Redmi 13 ฝาหลังดีไซน์กระจก กล้องหลัง 108MP รุ่นแรกในซีรี่ส์
รุ่นราคาประหยัดที่ให้หน้าจอคุณภาพสูงเกินมาตรฐานราคา และให้กล้องความละเอียดสูง 108MP ถ่ายภาพได้สวย มีคุณสมบัติการใช้งานที่ครบเพียงพอจะเป็นตัวเรื่มต้นสำหรับทุกคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนในราคาประหยัดที่สุด ที่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ดีมากพอในทุกด้าน
The Good
- ดีไซน์ฝาหลังสวยงาม พื้นผิวแบบกระจกที่มีลาดลาย 3D เคลือบสีเดียวกันรอบตัวเครื่อง
- กล้องความละเอียดสูง 108MP Samsung ISOCELL HM6 ที่รองรับการซูมภาพในเซนเซอร์ 3x คุณภาพการถ่ายภาพยอดเยี่ยมเมื่อดูจากเรทราคา
- ผ่านมาตรฐานการทดสอบความทนทานและอายุการใช้งาน ทั้งตัวระบบและแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้นานกว่า 3 ปี โดยที่ยังมีประสิทธิภาพเท่าเดิม
- หน้าจอขนาดใหญ่ 6.79 นิ้ว FHD+ ความสว่าง 550nits รีเฟรชเรท 90Hz AdaptiveSync ทัชได้แม่นยำแม้หน้าจอมีความชื้น และป้องกันการทัชจากหยดน้ำโดยที่เราไม่ตั้งใจ
- ใช้ชิปใหม่ MediaTek Helio G91-Ultra ทำงานกับ RAM 8GB+8GB แรงมากเพียงพอแล้วกับการใช้งานที่ไม่ติดขัดอะไร
The Bad
- ตัวระบบไม่รองรับการแบ่งหน้าจอทำงานสองแอปพลิเคชั่นพร้อมกัน
- ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้ภายในกล่อง
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
Redmi 13 สมาร์ตโฟนจากซี่รี่ส์หมายเลขหลักรุ่นแรก ที่ได้รับกล้องถ่ายภาพ 108MP เซนเซอร์คุณภาพสูงจาก Samsung ISOCELL HM6 ที่รองรับการซูมภาพในเซนเซอร์ 3x มาพร้อมกับตัวเครื่องดีไซน์สวยกับฝาหลังกระจกที่ออกแบบลวดลาย 3D มาเป็นพิเศษ
เครื่องสวย กล้องสวย ราคาดี เปิดจำหน่ายในไทยแล้ว ในราคา 5,490 บาท
ตัวเครื่องภายนอก
Redmi 13 ออกแบบตัวเครื่องมาในรูปแบบขอบตัดเหลี่ยม จับกระชับมือเครื่องเล็กแม้หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ มีความแทนทานครับผ่านมาตรฐานการทดสอบของ Redmi มาแล้วทั้งทดสอบความทนของปุ่มกดต่างๆ ทดสอบการทนต่อแรงบิด และทนต่อการตกในระยะสั้น ก่อนการผลิตจริงของเครื่องแบรนด์ระดับสากลจะมีการทดสอบที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในการใช้งานชีวิตประจำวันของผู้ใช้ มากมายหลายด้านที่จะทำให้ตัวเครื่องไม่เสียหายได้ง่ายๆ
โดยตัวเครื่องมาในขนาด 168.6mm x 76.28mm บางแค่ 8.3mm และมีน้ำหนัก 205g เคลือบขอบสีเดียวกับฝาหลัง เก็บงานเนี๊ยบ มีพอร์ต IR Infrared สำหรับการใช้เครื่องเป็นรีโมตควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ ตามสไตล์สินค้าภายใต้แบรนด์ Redmi
Redmi 13 นับเป็นรุ่นแรกของนัมเบอร์ซีรี่ส์ที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียดระดับ 108MP มาให้ ทำงานคู่กับกล้องมาโครความละเอียด 2MP กล้องรุ่นนี้โดดเด่นในกลุ่มราคาย่อมเยาครับ เรามีตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูในส่วนท้ายรีวิวด้วย
ไฟแฟลชด้านหลังเป็นไฟแฟลชคู่ มีความสูงกว่าปกติ 2 เท่า เพื่อช่วยในการถ่ายภาพกลางคืนได้ดีกว่าปกติ และเราสามารถใช้เป็นไฟ LED แจ้งเตือนสำหรับการติดต่อเข้ามาหรือมีสายเรียกเข้าได้ด้วยนะครับ
ออกแบบฝาด้านหลังมาในผิวสัมผัสแบบกระจก พื้นผิวเรียบเป็นระนาบเดียวกัน แต่ว่าเราจะเห็นลวดลายแบบ 3D ที่สวยงาม ลวดลายไล่ระดับเวลาสะท้อนกับแสง โดยเครื่องที่เห็นในรีวิวนี้เป็นเครื่องสีฟ้าน้ำทะเล Ocean Blue เป็นเฉดสีที่ดูเหมาะกับทุกเพศทุกวัยครับ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่เลียนแบบระลอกคลื่นของทะเล สวยงามและแปลกตา ใช้เทคนิคการผลิตที่ดีมาเลยทีเดียว ได้มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP53 โดยน้ำกระเซ็นใส่ไม่เป็นไรครับ
มีนำเข้ามาจำหน่อยพร้อมกันกับอีกสองสี นั้นคือ สีดำ Midnight Black, และสีชมพู Pearl Pink ทุกสีเป็นฝาหลังที่เลือกสีมาได้สวยงามทุกสีเลยครับ
รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการใช้งาน 4G ทั้งสองซิมการ์ด เป็นถาดใส่ซิมแบบไฮปริด สลับใส่ micro SDcard ได้แทนสล็อตซิมที่สอง รองรับสูงสุด 1TB
นำเข้าร่ม โดนแสงมากระทบต่างมุมต่างสีกัน ก็เกิดเป็นลายให้เห็นที่ต่างกันนะครับ เป็นเครื่องรุ่นเล็กที่ทำฝาหลังมาสวยมากเลยสำหรับรุ่นนี้
จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.79 นิ้ว ใช้กระจกจอ Corning Gorilla Glas ความละเอียดดี FullHD+ (2460 x 1080) ความสว่างสูงสุด 550nits เป็นจอรีเฟรชเรท 90Hz AdaptiveSync ที่จะปรับระดับอัตรารีเฟรชได้ 4 ระดับ ตามคอนเทนต์ที่ใช้งานได้อัตโนมัติ เพื่อให้ได้ความสมูธของภาพที่เหมาะสมที่สุด และประหยัดพลังงานไปด้วยในเวลาไม่ได้ใช้งาน เป็นจอภาพที่ที่ได้รับการปรับปรุงเรื่องการสัมผัส ยังทัชได้แม่นยำแม้หน้าจอมีความชื้น และป้องกันการทัชจากหยดน้ำโดยที่เราไม่ตั้งใจ
และเป็นจอภาพที่ผ่านมาตรฐานการรับรองของ TÜV Rheinland ทั้งในด้านมีแสงสีฟ้าที่ต่ำ ปราศจากการสั่นไหวของภาพ และเป็นมิตรกับวงจรการนอนหลับของร่างกาย (Circadian-Friendly) เป็นจอสบายตาทั้งในการใช้งานกลางแจ้งและในที่แสงน้อย
ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 13MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ ติดตั้งเป็นทรงหยดน้ำไม่เปลืองพื้นที่ด้านหน้าจอเวลาใช้งานครับ
แบตเตอรี่ภายในมีขนาดใหญ่ครับ ให้มาเป็น 5030mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มในเวลาไม่ถึง 70 นาที ตัวเครื่องไม่ร้อน สามารถชาร์จไฟไปพร้อมใช้งานไปพร้อมกันได้ และในตัวระบบมีการดูแลสุขภาพแบตเตอรี่ในระยะยาวเอาไว้ด้วย ยืดอายุและลดความเสื่อมของแบต ให้รองรับการเก็บไฟสูงกว่า 80% ได้นานมากถึง 1,000 รอบการชาร์จ หรือเรียกได้ว่าอายุแบตน่าจะใช้งานได้มากกว่า 3 ปีเป็นอย่างน้อย
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีที่ชาร์จ 33W แถมมาให้ พร้อมสายดาต้า USB Type-C และเคสใสซิลิโคนครับ
การใช้งานภายใน
Redmi 13 รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS และเป็นอีกรุ่นที่ได้ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ MediaTek Helio G91-Ultra เป็นตัวปรับปรุงที่พัฒนาขึ้นมาจาก Helio G88 ที่เคยใช้ใน Redmi 12 รุ่นก่อน โดยจะรองรับการใช้งานกล้องถ่ายภาพในระดับ 108MP และใช้สัญญาณ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.3 แทนเวอร์ชั่น 5.0 ในรุ่นก่อนหน้า
ให้ RAM มาในขนาด 8GB ขยายได้อีกสูงสุด 8GB รวมเป็น 16GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมีนำเข้ามาจำหน่ายในขนาดความจุเดียวครับ ขนาด 128GB
ประสิทธิภาพของ Redmi 13 บนชิปเซ็ต Helio G91-Ultra อยู่ในระดับรุ่นเล่นเกมได้เบื้องต้นแล้วครับ เล่นเกมกราฟิกสวยๆ พอได้ ไม่ไหลลื่นแบบเครื่องรุ่นใหญ่แต่ไม่แย่จนเกินไป ยังไงก็ถือว่าเป็นรุ่นท็อปๆ ของซีรี่ส์ Helio ในการใช้งานครับ
จากการทดสอบเล่นเกม MMORPG เวลาออกสกิล หรือวิ่งรับเควสในแผนที่คนเยอะๆ ไม่แลค ค้าง ช้า จนให้รู้สึกหงุดหงิดอะไรครับ
มีฟังก์ชั่น Game Turbo ที่สามารถเปิดโหมดเร่งประสิทธิภาพเครื่องขึ้นมาได้ ทำให้การเล่นเกมมีความไหลลื่นมากขึ้นเห็นได้ชัดครับ ประคองเฟรมเรตได้นิ่งมากขึ้น แม้จะแลกกับการใช้พลังงานที่มากขึ้นก็ตาม
ทดสอบใช้งานพร้อมกับชาร์จแบตไปด้วย ตัวเครื่องไม่ร้อน ไม่เจอปัญหาแลค ค้าง ช้า หรือรีสตาร์ทในขณะทดสอบ รองรับสัญญาณไร้สายทั้ง Wi-Fi: 2.4GHz | 5GHz, Bluetooth 5.4 และเชื่อมต่อ NFC
แสงสว่างหน้าจอระดับ 550nits เวลาใช้งานกลางวันก็มองเห็นภาพได้ชัด ใช้งานในตอนกลางคืนเป็นจอถนอมสายตา ผ่านการรับรองของ TÜV Rheinland มาทั้งสามคุณสมบัติทั้งเรื่องแสงสีฟ้าต่ำ, ปราศจากการสั่นไหวของภาพ และเป็นมิตรกับสุขภาพการนอนของมนุษย์
หน้าจอใหญ่ สีสันชัดครับ ความละเอียดดี เป็นจอภาพสวยครับ ให้ด้านเสียงไม่มีอะไรพิเศษมากนักเป็นลำโพงเดี่ยวตัวเดียว เสียงดังระดับปานกลางทั่วไป ใช้งานในห้องส่วนตัวฟังเสียงได้ชัดไม่มีปัญหาใดๆ ครับ
แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดมาก สามารถใช้งานได้แบบเต็มวัน วันไหนเปิดหน้าจอไม่บ่อยอยู่ได้ข้ามวันสบายๆ ถ้าเปิดหน้าจอต่อเนื่องกันก็ทำงานได้ประมาณ 10 ชั่วโมง
Xiaomi HyperOS เป็น UI ที่มีความสามารถครบครับ มีธีมสโตร์สำหรับโหลดธีมหรือภาพวอลล์เปเปอร์ มีแอปสโตร์ให้โหลดแอปและเกมได้โดยไม่ต้องล็อคอิน Google ID
มีตัวจัดการด้านความปลอดภัย และการสแกนไฟล์ขยะ สามารถล็อคแอปด้วยรหัสผ่านไม่ให้ผู้อื่นใช้งาน และระบบโคลนแอปให้สามารถใช้งานได้สองบัญชีบนแอปเดียวกันได้ ก็ค่อนข้างครบครับ และมีระบบติดตามเครื่องหายที่จะสามารถระบุพิกัดตำแหน่งหรือทำการรีเซ็ตข้อมูลเครื่องได้จากระยะไกล (ใช้อินเตอร์เน็ต) และมีระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนซิมการ์ดใหม่ โดยตัวระบบจะทำการส่ง SMS จากซิมใหม่ที่สลับเปลี่ยนเข้ามา เพื่อส่งไปแจ้งยังหมายเลขที่เราระบุไว้ ทำให้เรารู้หมายเลขซิมใหม่ที่แอบเอาเครื่องเราไปใช้งานได้ครับ
แต่ที่ขาดไปก็จะเป็นความสามารถในการเปิดแอปแบบแบ่งครึ่งหน้าจอสองแอปพร้อมกัน จะไม่มีให้ใช้งานในรุ่นนี้ครับ
ตัวระบบของ Redmi 13 ได้รับการปรับให้ลดการเสื่อมประสิทธิภาพจากการใช้งานของผู้ใช้ เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเวลา 36 เดือน ประสบการณ์การใช้งานยังคงราบรื่นเหมือนสมัยแกะกล่องใหม่ๆ แก้ปัญหาที่อาจจะเกิดอาการ “ยิ่งใช้ยิ่งหนืด” ให้เราใช้งานกันยาวๆ ได้นานถึงประมาณ 3 ปี ทั้งตัวเครื่องและสภาพแบตเตอรี่ก็ยังดีอยู่ในระดับใกล้เคียงเท่าเดิม
กล้องถ่ายภาพ
เป็นเครื่องรุ่นเล็กที่ให้กล้องถ่ายภาพที่ดีมาให้เป็นจุดขาย นับเป็นอุปกรณ์ในซีรีส์หมายเลขของ Redmi เครื่องแรก ที่ได้กล้องความละเอียด 108MP เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 ขนาดใหญ่ 1/1.67″ และมีเทคโนโลยี Pixel Binning 9-in-1 พร้อมการซูมในเซ็นเซอร์ 3 เท่า ทำให้การซูมภาพยังมีความคมชัดคงเดิม ทำงานกับกล้องมาโคร 2MP สำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้
รองรับ HDR, ปรับแต่งใบหน้าเนียนใส, มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน, โหมดถ่ายภาพบุคคลที่ปรับระยะชัดลึกชัดตื้นละลายฉากหลังได้ มีฟิลเตอร์ให้ใช้งานเยอะครับ และมีโหมด 108MP ถ่ายก่อนแล้วมาตัดภาพใช้บางส่วนภายหลังภาพก็ยังมีรายละเอียดครับ และ
ในรุ่นนี้ก็มีลายน้ำกรอบแบบ filmFrame เข้ามาให้ใช้ด้วย
การซูมภาพ 3X ภาพยังดูคมเท่าเดิม เพราะเป็นการซูมในเซ็นเซอร์ ไม่ใช่เป็นการขยายภาพด้วยซอฟท์แวร์ (รองรับการซูมแบบดิจิทัลสูงสุดที่ 10X )
คุณภาพภาพถ่ายออกมาสวยครับ ทั้งในการถ่ายภาพวิว ถ่ายภาพบุคคล และการถ่ายภาพในที่แสงน้อย
ตัดภาพบุคคลได้คมใช้ได้เลยครับ ภาพออกมาในแนวใสๆ ดูสว่างตา ด้วยราคาจำหน่ายเท่านี้ถือว่าในด้านกล้อง คุ้มมาก!
ปรับระยะชัดลึกชัดตื้นของภาพถ่ายบุคคลได้ทั้งก่อนถ่ายและหลังการถ่าย
กล้องหน้า 13MP สามารถปรับแต่งใบหน้าเนียนใสและมีฟิลเตอร์ให้ใช้งานในกล้องหน้าด้วยครับ และมีโหมดถ่ายเซลฟี่แบบภาพบุคคลละลายหลัง ก็สามารถถ่ายละลายฉากหลังได้ในกล้องหน้าด้วย
สรุปท้ายรีวิว
รุ่นราคาประหยัดที่ให้หน้าจอคุณภาพสูงเกินมาตรฐานราคา และให้กล้องความละเอียดสูง 108MP ถ่ายภาพได้สวย มีคุณสมบัติการใช้งานที่ครบเพียงพอจะเป็นตัวเรื่มต้นสำหรับทุกคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนในราคาประหยัดที่สุด ที่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ดีมากพอในทุกด้าน
ราคาและโปรโมชั่น
Redmi 13 เปิดจำหน่ายในความจุ 8GB+128GB มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Ocean Blue และ Pearl Pink วางจำหน่ายในราคา 5,499 บาท
โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไปที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์
โปรโมชั่นพิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi 13 ในระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2567 รับฟรี! Redmi 13 Giftbox Artstory by Autistic Thai มูลค่า 599 บาทไปด้วยครับ