ซัมซุงผนึกเอไอเอส 3G 2100 เปิดตัว “กาแลคซี่ เอส 5” สุดยอดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อย่างตรงจุด พร้อมจัดเต็มแพ็กเกจสุดพิเศษ และกลยุทธ์การตลาดทุกรูปแบบเตรียมพลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟนไทย
ซัมซุงผสานพลังเอไอเอส 3G 2100 นำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 5 จากตระกูลกาแลคซี่ เอส “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 (Samsung Galaxy S5)”
- ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 ได้รับการออกแบบด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างตรงจุด (Meaningful Innovation) เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์แบบ
- โดดเด่นด้วย 5 คุณสมบัติพิเศษที่คิดค้นขึ้น – กล้องที่ดีที่สุด โหมดยืดพลังแบต กันน้ำและฝุ่น เชื่อมต่อรวดเร็ว และเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ
- ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บนเครือข่ายเอไอเอส 3G 2100 มาพร้อมแพ็กเกจสุดพิเศษ “AIS Samsung Package” กับ 3 ความคุ้มค่า ทั้งเล่นเน็ตฟรีตลอดทั้งปี โทรฟรีไม่อั้นในเครือข่ายเอไอเอส ทุกวัน และส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 12 เดือน และหลากหลายแอพพร้อมใช้จากเอไอเอส
- พร้อมเปิดตัว “ซัมซุง เกียร์ ฟิต (Samsung Gear Fit)” อุปกรณ์อัจริยะสวมใส่ได้ (Smart wearable device) สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟ เพื่อสุขภาพแข็งแรงอย่างมีสไตล์ และเชื่อมต่อได้ทุกเวลา
- กาแลคซี่ เอส 5 และ เกียร์ ฟิต วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย 11 เมษายน นี้ พร้อมทั่วโลก
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการสมาร์ทโฟนที่ทั้งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและอำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นของซัมซุงที่ต้องการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้บริโภค ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 จึงได้รับการพัฒนาและออกแบบด้วยแนวคิดนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ อย่างตรงจุด หรือ Meaningful Innovation โดยมากับดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมคุณสมบัติที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ซึ่งการสร้างสรรค์ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 นั้น ซัมซุงได้กลับไปสู่รากฐานเดิมของการนำเสนอดีไวซ์ที่มีคุณสมบัติ ที่สำคัญต่อผู้บริโภคเท่านั้น”
ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 มากับดีไซน์โดดเด่น พร้อมคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสเร็วที่สุดเพียง 0.3 วินาที โหมดถ่ายภาพ HDR ใหม่ คุณสมบัติ Selective Focus พร้อมโหมด ยืดพลังแบต (Ultra Power Saving Mode) ช่วยให้ใช้งานกาแลคซี่ เอส 5 ได้อย่างสบายใจ แม้แบตเตอรี่เหลือเพียง 10% ก็สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังกันฝุ่นและทนละอองน้ำ ฟังก์ชันสแกนนิ้วมือ ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและไฟล์สำคัญต่างๆ ด้วย Private Mode การรับข้อมูลต่างๆ รวดเร็วที่สุด ด้วยคุณสมบัติดาวน์โหลดบูสเตอร์ (Download Booster) แอพลิเคชันเอสเฮลธ์ 3.0 (S Health 3.0) ผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับการออกกำลังกาย พร้อมเซนเซอร์นับก้าว (Pedometer) และเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 จะวางจำหน่ายในราคา 23,800 บาท
“ความสำเร็จของสมาร์ทโฟนตระกูลกาแลคซี่ เอส การันตีได้จากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนซีรีส์นี้ที่มีจำนวนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก โดยซัมซุง กาแลคซี่ เอส 4 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2556 มียอดขายถล่มทลายถึง 63.5 ล้านเครื่อง และซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2555 มียอดขาย 65.6 ล้านเครื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนซัมซุงมียอดขายรวมทั้งสิ้น 300 ล้านเครื่อง ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว เกิดจากการที่ซัมซุงให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นหลัก ล่าสุด ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 ก็เป็น สมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่ได้รับออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดเช่นกัน”
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Quality DNAs มาโดยตลอด เพราะเราเชื่อมั่นว่าการจะส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าได้ ต้องประกอบไปด้วยคุณภาพ ในทุกมิติของการให้บริการ ทั้งดีไวซ์คุณภาพ, เน็ทเวิร์คคุณภาพ, แอพพลิเคชันที่หลากหลาย ตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และสุดท้ายคือการให้บริการที่เป็นเลิศ ดังนั้นที่ผ่านมาเอไอเอสจึงจับมือกับซัมซุงซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อนำเสนอที่สุดของดีไวซ์รุ่นต่างๆ บนเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชันหลากหลายโดนใจ และการให้บริการที่ดีเยี่ยมของเราให้กับลูกค้ามาโดยตลอด สำหรับการร่วมมือกับซัมซุงในวันนี้ จึงเป็นการตอกย้ำการให้บริการภายใต้แนวคิด Quality DNAs อีกครั้ง โดยร่วมกับซัมซุงส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการนำดีไวซ์คุณภาพที่น่าจับตามองมากที่สุดแห่งปีอย่าง ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 มามอบให้ลูกค้าในยุค 3G ได้สัมผัส บนเครือข่ายคุณภาพเอไอเอส 3G 2100 ที่มาพร้อมกับหลากหลายแอพพลิเคชันพร้อมใช้จากเอไอเอสที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ AIS mPAY Rabbit ที่เปลี่ยนมือถือให้กลายเป็นกระเป๋าสตางค์, AIS Privilege ที่รวบรวมสิทธิพิเศษต่างๆ ของลูกค้าเอไอเอสไว้ ในมือถือ, AIS Mobile BPL ให้ลูกค้าชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้สดๆ ทุกแมทช์บนมือถือ และล่าสุดกับ FIFA World Cup ที่ให้ลูกค้าสามารถชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ได้สดๆ ครบทุกแมทช์บนมือถือฟรี โดยไม่ต้องสมัครแพ็กเพิ่ม เป็นต้น และนอกจากคุณภาพในทุกมิติของการให้บริการทั้ง 3 ด้านแล้ว เอไอเอสยังให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สุดพิเศษจากแพ็กเกจสุดคุ้ม AIS Samsung Package ในครั้งนี้ด้วยการรวม 3 ความพิเศษไว้ด้วยกัน ได้แก่ เล่นเน็ตฟรีตลอดทั้งปี โทรฟรี ไม่อั้นในเครือข่ายเอไอเอสได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 17.00 น. และส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 12 เดือน”
“เอไอเอสเชื่อมั่นว่าซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 ซึ่งเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่คนไทยรอคอย เมื่อผสานรวมกับเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส 3G 2100, แพ็กเกจสุดคุ้ม, แอพพลิเคชันที่หลากหลาย และการให้บริการที่ดีเยี่ยมจะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในยุค 3G ได้อย่างแน่นอน” นายฐิติพงศ์ กล่าวเสริม
นายวิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “ซัมซุงได้วางกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดเต็มรูปแบบ โดยเตรียมกิจกรรมทางการตลาด ที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค และเน้นตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลักและวางกลยุทธ์การสื่อสาร ทางการตลาดครบวงจรแบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ สื่อในร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับ Experience Zone บริเวณหน้าร้านซัมซุง เอ็กซ์พีเรียน ช็อป รวมทั้งร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์อย่างเต็มที่โดยตรง พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังจับมือกับโอเปอร์เรเตอร์เพื่อจัดทำโปรโมชันและแพ็กเกจพิเศษสำหรับผู้ซื้อผลิตภัณฑ์อีกด้วย ที่เป็นไฮไลท์และ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยก็คือ ซัมซุงจับมือกับเอไอเอส จัดงาน “Discover the Glam” เอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่แห่งปี โดยเชิญเซเลบบริตี้ชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทยกว่า 100 ชีวิตมาร่วมงาน พร้อมร่วมประมูลเบอร์สวยที่เป็นเบอร์มงคล เพื่อมอบรายได้ทั้งหมดให้กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีอีกด้วย”
นอกจากนี้ซัมซุงยังตระหนักว่าในอนาคตอุปกรณ์อัจริยะแบบสวมใส่ได้ (Smart wearable device) จำเป็นต้องมีความสามารถตอบสนองความต้องการและความสนใจที่หลากหลายของผู้บริโภค และเพื่อตอบสนองตอบกับแนวคิดดังกล่าว ซัมซุง เกียร์ ฟิต (Samsung Gear Fit) จึงได้รับการออกแบบให้ผู้สวมใส่สามารถใช้ชีวิตอย่างได้มีสุขภาพแข็งแรงและกระฉับกระเฉง ไม่หยุดนิ่ง โดยยังคงรักษาสไตล์และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือการเชื่อมต่ออื่นๆ ได้ตลอดเวลา สำหรับความสำเร็จของอุปกรณ์อัจริยะแบบสวมใส่ได้รุ่นก่อนหน้า อย่าง ซัมซุง กาแลคซี่ เกียร์ ทำให้ซัมซุงมองเห็นถึงเทรนด์รักสุขภาพในกลุ่มผู้บริโภคมีความสำคัญมากขึ้น และอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้หรือ wearable device สำหรับใช้ดูแลรักษาสุขภาพกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับผู้บริโภคอีกต่อไป”
ซัมซุง เกียร์ ฟิต มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED แบบโค้งรุ่นแรก ให้สอดรับกับความโค้งของข้อมือผู้สวมใส่สามารถรับทราบการแจ้งการโทรเข้า อีเมล์ ข้อความสั้น การตั้งปลุก การแจ้งเตือนจากแอพลิเคชัน S Planner หรือแอพลิเคชันอื่นๆ แม้ว่าผู้สวมใส่กำลังออกกำลังกายหรือกำลังทำสิ่งอื่นใดอยู่ เพื่อรับทราบข้อมูล่าสุดตลอดเวลา ซัมซุง เกียร์ ฟิต ยังมากับคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นตามมาตรฐานอุปกรณ์อัจริยะแบบสวมใส่ได้ของซัมซุง พร้อมคุณสมบัติด้านการออกกำลังกายแบบอัฉริยะที่สามารถปรับแต่งได้ เพื่อนำเสนอคำแนะนำที่เข้ากับผู้สวมใส่ โดยวางจำหน่ายในราคา 5,900 บาท
“ซัมซุงเชื่อว่าซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 จะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากผู้บริโภคในเมืองไทยไม่แพ้กาแลคซี่ เอส รุ่นก่อนหน้า ยิ่งในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเอไอเอส พันธมิตรทางธุรกิจที่ดีเสมอมาของเรา ที่ร่วมกันสร้างสรรค์และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค เราเชื่อว่าการผสานพลังระหว่างซัมซุงและเอไอเอสในครั้งนี้จะเป็นการจารึกประวัติศาสตร์ให้กับวงการสมาร์ทโฟนไทยอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนให้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกสบายและสมบูรณ์แบบกว่าที่เคย เพราะสุดยอดสมาร์ทโฟนอย่าง ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 5 และการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะสวมใส่ได้ อย่าง ซัมซุง เกียร์ ฟิต ที่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บนเครือข่ายคุณภาพเอไอเอส 3G 2100 จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของซัมซุงในด้านนวัตกรรมและความเป็นผู้นำของเอไอเอสในด้านผู้ให้บริการเครือข่ายคุณภาพได้อย่างไร้ที่ติแน่นอน” นายวิชัย กล่าวปิดท้าย