Xiaomi 14 เรือธงสเปกแรง ที่มาในขนาดกระทัดรัด
สมาร์ตโฟนสเปกแรงที่มาในขนาดเล็ก ซึ่งมีไม่มากนักในระบบ Android ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 รวมถึง RAM และ ROM ที่เป็นเทคโนโลยีระดับดีที่สุดในตลาด จึงเป็นเครื่องที่เล็กลงแต่ตัว ส่วนประสิทธิภาพภายในยังคงใส่มาให้แบบเครื่องท็อปเรือธงประจำแบรนด์
พกพาง่าย เครื่องเล็กพอๆ กับ iPhone 15 Pro แต่ได้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า และเป็นหน้าจอคุณภาพสูง
กล้องถ่ายภาพพัฒนามากับทาง Leica ใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX ตัวล่าสุด และใส่กล้องคุณภาพสูงมาให้ทั้ง 3 เลนส์สำหรับกล้องด้านหลัง
รองรับระบบชาร์จไว 90W และชาร์จไร้สาย 50W
ตัวเครื่องโลหะ บาง เล็ก จับถือง่าย มีความทนทาน กันน้ำกันฝุ่น IP68 ใช้กระจกจอ Gorilla Glass Victus
รองรับ 2 ซิมการ์ดเทคโนโลยี 5G DSDA รุ่นแรกของประเทศไทยและรองรับสัญญาณ Wi-Fi 7 อีกด้วย
The Good
- สเปกแรง ตัวท็อปเรือธงระบบ Android ที่มีขนาดหน้าจอไม่เกิน 6.4 นิ้ว ซึ่งไม่ค่อยมีออกมาในตลาด
- ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 | RAM LPDDR5x bus 8533Mbps และหน่วยความจำ UFS 4.0 เป็นเทคโนโลสูงทั้งหมด
- เครื่องเล็กพอๆ กับ iPhone 15 Pro แต่ได้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า
- ถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยม เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX เซ็นเซอร์ Light Fusion 900 และเลนส์ Leica floating telephoto ระยะ 75mm
- รองรับชาร์จไว 90W HyperCharge และไร้สาย 50W wireless HyperCharge มีชิป Xiaomi Surge P2 ดูแลระบบไฟ
- มีความทนทานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ใช้กระจกจอ Gorilla Glass Victus
- รองรับ 2 ซิมการ์ดเทคโนโลยี 5G DSDA รุ่นแรกของไทย ใช้งานทั้งเน็ตทั้งโทรได้สองซิมพร้อมกันบน 5G
- รองรับสัญญาณ Wi-Fi 7
The Bad
- ไม่มีรูหูฟังบนตัวเครื่องโดยตรง
- ไม่มีช่องใส่ micro SDcard
- ไม่แถมที่ชาร์จและหูฟังมาให้ภายในกล่อง
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
Xiaomi 14 เรือธงรุ่นน้องเครื่องเล็กที่สเปกแรง เป็นตัวเลือกในตลาดสมาร์ตโฟน Android ที่ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่กับเครื่องสเปกสูงแต่มาในขนาดเครื่องที่กระทัดรัดเน้นพกพา ถือใช้งานง่ายในมือเดียว
เพราะว่าส่วนใหญ่มือถือ Android ในปัจจุบันมักจะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า 6.5 นิ้วขึ้นไปแทบทั้งนั้น แต่ทว่าในตอนนี้มี Xiaomi 14 ออกมาทำตลาดอยู่ให้เป็นตัวเลือกแล้วครับ มาในขนาดหน้าจอ 6.39 นิ้ว มีขนาดเครื่องเล็กมาก จนผู้หญิงมือเล็กก็ยังสามารถถือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ
Xiaomi 14 ก็เป็นเครื่องตัวน้องที่ได้สเปกเกรดเรือธงของ Xiaomi มาอย่างเต็มตัว ด้วยชิปเซ็ตที่ดีที่สุด, RAM/ROM ที่เร็วที่สุด เทคโนโลยีใหม่เต็มเครื่อง แต่มาในหน้าจอจนาดที่เล็กกว่า และเปิดตัวออกมาพร้อมกับ Xiaomi 14 Ultra ที่นับว่าเป็นรุ่นใหญ่ของซีรี่ส์ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า มีเทคโนโลยีกล้องที่จริงจังกว่าขึ้นไปอีกขั้น และมีราคาที่แพงกว่า Xiaomi 14 อย่างมากไปด้วยเช่นกัน เพราะราคาเปิดตัวห่างกันกว่าหมื่นบาทเลยทีเดียว
ตัวเครื่องภายนอก
Xiaomi 14 มีขนาดเครื่องเพียงแค่ 71.5mm x 152.8mm x 8.2mm ก็เรียกได้ว่ามีขนาดเครื่องพอๆ กับ iPhone 15 Pro แต่ว่ากลับมีหน้าจอที่ใหญ่กว่ามากพอสมควร (iPhone 15 Pro ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว Xiaomi 14 ขนาดหน้าจอ 6.39 นิ้ว)
และยังมีการเจาะรูวางกล้องหน้าในพื้นที่ขนาดเล็กไม่เกะกะสายตามากนักในขณะใช้งานอีกด้วย (วางกล้องหน้า 32MP, รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งาน)
ก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องเล็ก พกง่าย แต่หน้าจอไม่ได้เล็กมากไปนักนะครับ ให้มาเป็นจอคุณภาพสูง
เป็นจอ Pro HDR ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียดสูง 1.5K (1200 x 2670) ความสว่างสูงสุด 3000nits สีสันสดใสเพราะเป็นจอ C8 AMOLED LTPO ปรับรีเฟรชเรทได้สูงสุด 120Hz
จอแบนราบไม่มีขอบโค้ง ขอบจอเล็กมาก Ultra-thin bezel CrystalRes เหลือเพียงเป็นเส้นบางๆ รอบหน้าจอ รองรับมาตรฐานการแสดงผลทั้ง Dolby Vision, HDR10+, HDR10, HLG เคลือบไว้ด้วยกระจกจอ Gorilla Glass Victus สวยงาม ทนทาน มาตรฐานสูง สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง
ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos เสียงดังฟังชัด ในด้านความบันเทิงไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องไปจากเครื่องรุ่นใหญ่ในกลุ่มเรือธง แค่แตกต่างออกไปด้วยไซด์หน้าจอที่ใหญ่น้อยกว่าเท่านั้น
**เทียบขนาดหน้าจอกับตัว Ultra รุ่นใหญ่**
วัสดุตัวเครื่องเกรดดีพรีเมี่ยม เพราะเป็นเครื่องผิวโลหะรอบตัวเครื่อง ฝาหลังขัดผิวเหมือนพ่นทราย ไม่มีครอบมันไม่ติดรอยนิ้วมือ ขอบโครงเครื่องเป็นโลหะแกร่ง มีนำเข้ามาจำหน่ายในไทยสามสีคือ สีเขียว Jade Green, สีขาว และสีดำ ซึ่งเป็นสีเครื่องที่เห็นในบทความนี้
แบตเตอรี่ภายในให้มาในขนาด 4610mAh ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวม 193 กรัม ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ใช้งานโดยน้ำสาดหรือน้ำฝนได้สบายใจ ขอบเครื่องตัดเหลี่ยม เล็ก จับถนัดมือ สำหรับใครอยากได้เรือธงเครื่องเล็กๆ ก็รุ่นนี้แหละครับที่มีออกมาเป็นตัวเลือกในตลาดขณะนี้
รอบตัวของ Xiaomi 14 จะไม่มีพอร์ตอะไรเลยครับ ไม่มีรูหูฟัง ไม่มี IR Blaster ที่ปกติทาง Xiaomi จะมีใส่เข้ามาเพื่อใช้เครื่องเป็นรีโมตได้ แต่ว่ารุ่นนี้จะไม่มี
มีเพียงพอร์ต USB Type-C ที่เป็นเวอร์ชั่น 3.2 Gen 1 สำหรับใช้เชื่อมต่อข้อมูลและสำหรับใช้ในเทคโนโลยีชาร์จไวระบบ 90W HyperCharge ซึ่งรุ่นนี้จะรองรับระบบชาร์จไวแบบไร้สายได้ด้วย ในระดับความเร็วที่ 50W wireless HyperCharge และสามารถชาร์จไฟแบบไร้สายย้อนกลับไปให้อุปกรณ์อื่นผ่านฝาหลังตัวเครื่องมันเองได้ด้วย
ระบบชาร์จยอดเยี่ยม ทั้งไวและปลอดภัย เพราะมีชิปเซ็ตการชาร์จ Xiaomi Surge P2 และชิปเซ็ตการจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi G1 ดูแลระบบจ่ายไฟและการใช้ไฟ ป้องกันการเกิดไฟกระชาก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ และลดการสูญเสียพลังงานทำให้ Xiaomi 14 มีระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ระหว่างวันที่ค่อนข้างอึดใช้ได้เลยครับ อยู่ได้นานพอจะใช้กันข้ามคืน แบตไม่หมดไวครับรุ่นนี้
น่าเสียดายที่ภายในกล่องจะมีที่ชาร์จไวแถมมาให้ มีเพียงเคสซิลิโคน และสาย USB Type-C แถมมาให้เพียงเท่านั้นภายในกล่อง
Xiaomi 14 เป็นเครื่องรองรับ 2 ซิมการ์ด (นาโนซิม + นาโนซิม หรือ นาโนซิม + eSIM) และเป็นเทคโนโลยีแบบ 5G DSDA (Dual-Sim Dual-Active) รุ่นแรกของประเทศไทย เชื่อมต่อใช้งาน 5G ได้พร้อมกันทั้งสองซิมแบบไม่ตัดสัญญาณแม้จะกำลังใช้สายสนทนาพร้อมกันทั้งสองซิม และรองรับสัญญาณ Wi-Fi 7 อีกด้วยนะครับสำหรับรุ่นนี้ อนาคตใช้งานได้ไกลสบายๆ
ระบบกล้องถ่ายภาพ Xiaomi 14
กล้องถ่ายภาพไม่ปกติธรรมดานะครับ แม้จะถูกบดบังด้วยเทคโนโลยีกล้องของ Xiaomi 14 Ultra รุ่นใหญ่ ที่มาแบบจริงจังยิ่งใหญ่กว่าเท่านั้น แต่ทว่ากล้อง Xiaomi 14 ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่มีให้ใช้กันแบบปกติธรรมดา เพราะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้เทคโนโลยีการเคลือบเลนส์ Leica Summilux ที่ถูกพัฒนามาเพื่อใช้กับรุ่น Ultra ก็นำมาใช้ในรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน
- กล้องหลักด้านหลังจะใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX รูรับแสงขนาด f/1.6 เซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 ความละเอียด 50MP ระยะ 23mm มี OIS กันสั่นในตัว
- ทำงานคู่กับเลนส์ซูม Leica floating telephoto ระยะ 75mm ความละเอียด 32MP เป็นเทเลโฟโต้แบบลอยตัวที่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้อิสระภายในกระบอกเลนส์ เพื่อปรับไปตามช่วงโฟกัสที่เราต้องการจะถ่าย และมีกันสั่น OIS ในตัวด้วยเช่นกัน
- กล้องสุดท้ายคือเลนส์มุมกว้างพิเศษระยะ 14mm ความละเอียด 50MP มุมมองภาพ 115 องศา
จะเห็นว่าในด้านฮาร์ดแวร์กล้องไม่ได้ใกล้กับคำว่าธรรมดาเลยครับ เพราะยังไงก็เป็นกล้องเกรดระดับเรือธงที่ใช้เทคโนโลยีของ LEICA มาแบบเต็มตัว ถ้าจะเทียบสเปกกล้องของ Xiaomi 14 กับรุ่นใหญ่อย่าง Xiaomi 14 Ultra ที่จะต่างกันไปก็คือตัว Ultra จะใช้เซนเซอร์ภาพของกล้องหลักเป็นขนาดใหญ่ 1 นิ้ว (ของ Xiaomi 14 จะเป็นขนาด 1/1.31 นิ้ว) และตัว Ultra จะใส่กล้องซูมไกลตัวที่ 4 เข้ามา เป็นกล้องระยะ 120mm ความละเอียด 50MP ซึ่งเลนส์ตัวที่สี่นี้จะไม่มีใน Xiaomi 14 นั้นเองครับ
Xiaomi 14 จะใช้ระบบถ่ายภาพที่พัฒนามาร่วมกันกับทาง LEICA ทั้งระบบถ่ายภาพ ระบบฟิลเตอร์ การปรับโทนสี ทั้งหมดจะมีกลิ่นของกล้อง LEICA ใส่เข้ามาไว้ทั้งหมด โดยเราสามารถเลือกโปรไฟล์ของการถ่ายภาพได้สองรูปแบบ เน้นความสมจริงหรือเน้นความสดใส นั้นคือสไตล์ Leica Vibrant และ Leica Authentic นั้นเอง ไม่อะไรดีกว่าแล้วแต่เลือกแนวของภาพที่อยากใช้งานครับ
รองรับการถ่ายภาพตั้งแต่ระยะมุมกว้าง 0.6x ไปจนถึงซูมดิจิทัลที่ 60x จากการทดสอบระบบกันสั่นของเครื่อง เราจะสามารถถือถ่ายภาพในระยะ 10x ด้วยมือเปล่าได้คมชัดมากพอประมาณสำหรับแสงในตอนกลางวันเลยครับ
Xiaomi 14 มีเทคโนโลยี Dual ISO Fusion ซึ่งเทคโนโลยีจะทำให้ตัวกล้องสามารถสร้างภาพ HDR แบบใหม่ ซึ่งมาจากการจับภาพหนึ่งเฟรมแต่จะส่งข้อมูลปยังสองวงจรที่ใช้ ISO ที่ต่างกันเพื่อจะได้ภาพสองภาพที่มีระดับการรับแสงที่ต่างกัน จากนั้นนำภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพ HDR ของ Xiaomi 14 สามารถเก็บช่วงแสงไดนามิกได้กว้างมากถึงที่ 13.5EV เลยทีเดียว
ภาพถ่ายกลางแจ้งที่มีเงามืดอยู่ภายในภาพก็จะปรับเกลี่ยแสงให้เรามองเห็นได้ชัดเจน แม้ความสว่างขณะถ่าย แดดจะแรงและเงาจะเยอะมาก แต่คอนทราสภาพก็จะยังสมบูรณ์สวยงามดีอยู่เช่นเดิมครับ
กล้องถ่ายภาพของ LEICA มีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพคน เพราะปรับแต่งโทนสีและความเข้มข้นของภาพออกมาได้ดูสมจริง พร้อมมีระยะการถ่ายภาพบุคคลให้ใช้หลายระยะ ทำให้เราถ่ายภาพบุคคลได้หลายมุมมองครับ จากการจำลองของเลนส์หลายตัวในตำนานของ LEICA ภาพคนจึงมีหลากหลายอารมณ์ไปด้วยในการใช้งาน
การจับโฟกัสบุคคลทำได้แม่นยำ โฟกัสจับเข้าดวงตาของแบบได้ชัดเจน การเบลอหลังทำได้เนียน และสามารถนำมาปรับระยะชัดลึกชัดตื้น และเปลี่ยนรูปหน้าและปรับอวัยวะร่างกายทีละส่วนในภายหลังการถ่ายไปแล้วได้ครับ
ไม่ใช่แค่การปรับระยะชัดลึกชัดตื้นเท่านั้น ด้วยระบบ AI ที่ใส่เข้ามาให้ ทำให้ Xiaomi 14 มีความสามารถในการลบวัตถุบนภาพได้แบบง่ายๆ
รวมถึงการเปลี่ยนท้องฟ้า
และมีกรอบรูปจากทาง LEICA ใส่เข้ามาให้ใช้เพียบเลยครับ การปรับแต่งภาพถ่ายใหม่ทำได้ละเอียดโดยไม่ต้องโหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชั่นเสริมเข้าไปในเครื่อง
ประสิทธิภาพการใช้งาน
อย่างที่บอกไปว่า Xiaomi 14 เครื่องตัวเล็กที่มีสเปกสูง! มันใช้ชิปเซ็ตและเทคโนโลยีภายในมาให้ในระดับท็อปของสมาร์ตโฟน Android ในขณะนี้ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 เทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ใช้ RAM LPDDR5x ความเร็วบัส 8533Mbps และหน่วยความจำชนิด UFS 4.0 ซึ่งทุกอย่างเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด และถูกใช้ทั้งในเครื่องรุ่น Xiaomi 14 Ultra และ Xiaomi 14 รุ่นนี้ด้วยเช่นกัน
Xiaomi 14 มีจำหน่ายในสองรุ่นความจุ 12GB + 256GB | 12GB + 512GB รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS ซึ่งเป็นระบบล่าสุดของ Xiaomi ด้วยเช่นกัน
การใช้งานต่างๆ ลื่นไหลสุดครับ เป็นตัวจิ๊ดทรงเล็กที่สเปกแรงสุดของตลาด ใช้งานต่างๆ รวมถึงการเล่นเกมกราฟิก 3D ภาพสวยๆ ลื่นไหลได้ทั้งหมด
ยังไม่พบอาการแลค ค้าง ช้า หรือรีสตาร์ทให้เห็นเลยระหว่างทดสอบใช้งาน การเชื่อมต่อสัญญาณต่างๆ ใช้งานมาไม่เจอปัญหา จับสัญญาณได้แรงเต็มความเร็วในพื้นที่ครับ
ตัวเครื่องไม่ร้อนนะครับรุ่นนี้ อาจจะมีบ้างในเวลาที่เราเปิด “โหมดประสิทธิภาพ” และใช้งานในที่อุณหภูมิร้อนแดดบ้านเราในเวลานานๆ หรือเปิดหน้ากล้องทิ้งไว้นานๆ ก็จะมีให้รู้สึกถึงความอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ร้อนจนเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นมาให้เห็นครับ
Xiaomi 14 ก็เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ราคาจำหน่าย 29,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์มของทาง Xiaomi