้นคือ vivo V30 5G ที่เปิดตัวออกมาในราคา 14,999 บาท ซึ่งเราเคยรีวิวให้กันประสิทธิภาพกันไปก่อนหน้านี้แล้ว และอีกหนึ่งรุ่นคือ vivo V30 Pro 5G ที่เราจะนำมาแนะนำให้รู้จักในบทความนี้นั้นเองครับ
ZEISS Triple Main Camera + Aura Light Portrait 3.0
vivo V30 Pro 5G เป็นเครื่องที่ให้กล้องมาแบบสุดขีดมากครับ 50MP+50MP+50MP+50MP กล้องทั้ง 4 ตัวรอบเครื่องมีความละเอียดสูงครบทุกเลนส์!
กล้องหลังสามตัวใช้เทคโนโลยีจาก ZEISS ที่มีความละเอียดสูง 50MP ครบทุกเลนส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการใช้กล้องความละเอียดสูงหลายตัวมาทำงานร่วมกัน ทั้งการช่วยจับโฟกัส, ช่วยกันซูมภาพ โดยเราจะเห็นเทคนิคนี้ในเครื่องเรือธงระดับสูงบางตัวเท่านั้น เพราะในเครื่องเรือธงหลายรุ่นก็ยังไม่มีมาให้ในระดับนี้นะครับแม้จะมีราคาที่แพงกว่าก็ตาม รวมถึงกล้องหน้าก็ด้วยที่ทาง vivo ใส่ให้มาเป็นกล้องหน้าความละเอียดสูง 50MP อันนี้ก็หายากมากๆ เช่นกันครับ
สเปคกล้อง vivo V30 Pro 5G ทั้ง 4 ตัว
- 50MP VCS True Color Main Camera, OIS, f/1.88, 84° FOV, 6P
- 50MP Professional Portrait Camera, AF, f/1.85, 47.6° FOV, 6P
- 50MP AF Ultra Wide-Angle Camera, f/2.0, 119° FOV, 5P
- 50MP (กล้องหน้า) AF Ultra Wide-Angle Camera, f/2.0, 92° FOV, 5P
และสิ่งที่ทำให้ระบบถ่ายภาพของ vivo V30 Pro 5G พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ Aura Light Portrait 3.0 เป็นระบบแสงไฟเสริม ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะไม่ได้ถูกชดเชยแค่อาศัยด้านซอฟท์แวร์อีกต่อไป แต่จะมีแสงจากวงแหวนออร่าถูกเสริมเข้ามาด้วย วงแหวนออร่าใหม่นี้ได้ถูกพัฒนาให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมมากถึง 19 เท่า ช่วยสร้างแสงที่มีความนุ่มนวลให้มากขึ้นได้มากกว่าถึง 50 เท่า และโทนสีของแสงก็ยังปรับได้เองอัตโนมัติด้วยครับ ทั้งแสงโทนร้อนและโทนเย็น เพื่อชดเชยสภาพแสงที่ผิดเพี้ยนของสถานที่ เช่นในแสงจากหลอดไฟสีต่างๆ ทำให้เกิด WB แบบเหมาะสมตามการตรวจจับของระบบ AI ได้เองอัตโนมัติ หรือเราจะปรับเองก็ได้เช่นกันครับ
ฉะนั้นสิ่งที่โดดเด่นในกล้องของ vivo V30 Pro 5G ก็จะเป็นเรื่องของ “การถ่ายภาพคน” โหมดภาพบุคคล ที่ใส่ฟังก์ชั่นเข้ามาเยอะมาก อาจจะเรียกว่ามีเยอะมากที่สุดของวงการก็ว่าได้ ใส่เข้ามาให้ทั้งสไตล์สีภาพ, ฟิลเตอร์ และการปรับแต่งใบหน้า ที่ทำได้ทั้งเพิ่มความสวย, ใส และการปรับแต่งอวัยวะบนใบหน้าได้ครบทุกส่วน
โหมดภาพบุคคลละลายหลังปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้เองทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่าย ตั้งแต่ f0.95 ไปจนถึง f16 และสามารถซูมภาพในระยะ 1x, 2x และในระยะแบบ 4X ได้แบบไม่เสียรายละเอียด
ภาพบุคคลสวยมาก ตัดคนได้คมกริบ มีระยะการถ่ายถึง 3 ระยะให้เลือกใช้จึงเหนือกว่ารุ่นอื่นในจุดนี้ชัดเจนครับ และตัวกล้องได้ถูกพัฒนามาร่วมกันกับทาง ZEISS จึงสามารถใช้รูปแบบสไตล์โบเก้จากเลนส์คลาสสิคในตำนานของทาง ZEISS ได้ครบถ้วน
- ZEISS Biotar Style Bokeh: สร้างโบเก้แบบหมุนวน เอกลักษณ์ตามแบบฉบับที่ปิดเซนเซอร์แบบใบมีดของเลนส์ ZEISS Biotar ในตำนาน
- ZEISS Distagon Style Bokeh: สร้างเอฟเฟกต์โบเก้ที่มีรูปทรงแบบหกเหลี่ยม เป็นหนึ่งเอกลักษณ์ที่แปลกตาซึ่งมีให้ใช้ในรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน
- ZEISS Sonnar Style Bokeh: เลียนแบบลักษณะของเลนส ZEISS Sonnar ที่มีความยาวโฟกัสระยะไกลแบบเทเลโฟโต้ เอฟเฟกต์โบเก้จึงนุ่ม ละมุน ภาพบุคคลที่ดูชวนฝันและอ่อนโยนกว่ารูปแบบโบเก้อื่นๆ
- ZEISS Planar Style Bokeh: เอฟเฟกตโบเก้คลาสสิคดั้งเดิม ที่จะเห็นโบเก้และแสงแฟร์ได้ชัดเจน
ฉะนั้นการถ่ายภาพบุคคลจึงไม่ใช่แค่การละลายหลัง แต่ยังเล่นกับโบเก้ได้หลากหลายอารมณ์มากๆ ครับ
และที่พิเศษขึ้นมาและเพิ่งได้เห็นใน vivo V30 Pro 5G เป็นรุ่นแรกก็คือเอฟเฟ็กต์ “ZEISS Cine-flare” เป็นเอฟเฟ็กต์ที่ “เน้นแสงแฟร์ไปพร้อมกับโบเก้ฉากหลัง” ใครที่ชอบแสงแฟร์จากพระอาทิตย์ที่จะมาปรากฏให้เห็นบนภาพแบบชัดๆ ก็ลองใช้โหมดนี้ถ่ายย้อนแสงไปเลยครับ รับรองผลลัพธ์ออกมาหน้าแบบไม่มีมืด และภาพออกมาสวยมากๆ ^^
ZEISS Cine-flare อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโหมดถ่ายภาพบุคคลแบบย้อนแสงก็ได้เลยนะ สังเกตจากมุมก่อนถ่ายด้านบนจะเป็นทิศทางที่ปกติไม่ควรถ่ายภาพบุคคลอย่างเด็ดขาดครับ แต่ภาพที่ได้มาจาก ZEISS Cine-flare กลับสวยงามมาก ทั้งแสงและใบหน้าของนางแบบ
จะเห็นว่าแสงแฟร์จากพระอาทิตย์จะถูกทำให้เด่นชัดโดย AI ซึ่งจะตรวจจับที่มาของแหล่งแสงและปรับแต่งเส้นทางของแฟร์ให้สอดคล้องกับบุคคลในภาพ ถ้าเป็นแสงของฉากหลังจะถูกทำให้เป็นโบเก้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของภาพไปตามปกติ แต่ถ้าอยู่ในเฟรมใกล้กับตัวแบบจะถูกทำเป็นแสงแฟร์ออกมาแบบสวยงาม ภาพจึงออกมาจึงดูสวยเกินจริง และยังคงความคมชัดของใบหน้าบุคคลแม้จะถ่ายย้อนแสงก็ตามครับ โหมดนี้สุดยอดมากๆ ^^
และอีกหนึ่งของใหม่นั้นคือ “ZEISS Cinematic“ ซึ่งเป็นเอกเฟ็กต์ที่จะสร้างแสงแฟร์สีน้ำเงินออกมาเป็นทางยาว เหมือนฉากที่เราอาจจะชินตาจากภาพยนตร์ของผู้กำกับ ไมเคิล เปย์ ระบบจะปรับโบเก้ฉากหลังให้ออกมาเป็นรูปทรงไข่ พร้อมสร้างแสงแฟร์ทางยาวสีน้ำเงินขึ้นมาให้ได้เองอัตโนมัติ แต่เราก็สามารถเลือกเปิดและปิดแสงแฟร์สีน้ำเงินนี้ได้ด้วยตัวเองเช่นกันครับ
ในโหมดนี้ตัวระบบจะปรับภาพไปเป็นสัดส่วน 21:9 แบบฟิล์มภาพยนตร์ซึ่งเหมาะจะใช้ในภาพแนวนอน แต่เราก็สามารถนำมาถ่ายเป็นแนวตั้งก็ได้นะครับ ช่วยยืดให้ตัวแบบดูสูง ขายาวมากขึ้นได้ด้วย ^^
ยังมีสไตล์ภาพอีกหนึ่งแบบที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการไปเที่ยวทะเล ถ่ายภาพคู่กับชายหาด ท้องฟ้า และแสงตะวัน จะมีสไตล์ที่เรียกว่า Beach Portrait หรือ “ภาพคนที่ชายหาด” จะเป็นสไตล์ภาพที่ปรับเปลี่ยนสีท้องฟ้าและสีของน้ำทะเลให้เป็นสีฟ้าที่สวยงาม พร้อมกับเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าของแบบ สร้างความสว่างที่ดูสบายตาของแสงอาทิตย์ให้กับภาพได้มากขึ้น เป็นสไตล์ที่เพิ่มความสวยงามให้กับฉากหลังที่เป็นทะเลโดยเฉพาะเลยครับ
การที่เครื่องรุ่นนี้มีระบบ Aura Light Portrait 3.0 ทำให้การถ่ายภาพคนในตอนกลางคืนมีความเหนือกว่าใคร โดยเฉพาะในโหมดสไตล์ภาพ “การถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย” เพราะจะเป็นโหมดที่ตัวเครื่องจะเปิดแสงจากวงแหวนออร่าออกมาช่วย มันสามารถช่วยชดเชยแสงในระยะการถ่ายที่ไกลพอสมควร และตัวแสงยังมีความละมุนเหมือนไฟซอฟท์บ็อกที่ไม่เหมือนการใช้แค่ไฟอะไรก็ได้มาฉายใส่หน้านางแบบ รวมถึงความสามารถในการปรับอุณหภูมิแสงได้ด้วยตัวมันเอง
ภาพบุคคลกลางคืนจะคมชัดแต่นุ่มนวลครับ แสงไม่แข็งเงาไม่จัดจ้าน ใบหน้าของแบบดูเนียนตาและมีแววตาที่สดใส
รวมกับความสามารถของเอฟเฟ็กต์โบเก้จากเลนส์ ZEISS ที่สามารถเปิดใช้งานได้คู่กันกับระบบระบบ Aura Light Portrait 3.0 ด้วยแล้ว ทำให้การถ่ายภาพคนตอนกลางคืนออกมาได้สวยงามกว่ารุ่นใดๆ ในตลาดขณะนี้เลยครับ
ทั้งคุณภาพและฟังก์ชั่นมาครบในมือถือรุ่นเดียวครับ คุณภาพสูงเหมือนกล้องเรือธงแถมยังมีราคาไม่ถึงสองหมื่นเท่านั้นอีกด้วย ถ่ายภาพง่ายมาก ไม่ต้องกลัวย้อนแสง ไม่ต้องกลัวในที่ร่ม อยากถ่ายตอนไหนคนในภาพก็สวยได้เสมอครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ^^
ระบบ Aura Light ยังสามารถใช้งานในโหมดอื่นๆ อีกมากมายนะครับ ไม่ใช่แค่การถ่ายคน แต่ในการถ่ายสิ่งอื่นๆ ที่สภาพแสงมืดเกินไป รวมถึงในโหมด การถ่ายภาพอาหาร ก็ใช้ได้ด้วยเช่นกัน เปิดเพื่อเพิ่มความสว่างและปรับสีให้กับภาพอาหารของเราให้มีที่ดูน่ารับประทานมากขึ้นมื้อได้ด้วยนะครับ
กล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงด้วยเช่นกัน คุณภาพก็จึงยอดเยี่ยมตามไปด้วย มีโหมดถ่ายภาพบุคคลของเลนส์ ZEISS มาให้ใช้ในกล้องหน้าแทบไม่ต่างไปจากกล้องหลัง พร้อมกับ AI Beauty ที่ปรับแต่งใบหน้าได้ละเอียด และความสามารถในการแต่งหน้าของแบบได้เหมือนไปเติมเครื่องสำอางมาใหม่ๆ ใส่เข้ามาให้ครบในกล้องหน้าความละเอียด 50MP รุ่นนี้ครับ
กล้องหน้าก็คมชัดมาก และเล่นโบเก้ฉากหลังของเลนส์ ZEISS ได้ คุณภาพกล้องดีเกินรุ่นส่วนใหญ่ในตลาดไปมากเลยครับ
ด้วยกล้องหน้าที่เป็น Ultra Wide-Angle เราจึงสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ 1x และ 2x รวมถึงเซลฟี่กลุ่ม Group Selfie ในมุมกว้าง 0.8x ได้ด้วยครับ มีระบบจับโฟกัสใบหน้าบุคคลอัตโนมัติได้หลายบุคคลพร้อมกัน จึงทำให้ไม่ต้องกลัวว่าบุคคลในภาพจะโดนเบลอไปกับฉากหลังครับ
ในการถ่ายภาพแบบปกติ กล้องถ่ายภาพของ vivo V30 Pro 5G จะรองรับการซูมตั้งแต่โหมด “ซูเปอร์มาโคร” ระยะใกล้ มีโหมดมุมกว้างพิเศษ 0.6x จนถึงการซูมภาพดิจิทัล 20x
มีโหมดโปรไฟล์ถ่ายภาพให้เลือกใช้ 3 รูปแบบด้วยกันครับ นั้นคือโปรไฟล์ภาพแบบ “สดใส” “มีมิติ” และโปรไฟล์ที่ปรับแต่งมากจา ZEISS นั้นคือ “เป็นธรรมชาติ” ทั้งสามโหมดให้สีสันและแสงเงาที่ต่างกันตามชื่อครับ จากที่ทดสอบมาผมชอบ “มีมิติ” และ “ธรรมชาติ” ภาพทีได้ดูมีความลึกและความเข้มของแสงเงากำลังดำในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
จะมีกรอบลายน้ำให้เลือกใช้หลายแบบมากครับ ทั้งกรอบที่เป็นข้อความ และกรอบลายน้ำที่มีตราสัญลักษณ์ของ ZEISS และจะมีกรอบใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนสีของกรอบให้เป็นไปตามสีหลักของวัตถุในภาพได้แบบอัตโนมัติด้วยนะครับ ถ่ายภาพออกมาดูรวมกันก็จะน่ารักดีทีเดียว
ยังมาความสามารถการจัดการภาพอื่นๆ ใส่เข้ามาให้อีกเยอะครับ เช่นการใส่กรอบภาพแบบต่างๆ เข้าไปในภาพ และเอฟเฟ็กต์แสงเพิ่มลูกเล่น
รวมถึงความสามารถในการลบวัตถุส่วนเกินในภาพที่เราไม่ต้องการออกไปได้ครับ ทำได้เลยไม่ต้องลงโปรแกรมเสริมเพิ่มเติมในการปรับแต่งภาพถ่าย
จะเห็นว่าระบบถ่ายภาพและการจัดการภาพสุดติ่งมากครับ! ครบทั้งฟังก์ชั่นและลูกเล่น ให้คุณภาพของภาพผลลัพธ์ที่สูง มีโบเก้ให้เลือกใช้หลากหลายแบบด้วยความสามารถของ ZEISS และถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ยอดเยี่ยมเหนือใครด้วยระบบไฟ Aura Light Portrait 3.0 ภาพจึงออกมาสวยทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งเมื่อพิจารณาจากราคาจำหน่ายที่ไม่ถึงสองหมื่นบาท นี่คือกล้องคุณภาพยอดเยี่ยมที่คุ้มราคามากที่สุดในตลาดตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
vivo V30 Pro 5G ประสิทธิภาพสูง Dimensity 8200 ชิปเซ็ต 4 นาโนเมตร
สเปคเครื่องแรงนะครับรุ่นนี้ ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 8200 3.1GHz เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตรของ MediaTek เป็นรุ่นระดับกลุ่มเรือธงที่มีความแรงมากเกินพอสำหรับการใช้งานทุกอย่าง ทำงานร่วมกับ RAM ขนาดใหญ่ 12GB ที่สามารถขยายได้อีกถึง 12GB ซึ่งถือว่ามีขนาดแรมที่ใหญ่มากๆ โดยรุ่นนี้จะมีนำเข้าจำหน่ายในรุ่นที่มีหน่วยความจำภายในขนาด 512GB ซึ่งก็เยอะมากทีเดียวนะครับ
รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย FunTouch OS 14 รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน มีระบบช่วยเสริมด้านการทำงานให้ไหลลื่นกว่าเดิมด้วย Multi-Turbo ซึ่งเป็นระบบเฉพาะของทาง vivo ที่ทำให้ UI และการใช้งานบนเครื่องของเขามีความเสถียรสูง ไหลลื่น และไม่เคยเจอปัญหาใดๆ ในระหว่างใช้งานเลยครับ
ทดสอบเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ภาพ 3D สวยๆ ก็ยังไหลลื่นเล่นได้สบายครับ ฉะนั้นในการใช้งานด้านอื่นที่ไม่กินสเปคเครื่องมากนักก็ทำได้สบายอยู่แล้ว และยังควบคุมความร้อนได้ดีมากครับ ใช้งานมาไม่เคยเจอความร้อนให้รู้สึกเลยแม้จะเสียบชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยและใช้งานไปพร้อมกันด้วยก็ตาม
แบตเตอรี่ภายในให้มาเป็นขนาด 5000mAh รองรับระบบชาร์จไว FlashCharge 80W ของทาง vivo สามารถชาร์จแบตได้เต็มในเวลาแค่ไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น และยังถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปอีกด้วย โดยจะมี AI คอยดูแลสุขภาพของแบตเตอรี่และระบบไฟ ให้สามารถใช้งานได้มากกว่า 4 ปีเลยทีเดียว
ระบบที่ดี ลื่นไหล และกินพลังงานน้อยครับ สามารถเปิดจอใช้งานต่อเนื่องได้มากกว่า 8 ชั่วโมงแบตเตอรี่ถึงจะใกล้หมด ส่วนในวันทำงานเบาๆ อยู่ได้ข้ามวันสบายครับ
รองรับการจับตำแหน่ง GPS คู่ (L1+L5) จับตำแหน่งได้ไว มี NFC, Bluetooth 5.3 และเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด (ไม่มีสล็อตใส่ microSD Card และไม่มีรูหูฟัง 3.5mm) และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi 6 ได้ครับ
หน้าจอแสดงผลเกรดสูง 1.5K AMOLED 120Hz
จอแสดงผลคือหนึ่งในสิ่งที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้ครับ ให้ขนาดจอที่ใหญ่มากถึง 6.78 นิ้ว แทบจะไร้ขอบ เพราะเป็นจอโค้ง 3D ความละเอียดสูง 1.5K (2800 × 1260) ชนิดจอ AMOLED รีเฟรชเรทระดับ 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 2800nits รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้โดยตรง
จอภาพสวยมากเพราะสีสันสดใส แสงสว่างสูง ใช้งานกลางแจ้งได้เลยเห็นได้ชัดเจน
ขอบจอแทบไม่มีเพราะขอบจอโค้งหลบลงด้านหลัง ดูคลิปหรือภาพยนตร์เต็มตาครับ แต่ว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะมีลำโพงมาให้เป็นลำโพงเดี่ยวนะครับไม่ใช่ลำโพงคู่สเตอริโอ แต่ว่ามีความสามารถในการเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติได้ 150% ด้วยพลังเสียงที่ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหน ลำโพงตัวเดียวแต่เสียงดังและมีเนื้อเสียงที่ชัดเจนมาก
ตัวเครื่องเบาบาง ทนทาน ใช้งานได้นานกว่า 50 เดือน!
vivo ไม่เคยผลิตอะไรที่ไม่ทนทาน แต่ละเครื่องใช้งานได้ยาวนานและแทบไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องคุณภาพตัวเครื่องหลุด QC เป็นแบรนด์ดีที่สร้างชื่อให้เชื่อมั่นได้มานานกว่า 10 ปีแล้วครับ และสำหรับ vivo V30 Pro 5G รุ่นนี้ก็ได้ผ่านมาตรฐานการทดสอบที่เรียกว่า “50-Month Smooth Experience” เป็นการทดสอบประสิทธิภาพที่กำหนดเป้าหมายให้ตัวเครื่องและระบบยังสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลแม้จะถูกใช้งานทุกวันไปเป็นเวลานานมากถึง 50 เดือน หรือประมาณกว่า 4 ปีนั้นเองครับ
จะเห็นว่าทั้งตัวเครื่อง ระบบ และแบตเตอรี่ ถูกวางรากฐานในด้านความทนทานที่ยาวนานมากๆ แต่ว่าตัวเครื่องกลับมีความบางและเบาอย่างมากครับ มันสวยงาม พกพาง่าย ถือใช้ได้แม้จะเป็นผู้หญิงมือเล็กๆ เพียงมือเดียว ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องแค่ 188 กรัม และบางแค่ 7.45 มม. เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเครื่องที่เบาและบางที่สุดของทาง vivo โดยที่ภายในใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เอาไว้ให้ด้วยนะครับ
ตัวเครื่องสวยงาม แน่นหนา การประกอบยอดเยี่ยมมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ให้ผิวสัมผัสแบบด้านไร้รอยนิ้วมือ ผลิตมาด้วยผิวกระจกขัด Fluorite AG มีนำเข้ามาจำหน่ายทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Shell White) และ สีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black)
เครื่องสีขาวมุก (Shell White) จะมีลวดลายฝาหลังคล้ายเปลือกหอยธรรมชาติ ใช้เทคนิคการแกะสลัก Photolithography หรือการพิมพ์หินด้วยแสงเพื่อสร้างลายเส้นกว่า 13 ล้านเส้นบนพื้นผิว เวลาสะท้อนแสงจะโชว์ลวดลายผิวไข่มุกขาวอมฟ้า ได้บรรยากาศของชายหาดและน้ำทะเล เป็นสีที่มีลวดลายพิเศษไม่เหมือนใครซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวบทความนี้ครับ
อีกหนึ่งสีที่มาคู่กันคือสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) เป็นดำเข้มดูสุขุมแต่มีลวดลายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสง ให้ผิวสัมผัสน่าลูบไล้ครับ เป็นดำที่ดูดีแบบเรียบง่าย ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้าตอนกลางคืนที่เต็มไปด้วยแสงดาว
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีที่ชาร์จ FlashCharge 80W และสาย USB Type-C แถมมาให้ พร้อมกับเคสใสซิลิโคน แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมาในกล่องนะครับ
ราคาจำหน่ายและโปรโมชั่น
vivo V30 Pro 5G มีเข้ามาจำหน่ายสองสี สีขาวมุก (Shell White) และ สีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) ในรุ่นความจุ RAM 12GB+ ROM 512GB ราคา 19,999 บาท โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 15 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสามารถพรีออเดอร์ได้ก่อนเพื่อรับของแถมเพิ่มเติม!
- ระยะเวลาพรีออเดอร์ตั้งแต่ 29 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2567
- รับส่วนลด 500 บาท
- รับฟรีหูฟังไร้สาย vivo TWS 3e มูลค่า 1,799 บาท
- V30 Series 5G Premium Gift Box (ประกอบไปด้วยเคส 2 ชิ้น พร้อมสายคล้องสะพายข้าง และบัตร E-VIP)
- รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี
- ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งภายใน 2 ปีแรก
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ vivo Brandshop ทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติม : vivo V30 Pro-การถ่ายภาพคนด้วย ZEISS, แบตเตอรี่ 5000mAh | vivo Thailand
#vivoV30Pro5G #ถ่ายเทพเกินคน #PortraitSoPro #vivoครบรอบ10ปี