สำหรับ Nokia XL Dual SIM เครื่องที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้อยู่กับผมมานานเป็นดือนครับ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเข้าถึงและเข้าใจมันเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้รีวิว Nokia XL Dual SIM นี้ รับรองว่าชัดเจนและเป็นความจริงจากใจที่สุดเลยครับ แต่อาจจะตกหล่นบางประเด็นได้ก็ด้วยเพราะความขี้ลืมของผู้รีวิวเอง ดังนั้นหากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยประเด็นอะไร สามารถสอบถามใต้บทความเพิ่มเติมได้นะครับ

 

ก่อนเข้าสู่รายละเอียดทีละประเด็น ผมขอสรุปผลการรีวิว Nokia XL Dual SIM ที่ผ่านการใช้งานมาโดยตลอดว่า Nokia XL Dual SIM มีจุดเด่นที่วัสดุในการผลิต ซึ่งโนเกียที่ใช้วัสดุที่ดีเยี่ยมไม่แพ้รุ่นราคาแพง หน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว รองรับการใช้งานสองซิม ในราคาเพียง 5,650 บาท แต่ในส่วนสเปคทั้งหมดถือว่าเป็นจุดด้อยที่เห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ความละเอียดหน้าจอต่ำ หน่วยความจำน้อย แรมน้อยมาก กล้องถ่ายรูปแค่พอใช้ รวมทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน ที่พูดได้ว่าทำได้เพียง “พอใช้” แต่หากคิดถึงราคาแล้วก็พอรับได้ครับ ใครที่สนใจอยากซื้อ Nokia XL Dual SIM หากเป็นไปได้ก็ให้ทดลองใช้งาน ปิด-เปิดเครื่อง เข้าแอพพลิเคชั่น ดูคลิป ฟังเพลง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพคร่าวๆ ดูว่าเรารับได้กับประสิทธิภาพของมันหรือเปล่า? แต่สำหรับใครที่ไม่มีโอกาสได้ทดลองจนได้คำตอบ ผมก็ขออาสามารีวิวประสิทธิภาพในการใช้งานให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับว่ามันแย่หรือดีสักแค่ไหน?

 

ลำดับแรกขอกล่าวถึงเรื่องที่ผมบอกว่าเป็นจุดเด่นของ Nokia XL Dual SIM นั่นก็คือวัสดุและการออกแบบของตัวเครื่อง ที่มาในรูปลักษณ์คล้ายกับ Nokia ทุกรุ่นที่ออกมาในช่วงหลังๆ รูปทรงสี่เหลี่ยม ด้านหลังตัวเครื่องโค้งรับการการสัมผัส วัสดุแข็งแรงและทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง

 

การออกแบบที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Nokia ที่อยู่ในซีรี่ย์ Nokia X, Nokia XL ที่แม้จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่ด้านหน้าก็มีเพียงปุ่มย้อนกลับปุ่มเดียวไว้ควบคุมการใช้งานของเครื่อง กดหนึ่งครั้งก็จะย้อนกลับไปหน้าก่อน หากกดค้างก็จะกลับไปหน้า Home แต่ก็มีปัญหาที่ปุ่มย้อนกลับตัวนี้ตอบสนองได้ไม่ดีนัก กดค่อนข้างยากไปหน่อย

 

ขอบจอหนาทำให้เครื่องดูใหญ่จนเกินไปสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้ว ทั้งด้านข้างและด้านบนล่าง สำหรับด้านบนเมื่อใส่โลโก้ กล้องหน้า และลำโพงสนทนาเข้าไปก็ดูพอดีกับพื้นที่ แต่สำหรับด้านล่างที่มีเพียงปุ่มย้อนกลับ มันทำให้มีพื้นที่ว่างเหลือใช้มากเกินไป

 

ปุ่มและช่องเสียบต่างๆ ข้างตัวเครื่องประกอบไปด้วย ปุ่มพาวเวอร์ และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงด้านข้างด้านขวามือ ส่วนช่อง Micro-USB สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูลจะอยู่ด้านล่าง สุดท้ายด้านบนก็เป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน

 

สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับรุ่นราคาถูกที่ต้องซ่อมง่าย ปรับเปลี่ยนได้มากและหลากหลาย ก็คือ สามารถแกะฝาหลังได้

 

เมื่อแกะฝาหลังออกมา ด้านในก็จะมีแบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh ที่ถอดเปลี่ยนได้ ช่องใส่ซิมการ์ดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน 2 ช่อง ตรงกลางเป็นช่องใส่ MicroSD รองรับสูงสุด 32GB

 

สเปค, คุณสมบัติ Nokia XL Dual SIM

สเปคของ Nokia XL Dual SIM ถือว่าให้มาน้อยแต่ก็เหมาะสมกับราคา สเปคส่งผลต่อปัญหาที่ชัดเจนก็คือ อาการค้างและอืดในขณะใช้งาน แอพพลิเคชั่นบางตัวใช้ไม่ได้เพราะข้อจำกัดของสเปค กล้องหน้าและหลังทำได้เพียงพอใช้เท่านั้น แต่ระบบปฏิบัติการ Nokia X platform ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีและแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของโนเกียเป็นอย่างมาก แม้มีข้อจำกัดเรื่องการรองรับกับบริการต่างๆ ของ Google แต่ก็มีทางเลี่ยงในการใช้งานได้หลากหลาย อันเป็นจุดเด่นของระบบปฏิบัติที่เป็นพื้นฐานให้กับ Nokia X platform ก็คือ Android 4.1.2  โดยรายละเอียดสเปคทั้งหมดมีดังต่อไปนี้

 

ระบบปฏิบัติการ

• Nokia X platform 1.0 UI (Based on Android 4.1.2)

การออกแบบ

• ขนาด: 141.4 x 77.7 x 10.9 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 190 กรัม
• สี: เขียว, ดำ, ขาว, ฟ้า, เหลือง, แดง

หน้าจอและรูปแบบการแสดงผล

• ขนาดหน้าจอ: 5 นิ้ว
• ความละเอียดจอแสดงผล: WVGA (800 x 480)
• คุณสมบัติ: การควบคุมความสว่าง, สัมผัสตอบสนอง, เซ็นเซอร์หลัก, หน้าจอ Nokia Glance, เคาะบนหน้าจอสองครั้ง, การมองแบบมุมกว้าง
• สีที่แสดง: TrueColor (24-bit/16M)
• อัตราส่วน: 15:9
• ความละเอียด: 187 ppi
• เทคโนโลยีการแสดงผล: LCD

การเชื่อมต่อ

• ชนิดของซิมการ์ด: microSIM
• สองซิม: สองซิมแบบเปิดรอรับสาย
• การเชื่อมต่อสำหรับชาร์จ: Micro-USB, USB
• หัวต่อ AV: ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.
• การเชื่อมต่อข้อมูล: Micro-USB-B
• USB: USB 2.0
• คุณสมบัติ Bluetooth: Headset profile (HSP) 1.2, Hands-free profile (HFP) 1.5, Phone Book Access Profile (PBAP) 1.0, Advanced Audio Distribution Profile (A2DP) 1.2, General Audio/Video Distribution Profile (GAVDP), General Audio/Video Distribution Profile (GAVDP) 1.2, Dial-Up Networking Profile (DUN), File Transfer Profile (FTP), Object Push profile (OPP) 1.2, Audio/Video Remote Control Profile (AVRCP) 1.3
• Wi-Fi: WLAN IEEE 802.11 b/g/n
• การรักษาความปลอดภัย: EAP-TTLS/MSCHAPv2, WPA, WEP, ดับเบิลยูเอพี-บริษัท, ดับเบิลยูเอพี-ส่วนบุคคล, PEAP-MSCHAPv2, WPA2 (AES/TKIP), WPA2-Enterprise, WPA2-Personal, EAP-TLS
• การเชื่อมต่อไร้สายแบบอื่นๆ: WAPI

เครือข่ายข้อมูล

• 3G WCDMA: 900 MHz, 2,100 MHz
• 2G GSM: 850 MHz, 900 MHz, 1,800 MHz, 1,900 MHz

การจัดการพลังงาน

• ความจุแบตเตอรี่: 2000 mAh
• แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้

หน่วยประมวลผล

• Chipset: Qualcomm Snapdragon™ s4
• CPU:  Dual-core 1 GHz Cortex-A5
• GPU:  Adreno 203

หน่วยความจำ

• RAM: 768 MB
• หน่วยความจำภายใน: 4 GB
• หน่วยความจำภายนอก: MicroSD รองรับสูงสุด 32 GB

กล้องและการถ่ายภาพ

กล้องหลัง

• ขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน: 5 ล้านพิกเซล
• ความละเอียดของกล้อง: 2592 x 1944 พิกเซล
• ประเภทโฟกัสของกล้อง: ออโต้โฟกัส
• ซูมดิจิตอล: 4 x
• ขนาดเซ็นเซอร์: 1/4 นิ้ว
• ค่ารูรับแสง (F number/aperture): f/2.8
• ความยาวโฟกัสของกล้อง: 32 มม.
• ระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง: 50 ซม.
• รูปแบบภาพ: JPEG
• ประเภทแฟลช: แฟลช LED
• ช่วงปฏิบัติการแฟลช: 1.0 ม.
• โหมดแฟลช: ปิด, อัตโนมัติ, เปิด

คุณสมบัติของกล้อง

• คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้อง: การตั้งค่า White Balance แบบอัตโนมัติหรือปรับเอง, แถบเครื่องมือที่ใช้งานอยู่, การแก้ไขภาพ, ซอฟท์แวร์ตรวจจับใบหน้า, การวัดแสงอัตโนมัติ, ชดเชยแสงอัตโนมัติแบบตั้งค่าที่ศูนย์
• โปรแกรมเสริมสำหรับกล้องดิจิทัล: Panorama
• โหมดถ่ายภาพ: ภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา , วิดีโอ, ภาพนิ่ง
• โทนสีของภาพ: โหมดสีซีเปีย, แสงจ้า, โหมดแสงธรรมชาติ, โหมดเนกาทีฟ
• โหมดปรับ White Balance: เมฆมาก, อินแคนเดสเซนต์, ฟลูออเรสเซนต์, เดย์ไลท์, อัตโนมัติ
• ความไวแสง: อัตโนมัติ, ISO 100, ISO 200, ISO 400
• รูปภาพดูได้โดย: อัลบั้ม, เวลา

กล้องหน้า

• ความละเอียดของกล้องหน้า: 1600 x 1200 pixels
• ค่ารูรับแสงกล้องหน้า: f/2.8
• คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้องหน้า: HD 2 MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง, การบันทึกวิดีโอ, โทรศัพท์ด้วยวิดีโอ

วิดีโอ

• ความละเอียดของกล้องวิดีโอ: FWVGA (864 x 480)
• อัตราเฟรมกล้องวิดีโอ: 30 เฟรมต่อวินาที
• ซูมกล้องวิดีโอ: 4 x
• อัตราการแสดงภาพกล้องวิดีโอ: 30 เฟรมต่อวินาที
• รหัสสัญญาณเล่นวิดีโอ: H.263, H.264/AVC, MPEG-4
• รูปแบบไฟล์เล่นวิดีโอ: 3GP, MP4
• รูปแบบไฟล์บันทึกวิดีโอ: 3GP/H.263
• โหมดปรับ White Balance: เมฆมาก, ฟลูออเรสเซนต์, อินแคนเดสเซนต์, อัตโนมัติ, เดย์ไลท์
• ชมวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง: การสตรีมจากบริการวิดีโอและอินเทอร์เน็ต
• โหมดสีสำหรับการบันทึกวิดีโอ: ขาวและดำ, โหมดเนกาทีฟ, โหมดสีซีเปีย

กล้องวิดีโอด้านหน้า

• ความละเอียดกล้องวิดีโอด้านหน้า: 720p (HD, 1280 x 720)
• รูปแบบกล้องวิดีโอรูปแบบที่สอง: 3GP/H.263

เพลงและเสียง

• แอพเพลง: Nokia MixRadio
• คุณสมบัติด้านเสียง: รายการเล่นเพลงในเครื่องเล่นเพลง, Audio Streaming, เครื่องเล่นเพลง, เสียงดัง, เครื่องเล่นมีเดีย, แสดงภาพอัลบั้มในเครื่องเล่นเพลง, Audio Equalizer
• รูปแบบเพลง: MP3, AMR-NB, AMR-WB, FLAC, MIDI
• รูปแบบไฟล์เสียง: MP4, AAC, MP3, MIDI
• วิทยุ: วิทยุ FM สเตอริโอ

 

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

สเปค Nokia XL Dual SIM ไม่สูงมากนักทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานไม่สูงตาม มีอาการค้างอืด เล่นเกมหรือแอพพลิเคชั่นบางตัวไม่ได้ เปิดแอพพลิเคชั่นบางครั้งก็ต้องรอ ช้าพอสมควร ถือว่าน่าเสียดายครับ หากเพิ่มแรมหรือหน่วยประมวลผลให้ดีขึ้นอีกสักหน่อยจะดีมาก เพราะระบบปฏิบัติการ Nokia X platform ถือว่าน่าประทับใจครับ

 

ระบบปฏิบัติการ Nokia X platform พัฒนาขึ้นมาโดยมี Android 4.1.2 เป็นฐาน แต่ไม่ใส่บริการของ Google มาด้วย ทำให้เราไม่สามารถซื้อแอพพลิเคชั่นหรือเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google ได้ อย่างไรก็ตามด้วยความยืดหยุ่นของระบบปฏิบัติการ Android ก็มีวิธีเลี่ยงในการดึงบริการต่างๆ ของ Google มาใช้ได้ครับ ดังต่อไปนี้

 

[Tips] การติดตั้ง Google Service บน Nokia X โดยไม่ต้อง Root เครื่อง ใช้ได้กับเฟิร์มแวร์ล่าสุด

 

แม้ Nokia X platform จะตัดบริการของ Google ออก แต่ก็ได้ใส่บริการของ Nokia และ Microsoft มาแทนแบบ Exclusive ที่ไม่มีบนเครื่อง Android ของยี่ห้ออื่นๆ ทั้งระบบแผนที่ Here Maps, Here Drive และการดึงข้อมูลจาก Microsoft Account ทำให้ข้อมูลต่างๆ ของเราใน Microsoft Account ตามเรามาด้วย ทั้งรายชื่อ กำหนดการ และปฏิทินส่วนตัวต่างๆ

 

สำหรับหน้าตาของ Nokia X platform จะมีสองหน้าหลักๆ นั่นคือ หน้า Home ที่จะรวมทั้งแอพพลิเคชั่นและวิดเจ็ตทั้งหมดไว้ที่นี่ อีกหน้าก็คือ FastLane ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน เก็บประวัติและการแจ้งเตือนทั้งหมดไว้ในหน้านี้

 

การจัดการหน้า Lock Screen ที่จะแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ให้เราทราบก่อนเข้าหน้า Home และเราสามาถเข้าสู่แอพพลิเคชั่นที่แจ้งเตือนเราได้โดยการลกแถบแจ้งเตือนนั้นๆ ไปทางขวามือ แต่หากต้องการลบออกจากหน้า Lock Screen ก็ลากไปทางซ้ายมือ แต่หากต้องการลบทั้งหมดก็ทำได้เพียงลากแถบขึ้นไปด้านบนครับ

 

การปรับแต่งหน้า Home: เราสามารถปรับแต่งหน้า Home ได้ไม่ยาก เพียงกดค้าง icon แอพที่เราต้องการปรับ แล้วมันจะมีปุ่มสำหรับปรับแต่งขึ้นมาให้เราเลือกย่อหรือขยาย icon, เลือกเปลี่ยนสี หรือถอนการติดตั้งจากตรงนี้ได้เลยครับ

 

ในโหมดการตกแต่งหน้า Home จะมีปุ่มโผล่มาด้านล่างหน้าจอ 2 ตัวสำคัญ ก็คือ ปุ่มแรกคือการสร้างโฟลเดอร์ เมื่อเราก็มันก็จะให้เราใส่ชื่อโฟลเดอร์ที่จะสร้าง เมื่อสร้างเสร็จก็ลากแอพพลิเคชั่นต่างๆ มาใส่ในโฟลเดอร์นี้ได้ตามใจชอบ และอีกปุ่มนึงก็คือปุ่มจัดการวิดเจ็ต เมื่อกดเข้าไปเราก็จะสามารถเพิ่มวิดเจ็ตในหน้า Home ได้เหมือนกับ Android ทั่วๆ ไป

 

การปรับแต่งหน้า FastLane ซึ่งเราจะเข้าสู่โหมดการปรับแต่งได้ก็คล้ายกับหน้า Home ครับ นั่นคือ กดค้างที่แถบที่เราต้องการ จากนั้นจะมีเครื่องหมายกากบาทโผล่ขึ้นมาให้เราลบประวัติและการแจ้งเตือนในหน้า FastLane ได้ทีละอัน หรือจะกดปุ่มรูปถังขยะด้านล่างเพื่อลบทั้งหมดได้เลย ส่วนปุ่มรูปฟันเฟืองก็จะเป็นการเข้าสู่การตั้งค่าหน้า FastLane ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้แอพพลิเคชั่นอะไรบ้างถูกเก็บข้อมูลไว้ในหน้า FastLane

 

เมนูและศูนย์การแจ้งเตือนจะไม่มีการปรับเปลี่ยนจากหน้าตาบน Android ทำให้ผู้ใช้งาน Android มาก่อนไม่รู้สึกยุ่งยากอะไรครับ การตั้งค่าแบบเดิมๆ ก็มีอยู่เช่นเคย

 

แต่มีสิ่งที่แตกต่างก็คือ Accounts หรือบัญชีผู้ใช้ ที่จะไม่มีบัญชีของ Google แต่จะมีของ Microsoft มาแทน ทำให้เราเข้าถึงบริการของ Google ได้ขัดสน แต่เข้าบริการของ Microsoft ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งข้อมูลที่เราสำรองไว้ในบัญชี Microsoft ก็จะถูกดึงมาใช้ได้ง่ายๆ

 

ผลที่ตามมาเมื่อเราไม่มีบัญชี Google ก็คือ เราจะไม่สามารถซื้อแอพพลิเคชั่นหรือใช้งาน Google Play Store ได้ แต่ระบบปฏิบัติการ Android ก็มีความสามารถพื้นฐานที่สำคัญคือเราสามารถลงแอพพลิเคชั่นที่เป็นไฟล์ .apk ได้(ทั้งถูกและไม่ถูกสิขสิทธิ์) ดังนั้น Nokia X Platform จึงสร้างสโตร์ของตัวเองขึ้นมา เป็นแหล่งรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่พอร์ตตัวเองมาลงในสโตร์ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ Nokia X Platform จึงพยายามนำเสนอสโตร์อื่นที่เป็นแหล่งรวมไฟล์ .apk ที่หลากหลายและเปิดมานานแล้วอย่าง 1Mobile Market โดยติดตั้งสโตร์นี้มาในเครื่องตั้งแต่แรก และหากเราค้นหาแอพพลิเคชั่นในสโตร์หลัก ผลการค้นหาก็จะแสดงผลการค้นหาใน 1Mobile Market ให้เราเห็นด้วย เพื่อเป็นทางเลือกในการติดตั้งแอพพลิเคชั่น นอกจากนี้อีกสโตร์หนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ติดตั้งไว้ก็คือ Mobogenie เอาไว้สำรองเผื่อเราหาแอพพลิเคชั่นไม่เจอครับ

 

รีวิว Nokia Store บน Nokia X แนะนำการใช้งานและโหลดแอพพลิเคชั่น ครบทุกอย่างที่คุณอยากรู้!!!

รีวิว 1 Mobile Market ทางออกสำหรับผู้ใช้ Nokia X ที่ไม่อยากรูทเครื่อง!!!

 

 

สำหรับเรื่องการดาวน์โหลดและการอัพเดตแอพพลิเคชั่นนี้ เรามีแอพตัวนึงที่อยากแนะนำมากครับ มันจะเป็นสโตร์ แนะนำแอพ ศูนย์การแจ้งเตือนการอัพเดตแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไปในตัว ซึ่งเหมาะกับ Nokia X Platform เป็นอย่างมาก แนะนำให้เพื่อนๆ ใช้ให้ดี ใช้ให้คล่องไว้ จะทำให้เรามีความสุขและใช้งาน Nokia X Platform ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แอพพลิเคชั่นที่ผมพูดถึงก็คือ SnapPea

 

รีวิว SnapPea ใหม่! แอพสามัญประจำเครื่อง Android รวมทุกความฟรี! ดาวน์โหลดคลิปยูทูป แอพ เกม เพลงและวอลล์เปเปอร์ จบครบในแอพพลิเคชั่นเดียว

 

หน้าตาและการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform มีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้

 

การใช้งานแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่สำคัญ อันดับแรกคือ Facebook ที่มากับแอพ Facebook, Facebook Messenger และ Pages Manager สามารถทำงานได้ปกติ และไม่แตกต่างจาก Android รุ่นอื่นครับ

 

แต่สำหรับแอพพลิเคชั่น Line นั้น แม้การใช้งานทั่วไปจะคล้ายกับ Android ทั่วไป ทั้งการับส่งข้อความหรือไทม์ไลน์ แต่ Line บน Nokia X Platform จะไม่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ได้ครับ ทำได้เพียงโหลดสติ๊กเกอร์ตัวเก่าของเราและโหลดสติ๊กเกอร์ฟรีเท่านั้น

 

แผนที่และการนำทางจะเน้นการใช้งานด้วยระบบแผนที่ออฟไลน์ของโนเกีย ที่ใช้ชื่อว่า Here Maps และ Here Drive ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานได้แบบออฟไลน์และออนไลน์ แต่ตอนเริ่มใช้งานเราต้องดาวน์โหลดไฟล์แผนที่ประเทศไทยและไฟล์เสียงนำทางภาษาไทยเสียก่อนนะครับ จึงจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

 

เรื่องเพลงถือว่าเป็นบริการของโนเกียอีกอย่างที่ใส่มาให้เป็นพิเศษกับ MixRadio ที่สามารถจัดการและเป็นเครื่องมือในการฟังเพลงได้เป็นอย่างดีสำหรับคนชื่นชอบการฟังเพลง เราสามารถฟังเพลงออนไลน์ได้แบบฟรีและเสียค่าบริการตามแต่ที่เราปรารถนา หรือจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องก็ได้ เป็นคลังเพลงที่มีบทเพลงอยู่มหาศาลทั้งเพลงไทยและสากลทั่วโลก ส่วนระบบเสียงก็ถือว่าดีเกินคาดครับทั้งลำโพงและหูฟัง แต่อยากให้เพื่อนๆ ลองฟังประสิทธิภาพเสียงด้วยตัวเองอีกครั้งนะครับ

 

ส่วนการดูวีดีโอ มีเมนูในการจัดการไม่มากนัก ประสิทธิภาพพอใช้ได้ ผมทดสอบเปิดวีดีโอความละเอียด 720p กระตุกมาก ถือว่าเข้าขั้นเล่นไม่ได้ครับ

 

ส่วนการดูวีดีโอออนไลน์ชื่อดังอย่าง Youtube นั้นดูไมได้ผ่านแอพพลิเคชั่น เพราะติดปัญหาเรื่องบริการของ Google แต่เราก็สามารถดูผ่านเว็บบราวเซอร์อย่าง Chrome ได้ปกติครับ

 

การทดสอบประสิทธิภาพ Nokia XL Dual SIM

• ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 2853 คะแนน
• ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 7674 คะแนน
• ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 32.3fps
• รองรับ Multi Touch 5 จุดสมบูรณ์

 

กาถ่ายภาพ ตัวอย่างรูปและวีดีโอ

Nokia XL Dual SIM มาพร้อมกล้องหลังความละเอียดไม่สูง 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 1600 x 1200 พิกเซล คุณภาพของรูปแบะวีดีโอถือว่าทำได้แค่พอใช้ครับ แต่จะเป็นอย่างไรขอให้เพื่อนๆ ดูด้วยตาตัวเองดังตัวอย่างต่อไปนี้

 

ตัวอย่างรูปถ่าย Nokia XL Dual SIM

 

ทดสอบโฟกัสระยะใกล้ที่ดวงไฟ

ทดสอบโฟกัสระยะไกลที่ตัวตึก

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า(ขอบคุณนายแบบคุณ joker-master มากครับ)

 

ตัวอย่างวีดีโอ Nokia XL Dual SIM

.

.

 

สรุปการรีวิว Nokia XL Dual SIM

Nokia XL Dual SIM มีจุดเด่นที่วัสดุในการผลิต ซึ่งโนเกียที่ใช้วัสดุที่ดีเยี่ยมไม่แพ้รุ่นราคาแพง หน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว รองรับการใช้งานสองซิม ในราคาเพียง 5,650 บาท แต่ในส่วนสเปคทั้งหมดถือว่าเป็นจุดด้อยที่เห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ความละเอียดหน้าจอต่ำ หน่วยความจำน้อย แรมน้อยมาก กล้องถ่ายรูปแค่พอใช้ รวมทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน ที่พูดได้ว่าทำได้เพียง “พอใช้” แต่หากคิดถึงราคาแล้วก็พอรับได้ครับ

 

[gradeC]