ต่อยอดความสำเร็จจาก i-moblie IQ X ที่ฮือฮากับสเปคในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะความละเอียดกล้องหลังและกล้องหน้าและราคาถูกมาก มาคราวนี้ i-moblie IQ X2 ก็จัดเต็มเช่นเดียวกัน นั่นคือ มาพร้อกล้องหลัง ความละเอียดระดับ 18 ล้านพิกเซล(เซ็นเซอร์ขนาด 13 ล้าน) และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว แต่การใช้งานจะเป็นอย่างไร และดีแค่ไหนนั้น เราไปดูกันกับบทความรีวิวตัวนี้กันนะครับ ซึ่งจะแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
- แกะกล่อง i-moblie IQ X2
- สเปค i-moblie IQ X2
- ตัวเครื่องและส่วนประกอบ
- การใช้งานและความบันเทิง
- การถ่ายภาพและวีดีโอ
- สรุปการรีวิว
[box_info]แกะกล่อง i-moblie IQ X2[/box_info]
สำหรับบทความ แกะกล่อง i-moblie IQ X2 คุณ noppinij ก็ได้เขียนไปแล้วนะครับ ยังไงก็ตามลิงค์เขาไปอ่านเพิ่มเติมได้ ซึ่งได้สรุปอุปกรณ์ภายในกล่อง i-Mobile IQX2 มีดังนี้
- ตัวเครื่อง i-mobile IQX2: พร้อมฟิล์มกันรอย (ติดมาให้พร้อมใช้งาน)
- สาย USB data แบบแบนสีดำ: ซึ่งสวยและเก๋ไก๋มากครับ ช่วยป้องกันสายพันกันเองได้
- สายหูฟังสีดำ: การออกแบบคล้ายกับหูฟัง EarPods ของ iPhone 5
- Adaptor ชาร์จไฟ
- เคสใส ลายรูปตัว X
- Micro SD card ขนาด 16GB Class4
- คู่มือภาษาไทยและใบรับประกัน
- ผ้าเช็ดหน้าจอ
!!!รีวิวแกะกล่อง i-Mobile IQX2 แอนดรอยด์ Full HD ราคา 9,490 บาท ตัวเครื่องเป็นอย่างไรและมีอะไรภายในมาดูกันครับ
[box_info]สเปค i-moblie IQ X2[/box_info]
สมาร์ทโฟนราคาประหยัด i-mobile IQ X2 ตัวนี้ พร้อมขายแล้วในราคา 9,490 บาท เท่านั้น ด้วยราคานี้ มันทำให้สเปคและคุณสมบัติต่างๆ ของมันดูคุ้มค่าไปหมดครับ และยังพัฒนาขึ้นมาจก i-mobile IQ X ตัวแรกพอสมควรเลยครับ เรามาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ระบบปฏิบัติการ
- Android OS เวอร์ชัน 4.2.1 (Jelly Bean)
ตัวเครื่องและการออกแบบ
- ขนาด 144 x 71 x 8.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 150 กรัม
- สีตัวเครื่อง: ขาว และ ดำ (สีดำยังไม่วางจำหน่ายขณะนี้ 1 กันยายน 2556)
จอแสดงผล
- ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว
- IPS LCD (Sharp IGZO) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล(Full HD 1080p : 440 ppi)
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) PowerVR SGX 544MP
- เทคโนโลยี OGS (One Glass Solution)
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)
- ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- ฟังก์ชัน Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3-Axis Gyro Sensor
คุณสมบัติภายใน
- หน่วยประมวลผล: MTK 6589T Quad-Core Processor 1.5 GHz
- หน่วยความจำภายใน 4 GB(ใช้ได้จริงประมาณ 1.x GB)
- RAM ขนาด 1 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
กล้องและการถ่ายภาพ
กล้องหลังความละเอียดระดับ 18 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ Toshiba ขนาด 13 ล้าน)
- เทคโนโลยี Backside-illuminated (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- แฟลซ Dual-LED Flash
- ระบบ Auto Focus
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920×1080 Pixels : 30 fps)
กล้องหน้า ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ของ Sony พร้อมรองรับการทัชโฟกัสและออโต้โฟกัส)
- เซนเซอร์รับภาพแบบ Exmor R จาก Sony
- เทคโนโลยี Backside-illuminated (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- ระบบ Auto Focus
- ถ่ายภาพวิดีโอ (HD 720p : 1280×720 Pixels : 30 fps)
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
เครือข่ายและซิมการ์ด
- รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM นั่นคือ SIM1: miniSIM และ SIM2: microSIM
- 2G: 900/1800 MHz (AIS / Dtac / True)
- 3G: 850/2100 MHz (Dtac / True / TOT) สำหรับรุ่น IQ X2
- 3G: 900/2100 MHz (AIS / Dtac / True / TOT) สำหรับรุ่น IQ X2A
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
การเชื่อมต่อข้อมูล
- WiFi 802.11b/g/n
- ฟังก์ชัน WiFi hotspot
- Bluetooth 3.0 + EDR
- Micro USB 2.0
- ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
- ระบบดาวเทียมบอกพิกัด: GPS, A-GPS
- รองรับแอพพลิเคชั่น Google Maps™
- โปรแกรมเข็มทิศในตัว (Digital Compass)
- Latitude แสดงตำแหน่งละติจูด
- ระบบติดตามโทรศัพท์เมื่อสูญหาย
แบตเตอรี่
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 2300 mAh (ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้)
- ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 440 ชั่วโมง (GSM) หรือ 327 ชั่วโมง (WCDMA)
- ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 17 ชั่วโมง (GSM) หรือ 9 ชั่วโมง (WCDMA)
ระบบเสียงและฟังก์ชันอื่นๆ
- เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones
- รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3
- โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง MP3, AAC, AAC+, WAV, AMR
- โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ MPEG4
- ลำโพงเสียงในตัว (Loudspeaker)
- บันทึกเสียง
- Handsfree และ Speakerphone ในตัว
สำหรับคะแนนการทดสอบ i-mobile IQ X2 จากแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ผลดังต่อไปนี้
- ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 4775 คะแนน
- ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 13884 คะแนน
- ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 34.1 fps
- รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
[box_info]ตัวเครื่องและส่วนประกอบ[/box_info]
i-moblie IQ X2 มีขนาด 144 x 71 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 150 กรัม ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว มีตัวเครื่องสีขาว และ ดำ ซึ่งขณะนี้เปิดขายสีขาวแล้วครับ แต่สีดำยังไม่วางจำหน่าย ซึ่งการออกแบบถือว่าได้แรงบันดาลใจจาก iPhone5 เป็นอย่างมาก ทั้งรูปร่างหน้าตาของตัวเครื่อง ตำแหน่งกล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ แม้กระทั้งหูฟังยังเหมือนกันเลยครับ
ส่วนประกอบรอบตัวเครื่อง ได้แก่ ช่อง Micro USB 2.0 ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร กล้องหลังความละเอียดระดับ 18 ล้านพิกเซล พร้อม Dual-LED Flash และกล้องหน้า ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล
ฝาหลังไม่แน่หนามากนัก แต่ก็ช่วยให้แกะง่ายขึ้น ส่วนเงี้ยวล็อคดูแข็งแรงไม่หักง่าย เมื่อแกะฝาหลังมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ Li-Ion 2300 mAh (ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้) ส่วนบนของแบตเตอรี่ จะมีช่องใส่ microSD Card SIM1: miniSIM และ SIM2: microSIM ตามลำดับ
หน้าจอขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว IPS LCD (Sharp IGZO) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล(Full HD 1080p : 440 ppi) มีความคมชัดมาก มุมมองกว้าง แม้มองหน้าจอกลางแดดก็ชัดคมชัดเป็นที่น่าพอใจเลยครับ
สรุปเรื่องตัวเครื่องและการออกแบบไม่ต่างกับ i-moblie IQ X มากนัก ส่วนตัวมองว่าผู้ผลิตตั้งใจให้เหมือนกัน iPhone 5 ขยายร่าง ที่วัสดุเป็นพลาสติกนั่นเอง ซึ่งเราต้องยอมรับว่าเป็นจุดขายนึงที่ i-moblie ไม่พูดออกมาเองเด็ดขาดครับ
[box_info]การใช้งานและความบันเทิง[/box_info]
สำหรับการใช้งาน i-moblie IQ X2 ถือว่าใช้งานได้ปกติตลอดช่วงของการทดสอบเพื่อนการรีวิว 1 สัปดาห์เต็ม ไม่มีปัญหาอะไรแสดงให้เห็นเลยครับ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก ทำให้คิดได้เลยว่า ส่วนต่างราคาที่เราจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อรุ่นท็อปก็เพื่อซื้อวัสดุที่ดีกว่า และฟีเจอร์ลูกเล่นที่มากกว่าเท่านั้นเอง ในส่วนของการใช้งานนั้นแทบไม่ต่างกันเลยครับ
กสนเล่นอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลื่นไหลไม่มีปัญหาครับ อย่างการเข้าชมเว็บไซต์ AppdisQus.com ของเรา หากเข้าด้วย i-mobile บางรุ่นจะค้างไปเลยครับ แต่สำหรับ i-mobile IQ X2 เล่นได้ปกติ ลื่นไหลมากครับ
ส่วนการดูวีดีโอและเล่นเกมนั้นก็ถือว่าพอใช้ได้ จะมีปัญหากับบางเกมเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เกม Despicable Me จะกระตุกมากเลยครับ สามารถพูดได้เลยว่าเล่นไม่ได้ ส่วนเกมอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา เล่นได้สบายเลยครับ
คลิปตัวอย่างการเล่นเกมบน i-mobile IQ X2
ระบบแผนที่และ GPS ถือว่าใช้ได้ครับ แม้การจับสัญญาณจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็มีความแม่ยำและใช้งานได้กับ Google maps ทั้งในโหมดแผนที่และการนำทาง
แต่สิ่งที่เราชอบมากที่สุดเป็นแอพพลิเคชั่นที่ติดมากับเครื่อง ซึ่งน่าสนใจมากครับ นั่นคือแอพพลิเคชั่น i-moblie Tsquare ซึ่งมันคือแอพพลิเคชั่น TSquare Traffic & Taxi สำหรับ i-mobile นั่นเอง โดยเราผู้ใช้ i-mobile จะได้ใช้ฟีเจอร์เต็มของแอพนี้ฟรี 60 วันครับ
โดยแอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้เราได้เห็นการจราจรและพื้นที่รถติดแบบ Real-time โดยละเอียดทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด จากข้อมูลการวิ่งของรถแท็กซี่ 10,000 คัน โดย TSquare Traffic เป็นการบริการสภาพจราจรในระบบ RTIC ซึ่งสามารถนิยามและ broadcast ข้อมูลจราจรแก่ผู้ใช้ ทั้งด้วยระบบวิทยุ FM และออนไลน์ แก่ ถนนหลัก ถนนรอง และเส้นทางลัดสำคัญๆ ทั้งหมดของกรุงเทพ ถึงกว่า 25,000 เส้น ช่วยให้ผู้ใช้ถนนสามารถมองเห็น สภาพจราจรของกรุงเทพ และหลีกเลี่ยงพิ้นที่รถติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนฟีเจอร์ TSquare Taxi กับ Function การติดตาม Taxi เพื่อความปลอดภัยของเรา ก็จะสามารถติดตาม และส่งตำแหน่งของ Taxi แบบ Real Time บอกเส้นทางที่ผ่าน อีกทั้งยังบอกเส้นทางการเดินทาง และตำแหน่งสุดท้ายที่ใช้บริการได้อีกด้วย
หากได้เครื่องมาแล้วก็อย่าลืมเปิดทดลองใช้กันนะครับ ดูว่ามันจะได้ใช้จริงและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรามากแค่ไหน
ส่วนระบบเสียงและการฟังเพลงนั้น i-mobile IQ X2 จะมีวิทยุออฟไลน์มาด้วยครับ เราก็จะสามารถฟังวิทยุได้แม้ไม่เปิดการเชื่อมโยงเครือข่าย ส่วนการฟังเพลงนั้น โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง MP3, AAC, AAC+, WAV, AMR โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ MPEG4 มีลำโพงเสียงในตัว(Loudspeaker) ด้านหลังของตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางราบกับพื้นเสียงก็จะเพี้ยนนิดหน่อย ส่วนคุณภาพเสียงกับการใช้งานหูฟังถือว่าใช้ได้ครับ สามารถปรับค่า Equalizer ได้ตามใจชอบ
สุดท้ายสำหรับหน่วยความจำภายในที่หลายคนกังวลว่า พื้นที่เหลือใช้จริงเพียง 1 GB กว่ามันเพียงพอหรือไม่? ก็ต้องตอบว่าไม่พอแน่นอนครับ แต่ก็โชคดีที่ i-mobile จะแถม microSD Card ขนาด 16GB Class4 ให้เรามาด้วยครับ(อย่าลืมเช็คดูหละครับ ส่วนเครื่องรีวิวก็ไม่มีให้มาด้วย) และเราสามารถตั้งค่าให้การติดตั้งแอพพลิเคชั่นไปใช้ microSD Card ได้ และสามารถย้ายแอพพลิเคชั่นสลับไปมาระหว่าง microSD Card กับหน่วยความจำภายในได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่ settings >> Apps >> sd card แล้วคลิกเข้าไปในแอพที่เราต้องการย้าย จากนั้นก็กดปุ่ม Move to Internal storage หรือ Move to SD Card ขึ้นอยู่กับว่าเดิมแอพนั้นติดตั้งอยู่ที่หน่วยความจำไหน เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ
การพกพาเจ้า i-mobile IQ X2 ด้วยขนาด 144 x 71 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 150 กรัมนั้น แม้ผมเป็นคนตัวเล็ก แต่ก็สามารถยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัดหรือลำบากในการพกพาเลยครับ
[box_info]การถ่ายภาพและวีดีโอ[/box_info]
ขอทบทวนสเปคกล้องหน้าและกล้องหลังของเจ้า i-mobile IQ X2 อีกครั้งนะครับ เพื่อให้เห็นว่ามันจัดเต็มเรื่องนี้มากแค่ไหน
1. กล้องหลังความละเอียดระดับ 18 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ Toshiba ขนาด 13 ล้าน)
- เทคโนโลยี Backside-illuminated (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- แฟลซ Dual-LED Flash
- ระบบ Auto Focus
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920×1080 Pixels : 30 fps)
2. กล้องหน้า ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ของ Sony พร้อมรองรับการทัชโฟกัสและออโต้โฟกัส)
- เซนเซอร์รับภาพแบบ Exmor R จาก Sony
- เทคโนโลยี Backside-illuminated (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- ระบบ Auto Focus
- ถ่ายภาพวิดีโอ (HD 720p : 1280×720 Pixels : 30 fps)
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพที่หลากหลาย ถือว่าจัดเต็มมากครับ ได้แก่ โหมดการถ่ายภาพปกติ, การถ่ายภาพ HDR, Face beauty mode, พาโนรามา ทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง, Multi angle view mode, Auto scene detection mode, Smile shot mode, Best shot mode, และ EV bracket shot mode
ซึ่งแต่ละฟีเจอร์นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพ HDR ที่จะทำให้ภาพออกมาสมจริงและรายละเอียดครบถ้วนมกกขึ้น เมื่อถ่ายด้วยโหมดนี้เราก็จะได้ภาพถ่ายปกติและภาพถ่ายแบบ HDR มาพร้อมกันเลย ซึ่งเป็น HDR แบบเสมือนครับ นั่นคือใช้ซอฟท์แวร์ในการทำภาพ HDR ที่ค่ารับแสงต่างกันนั่นเอง(การถ่ายภาพ HDR ต้องใช้ขากล้องถ่ายเท่านั้นนะครับ)
ตัวอย่างภาพถ่าย HDR เปรียบเทียบกับโหมดการถ่ายภาพปกติ
ส่วนโหมดการถ่ายภาพพาโนรามาก็ใช้งานได้ง่ายและสมบูรณ์มากครับ ทั้งภาพแนวราบและแนวดิ่ง
ตัวอย่างภาพถ่าย พาโนรามาแนวราบและแนวดิ่ง
สำหรับ EV bracket shot mode กล้องจะถ่ายภาพออกมาด้วยค่า EV แตกต่างกัน 3 shot เพื่อให้เราเลือก shot ที่เราชอบ จากนั้นกล้องก็จะบันทึกไว้เพียงรูปเดียว
สุดท้ายเราก็มาดูโหมด Face beauty mode ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายตัวเองด้วยกล้องหน้ามากครับ มันสามารถทำให้ผมที่ขี้เหร่มาก กลายเป็นขี้เหร่น้อยลงได้นิดนึง … เมื่อผสมกับความละเอียดกล้องหน้าถึง 8 ล้านพิกเซล คาดว่าเราคงทำอะไรกับมันได้อีกเยอะเลยครับ
ปล. ภาพตัวอย่างนี้ อาจทำให้คนอยากได้น้อยลงไปเยอะเลยครับ ต้องขออภัยด้วยที่อาจทำให้ตกใจกลัวนะครับ อิ อิ ^ ^
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง i-mobile IQ X2
นอกจากภาพตัวอย่างในบทความนี้ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูภาพตัวอย่างอื่นๆ ฝีมือการถ่ายของคุณ noppinij ได้ที่บทความนี้ ได้เช่นกันครับ
!!!ตัวอย่างภาพถ่ายและวีดีโอ i-Mobile IQX2 ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ตัวอย่างวีดีโอกล้องหลัง i-mobile IQ X2
[box_info]สรุปการรีวิว[/box_info]
สมาร์ทโฟน i-Mobile IQX2 มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.1 (Jelly Bean) หน่วยประมวลผล MTK 6589T Quad-Core Processor 1.5 GHz ตัวเครื่องออกแบบมาได้สวยหรู พกพาสะดวก ใช้งานง่าย โดดเด่นที่ความละเอียดของกล้องหลังมากถึง 18 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ราคาถูก 9,490 บาท เท่านั้น ซึ่งด้วยราคานี้ มันทำให้สเปคและคุณสมบัติต่างๆ ของมันดูคุ้มค่าไปหมดครับ
แต่ก็มาพร้อมหน่วยความจำภายในเพียง 4 GB(ใช้ได้จริงประมาณ 1.x GB) ซึ่งถือว่าน้อยมาก แต่ก็ดีที่เราสามารถติดตั้งแอพใน SD Card ได้ การใช้งานแม้ไม่ลื่นหัวแตกแต่ก็ใช้งานได้ไม่ติดขัด มีเพียงเกมบางตัวเท่านั้นที่เล่นไม่ได้เรื่อง ส่วนการถ่ายภาพอันนี้ย่อมแล้วแต่ความชื่นชอบส่วนตัวครับ จากตัวอย่างภาพถ่ายเพื่อนๆ คงได้เห็นกันแล้วว่าสวยหรือแย่แค่ไหน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่โดดเด่นมากนัก แต่ความละเอียดกล้องหลังที่สูงถือ 18 ล้านพิกเซล ก็คงทำให้เราสามารถนำไปปรับแต่งและทำอะไรได้อีกเยอะครับ