พัดลมจากเสียวหมี่ Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 เป็นพัดลมที่เรียกว่า “พัดลมอัจฉริยะ” ครับ เพราะรองรับการทำงานในแบบอุปกรณ์ IoT ภายในบ้าน รองรับการสั่งงานผ่านคำสั่งเสียง ใช้ได้ทั้ง Google Assistant และ Amazon Alexa สามารถควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งในระยะใกล้ และสั่งงานจากในระยะไกล พร้อมมีระบบอัจฉริยะมากมายที่ใส่เข้ามา เพราะนี้คือพัดลมที่พัฒนามาจากแบรดน์ด้าน IT ซึ่งมีนวัตกรรมมากกว่าการจะเป็นเพียงพัดลมธรรมดานั้นเองครับ
Mi Smart Standing Fan เป็นสินค้าที่ขายดีเสมอในร้านช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ตั้งแต่ Xiaomi ยังไม่มีการนำเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ในวันนี้เสียวหมี่ประเทศไทย ก็นำเข้า Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 เข้ามาจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการแล้ว ในราคาแค่ 2,199 บาทเท่านั้นเองด้วยครับ
มาดูกันว่ามันมีความสามารถในด้านใดบ้าง ที่ทำให้พัดลมตัวนี้น่าสนใจกว่าพัดลมทั่วๆ ไปในท้องตลาด
Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 โดยรวมเป็นพัดลมขนาดกลางครับ ขนาดตะแกรงพัดลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 35.5 เซนติเมตร ตัวไม่ใหญ่มาก แต่ให้แรงลมแน่นหนาพิเศษ ด้วยการออกแบบที่มาจากทีมด้านนวัตกรรมของแบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะ
เขาใช้การออกแบบใบพัดแบบสองเลเยอร์ 7+5 ใบพัด เป็นใบพัดสองชั้นรวม 12 ใบ เพื่อให้การหมุนแต่ละรอบสร้างองศาการรับลมที่กว้างถึง 39 องศา และสร้างแรงลมที่มีความหนาแน่นสูงกว่าปกติมากกว่าใบพัดแบบเดิมๆ ที่เราใช้กันมานานแสนนานแล้วครับ
มันถูกออกแบบให้เข้ากับคนยุคสมัยใหม่ คือต้อง “เงียบ” “แข็งแกร่ง” “ประหยัดไฟ” และ “อัจฉริยะ”
เชื่อมต่อการทำงานกับแอพพลิเคชั่น Mi Home สำหรับการสั่งงานระยะใกล้,ไกล และเซ็ตค่าต่างๆ อย่างละเอียดของตัวพัดลมในการทำงาน เหมือนเป็นรีโมทสั่งงานนั้นเองครับ
ตัวพัดลมทำงานเงียบมาก อันนี้คือดีงามที่สุด ทำงานภายใต้ความเบาเสียงที่ต่ำสุดแค่ 58 dB(A) เงียบจนหลายครั้งลืมไปเลยว่าเปิดพัดลมทิ้งไว้อยู่ มันมีความละเอียดในการปรับแรงลมได้ถึง 100 ระดับด้วยนะครับ เพราะสามารถปรับความเร็วลมภายในแอพพลิเคชั่นแบบแบ่งเป็นเปอร์เซ็น 1-100% หรือจะเรียกว่าปรับได้ 100 เบอร์นั้นเอง ^^
ส่วนการส่ายของหน้าพัดลมจะปรับระดับได้กว้างสุดที่ 140 องศา และสามารถเลือกได้มากกว่านั้นภายในแอพพลิเคชั่นเช่นกัน 30°,60°,90°,120° และ 140°
แต่ก็ยังมีตัวควบคุมบนตัวพัดลมให้เราใช้งานแบบง่าย กดปรับแรงลมได้ 4 ระดับ (25%, 50%, 75% และ 100%) และมีโหมดลมซึ่งเลียนแบบลมธรรมชาติ ที่จะมีลมแผ่ว ลมอ่อน และลมแรง พัดผสมกันสร้างความรู้สึกเย็นสบายแบบเป็นธรรมชาติ โดยการที่ตัวพัดลมมันทำงานได้อย่างเงียบเชียบและปรับระดับลมได้ละเอียดนุ่มนวลมากกว่าพัดลมทั่วไป มันจึงสร้างบรรยากาศธรรมชาติได้สมจริงอย่างมากเลยครับ
ตั้งเวลาเปิดปิด ตั้งการทำงานแบบ Automation ได้เอง เพราะด้วยแอพพลิเคชั่น Mi Home ที่ใช้ในการควบคุมตัวพัดลม ก็เป็นแอพศูนย์กลางในการจัดการอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้งหมดของ Xiaomi เช่นกัน เราจึงสามารถสร้างกฏการทำงานอัตโนมัติไว้ล่างหน้าได้ เช่น เมื่อตรวจพบมีคนกลับมาถึงบ้าน ให้ทำการเปิดเครื่องฟอกอากาศ และเปิดพัดลมด้วยกันทันที เป็นต้นครับ
เราสามารถควบคุมตัวพัดลมได้จากทุกที่ทุกเวลานะครับ ผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home แค่เพียงมีอินเตอร์เน็ต สั่งเปิดปิดจากในระยะไกลให้คนที่เราดูแลอยู่ที่บ้าน หรือจะเป็นน้องหมาและท่านแมวที่เราอาจจะคิดถึงและรู้สึกว่าวันนี้อาจจะร้อน ก็สั่งงานเปิดพัดลมให้มันได้ทันทีจากที่ทำงานเลยครับ
การออกแบบใส่ใจดีครับ สังเกตได้ว่าเก็บงานดี ตามรอยต่อตามขอบไม่มีคม น้ำหนักตัวพัดลมเบาทำขาตั้งมาได้สมดุล น้ำหนักตัวโดยรวมทั้งหมดประมาณ 3KG ส่วนหัวเป็นพลาสติกประเภทหยืดหยุ่นได้เพื่อลดแรงกระแทก ตกล้มใส่คนใส่เด็กลดโอกาสการบาดเจ็บได้มากเลยครับ และไม่มีส่วนอะไรเกะกะที่ยื่นออกมาให้อีรุงตุงนังดูรกตา เลือกใช้งานได้สองระดับความสูง 635CM และ 1000 CM เมื่อต่อขาตั้งเสริมที่ให้มาภายในกล่อง
วัสดุดี เบาและแข็งแกร่งครับ การประกอบออกแบบมาให้ตลอดลำตัวของพัดลมจะไร้สายไฟครับ ใช้ขั้วต่อไฟแบบตัวผู้ตัวเมียซ่อนไว้ภายในข้อต่อต่างๆ แค่สวมประกอบตามปกติ ระบบไฟก็ทำงานครบวงจรแบบปลอดภัยภายในตัวมัน
ปุ่มควบคุมด้านหลังทำมาครบในการสั่งงาน ปุ่มเปิดปิด และปุ่มปรับระดับแรงลม 4 ระดับซึ่งสามารถกดค้างเพื่อสลับโหมดลมปกติหรือลมแบบธรรมชาติ ปุ่มเปิดปิดการส่ายของพัดลม และปุ่มตั้งเวลาปิดล่วงหน้าโดยสามารถตั้งได้ตั้งแต่ 1 ถึง 4 ชั่วโมงโดยการกดซ้ำ 1 ถึง 4 ครั้งตามลำดับ
และมีไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงานด้านท้าย เป็นไฟบอกระดับแรงลมและโหมดลมธรรมชาติ พร้อมไฟสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อเข้าสู่การทำงานแบบอัจฉริยะ ใช้การเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home ครับ (รีเซ็ตระบบ Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่อใหม่ โดยการกดที่ปุ่มเปิดปิดและปุ่มปรับระดับลมค้างไว้จนได้ยินเสียงสัญญาณ และไฟสถานะ Wi-Fi กระพริบเป็นสีส้ม)
เมื่อเราเชื่อมต่อพัดลมเข้ากับแอพพลิเคชั่น Mi Home ได้แล้ว ก็นำเข้ารายชื่ออุปกรณ์ใน Mi Home เข้าไปในกลุ่มของ Google Home เพื่อใช้งานคำสั่งเสียง Google Assistant ได้เลยครับ
“โอเคกูเกิ้ล ปิดพัดลมสตูให้หน่อยสิ” ^^
“ปิ๊บ ได้เลย ฉันกำลังปิดพัดลมสตูให้เรียบร้อยแล้ว”
อุปกรณ์ภายในกล่อง Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 และการประกอบ
ในการประกอบ Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 ไม่ต้องเตรียมเครื่องมือใดๆ ไว้เพิ่มเติมนะครับ มีให้ในกล่องหมดเรียบร้อยแล้ว ประกอบง่ายและมีน็อตทั้งสิ้นเพียงตัวเดียว
นำแผ่นฐานมาประกอบเข้ากับขาในระดับความสูงที่ต้องการก่อน
- ถ้าใช้ขาเสริมตัวพัดลมจะสูงประมาณ 1 เมตร เหมาะสำหรับตั้งพื้น
- ไม่ใช่ขาเสริม ตัวพัดลมจะสูงประมาณ 625 เซนติเมตร เหมาะสำหรับตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้นในมุมต่ำ
นำตะแกรงด้านหลังใส่เข้าไปติดกับตัวมอเตอร์ สังเกตร่องวงกลมด้านหลัง 4 จุดให้ตรงกัน นำตัวล็อคตะแกรงหลังหมุนเข้าไป (หมุนตามเข็มนาฬิกา) ให้แน่นพอประมาณ
นำใบพัดใส่เข้าไปในแกนมอเตอร์ สังเกตร่องเขี้ยวให้ตรงกับร่องด้านหลังของใบพัดลม
ใส่ตัวล็อคใบพัด (หมุนทวนเข็มนาฬิกา) หมุนให้แน่นพอประมาณ ประกอบตะแกรงพัดลมด้านหน้าเข้าไป โดยสังเกตโลโก้ Mi ด้านหน้าให้ตั้งขึ้น และจุดมาร์คด้านบนตะแกรงหน้าและหลังให้ตรงกันกับจุดที่ 1 แล้วจึงหมุนตะแกรงหน้าให้ล็อคตรงกับตำแหน่งจุดมาร์คที่ 2
ด้านล่างตะแกรง จะมีรูใส่น็อตเพื่อยึดเพิ่มความแน่นหนาอีกจุดหนึ่ง ขันแค่สุดให้พอแน่น ประกอบสายไฟเข้าด้านหลังตัวฐานพัดลม เสียบให้แน่นอน แล้วพร้อมใช้งานได้เลย
สรุปท้ายรีวิว
พัดลมตัวกระทัดรัดภายในบ้าน เสียงเงียบมาก แต่แรงลมไม่ได้เบานะครับ อาจจะไม่โครมครามเหมือนพัดลมใบพัด 18 นิ้วที่เราเปิดอัดกันแบบกระโปรงปลิว แต่ก็แรงในระดับเอกสารปลิวว่อนเช่นกันถ้าเปิดแรงสุด
ปรับระดับแรงลมได้ละเอียด เลียนแบบลมธรรมชาติได้เนียนกว่า ตั้งการทำงานอัตโนมัติได้หลากหลายอย่างจากการควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น และสั่งานได้ผ่านคำสั่งเสียง
ตัวพัดลมออกแบบมาได้อย่างละมุน สวยงาม และใช้งานได้อย่างปลอดภัย ด้วยรูปทรงที่ไร้สิ่งเกะกะ ไม่มีคม น้ำหนักเบา เลือกระดับความสูงได้สองระดับ การใช้งานจึงเหมาะสำหรับบ้านพัก ห้องส่วนตัว ห้องเลี้ยงเด็ก และแม้แต่บ้านที่เลี้ยงสัตว์ เป็นพัดลมหลักหรือพัดลมเสริมเครื่องปรับอากาศอีกทีหนึ่ง แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมองหาพัดลมพลังลมสูงแบบพัดลมโรงงานเท่านั้นครับ
ดูดี ในราคาไม่แพง น่าใช้ภายในบ้านครับ Xiaomi Mi Smart Standing Fan 2 ประกาศราคาไทยมา 2,199 บาท (สังเกตรุ่น จากใบพัดแบบสองเลเยอร์เหมือนภายในภาพด้านบน ถึงเป็นรุ่นที่ 2 นะครับ)