XIII คือเกมยิงบุคคลที่ 1 บนเครื่องสมัยปี 2003 ที่มีทั้งใน PC และ Play Station 2 เป็นเกมที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คนมานาน ด้วยภาพกราฟฟิก แบบการ์ตูนดิบๆ เถื่อนๆ ที่สามารถได้ทั้งแบบลอบเร้น และ แบบตะลุมบอน ทำให้มีหลายคนเรียกร้องให้นำเกมนี้สานต่อ หรือ Remake ลงเครื่องปัจจุบัน แต่เวลายิ่งผ่านไปความหวังของแฟนๆ ก็เริ่มหมดลง แต่ว่าคราวนี้ก็มาถึงกับ XIII Remake จะสมการรอคอยไหม มาดูในรีวิวนี้เลย
เนื้อเรื่อง
เราคือ XIII อดีตยอดฝีมือที่ความจำเสื่อม และ ถูกช่วยเหลือเอาไว้โดยผู้ดูแลชายหาด แต่เขากลับถูกตามล่าโดยกลุ่มคนปริศนา ที่พยายามจะกำจัดเขา และ พวกมันบุกมาถึงที่ๆ เขากำลังพักรักษาตัวอยู่ XIII ต้องลุกขึ้นสู้กับพวกกลุ่มคนเหล่านั้น ทั้งๆที่ความทรงจำของเขาก็ยังไม่กลับมาปกติดี
เขาที่พยายามปะติดปะต่อความทรงจำของตัวเองจึงตัดสินใจไปยังธนาคาร ที่เขามีกุญแจอยู่ เป็นของที่ติดตัวเขามาตอนคืนสติ พอเขาไปถึง เขาก็ได้รู้ว่ากลุ่มคนที่จะมาฆ่าเขานำโดยนักฆ่า Mongoose ที่จ้องจะเก็บเราในขณะที่ XIII ยังจำอะไรไม่ได้
เนื้อเรื่องของเกมนี้เรียบง่ายไม่มีอะไรมาก ถ้าเราชอบดูหนังแอคชั่นย้อนยุคก็จะเดาเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย การดำเนินเรื่องของเกมนี้จะเป็นเหมือนการ์ตูน คอมมิค เหมือนกับสไตล์ และ ธีมของเกม โดยเกมจะเล่าเรื่องเป็น Chapter ไปเรื่อยๆ มีทั้งหมด 13 Chapter เหมือนกับเกมแอคชั่นยิงปืนทั่วๆไป ที่เราจะเข้าไปในที่นึงที่มีคนเยอะๆ จัดการให้หมด และ ออกมา และเข้าไปอีกที่ และ ออกมา โดยแต่ละฉากที่เราเข้าไป มันจะมีวิธีเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามเนื้อเรื่อง ซึ่งเพิ่มรสชาติให้กับเกมการเล่นพอสมควรเลย แต่ที่น่าเสียดายคืออะไรแบบนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก
เกมเพลย์
เดิน! ยิง! จัดการให้หมด! จบละ จริงๆ ผมข้ามไปหัวข้อถัดไปได้เลยเพราะเกมนี้คือเกมเดินหน้ายิงคล้ายๆ Doom Classic หรือ 007 Golden Eyes มากๆ รีเมคมาใหม่อีกครั้งก็ไม่ได้เปลี่ยนแนวเกมหรือวิธีการเล่นเลย มีผสม Stealth เล็กน้อย แต่ก็ตามฉบับบเกมเดินหน้ายิงทั่วไป
เรามีอาวุธให้ใช้ได้หลากหลาย หาเก็บได้จากศัตรู และ สลับเอามาใช้ได้เรื่อยๆ ด้วยกราฟฟิกแบบภาพการ์ตูน ทำให้เกมนี้มีความโดดเด่นใน Gun Fight มากกว่าเกมเก่าๆ จากยุคเดียวกัน การยิง การเข้า Cover หรือ ยิงศัตรูที่ดูเหมือนมาแบบคัตซีน เราจะต้องเล่นเองหมด ไม่เหมือนกับเกมทั่วๆ ไปทำให้ความลุ้นละทึกเวลาต่อสู้ของเกมนี้จะมาแบบ Non-Stop โดยศัตรูในเกมนี้จะมาแบบพิมพ์เดียวกันหมด แตกต่างเพียงแค่หน้าตา และ ปืนที่แบกกันมา ต้องยอมรับเลยว่าเกมนี้มีปืนให้เราเลือกเล่นเยอะมากๆ มีตั้งแต่บาซุก้า ยัน หน้าไม้ มีดปาก็ยังมี! แถมเราสามารถล็อคคอศัตรูเอามาเป็นตัวประกันได้ เอามาใช้กันกระสุน หรือ จับล็อคไม่ให้พวกตำรวจยิงเราก็ได้
วิธีการได้ปืนต่างๆ ก็คือการผ่านด่านไปเรื่อยๆ และ จะปลดล็อคอาวุธที่เอาไว้สู้กับพวกในด่านนั้นมา เช่นด่านตึกที่เราจะได้เจอสไนเปอร์เยอะๆ แต่ความท้าทายทั้งหมดก็จบทันที เมื่อต้องเจอกับ AI สุดเด๋อ สิ่งที่พวกมันทำคือการวิ่งไปวิ่งมา และ ยิงปืนมาทางเรา แบบไม่มีแบบแผน ไม่ว่าจะเป็น รปภ. ผู้ก่อการร้าย หรือ ตำรวจ ก็จะมี AI เดียวกันหมดทุกตัว ที่แย่ที่สุดคือมันแย่ด้วย
อย่างที่บอกไปสิ่งที่ศัตรูของเราต่างกันคือจุดที่พวกเขายืน และ อาวุธที่พวกเขาถือ มันทำให้ความท้าทายของเกมนี้หายไปเยอะเลย สิ่งที่สำคัญของเกม Action คือศัตรูที่ท้าทาย และ หลากหลาย ถ้าเราต้องเล่นเกมโดยที่เจอศัตรูที่ทำอะไรเราไม่ได้ หรือศัตรูที่แค่ หาตัวเราแบบที่ย่องอยู่ด้านหน้าตัวเองยังทำไม่ได้แบบนี้คือเข้าขั้นแย่มากๆ
เกมนี้มีการ Stealth แต่แย่มาก แย่มากกว่าการที่เราเดินยิงในเกมอีก! เพราะศัตรูนั้นหาเราไม่เจอแน่ๆ เราไม่สามารถใช้ตรรกะของความเป็นจริงในเกมนี้ได้นัก แค่เราหลบให้พ้นสายตา และ กดย่อง เราก็จะผ่านการ Stealth ได้ง่ายๆ เลย เราสามารถนำสิ่งของไปตีหัวของศัตรูได้แต่ทำยากมากจากการควบคุมที่ติดๆ ขัดๆ การเล็งปืนที่ยากแถม Hit-Box ยังทำออกมาได้แย่อีก บางทียิงเข้าไปเต็มๆ หัว ก็ทะลุไปเฉยเลย
จากองค์ประกอบต่างๆ ของ Gun Play เกมนี้จะทำให้เห็นว่าเกมนี้ไม่ได้แตกต่างจากเกมก่อนเลย แม้จะเป็น Remake แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรแม้แต่น้อย ระบบดูเก่าไปหมด เอามาหมดทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือแย่ และ ไม่ได้เอามาต่อยอดอะไรให้มันดีขึ้น บวกกับการควบคุมที่ติดขัด AI ที่ไร้ความท้าทาย ทำให้เกมนี้เหมือนให้เรามายิงเป้าเคลื่อนที่ไปเลย จาก XIII กลายเป็น Aim Lap ไปซะงั้น
ภาพ
เกมนี้มีกราฟฟิก แบบ การ์ตูน Comic ทำให้ภาพมีความโดดเด่น และ สีสดมากๆ อนิเมชั่น และ เอฟเฟคของเกมนี้เช่น ไฟไหม้ในฉาก หรือ แสงเอฟเฟคของปืนเป็นต้น ที่เจ๋งที่สุดเลยคือตัวหนังสือกำกับข้อความ เวลาที่มีคนพูดเกมนี้จะไม่ใช่ซับขึ้นด้านล่างของจอแบบทั่วไป เกมนี้จะมีกล่องข้อความติดหัวตัวละครที่พูดอยู่เลย ถึงจะไม่ใช่อะไรใหม่ แต่ว่าเข้ากับสไตล์หนังสือการ์ตูนมากๆ รวมไปถึงเอเฟคแบบ BANG!!! NOOOO!!! ARRR!!!! แบบที่เห็นได้ตามหนังสือการ์ตูน เสียงเดินของศัตรูเราก็จะสามารถเห็นทะลุกำแพงได้ เป็นการนำกราฟฟิกมาผสมกับระบบเกมที่ลงตัวมากๆ เช่นเดียวกับเวลาเราใช้ปืนยิงไกล ยิงเข้าหัวศัตรู มันก็จะมีเอฟเฟคหน้าศัตรูตกตะลึงเล็กๆน้อยๆ
แต่ภาพของเกมนี้ปวดตามากๆ ต้องบอกก่อนว่าผมตาไม่ค่อยดีอยู่แล้ว แต่เอฟเฟคแสง และ การตัดกรอบเงาของเกมนี้เหมือนกับให้เราดูรูปภ่ายฟิล์ม ที่เปียกน้ำตัดกับวัตถุ ที่มีกรอบหนาๆ จนทำให้ภาพเกมดูปวดตามากๆ เวลาเรามองท้องฟ้า ถ้าเป็นด่านที่มืด ยังว่าไปอย่าง แต่ว่าด่านกลางวันตาแถบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆเลย
นอกนั้นอนิเมชั่นจะดูเกร็งๆแข็งๆ ทั้งตัวหลัก และ ตัวร้าย หรือลูกกระจ๊อก ผสมกับเสียงพากย์ที่ดูไร้อารมณ์ทำให้ความรู้สึกของการได้เล่นเกมนี้นอกจากจะไร้ความตื่นเต้นแล้ว องค์ประกรอบด้านภาพ หรือ เสียงยังทำให้เราหาวซ้ำไปอีก
ภาพรวม
เกมนี้ไม่เหมือนกับการ Remake เป็นเหมือนกับการ Reamstered มากกว่า เพราะว่าระบบอะไรก็ไม่ต่างจากเดิมภาพอัพเกรดขึ้นจริง แต่ถ้าถูกเรียกว่า Remake มันควรจะมีอะไรต่างจากเดิม ไม่มากก็น้อย เกมนี้อัพเดตมาแค่ภาพเท่านั้น ราคาของเกมนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆเลย ทำให้ไม่คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นนัก เกมนี้เหมือนกับเกมยิงปืนทั่วไปและไม่มีจุดเด่นเป็นของตนเองจนน่าเป็นห่วง มันอาจเวิร์คในสมัยก่อน แต่ไม่ใช่ในปัจจุบันที่มีเกมยิงปืนเดินหน้ายิงมากมาย แม้แต่ในธีมเดียวกันเลย