นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากเคจีไอ นาย Ming-Chi Kuo กลับมาพร้อมรายงานสรุปของเขากับความเชื่อที่ว่า Apple จะทำการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมปากกาอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกกันว่าปากกาสไตลัส ซึ่งจะเข้ามาเป็นตัวเลือกอุปกรณ์เสริมให้แก่ผู้ใช้ iPad Pro
ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ของ iPad Pro ทำให้มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มองค์กรและธุรกิจและกลุ่มลูกค้าสำหรับการสร้างสรรค์งานสำหรับความต้องการใช้งานปากกาสไตลัส และ Kuo เชื่อว่า Apple จะสามารถแก้ปัญหาจากความต้องการภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี
“ให้ประสิทธิภาพที่มากกว่าการทำงานด้วยนิ้วมือของคุณ ด้วยปากกาสไตลัสที่จะช่วยให้การทำงานของคุณในแต่ละวันสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นราวกับรวมแป้นพิมพ์และเมาส์เข้าด้วยกันในบางกรณี ดังนั้นเราจึงเชื่อได้ว่าปากกาสไตลัสจาก Apple จะเป็นอุปกรณเสริมที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งานให้กับผู้ใช้ iPad Pro ขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้วได้มายิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ Apple ได้ทำการยื่นขอจดสิทธิบัตรให้กับปากกาสไตลัสตั้งแต่ปี 2010 นับว่าเป็นการสะท้อนความคิดของบริษัทต่ออุปกรณ์ดังกล่าวในปัจจุบันได้อย่างดี
Kuo เชื่อว่าปากกาสไตลัสจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประสิทธิภาพมากกว่ามาตรฐานนี่มาพร้อมกับ iPad ใหม่ แต่ก็มีแนวโน้มว่าราคาจะต้องสูงอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะทำให้ iPad เองก็จะมีราคาขายสูงตามไปด้วย
“เราไม่คิดว่าจะมีผู้ใช้ทุกคนที่ต้องการปากกาสไตลัส เนื่องจากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะหากจะขายปากกาสไตลัสออกมาพร้อมกับ iPad ขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้วจะทำให้มีราคาสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภค ดังนั้นเราจึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปากกาสไตลัสจะเป็นอุปกรณ์เสริมไปก่อนที่จะได้รับเสียงตอบรับจากผูใช้อย่างเพียงพอ”
หากมองไปที่รายละเอียดทางเทคนิคของปากกาสไตลัส Kuo มีความคาดหวังว่ามันจะสามารถชาร์จผ่านการเชื่อมต่อด้วยสายไฟฟ้า ซึ่งเชื่อว่าวิธีนี้จะเข้ามาแก้ปัญหาการชาร์จแบบไร้สายที่สะดวกมากขึ้นและราคาก็จะไม่แพงมากเกินไปด้วย และความต้องการสำหรับการออกแบบเสาอากาศที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นก่อน Kuo ยังเชื่ออีกว่าตัวต้นแบบของปากกาสไตลัสจะไม่รวมเข้ากับความสามารถในการหมุนหน้าจอแต่ในอนาคตอาจจะมีการสนับสนุนระบบ “การเขียนด้วยลายมือแบบ 3 มิติ” เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเขียนลงบนพื้นผิวอื่นๆ ได้หรือแม้กระทั่งในอากาศก็ตามที
Kuo เชื่อว่า Apple จะทำการเปิดตัวปากกาสไตลัสในช่วงไตรมาสที่สองหรือสามของปีนี้ ซึ่งประเมิณได้จากการคาดการณ์สำหรับช่วงเวลาเปิดตัว iPad Pro นั่นเอง ทางบริษัทเองก็ได้ยื่นการขอจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีของปากกาสไตลัสไปแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการเผยแพร่ “ปากกาสไตลัสในการสื่อสาร” ที่สามารถบันทึกการเขียนด้วยลายมือได้อย่างอัตโนมัติในรูปแบบดิจิตอลไปแล้วด้วยเช่นกัน
ที่มา: MACRUMORS