Xiaomi เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ 11T ออกมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 11T และตัวท็อปอย่าง Xiaomi 11T Pro ทั้งคู่เป็นสมาร์ตโฟนสเปกระดับเรือธง ประสิทธิภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยากตามสไตล์แบรนด์ Xiaomi ครับ
สมาร์ทโฟน Android ระดับเรือธงงบประมาณในเรทเริ่มหมื่นต้นๆ ใครสนใจในสมาร์ทโฟนในด้านสเปกที่แรงจัด ก็ต้องเริ่มที่ XIAOMI 11T PRO ที่นับว่าเป็นเรือธงของสมาร์ทโฟนระบบ Android เลยครับ แต่ละด้านครบเครื่องมาก ทั้งหน้าจอ, หน่วยประมวลผลระดับท็อป, ความละเอียดกล้องถ่ายภาพ, ระบบเสียงลําโพงคู่, แบตเตอรี่และระบบชาร์จไวที่แรงสุดๆ
XIAOMI 11T PRO ใช้หน้าจอ 6.67 นิ้ว พาแนล AMOLED ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรตหน้าจอ 120Hz รองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync, Dolby Vision และ HDR10+ หน้าจอระดับสูงเลยครับ ขอบจอบาง เจาะรูวางกล้องหน้าเล็กๆ ขนาดความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ภาพสวยคมชัดดีครับ ใช้งานได้เต็มตา และยังใช้หน้าจอที่เคลือบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus เสริมความแกร่งและทนทานให้กับตัวเครื่องด้านหน้า
ใช้เทคโนโลยี TrueColor ที่ให้สีสันมากถึง 1 พันล้านสี และมีค่าความสว่างสูง 1000 nits ให้ผู้ใช้เพลินตาไปกับ ความสดและความสว่างแบบสะใจ แต่ก็ใส่การปรับแต่งและฟังก์ชั่นที่ช่วยถนอมสายตามาเต็มสูบเช่นกันครับ ใช้ได้ ทั้งเอามันส์หรือจะปรับให้มันสบายตาก็ได้หมด รองรับมาตรฐานสีทั้ง sRGB และ P3 ที่ใช้กันในวงการภาพยนตร์ด้วย ฉะนั้นดูหนังดูคลิปสวยงามแน่นอนครับ คะแนนหน้าจอระดับเกรด A+ จาก DisplayMate เชื่อคุณภาพจอเทพตัวนี้ได้เลย ^ ทั้งสวยทั้งทน 555
และด้วยอัตราตอบสนอง Touch Sampling ที่สูงเป็นพิเศษถึง 480Hz จึงเหมาะสมในการใช้เล่นเกมแบบเต็มๆ สามารถทัชสั่งงานหน้าจอได้ถี่โดยตัวหน้าจอยังรับคำสั่งได้ทันสบายๆ
ไม่ใช่แค่หน้าจอที่สวยแต่มีระบบเสียงที่ดีด้วยครับ เป็นลำโพงคู่สเตอริโอ ออกแบบและปรับแต่งโดย Hardman Kardon ระบบเสียงรองรับ Dolby Atmos เสียงลำโพงคู่ดังดี มีทิศทาง ใช้งานรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมสะใจครับ คุณภาพลำโพงก็ดีเหมือนหน้าจอด้วยเช่นกัน โดยในรุ่น Pro จะมีการการยิงเลเซอร์โลโก้ของ Hardman Kardon ที่สันขอบเครื่องด้านบน อยู่ข้างลำโพงและ IR Blaster ที่เป็นอินฟราเรดไว้สำหรับทำเป็นรีโมทสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ครับ
งานออกแบบตัวเครื่องโค้ง ฝาหลังทำลวดลายไว้ด้วยผิวสัมผัสที่แตกต่างกันในแต่ละสี โดยมีเข้ามาสามสีด้วยกันครับ โดยที่เห็นในรีวิวนี้ คือสี Meteorite Gray เป็นผิวเงามีลวดลายทำคล้ายโลหะ มีลายเส้นแนวขวางตลอดลำตัว และ Moonlight White ผิวเคลือบด้าน สีให้ความละมุนเหมือนขาวมุก เป็นสองสีที่ให้พื้นผิวที่แตกต่างกัน และยังมีอีกหนึ่งสีคือ Celestial Blue
ตัวเครื่องมีความหนาเล็กน้อย 164.1 x 76.9 x 8.8 มม. และหนัก 204กรัม เพราะให้แบตเตอรี่ที่ใหญ่ครับ 5000 mAh ใช้ที่สแกนนิ้วด้านข้างเครื่องเป็นปุ่มพาวเวอร์ในตัว
ด้านหลัง XIAOMI 11T Series ทั้งสองตัววางกล้องหลัง 3 ตัว เป็นกล้องหลัก 108MP, Telemacro 2x ความละเอียด 5MP และกล้อง ultrawide 120 องศา ความละเอียด 8MP ทำงานได้หลากหลายมากครับ เพราะซอฟท์แวร์กล้องของ Xiaomi ทำฟังก์ชั่นพิเศษมาเพียบ ทั้งงานภาพนิ่งและงานถ่ายวีดีโอ
ต้องบอกว่าเป็นตัวหนึ่งที่มีคุณภาพระดับสุดยอดกล้องสมาร์ตโฟนในงานถ่ายวิดีโอ เพราะ Xiaomi 11T Pro ถูกออกแบบกล้องมาในคอนเซปต์ Cinemagic เน้นเรื่องถ่ายการวิดีโอที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ ด้วยซอฟท์แวร์ที่พัฒนามาในด้านการถ่ายภาพวีดีโอโดยเฉพาะ โดยมีความสามารถในการถ่ายวีดีโอในเทคนิคเหมือนการถ่ายภาพยนตร์ใส่เข้ามาให้ใช้ เทคนิคระดับโปรกลายเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเลยครับ
Xiaomi 11T Pro สามารถบันทึกภาพวีดีโอได้ในระดับความคมชัดและเทคโนโลยี 4K HDR10+ ให้ขอบเขตสีสันของ ภาพได้มากถึง 1 พันล้านสี ทําให้เกรดของกล้องจาก Xiaomi 11T Pro สามารถบันทึกภาพได้ค่าคอนทราสต์และ สีสันในระดับคุณภาพสูงมาก ยังมีฟีเจอร์การซูมเสียง Audio Zoom ให้ผู้ใช้สามารถซูมจุดที่มาของเสียงได้ไปพร้อม กันกับภาพได้อีกด้วย
ในการถ่ายภาพนิ่ง ก็มีโหมดการถ่ายภาพครบมากครับ มี HDR และ AI คอยปรับภาพและเติมรายละเอียดให้เราขณะถ่ายโดยเราไม่ต้องสนใจสภาพแสงหรือรู้เรื่องการจัดแสงของกล้องมากนัก โหมดการถ่ายภาพกลางคืน ภาพถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ทำได้ดีสมกับการเป็นสมาร์ทโฟนในระดับเรือธงครับ
รองรับระยะถ่ายทั้งซูเปอร์มาโคร การถ่ายภาพระยะใกล้ 4เซนติเมตรและการซูมภาพมุมกว้าง 0.6x ไปจนถึง 10x แบบดิจิทัล จากที่ทดสอบความคมชัดของภาพจะอยู่ในระดับสูงสุดที่ 5X นะครับ ภาพยังคม รายละเอียดยังครบถ้วน
โหมดถ่ายภาพบุคคลสามารถกำหนดระยะชัดลึดชัดตื้นได้แบบเรียลไทม์ ทำได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และปรับแต่งฉากหลังได้มากกว่าแค่การเบลอ เพราะสามารถสร้างลายเส้นแสง โบเก้วน หรือเปลี่ยนไฟโบเก้ฉากหลังให้เป็นรูปร่างแปลกตา โดยสามารถไปปรับได้หลังการถ่ายไปแล้วได้ด้วยครับ
กล้องของ Xiaomi 11T Series ทั้งในโหมดภาพนิ่งและวีดีโอมีความสามารถอยู่มากมาย ทั้งในด้านการใช้งานพื้นฐานที่ ให้คุณภาพที่ดีมาก ตัวอย่างภาพถ่ายบางส่วนของ Xiaomi 11T Pro
ตัวเครื่องไม่มีรูหูฟังมาให้ ใช้พอร์ทชาร์จแบบ USB Type C ซึ่งในรุ่นโปรรองรับการชาร์จไวที่เป็นสุดยอดเทคโนโลยี 120W Xiaomi Hypercharge ที่สามารถชาร์จแบต 5000 mAh ได้เต็ม 100% ภายในเวลาแค่ 17 นาทีเท่านั้นเอง สุดยอดนวัตกรรมของระบบชาร์จสมาร์ทโฟนเลยครับ
ระบบชาร์จของ Xiaomi 11T Pro ไวมากครับ และมาพร้อมทั้งในด้านความไวและในด้านความปลอดภัยพร้อมๆ กัน ในการออกแบบชุดแบตเตอรี่ Xiaomi 11T Pro ใช้แบตเตอรี่แบบ Dual-cell หรือแบตที่มีภาครับไฟหลายก้อน หลายเซล เพื่อเพิ่มช่องทางการรับไฟเข้าเครื่องได้หลายช่องทางไปพร้อมกัน เทคนิคการออกแบบนี้นอกจากจะเพิ่ม ความไวในการชาร์จแล้วยังสามารถช่วยในด้านควบคุมความร้อนในขณะชาร์จไฟไปได้อีกด้วย จากการทดสอบคุณภาพแบตหลังการทดสอบชาร์จไปมากกว่า 800 ครั้ง ทางเสียวหมี่เปิดเผยออกมาก็พบว่า แบตเตอรี่ยังมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 80% เลยทีเดียวครับ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขคุณภาพแบตที่ใช้งานได้นานในระดับ ยอดเยี่ยม และนอกจากการทดสอบของเสียวหมีแล้ว ระบบชาร์จนี้ยังได้รับการทดสอบรับรองความปลอดภัย และ ยืนยันคุณภาพจาก TUV Rheinland Safe Fast-Charge System Certification มาด้วย มาตรฐานความเร็วการ ชาร์จจากโลกยุคล่าสุด มาพร้อมกับความปลอดภัยขั้นสุด มีให้ใช้อยู่ในรุ่นนี้ครับ ^^
และในรุ่น XIAOMI 11T แม้จะไม่ได้ใช้ระบบชาร์จ 120W เหมือนตัวโปร แต่ก็มีระบบชาร์จไฟ TURBO CHARGING 67W แรงเหนือล้ำกว่าใครเช่นกันครับ สามารถชาร์จแบตเต็มได้ในเวลาแค่ 36 นาทีเท่านั้นเอง
จากที่ทดสอบการชาร์จไฟของทั้งคู่ ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ มีความปลอดภัยสูงเพราะทาง Xiaomi มีการออกแบบขั้นตอนความปลอดภัยไว้มากถึง 34 ด้านในการตรวจสอบขณะชาร์จ
แต่มีปัญหาที่เจอคือตัว XIAOMI 11T PRO อาจจะไม่รองรับระบบชาร์จเก่าที่แรงไฟต่ำ ผมเจอปัญหาว่าไฟชาร์จไม่เข้าเมื่อไม่ได้ใช้ที่ชาร์จของมันในบางครั้งครับ แนะนำใช้อุปกรณ์ของมันเองภายในกล่องเพื่อความรวดเร็วระดับติดเทอร์โบ ^^ และมีความปลอดภัยในการใช้งานครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคสใส สายชาร์จ และที่ชาร์จในระบบที่รองรับของแต่ละรุ่น โดย XIAOMI 11T PRO ก็จะได้ที่ชาร์จ 120W ส่วน XIAOMI 11T ก็จะได้ที่ชาร์จ 67W ไปครับ ขนาดต่างกันพอสมควร แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับ
การใช้งานภายใน
จุดแตกต่างของสองรุ่นที่สำคัญของ Xiaomi 11T Pro และ Xiaomi 11T นอกจากระบบชาร์จที่ไม่เหมือนกันแล้ว ก็เป็นเรื่องของชิปประมวลผลครับ ตัว Xiaomi 11T Pro จะใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 888 ชิปเรือธงของ Qualcomm ส่วนรุ่น Xiaomi 11T จะใช้ชิปเซ็ตเรือธงของอีกค่าย MediaTek Dimensity 1200-Ultra แรงระดับท็อปของค่าย ความแรงระดับสูงทั้งคู่
ใช้ระบบ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5 รองรับ 5G Dual Sim และ Wi-Fi 6 ทั้งสองรุ่น การเชื่อมต่อสัญญาณเน็ตไร้สายไม่มีปัญหา ใช้งานได้ดีตลอดการทดสอบใช้ครับ
หน้าจอที่ใหญ่ ลำโพงคู่ดังฟังชัด เล่นเกมดูหนังก็ได้อรรถรสมากกว่าทั่วๆ ไปแล้วครับ ยังไม่นับความแรง ลื่นมาก เพราะนี้คือสเปคท็อปของสมาร์ทโฟน Android ในตอนนี้แล้วครับ
มีระบบปรับแต่งภาพและเสียงเยอะแยะมากครับ เพราะเป็นเทคโนโลยีจอและระบบเสียงระดับสูง รองรับการทำงานในหลายฟังก์ชั่นเหมือนจอของสมาร์ททีวีเลย
การตั้งค่าระบบเสียง รองรับ Dolby Atmos และพรีเซ็ตเสียงในหน้า UI ที่ทำมาได้สวยงามมากครับ มีฟังก์ชั่นที่ช่วยเพิ่มทั้งด้านคุณภาพและทิศทางของเสียงทั้งหมดด้วย
ประสิทธิภาพสูง หน้าจอสวย ลำโพงดี และทำงานได้ลื่นไหลสุดๆ สามารถรันงานสองแอพพลิเคชั่นยังทำได้ลื่นๆ ทำงานสองแอพได้แบบป๊อบอัพ เปิดเกมพร้อมใช้งานด้านอื่นไปด้วยไม่มีอาการสะอึกเลย
หน้าจอรองรับ Alway ON การแสดงผลในขณะหน้าจอปิด ปรับแต่งได้เยอะมากครับ แสดงการแจ้งเตือนและลวดลายที่เรากำหนดไว้ได้แบบสวยๆ
ด้านความปลอดภัยมีฟังก์ชั่นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับแยกแอพและไฟล์ต่างๆ ให้ไปอยู่ในพื้นที่ล็อกไว้อีกชั้นหนึ่ง มีระบบล็อคแอพใช้งาน และตัวสแกนความผิดปกติของเครื่องพร้อมเคลียไฟล์ขยะให้ผู้ใช้ในคลิ๊กเดียว
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ใช้งานจริงจังก็อยู่ได้ประมาณ 7ชั่วโมงครับ ใช้ปกติก็ประมาณหนึ่งวันครับ เพราะหน้าจอใหญ่สเปคแรงกินพลังงานค่อนข้างเยอะ แต่แทบไม่ต้องห่วงเลยถ้าพกที่ชาร์จอยู่ใกล้ตัว ยิ่งเจ้าตัว Pro ด้วยแล้ว เสียบชาร์จแค่ 10 นาที แบตก็กลับมากว่า 70% แล้วครับ ชาร์จไวมากไปเห็นแล้วตกใจทุกที 555 เล่นเกมต่อได้ทั้งวัน
จะเห็นว่ามันคือตัวรวมเทคโนโลยีระดับท็อปของวงการ แต่แทนที่ราคาจําหน่ายของ Xiaomi 11T Pro จะแพง แต่ว่าราคาเริ่มต้นที่จําหน่ายแค่ 16,990 บาทเท่านั้นเองครับ ได้เครื่องสเปกแรงจัด
ส่วน Xiaomi 11T ถูกวางไว้ในระดับเรือธงของสมาร์ทโฟน Android เช่นกันครับ อาจจะเป็นรองแค่รุ่นพี่ตัว Pro ของมันเท่านั้น เพราะยังคงมาครบในด้านความแรงของชุด ประมวลผล ความละเอียดกล้องถ่ายภาพ คุณภาพหน้าจอ คุณภาพเสียง และยังรวมถึงระบบชาร์จไฟ แม้มันจะไม่ใช่ระบบชาร์จ 120W แบบรุ่นโปร แต่ก็มีระบบชาร์จไว 67W ก็แรงเร็วไม่เป็นสองรองใครแล้ว Xiaomi 11T ก็จึงเป็นสมาร์ทโฟนสเปคเรือธงในราคาเริ่มต้น 13,990 บาทเท่านั้นเอง ราคาดีมากๆ
Xiaomi 11T Pro มีให้เลือก 3 ระดับความจํา
- รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 16,990 บาท วางจําหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น
- รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 18,990 บาท วางจําหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและ ช่องทางออนไลน์
- รุ่นความจุ 12GB+256GB: ราคา 20,990 บาท วางจําหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น
ส่วนรุ่น Xiaomi 11T มาให้เป็นตัวเลือกในราคาเริ่ม 13,990 บาท มีให้เลือก 2 ขนาด
- รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 13,990 บาท วางจําหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น
- รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 14,990 บาท วางจําหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่ว