สำหรับแบรนด์ ZTE นั้นในไทยอาจจะยังไม่คุ้นหูคุ้นตานักแม้ว่าจริงๆแล้ว ZTE ทำตลาดในประเทศไทยมายาวนานแล้วนะครับ แต่ก็ดูจะไม่จริงจังนัก แต่ปีนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาเพราะทาง ZTE ได้เข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างจริงจังแล้วนะครับ และเปิดตัวมาด้วยสมารืทโฟนรุ่นใหม่ สเปคแรง เน้นนวัตกรรมใหม่ๆอย่าง ZTE AXON นั่นเองและยังมี ZTE AXON Mini ออกมาคู่กันอีกด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่รุ่นใหญ่ ZTE AXON กันครับ
ZTE AXON มาพร้อมสเปคที่สูงมาก Qualcomm Snapdragon 810 และ RAM 3GB จุดเด่นเลยคือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมนวัตกรรมตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลแบบไบโอเมตริก ถึง 3 แบบ ได้แก่ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบ Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) และ EyePrint ID (ตรวจสอบด้วยดวงตา) ซึ่งทำให้ ZTE AXON เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในตอนนี้ด้วยฟังก์ชั่นยืนยันตัวบุคคลทั้ง 3 รูปแบบรุ่นแรกของโลกเลยละครับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อม Design ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว และวัสดุโลหะอลูมิเนียมผสมแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมงานประกอบที่แน่นหนา และหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P อาจจะดูไม่น่าตื่นเต้นแต่ทีเด็ดคือรุ่นนี้มาพร้อมกระจกกันรอย Corning Anti-Bacterial Gorilla Glass รุ่นล่าสุดที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 99% เลยละครับซึ่งยังไม่เคยเห็นรุ่นไหนนำมาใช้มาก่อนเลย เป็นทีเด็ดและอีกหนึ่งจุดขายของ ZTE AXON จริงๆครับ
และอีกหนึ่งจุดขายคือระบบกล้องคู่แม้จะไม่ใช่ของใหม่แต่ก็มาแรงครับ มีหลายแบรนด์เลือกนำมาใช้มากขึ้นหลังความสำเร็จของ HTC รวมทั้งแม้แต่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung ก็อาจจะมาพร้อมกล้องคู่เช่นกัน สำหรับ ZTE AXON จะมาพร้อมกล้องคู่ 13MP+2MP กับไฟแฟลชคู่ LED และมาพร้อมโหมดถ่ายภาพระดับเทพปรับค่า F ได้ด้วยโดยสามารถปรับได้ตั้งแต่ F8.0 ไปจนถึง F1.0 ได้เลยครับ เท่าที่ทดสอบต้องบอกว่าแจ่มแจ๋วไม่เบา รองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K และกล้องหน้าความละเอียด 8MP มุมมองกว้าง 84 องศาและชิปเสียงแยก มาพร้อมออดิโอชิปเซ็ต AKM 4961 นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอีกหลายอย่างในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ครับ มาอ่านรีวิวกันได้เลย
กล่องของ ZTE AXON ออกแบบเท่ดีนะครับมีเจาะช่องโชว์กล้องคู่ซะด้วย ออกแบบกล่องมาได้สวยสมเป็นรุ่นราคาแพง (ราคาเปิดตัวของ ZTE AXON อยู่ที่ 17900 บาท)
สเปคของ ZTE AXON
3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
4G LTE 800 / 1800 / 1900 / 2100 / 2600 MHz
Dual SIM
Fingerprint scanner
Smart voice
EyePrint ID
ออดิโอชิปเซ็ต AKM 4961
ขนาดตัวเครื่อง 154 X 75 X 9.3 มม. น้ำหนัก 172.9 กรัม
หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1920 x 1080 pixels (401ppi)
Corning Anti-Bacterial Gorilla Glass รุ่นล่าสุดที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 99%
Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย Mifavor UI 3.2
CPU Qualcomm Snapdragon 810 Octa core 2.0 GHz
GPU Adreno 430
RAM 3GB
หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 24.4GB) สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128GB
Wi-Fi 2.4G & 5G 802.11 a/b/g/n /ac, Wi-Fi Direct, Hotspot
NFC
Bluetooth 4.0
Micro USB 2.0, USB OTG
GPS Beidou, Glonass
เซนเซอร์ Accelerometer, Proximity, Light, Electronic compass, Hall sensors, driver assistant
กล้องความละเอียด 13MP + 2MP, dual LED Flash, 4K HD resolution (30 FPS)
กล้องหน้าความละเอียด 8MP, 84 degree wide-angle, 1080p HD resolution
แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0
ราคาเปิดตัว 17900 บาท
ในกล่องประกอบด้วยตัวเครื่อง ZTE AXON, เข็มจิ้มถาดซิม ซึ่งออกแบบได้สร้างสรรค์มากครับ หุ้มด้วยยางและออกแบบให้เป็นพวงกุญแจ, คู่มือและใบรับประกันอยู่ในกล่อง, หูฟังแบบ In Ear พร้อมชุดควบคุมหน้าตาดีทีเดียวมีกล่องใส่สวยงาม, สายชาร์จ และอะแดปเตอร์
ZTE AXON มาพร้อม Design ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว และวัสดุโลหะอลูมิเนียมผสมแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมงานประกอบที่แน่นหนา แต่โดยส่วนตัวผมว่า ZTE ยังออกแบบรุ่นนี้มาได้ไม่ค่อยสวย ยังดูมีความเป็นจีนสูงไปหน่อยนะครับ ทั้งในส่วนลวดลายที่บอกว่าเป็นรูปแบบของ DNA แต่ผมว่ามันเหมือนหน้าต่างแบบจีนมากกว่า โดยด้านหน้านั้นหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1920 x 1080 pixels (401ppi) ต้องบอกว่าแสดงผลสวยงามมากครับ คมกริบแม้จะไม่ใช่หน้าจอความละเอียด QHD ก็ตามแต่ก็สวยและสว่างมากสมารถใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆเลย
ทีเด็ดคือกระจก Corning Anti-Bacterial Gorilla Glass รุ่นล่าสุดที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 99% ซึ่งนอกจากความสามารถเฉพาะตัวแล้วยังไม่เปลื้อนคลาบมันครับ เป็นอีกจุดที่ผมชอบมาก และรุ่นนี้กระจกหน้าจอโค้ง 2.5D ทำให้เวลาปัดนิ้วรู้สึกสบายมือดีทีเดียว ด้านบนลำโพงสนทนาจะซ่อนอยู่ทางขวาครับ เสียงสนทนาดังชัดเจนดีมาก ถัดลงมาจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 8MP และเซนเซอร์จะซ่อนอยู่ ด้านล่างเป็นระบบสัมผัส 3 ปุ่มซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ ตรงกลางปุ่ม Home จะทำหน้าที่เป็น Notification Light นะครับ ถัดมาด้านล่างลำโพงตัวเครื่องจะซ่อนอยู่ทางขวา ZTE AXON จะมาพร้อมออดิโอชิปเซ็ต AKM 4961 รองรับระบบเสียง Hi-Fi แต่ลำโพงต้องบอกว่าดังมากครับ แต่ไม่เพราะเปิดดังสุดไม่แตกแต่เสียงบวมมากๆ ทีเด็ดเรื่องเสียงของรุ่นนี้อยู่ที่การรับฟังผ่านหูฟังนะครับ ทำออกมาได้ดีทีเดียว
ด้านหลังจะเป็นโลหะนะครับ ออกแบบได้ดูแน่นดี แอบหรูหราแต่ว่าออกแบบได้แน่นเกินไป และใส่ความเป็นจีนเข้ามาเยอะมาก มีลายหนังด้านบนและด้านล่างที่เป็นพลาสติคด้วย ชวนให้นึกถึง Samsung ผมว่าถ้าออกแบบมาเรียบๆกว่านี้จะสวยหรูกว่านะครับ แต่หลังจากที่จับมาหลายวันก็ต้องบอกว่าดูไปดูมามันก็เท่ดีนะ ให้ความรู้สึกแบบหนังจีนกำลังภายในครับดูมีเอกลักษณ์เฉาะตัวไม่เบาเลย งานประกอบต่างๆแน่นหนาดี รู้สึกได้ถึงมาตราฐานการผลิตระดับสูง
ด้านหลังประกอบด้วยกล้องความละเอียด 13MP + 2MP, dual LED Flash และ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ และยิงเลเซอร์เป็นโลโก้ใว้ว่า AXON และ ZTE บริเวณกล้องคู่มีลวดลายด้วยครับ จับถือแล้วให้ความรู้สึกที่ดีครับ เพราะความเย็นของโลหะ และความแน่นหนาของงานประกอบ
สำหรับด้านบนมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ท Micro USB และช่องไมโครโฟน
ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิม (เป็นช่องแบบ 2 ซิมโดยซิมที่สองให้เลือกว่าจะใส่ซิมหรือ Micro SD Card ความจุสูงสุดรองรับ 128GB) และปุ่มปรับระดับเสียง มีลวดลายตกแต่งนิดหน่อย ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่ม Power ตรงนี้ขอชมนะครับว่าวางตำแหน่งได้ดี กดถนัดมือดีมาก
ZTE AXON มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 จากการใช้งานแม้รุ่นนี้จะเลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 810 ที่หลายแบรนด์เจอปัญหาเรื่องความร้อนและบริโภคแบตเตอรี่ แต่เท่าที่เล่นมาร่วม 2 อาทิตย์ต้องบอกว่าขนาดเล่นเกมนานๆเครื่องก็ไม่ค่อยร้อนนะครับแค่อุ่นๆ และแบตเตอรี่อึดมากครับ ใช้ได้ครบวันสบายๆเลย
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 36761 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 59793 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60fps
รองรับ Multi Touch 10 จุด
GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว
ZTE AXON มาพร้อม Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย Mifavor UI 3.2 หน้าตาของ UI ต้องบอกว่าโดยส่วนตัวผมยังไม่ชอบเท่ากับคู่แข่งจากจีนแบรนด์อื่นๆนะครับ เพราะยังดูแข็งๆ และภาษาไทยยังไม่ 100% แต่ก็ไม่แย่มากครับอีกนิดก็จะแจ๋วแล้ว
และการใช้งานลื่นไหลดีมาก ความเร็วทำได้ดีสมกับสเปคที่สูงมาก Snapdragon 810 และ RAM 3GB สำหรับ Mifavor UI 3.2 นั้นมีลูกเล่นน่าใช้งานไม่น้อยครับ ดดยจะไม่มีหน้า App Drawer แล้วแอพพลิเคชั่นที่เราลงเพิ่มจะมารวมบนหน้า Home สามารถสร้าง Folder จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบได้ตามใจชอบ
และในส่วนของ Quick Toggle ก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย และปรับแต่งได้เยอะ และมีในส่วนปรับความสว่างของหน้าจอมาให้ด้วย (ZTE AXON หน้าจอสว่างมากครับ ใช้งานกลางแจ้งสบายเลย ปกติผมปรับความสว่างไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ)
และในส่วนของการตั้งค่าจะมีแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ส่วนของการตั้งค่าแบบด่วน (ซึ่งจะรวมการตั้งค่าที่เราใช้งานบ่อยๆมารวมใว้ตรงนี้) และการตั้งค่าแบบปกติ
ZTE AXON สามารถตั้งค่า Wallpaper แบบโทนสี (ซึ่งจะทำให้การใช้งานทั้งเครื่องกลายเป็นโทนสีที่เราตั้งเอาใว้ได้) และภาพ Wallpaper ปกติซึ่งเราสามารถปรับความคมชัดเองได้ด้วยครับ ซึ่งจะช่วยให้ไอค่อนไม่จมไปกับพื้นหลัง
หน้าจัดการแอพพลิเคชั่นที่เราเปิดทิ้งใว้เข้ามาใช้งานได้โดยการกดปุ่ม Back ค้างเอาใว้ สามารถสลับแอพพลิเคชั่นได้ง่ายๆจากหน้านี้ และมีคำสั่งลบทั้งหมดมาให้ด้วยครับ และ Mi-Pop จะเป็นปุ่มอำนวยความสะดวกเวลาใช้งานมือเดียว เพียงลากจากขอบจอเข้ามาตรงกลาง จะแบ่งเป็นคำสั่ง Home, Back, Menu และหน้าจัดการแอพพลิเคชั่น
ฟังก์ชั่นซึ่งถือเป็นพระเอกของ ZTE AXON นั่นก็คือ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบ Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) และ EyePrint ID (ตรวจสอบด้วยดวงตา) มีครบทั้ง 3 รูปแบบในการระบุตัวตนเลยครับ และเป็นรุ่นแรกของโลกด้วยที่มีครบทั้ง 3 รูปแบบ
สำหรับความแม่นยำ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ นั้นยอดเยี่ยมมากครับแม่นยำ และรวดเร็วมากๆ (สามารถแสกนได้ 5 ลายนิ้วมือ) ส่วน EyePrint ID (ตรวจสอบด้วยดวงตา) นั้นเท่าที่ทดสอบมันก็ไม่เชิงตรวจสอบดวงตาครับ แต่จะเป็นการตรวจสอบใบหน้าแต่จะโฟกัสไปที่รูปร่างของดวงตาเท่านั้น ซึ่งก็แม่นยำดีมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นตรวจสอบม่านตาอย่างที่คาดกันใว้ตอนแรกนะครับ ถ้าคนที่ใส่แว่นควรแสกนทั้งตอนใส่แว่นและถอดแว่นนะครับ (แต่ผมว่ามันก็เท่ดีนะแต่เสียเวลามากไปหน่อย) และสุดท้าย Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) ผมเองทดสอบแล้วทำไม่สำเร็จครับ แต่ในงานเปิดตัวก็สามารถทำได้อย่างงดงามนะฮะ (แม้ดาราที่เชิญมาจะทำไม่สำเร็จก็ตาม5555) ต้องบอกว่ามันยากมากเลยครับ
ปุ่มสัมผัสด้านล่างหน้าจอหลายคนอาจจะไม่ชินในการวางรูปแบบ ซึ่งทาง ZTE ก็ใส่ฟังก์ชั่นให้เราปรับแต่งเองได้ 2 รูปแบบครับ (ส่วนตัวผมถนัดรูปแบบแรก) และมีลูกเล่นอย่าง Gesture & Motion มาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งถ้าได้ลองเล่นกันมันก็จะช่วยให้เราใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้นครับ
ในเครื่องมีแอพพลิเคชั่นติดตั้งมาให้หลายตัวที่น่าสนใจและน่าใช้งาน AliveShare แอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโดย ZTE เองเป็นแอพที่จะช่วยให้คุณโฮนถ่าย File ระหว่างสมาร์ทโฟนด้วยความเร็วสูงผ่านทาง Wi-Fi Direct โดยสามารถโอนถ่าย File ได้ทุกชนิดบนเครื่องด้วยความเร็วสูง และสามารถเล่นเกมระหว่างเครื่องได้ด้วย (ไม่ต้องง้อเน็ต) และสามารถ Chat กันด้วยแอพพลิเคชั่นนี้ได้ด้วยนะครับ ถือเป็นแอพที่ครบเครื่องไม่เบาเลย
Mi-Assistant เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้เราจัดการและบริหารสมาร์ทโฟนของเราได้อย่างครบเครื่องในแอพเดียว โดยเราสามารถสแกนไวรัสด้วยบริการของ Avast, เพิ่มความเร็วของเครื่อง, จัดการ File ขยะ, ตั้งรหัสผ่านเพื่อล็อครายชื่อ, SMS, บันทึกการโทร, ภาพและวีดีโอ, ไฟล์ต่างๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาเล่นสมาร์ทโฟนของเราแล้วเข้ามาค้นข้อมูลของเราได้นั่นเอง, จัดการหน่วยความจำทั้งในเครื่อง และใน Micro SD Card, ล็อคแอพพลิเคชั่นส่วนตัว
Tab To Access เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้เราเคลียส์ RAM ได้ในคลิ๊กเดียว
Screen Lock ตามชื่อครับเป็นการปิดหน้าจอโดยเราไม่ต้องไปกดปุ่ม Power
เครื่องเล่นวีดีโอหน้าตาสวยดีครับมีฟังก์ชั่นปรับเพิ่มความสว่าง, ปรับเสียง และอัตราส่วนหน้าจอของ File Video ผ่านการสัมผัสหน้าจอ และมีลูกเล่น Popup Play มาให้ใช้งานด้วย
เครื่องเล่นเพลงหน้าตาสวย สามารถปรับแต่งเสียงได้ผ่านฟังชั่นระบบเสียง Dolby Audio โดยรุ่นนี้ ZTE AXON มาพร้อมออดิโอชิปเซ็ต AKM 4961 ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเสียงผ่านลำโพง ZTE AXON ทำได้ไม่ดีครับ เสียงดังมากๆแต่บวม ที่น่าประทับใจคือเสียงผ่านหูฟังทำได้ดีมีมิติ เบสหนักแน่นใช้ได้เลยครับ ยิ่งใช้คู่กับหูฟังดีๆผมว่าแจ๋วทีเดียว
ทดสอบด้วยเกม MARVEL Contest of Champions ลื่นไหลดีมากครับ ซึ่งไม่เหนือความคาดหมายเพราะรุ่นนี้สเปคสูงอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องความร้อน ZTE AXON นั้นใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 810 ซึ่งมีข่าวไม่ดีเรื่องความร้อน แต่จากการทดสอบเล่นเกมเป็นเวลานานชั่วโมงกว่าๆ (สลับกับเล่นเกมโปรดผม Dragon Ace) เครื่องก็แค่อุ่นๆครับ ไม่ได้ร้อนอย่างที่คาดเลย นับว่าน่าประทับใจครับแปลว่า ZTE เตรียมเครื่องมาดีทีเดียว
ZTE AXON หน้าตาโหมดกล้องคล้ายๆ iPhone เลยนะครับ แต่จัดฟังชั่นการถ่ายภาพมาได้อย่างจุใจ สำหรับ ZTE AXON มาพร้อมกล้องความละเอียด 13MP + 2MP, dual LED Flash, 4K HD resolution (30 FPS) และ กล้องหน้าความละเอียด 8MP, 84 degree wide-angle, 1080p HD resolution
โหมดกล้องของ ZTE AXON มีทั้ง HDR (ยังไม่ใวเท่า Samsung), โหมดถ่ายภาพแบบ Manual สามารถตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ได้, ปรับค่า ISO ได้ถึง 1600, ปรับค่า White Balance, ปรับค่าจุดวัดแสง, Interval, ปรับค่าโฟกัส ปรับได้สนุกน้องๆกล้องจริงๆเลยนะเนี่ย
และพระเอกครับ ZTE AXON สามารถปรับได้ตั้งแต่ F8.0 ไปจนถึง F1.0 ด้วยความสามารถของกล้องคู่ แม้ว่าจะเป็นการปรับแต่งแต่คุณภาพดีทีเดียวครับ ช่วยให้ถ่ายสนุกขึ้นมากเลย แนะนำว่าให้ลองครับ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพในโหมด Multi Exposure หรือภาพซ้อนได้ด้วย และมรโหมด Panorama และ Sport มาให้ใช้งาน
คุณภาพของรูปถ่ายนั้นทำได้ดีมากครับ แต่ยังถ่ายภาพกลางคืนไม่โดดเด่นนัก รวมทั้งกล้องหน้ายังต้องปรับปรุงนะครับ ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับคู่แข่งชาติเดียวกันอย่าง OPPO, vivo หรือ Huawei ซึ่งปรับแต่งกล้องหน้ามาคมมากๆ และโหมด Face Beauty ทำได้เหนือกว่ามาก มาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันครับกับ ZTE AXON
ตัวอย่างภาพถ่ายของ ZTE AXON
ข้อดีของ ZTE AXON
1. ตัวเครื่องงานประกอบแน่นหนา และใช้วัสดุโลหะ
2. หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1920 x 1080 pixels (401ppi) และกระจก Corning Anti-Bacterial Gorilla Glass รุ่นล่าสุดที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 99%
3. สเปคสูง Qualcomm Snapdragon 810 Octa core 2.0 GHz, RAM 3GB จากการทดสอบไม่เจอปัญหาเรื่องความร้อน
4. เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมนวัตกรรมตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลแบบไบโอเมตริก ถึง 3 แบบ ได้แก่ Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบ Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) และ EyePrint ID (ตรวจสอบด้วยดวงตา)
5. มาพร้อมกล้องความละเอียด 13MP + 2MP, dual LED Flash, 4K HD resolution (30 FPS) และ กล้องหน้าความละเอียด 8MP, 84 degree wide-angle, 1080p HD resolution พร้อมฟังก์ชั่นเพียบมีโหมด Manual ที่ปรับค่าได้เยอะมากๆ และทีเด็ดสามารถปรับได้ตั้งแต่ F8.0 ไปจนถึง F1.0
6. แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 จากการทดสอบอึดดีทีเดียว
ข้อด้อยของ ZTE AXON
1. Design ยังไม่ค่อยสวย (อันนี้นานาจิตตังครับ)
2. Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) ใช้งานยาก
3. ภาษาไทยยังแปลบางส่วนไม่สมบูรณ์ (นิดหน่อยครับไม่มาก)
ZTE AXON เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีนะครับ แม้ว่า Design จะไม่ใช่แนวที่ผมชอบแต่ก็มาพร้อมมาตราฐานการประกอบที่ดี และวัสดุโลหะคุณภาพสูง หน้าจอสวยและมาตราฐานใหม่กระจกยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และที่สำคัญเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมนวัตกรรมตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลแบบไบโอเมตริก ถึง 3 แบบไม่ว่าจะเป็น Fingerprint scanner ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบ Smart voice (ยืนยันด้วยเสียง) และ EyePrint ID (ตรวจสอบด้วยดวงตา)
และกล้องคู่ความละเอียด 13MP + 2MP และกล้องหน้าความละเอียด 8MP ก็ใว้ใจได้ภาพออกมาน่าพอใจ แถมลูกเล่นเยอะมากถ่ายสนุกมากเลยครับ จะติก็รายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่าง UI ยังไม่โดนใจนัก ภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์มีผิดเล็กๆน้อยๆ แต่ที่หลายคนน่าจะอยากรู้อย่างรุ่นนี้มาพร้อม Snapdragon 810 จะทำให้เครื่องร้อนหรือเปล่า? จากการทดสอบประมาณ 2 อาทิตย์มันปกติครับ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจเลยว่าไม่ควรด่วนตัดสินใจก่อนจะได้ทดสอบกับมือจริงๆ
ตอนนี้ ZTE AXON ก็วางจำหน่ายแล้วนะครับในราคา 17900 บาทใครสนใจสามารถไปลองเล่นได้ครับ^__^
[gradeB]