หลังจากที่ห่างหายจากการีวิวสมาร์ทโฟนนานมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วทางเว็บ AppDisqus เรา จะให้ผมรีวิวเครื่อง Windows Phone ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากช่วงนี้ผมหลงใหลไปกับ Moto 360 รุ่นที่ 2 ซึ่งรันด้วยระบบ Android Wear จึงทำให้ได้กลับมาใช้เครื่อง Android กันอีกครั้ง เครื่องนั้นก็คือ Samsung Galaxy J2 นี่เองครับ
ส่วนตัวแล้วผ่านการใช้งาน Android มาหลากหลายรุ่นแล้ว ทำให้พอที่จะทราบว่าผู้ซื้อสนใจและต้องการสมาร์ทโฟนแบบไหนบ้าง และผมเชื่อว่าความต้องการหรือความสนใจในสมาร์ทโฟนของเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน ไม่ได้แตกต่างกันเลย ยังไงก็เราอยากที่จะได้สมาร์ทโฟนที่กล้องดี วัสดุแจ่ม มีความลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานของเราได้เยี่ยมยอด ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งหากจะแตกต่างกันก็คงต่างกันตรงที่เราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ก็เท่านั้น? ด้วยเหตุนี้ผมจึงขออาสารีวิว Samsung Galaxy J2 ตัวนี้เพื่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ
[quote]
สำหรับการีวิวครั้งนี้ ผมจะแบ่งหัวข้อการรีวิว Samsung Galaxy J2 ตามความเหมาะสม ดังต่อไปนี้
- รีวิวการถ่ายภาพ
- รีวิวการใช้งานโดยรวมและคะแนนทดสอบ
- รีวิวตัวเครื่องภายนอกและภายใน
- สเปคหรือคุณสมบัติของเครื่อง
- สรุปผลการรีวิว Samsung Galaxy J2(ข้อดี-ข้อเสีย)
[/quote]
สำหรับหัวข้อแรกนั้น จะหยิบยกคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพขึ้นมาพูดก่อนนะครับ เพราะว่า Samsung Galaxy J2 จะเน้นการโปรโมทเกี่ยวกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะการเซลฟี่ มากพอสมควร จึงควรเอามากล่าวถึงก่อนเป็นอันดับแรก
1. รีวิวด้านการถ่ายภาพของ Samsung Galaxy J2
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า นายแบบหล่อแบบไม่เหลาสักเท่าไหร่ อันนี้ต้องขออภัยหางตาของทุกคนที่พยายามหันหน้าหนีแต่แอบชำเหลืองมองจนเสียสายตาด้วยนะครับ 555+ … อย่างที่บอกครับหน้าตาผมก็คงแค่ระดับค่าเฉลี่ยคนไทย เราจะมาดูกันว่าโหมดเซลฟี่ของ Samsung Galaxy J2 จะช่วยเป็นป๋าดันให้ผมได้สักเท่าไหร่กัน ถ้ามันทำให้ผมได้ เชื่อแน่ว่าเพื่อนๆ ทุกคนซื้อไปใช้งานแล้วรุ่งแน่ๆ อิ อิ
ก่อนอื่นขอแนะนำเมนูของแอพฯ กล้อง ตัวหลักที่ติดมากับเครื่องก่อนนะครับ ซึ่งมีเมนูไม่ซับซ้อน หรือเยอะจนเกินไป ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้การแบบอัตโนมัติ แต่หากใครที่อยากใช้โหมดโปร ก็กดไปที่คำว่า “โหมด” ใกล้ๆ กับปุ่มชัตเตอร์ เราก็จะสามารถเลือกโหมดใช้งานได้มากถึง 7 โหมด
นี่คือเมนูการใช้งานในโหมดโปร และเมนูของการถ่ายคลิปวิดีโอ ซึ่งมีแค่ปุ่มหยุดและปุ่มพักการถ่าย สุดท้ายก็เป็นเมนูการตั้งค่าของแอพฯ กล้องตัวนี้ครับ
ส่วนประสิทธิภาพของกล้องหลังที่มาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนตัวมองว่าดีพอใช้สำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5 พันบาท ซึ่งเราจะได้ภาพที่มีคุณภาพดีเพียงพอที่จะใช้ในการแชร์ต่อหรือโพสในโซเชียลเน็ตเวิร์คแบบไม่อายใครเลยครับ และสำหรับรูปถ่ายในสถานการณ์ทั่วๆ ไป แทบไม่ต่างจากกล้องของเครื่องราคาแพงเลยครับ จะมีข้อเสียบ้างที่บางครั้งความเร็วชัตเตอร์จะช้าจนภาพเบลือได้เหมือนกัน อันนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพแสงเป็นสำคัญ และนี่เป็นตัวอย่างภาพถ่ายในหลากหลายมุมมอง
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟลช เมนูการใช้งานจะต่างจากกล้องหลังก็ที่จะมีโหมดการใช้งานแค่ 2 โหมด นั่นคือ โหมดเซลฟี่ สำหรับถ่ายด้วยตัวเอง และโหมดถ่ายด้วยเสียง และอีกมนูที่เพิ่มเข้ามา ก็คือ เมนู Beauty
เมนู Beauty เราสามารถปรับระดับความเนียนใสได้ถึง 9 ระดับ ตั้งแต่เลเวล 0-8 ซึ่งจะได้ภาพที่ธรรมชาติมากแต่ไม่หล่อไม่สวยเลย จนถึงเกินธรรมชาติจนน่ากลัวสวยหล่อเกินเหตุกันเลยทีเดียว แต่ถ้าจะให้พอดีก็ที่ เลเวล 4 (Default) จะออกมากำลังพอดีครับ
ตัวอย่างกล้องหน้าที่โดยใช้ Beauty เลเวล 4 ในมุมมองต่างๆ
สุดท้ายก็เป็นตัวอย่างการถ่ายวิดีโอใน 3 สภาพแสง ตั้งแต่บรรยากาศช่วงกลางวันแดดแรง ยามเย็นหลังฝนตก และกลางคืน ตามลำดับ
.
.
2. รีวิวการใช้งานโดยรวมและคะแนนทดสอบ
สำหรับการใช้งานโดยรวม ถ้าจะให้กล่าวตามตรง ก็คือ มันก็เหมาะสมกับราคาของมันครับ ประสิทธิภาพไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ก็พอใช้สำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งแท้จริงแล้ว คนที่ซื้อเครื่องราคาแพงหรือราคาถูกมันก็รูปแบบการใช้งานแทบไม่ต่างกันเลย นักวิจัยก็เคยสำรวจมาแล้วว่าเราใช้สมาร์ทโฟน 80 % ของเวลาทั้งหมดไปกับแอพฯ แค่ 3 ตัวเองครับ ดังนั้นในระบบปฏิบัติการเดียวกัน คนซื้อเครื่องถูกที่ทนทานหน่อย อันนี้จะได้กำไรมากกว่าแน่นอน(ถ้าไม่หวังอวดสายตาคนอื่น) ซึ่ง Samsung Galaxy J2 เป็นคำตอบให้กับเราได้แน่นอน แต่เครื่องราคาถูก ก็มาพร้อมข้อจำกัดด้วยเช่นกัน เราจะมาดูว่า Samsung Galaxy J2 ตัวนี้มันมีข้อจำกัดหรือข้อดีในการใช้งานอะไรบ้าง เพื่อที่จะตัดสินใจไม่ผิดพลาด
ข้อเสียเรื่องแรกที่ประสบตั้งแต่เริ่มใช้งานก็คือ หน่วยความจำภายในที่ให้มาแค่ 8 GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานแค่ 2.57 GB เท่านั้น ซึ่งหลังจากติดตั้งแอพที่ตัวเองจำเป็นต้องใช้งานหลักๆ เสร็จสิ้น ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานแค่ 313 MB ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ หากเปรียบเทียบกับการถ่ายรูปด้วยกล้องหลังโดยการตั้งค่าเริ่มต้น ก็จะได้รูปแค่ประมาณ 200 รูปเท่านั้น(1 รูปประมาณ 1.5 MB) ยิ่งในความเป็นจริง เราก็ต้องลงทั้งเพลง ถ่ายคลิปวิดีโอ ลงไฟล์ต่างๆ อีกเยอะแยะมากมาย ก็ยิ่งต้องทำใจหนัก แต่ก็ยังดีที่เราสามารถตั้งค่าการถ่ายภาพให้ถ่ายแล้วรูปไปเก็บที่ SD Card ได้ทันที ซึ่งเจ้า SD Card เราเพิ่มเองได้สูงสุด 128 GB
แอพพลิเคชั่นที่ผมลงในครั้งแรกที่เปิดเครื่อง(ในกรอบสีแดง) และแอพฯ ติดเครื่องมาทั้งหมดครับ
เมื่อใช้ไปสัก 2 วัน ก็ประสบปัญหาการติดตั้งแอพไม่ได้เพราะหน่วยความจำเต็มแล้ว ซึ่งจะขึ้นข้อความเตือนในลักษณะนี้ จึงจำเป็นต้องมองหา SD Card มาช่วยแบ่งเบาภาระหน่วยความจำเครื่อง แต่ก็ช่วยได้ไม่เต็มที่เพราะเราไม่สามารถติดตั้งแอพลง SD Card ได้โดยตรง ต้องมาค่อยทยอยย้ายแอพเก่าไป SD Card ก่อนที่จะติดตั้งแอพใหม่ ถือว่าสร้างความรำคาญใจในการใช้งานพอสมควรครับ
เนื่องจากสเปคไม่สูงมากนักทำให้การใช้งาน Samsung Galaxy J2 ช้าพอสมควร ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้งานแอพ เกม หนักๆ แต่แอพทั่วไปอย่างการโทรหรือเครื่องคิดเลขก็ยังหน่วงเลยครับ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ขัดใจมากนักกับความหน่วงที่เราเผื่อใจเอาไว้แล้วเหล่านี้ครับ
ภาพที่แสดงให้เห็นความหน่วงของการใช้งานแอพ เมื่อเปิดแอพขึ้นมาจะขึ้นหน้าแอพแต่ไม่มีตัวเลขปรากฏอยู่นานประมาณ 2 วินาที ซึ่งจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่ตลอด อย่างเช่นการโทรออกเรากดเบอร์เสร็จ กดปุ่มโทรออก เครื่องจะหน่วงประมาณ 2 วินาที ก่อนที่จะเข้าหน้าแสดงการโทรออก
มันเป็นธรรมดาครับ เรื่องปัญหาบนสมาร์ทโฟนอย่างว่าแต่เครื่องราคา 4,990 บาท ตัวนี้เลย เรือธงราคาเกินสองหมื่นก็มีให้เห็นเช่นกัน สำหรับปัญหาที่พบด้านบน ก็เพียงรายงานปัญหาที่ผมเจอในระหว่างรีวิวเพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับเพื่อนๆ ที่สนใจอยู่ ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรมากมายครับ การเล่นแอพฯ ทั้ง สังคมออนไลน์ เกม และแอพเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ
การเล่นเพลง ดูคลิปวิดีโอก็ทำงานได้ไหลลื่นสมบูรณ์ ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ครับ
และนี่เป็นผลการทดสอบการเล่นวิดีโอด้วยแอพ AnTuTu Video Tester ได้คะแนน 639 พร้อมระบุความสามารถของเครื่องในการเล่นวิดีโอที่ความละเอียดต่างๆ และไฟล์ที่เครื่องรองรับ และไม่รองรับ
ส่วนการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้เต็มวันแบบไม่ต้องกังวลเลยครับ ส่วนตัวผมใช้งานอยู่ได้มากกว่า 14 ชั่วโมงทุกวันครับ คะแนนการทดสอบแบตเตอรี่ด้วยแอพ AnTuTu ได้ 11221 คะแนน
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเป็นการทดสอบความเสถียรของเครื่อง ซึ่งแสดงเป็นกราฟ ยิ่งกราฟนิงมาก ก็แสดงว่ามีความเสถียรมากตามไปด้วย
คะแนนการทดสอบ HTML5
ท้ายสุดเป็นคะแนนการทดสอบด้วยแอพพิลเคชั่นต่างๆ เอาไว้ให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจและเปรียบเทียบกับรุ่นใกล้เคียงนะครับ
[quote]
- AnTuTu Benchmark 20110 คะแนน
- Quadrant Standard 8899 คะแนน
- NenaMark2 ได้ 59.3 fps
- รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด
[/quote]
ส่วนการจับสัญญาณ GPS ในห้องมองไม่เห็นดาวเทียมเลย แต่นอกกห้องพอใช้ครับ
3. รีวิวตัวเครื่องภายนอกและภายใน
การออกแบบของ Samsung Galaxy J2 ออกแบบมาแนวๆ สไตล์ Samsung แบบสุดๆ ถ้าถือไปข้างนอกนี่แยกไม่ออกเลยว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน แม้ช่วงหลัง Samsung จะพยายามออกรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์ต่างออกไปอยู่หลายรุ่นหลายซีรี่ย์ แต่สำหรับ Samsung Galaxy J2 นี้ ไม่ไช่ครับ
ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED 24-bit ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 540 x 960 พิกเซล ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งคำว่าพอดีในการใช้งานมากครับ ไม่ว่างจะเล่นแอพฯ หรือเล่นเกม ก็ตาม
ส่วนด้านหลังสามารถแกะฝาหลังได้ และมีคำว่า 4G DUOS ชัดเจนมาก เพื่อบอกว่ารองรับสองซิมและทั้งสองซิมรองรับ 4G เหมือนกัน เด่นกว่าโลโก้เสียอีก ส่วนกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลซ LED อยู่เหนือโลโก้ Samsung ขึ้นไปนิดหน่อยครับ
เมื่อแกะฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 2,000 mAh ซึ่งทำให้ผมาใช้งานอยู่ถึงข้ามวันกันเลยทีเดียว เป็นแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ ส่วนด้านบนก็จะมีช่องใส่ซิมอยู่ 2 ที่ SIM 1 สำหรับ microSIM จะอยู่ติดกับก้อนแบตฯ ตอนใส่ต้องถอดแบตฯ ออกก่อนแล้วคว่ำซิมการ์ดและเสียบเข้าไปได้เลย นอกจากนี้ในช่องนี้ด้านบนจะเป็นช่องสำหรับ microSD Card ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากสำหรับรุ่นนี้ ส่วน SIM 2 ก็เป็น microSIM เช่นกันอยู่เหนือช่อง SIM 1 ขึ้นไปนิดหน่อยทางด้านขวามือครับ
ฝาหลังดูแข็งแรง ไม่เปราะ แต่ไม่ยืดหยุ่น อันนี้ผมลองพยายามงอดู ซึ่งถ้ามากกว่านี้คาดว่าคงหักเพราะแรงเรา หากโดยทั่วไปคงไม่หักงอง่ายๆ ครับ
ภาพด้านข้างตัวเครื่อง ปุ่มพาวเวอร์ ปุ่มเพิ่มลดเสียง อยู่ในตำแหน่งปกตินั่นคือ ขวาและซ้ายมือเรา ตามลำดับครับ ส่วนช่อง microUSB สำหรับชาร์จและเชื่อมต่ออยู่ด้านล่าง และช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบนครับครับ
โดยรวมตัวเครื่องผมมองว่าอยู่ในมาตรฐานของ Samsung ไม่ว่าเครื่องรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็ดูแข็งแรงทนทานไม่ต่างกัน รวมทั้งการออกแบบและคุณภาพวัสดุด้วยครับ ซึ่งทำให้คนที่ซื้อเครื่องราคาถูกอย่าง Samsung Galaxy J2 ไป เหมือนได้กำไรสุดๆ ก็ตรงตัวเครื่องนี่หละครับ
4. สเปคหรือคุณสมบัติของเครื่อง
แพลตฟอร์ม
- ระบบปฏิบัติการ: Android OS, v5.1.1 (Lollipop)
- ชิปเซ็ต: Exynos 3475
- CPU: Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7
- GPU: Mali-T720
ตัวเครื่องและการออกแบบ
- รูปร่าง: 136.5 x 69 x 8.4 mm (5.37 x 2.72 x 0.33 นิ้ว)
- ซิมการ์ด: 2 ซิมการ์ด (Micro-SIM, dual stand-by)
หน้าจอ
- ประเภท: Super AMOLED capacitive touchscreen, 16 ล้านสี
- ขนาด: 4.7 นิ้ว
- ความละเอียด: 540 x 960 พิกเซล (ความหนาแน่น 234 ppi)
- Multitouch: รองรับการสัมผัสหน้าจอพร้อมกัน 5 จุด
เครือข่ายโทรศัพท์:
- 2G: GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
- 3G: HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100
- 4G: LTE band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)
- ความเร็ว: HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat4 150/50 Mbps
- GPRS: รองรับ
- EDGE: รองรับ
หน่วยความจำ
- หน่วยความจำภายใน: 8 GB
- แรม: 1 GB
- หน่วยความจำภายนอก: microSD เพิ่มได้สูงสุด 128 GB
การถ่ายภาพ
- กล้องหลัง: 5 ล้านพิกเซล ( 2592 х 1944 พิกเซล), โฟกัสแบบอัตโนมัติ, ซูมดิจิตอล 4 เท่า, แฟลช LED
- ฟีเจอร์: Geo-tagging, touch focus, face detection
- วิดีโอ: 720p@30fps
- กล้องหน้า: 2 ล้านพิกเซล
การเชื่อมต่อ
- WLAN Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth v4.1, A2DP
- GPS, A-GPS, GLONASS
- วิทยุ FM พร้อมบันทึกเสียง
- ช่อง microUSB v2.0, USB On-The-Go
- ช่องเสียหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่: Li-Ion 2000 mAh
ราคา: 4,990 บาท
5. สรุปผลการรีวิว Samsung Galaxy J2(ข้อดี-ข้อเสีย)
สำหรับ Samsung Galaxy J2 ส่วนตัวขอฟันธงเลยครับว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ลงตัวและดีที่สุด ประสิทธิภาพอาจสู้เครื่องราคาแพงไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่ผมตำหนิส่วนใหญ่ก็เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อเท่านั้น หากจะลดข้อเสียเหล่านั้นก็ได้ แต่ก็จะแพงมากขึ้นไปอีก ซึ่งก็จะกลายเป็นข้อเสียเรื่องราคาอีกนั่นหละ ดังนั้นผมแนะนำว่าหากเพื่อนๆ ต้องการสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาท ของฟันธงว่า Samsung Galaxy J2 นี้เลยครับ และหากจะแยกข้อดีข้อเสียให้ชัดเจนไปเลยก็ดังต่อไปนี้ครับ
ข้อดี:
- กล้องสวยมาก ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง นี่คือจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Samsung Galaxy J2 เหนือกว่าและโดดเด่นมากๆ
- วัสดุและการออกแบบ ได้มาตรฐาน ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ ของ Samsung เลยครับ มองไม่ออกเลยว่าเครื่องเราราคาถูกกวา
- ราคาเพียง 4,990 บาท
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานครบวัน(เช้าจรดเย็น) ยังไม่หมด และอาจเกินวันสำหรับบางคนเลยครับ
- ใช้งานได้ 3 ซิมการ์ด รองรับ 4G ทั้งคู่ และสแตนด์บายทั้งสองซิมครับ
ข้อเสีย:
- หน่วยความจำน้อย(8 GB) ไม่เพียงพอสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมใหญ่ๆ แม้จะสามารถย้ายลง SD Card ภายหลังได้ แต่ก็มาเสียเวลาย้ายก่อนติดตั้งแอพใหม่
- อาการหน่วงหรือช้าในการใช้งาน แม้จะเป็นแอพฯ ทั่วไป อย่างการโทรหรือเครื่องคิดเลข ก็มีให้เห็นอยู่ตลอด