ขอสวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ หลังจากที่ได้ซื้อ iPhone 5 มาเกือบ 6 เดือน ช่วงแรกๆ ก็ติดฟิล์มกันรอยครับ แต่ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ก็รู้สึกเบื่อ แกะออกทั้งหมดเลย กะว่าจะไม่ใส่เคสหรือฟิล์มกันรอยอีกแล้ว จนกระทั่งได้เห็นเคสที่ www.12case.com ส่งมาให้พวกเรารีวิว ทั้ง Spigen SGP Neo Hybrid EX – Slim และ SPIGEN SGP Neo Hybrid Ex ก็เลยอยากได้อยากติดกับเขาบ้าง เพราะมันสวยจริงๆ จนล่าสุด 12case ได้ส่งเจ้า Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5 มาให้รีวิวอีกตัว ถือเป็นการดีจึงอาสาติดด้วยตัวเองแล้วนำมารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านดูกันครับว่าน่าใช้ คุ้มราคาหรือไม่?
รีวิว Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5
Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5 เป็นสติ๊กเกอร์กันรอย สำหรับ iPhone 5 ด้านหลังเป็นสติ๊กเกอร์แบบ เคฟล่า ทำจากวัสดุเกรดพรีเมี่ยม ทนรอยขีดข่วนได้สูง ใน 1 ชุดจะประกอบด้วย
- สติ๊กเกอร์เคฟล่า 2 แผ่น คือแบบเปิดโลโก้ของ Apple กับแบบปิดไม่มีรูโลโก้
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบใสคุณภาพสูง SGP Ultra Crystal
- ฟิล์มด้านหลังชิ้นบนและล่าง
ซึ่ง Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5 จะมี 6 สี 6 แบบ ให้เราเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องและความชอบส่วนตัวของเราครับ ส่วนการรีวิวครั้งนี้ iPhone 5 สีดำ แต่ Skin Guard เป็นสีขาว ถือว่าสวยไปอีกแบบครับ
การติด Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5 ด้วยตัวเอง
หากเราซื้อมาแล้วไม่ได้ให้ร้านติดให้ ก็สามารถติดเองได้ครับ เราเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการติดเท่าไหร่ แต่ก็ยังสามารถทำได้ เชื่อว่าเพื่อนต้องทำได้เช่นกันครับ ให้เพื่อนๆทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. แกะซองใส่ฟิล์มกันรอยออกมา จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบด้วย แผ่นพับคู่มือ ผ้าเช็คกระจก สติ๊กเกอร์เคฟล่า ฟิล์มกันรอยด้านหน้า แผ่นอะลูมิเนี่ยมเครื่องหมายการค้าของ Spigen และแผ่นพลาสติกสำหรับรูดฟิล์มเพื่อไล่อากาศ
2. เตรียมชุดติดตั้งให้พร้อม
3. ใช้ผ้าเช็คกระจกทำความสะอาดหน้าจอของ iPhone 5 ให้ดี และมั่นใจว่าไม่มีเศษ ฝุ่นผงต่างๆตกอยู่
4. เตรียมฟิล์มกันรอยด้านหน้า อ่านข้อความบนสติ๊กเกอร์แต่ละอันให้เข้าใจ
5. เริ่มขั้นตอนการติดฟิล์มกันรอยด้านหน้า โดยดึงสติ๊กเกอร์ที่ติดกับฟิล์มบางชั้นแรกออกพร้อมกับแปะลงบนกระจกหน้าอย่างระมัดระวัง ซึ่งแผ่นฟิล์มที่ให้มาจะระบุไว้ชัดเจนครับ ว่าให้ดึงสติ๊กเกอร์ตัวไหน
6. ใช้แผ่นพลาสติกที่ให้มาในซอง ไล่อากาศและปรับแต่งให้ฟิล์มกันรอยติดได้พอดี เมื่อทำเสร็จแล้วก็ดึงสติ๊กเกอร์อีกอัน เพื่อลอกฟิล์มบางชั้นบนออก เท่านี้การติดฟิล์มด้านหน้าก็เรียบร้อยครับ
7. ใช้ผ้าเช็คกระจกที่ให้มา ทำความสะอาดด้านหลังของ iPhone 5 ให้เรียบร้อย ไม่ให้มีฝุ่นผงจับอยู่
8. ติดฟิล์มกันรอยบนแถบกระจกขอบด้านบน
9. ติดเฟิล์มกันรอยบนแถบกระจกขอบด้านล่าง
10. เลือกสติ๊กเกอร์เคฟล่าอันที่เราชอบ(ให้มา 2 แบบ ได้แก่ แบบปิดโลโก้ด้านหลัง และแบบเปิดโลโก้เอาไว้) แล้วก็ติดลงไปได้เลย ขั้นตอนนี้จะไม่ยุ่งยากเหมือนติดฟิล์มด้านหน้าครับ
11. สุดท้ายก็ติดแผ่นป้ายอะลูมิเนี่ยมของ Spigen ลงบนตำแหน่งใดก็ได้
12. การติดตั้งเสร็จเรียบร้อย
สรุปเรื่องการติดตั้งก็ยุ่งยากหน่อยตอนติดฟิล์มกันรอยด้านหน้าครับ หลังจากนั้นก็เบาๆ ชิลๆ ครับ หากใครไม่มั่นใจก็ให้ร้านติดฟิล์มกันรอยทั่วไปช่วยทำให้ได้เลยครับ
สรุปผลการใช้งาน Spigen SGP Skin Guard for iPhone 5
การใช้งานจริงค่อนข้างพอใจครับ ความสวยงามนั้นเด่นสะดุดตามาเลย และหากใครเลือกเคฟล่าด้านหลังแบบเปิดโลโก้ก็คงยิ่งสวยขึ้นไปอีก แต่เนื่องจากเครื่องที่ใช้รีวิวมันเป็นสีดำ ส่วนเคฟล่าสีขาว เรากลัวว่ามันจะตัดกันมากเกินไป จึงเลือกแบบปิดโลโก้ ส่วนสีและลวดลายของสติ๊กเกอร์เคฟล่าก็มีให้เลือกมากถึง 6 สี 6 แบบ ยิ่งถือว่าหลากหลายน่าใช้มากครับ กับราคา 900 บาท ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน แต่ข้อเสียของการใช้สติ๊กเกอร์เคฟล่าแบบนี้หากเปรียบเทียบกับการใส่เคสก็คือ มันไม่ได้ป้องกันการกระแทกแต่ทำได้เพียงกันรอยและเพิ่มความสวยงามเท่านั้น ซึ่งเราก็ต้องเลือกแล้วหละครับว่าจะติดแบบไหน
ข้อเด่น:
ใช้วัสดุที่หรุหรา ดูพรีเมี่ยมมาก ทั้งฟิล์มกันรอยด้านหน้า และสติ๊กเกอร์เคฟล่า ไม่รู้สึกเทอะทะเหมือนใส่เคส ทำให้เบาสบาย ไม่เพิ่มความหนาให้ตัวเครื่อง แถมยังเพิ่มความสวยงามให้กับ iPhone 5 ของเราอีกต่างหาก
ข้อด้อย:
ไม่มีกันรอยตรงขอบเครื่อง ทำให้เราต้องเพิ่ง SPIGEN SGP Neo Hybrid Ex หรือ Spigen SGP Neo Hybrid EX – Slim เพิ่มเติม หากต้องการการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ และข้อเสียอีกอย่างหากเปรียบเทียบกับการใส่เคสก็คือ มันไม่ได้ป้องกันการกระแทกแต่ทำได้เพียงกันรอยและเพิ่มความสวยงามเท่านั้น