เวลาผ่านไปเร็วเหลือเชื่อครับมาถึงช่วงกลางปีงานมหกรรมมือถือสุดยิ่งใหญ่อย่าง Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End ก็เวียนมาจัดกันอีกแล้ว แหมพี่ไทยเรานี่ร่ำรวยกันจริงๆ อิอิ ผมก็มานั่งคิดๆนะ คิดถึงมือถืออดีตเรือธงรุ่นนึงที่โด่งดังมากๆ และสร้างกระแสได้อย่างเหลือเชื่อนั่นคือ Samsung Galaxy Note 2 มันจุดกระแสได้ยิ่งกว่า Samsung Galaxy S3 ซะอีกครับพึ่งมาซาก็ตอนเจ้ามือถือซึ่งมีสโลแกนในไทยหล่อๆว่า “ให้มือถือเป็นทุกอย่างสำหรับคุณ” Samsung Galaxy S4 ออกวางจำหน่ายนี่ละครับ แต่จริงๆเจ้า Samsung Galaxy Note 2 ก็ยังมีดีที่ข่มรุ่นใหม่ได้อย่างขนาดจอและปากกามหัศจรรย์ S Pen
สำหรับ Samsung Galaxy Note 2 ก็เป็นมือถือที่ให้คุณได้มากกว่าแค่ความเป็นมือถือแต่มันคือจุดสูงสุดของความบันเทิงที่มาพร้อมการใช้งานในชีวิตจริงอย่างลงตัว โดยถึงแม้ว่ามันจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และทายาทรุ่นต่อไปก็เริ่มมีข่าวหลุดออกมาบ้างแล้ว แต่กว่ารุ่นต่อยอดเรือธงของตระกูล Galaxy Note ก็อีกนานพอสมควรนะครับ
รวมทั้งราคาในตอนนี้ที่ลดเหลือ 19900 บาท+ของแถมต่างๆในงาน Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ก็ยั่วยวนไม่เบาทีเดียวครับ และฟังก์ชั่นที่มีใน Samsung Galaxy Note 8.0 อย่าง Handwriting-to-text ที่พัฒนาจนสามารถเขียนตัวหนังสือภาษาไทยยาวๆแบบเป็นประโยคได้แล้ว แถมความแม่นยำยังถือว่าดีมากรวมทั้งสามารถพัฒนาไปตามที่เราเขียนบ่อยๆได้ด้วย ก็แน่นอนครับทาง Samsung จะนำมาลงใน Samsung Galaxy Note 2 แน่นอน
ราคาโปรโมชั่น Samsung Galaxy Note 2 ในงาน Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End
รวมทั้ง Android 4.2.2 ที่มาข่าวว่าเตรียมจ่ออัพเดตให้ Samsung Galaxy S3 แล้วซึ่งแน่นอนว่า Samsung Galaxy Note 2 จะต้องได้หม่ำไปด้วยแน่ๆและฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่างกันปรับปรุงหน้า Lock Screen แบบลำแสงและสามารถใส่ Widget ได้หลายหน้าและใส่ข้อความต้อนรับในหน้า Lock Screen การเพิ่มความสามารถในส่วน Notification และโหมดใหม่ๆอย่าง Driving Mode, Smart Switch Widget, S Voice ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่, การปรับแต่งโทนสีหน้าจอจะมี Adapt Display เพิ่มมาให้นั้นก็น่าจะได้รับการอัพเดตเช่นเดียวกัน เผลอๆตามแนวเฮีย Samsung เจ้ามือถือเรือธงตัวจริงอย่างตระกูล Galaxy Note อาจจะได้รับการอัพเดตเพิ่มเติมมากยิ่งกว่านั้นอีกครับ^__^
สำหรับสเปคในวันนี้ของ Samsung Galaxy Note 2 ก็ยังถือว่าแรงไม่เบาครับ อยู่ในระดับแถวหน้าเลยมี RAM 2GB มาให้ตามสมัยนิยมด้วย รวมทั้งหน้าจอขนาดใหญ่และปากกา S Pen ที่พัฒนาต่อยอดมาจนมีแต่คนชื่นชม (โดยเฉพาะแฟนเพื่อนผมรักเจ้า Galaxy Note 2 ประหนึ่งลูกรัก อิอิ ติดใจปากกา S Pen จนบ่นอยากได้ Samsung Galaxy Note 8.0 เพิ่มอีกเครื่อง5555)
Spec Samsung Galaxy Note 2
รองรับ 3G ทุกเครือข่าย
ขนาดตัวเครื่อง 151.1 x 80.5 x 9.4 มม. น้ำหนัก 180 กรัม
หน้าจอ Super AMOLED 720 x 1280 pixels ขนาด 5.5 นิ้ว (267 ppi) กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 2
CPU Exynos 4412 Quad-core 1.6 GHz Cortex-A9, GPU Mali-400MP
RAM 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB (เหลือให้ใช้ 10.36GB) เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ 64GB
มาพร้อม Android 4.1 Jelly Bean
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, DLNA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, NFC, Micro USB 2.0 รองรับการเชื่อมต่อแบบ MHL
กล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ 1080P 30fps กล้องหน้า 1.9MP บันทึกวีดีโอ HD 720P
แบตเตอรี่ความจุ 3030 mAh
สำหรับ Samsung Galaxy Note 2 มันมีขนาดที่พกพาสะดวกและมีสเปคสูงกว่า Samsung Galaxy Note 8.0 ที่ออกมาใหม่ และผมว่ามือถือตระกูล Galaxy Note 2 มันมีจุดขายแตกต่างจากมือถือทุกรุ่นในท้องตลาดเลยครับ เพราะนอกจากการใช้งานทั่วไปแล้ว S Pen คือส่วนที่ทำให้การใช้มันทำงานเอกสาร ร่างแผนงาน หรือจดบันทึก รวมทั้งสร้างสรรค์งานศิลปะ วาดการ์ตูน ทุกอย่างสามารถทำได้ในมือถือเครื่องเดียว แถมไม่ใช่ว่ามือถือรุ่นไหนๆจะสามารถทำได้เพราะนอกจากปากกา S Pen แล้ว Samsung ยังมีแอพพลิเคชั่นมารองรับและเกื้อหนุนให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
และความพิเศษของปากกา S Pen ก็แตกต่างจากปากกา Capacitive ทั่วไปมากครับ ถ้าท้าวความไปตั้งแต่ Samsung Galaxy Note รุ่นแรก (ซึ่งในงานก็โคตรถูกครับลดเหลือ 9900 บาทเท่านั้น!) ปากกา S Pen ใช้เวลาค้นคว้านานถึง 4 ปีโดยเป็นการวิจัยร่วมกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านนี้อย่าง Wacom โดยในตอนนั้นไม่มีบริษัทไหนสามารถผลิตปากกาที่ Samsung ตั้งใจจะนำมาใช้กับผลิตภัณท์ของตัวเองได้อย่างที่มุ่งหวังได้เลย จนในที่สุดก็ออกมาเป็น S Pen อย่างที่เราเห็นกันนี่ละครับ
และไม่ได้หยุดแค่นั้นเพราะใน Samsung Galaxy Note 2 มีพัฒนาการเพิ่มเติมมากกว่าเดิมอย่างชัดเจนครับ สัมผัสในการเขียนใกล้เคียงการเขียนด้วยปากกาจริงๆมากขึ้น และเส้นจะตรงกับปลายปากกาเลยครับ ตั้งแต่ผมใช้ปากกา Capacitive ที่มีขายทั่วไปมา ยังไม่เคยเจอปากกาตัวไหนจะเขียนได้ดีอย่าง S Pen เพราะผมไม่ต้องปรับตัวครับ สามารถเขียนได้อย่างถนัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองเลยละ ตอนที่ออกมาใหม่ๆผมบ่นเรื่อยเลยละครับว่าอยากจะใช้ Samsung Galaxy Note 2 เป้นเครื่องส่วนตัวมากๆ (ตอนนั้นผมใช้ Samsung Galaxy S3 อยู่นะครับ)
ซึ่งถ้าเทียบ Samsung Galaxy Note 2 กับมือถือรุ่นอื่นๆในราคาใกล้ๆกันในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีหน้าจอความละเอียด Full HD ตามสมัยนิยม แต่ด้วยสเปคที่ยังแรง และความลื่นไหลที่ไม่แพ้รุ่นไหน รวมทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้วและมีจุดขายที่ปากกา S Pen ซึ่งผมว่าสร้างความแตกต่างจากมือถือปกติทั่วไปอย่างชัดเจน และที่หลายๆคนพูดถึงเสมอคือความอึดของแบตเตอรี่ เพราะเจ้า Samsung Galaxy Note 2 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 3030 mAh หามือถือรุ่นไหนมาเทียบความอึดของแบตเตอรี่ได้ยากครับ
สำหรับเรื่องกล้องของ Samsung Galaxy Note 2 ผมเห็นหลายๆคนบ่นว่ากล้องไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ผมงงมากเลยครับเพราะผมว่ากล้องของ Samsung เนี่ยมันใว้ใจได้นะและในรุ่นระดับสูงหลังๆมาเนี่ยกล้องจะดีอย่างน่าพอใจเลยละครับ คุณภาพของรูปดูแล้วพอๆกับ Samsung Galaxy S3 เลยละ เอาละอ่านแบบนี้ไม่เห็นภาพครับ เชิญชมภาพตัวอย่างจากกล้องของ Samsung Galaxy Note 2 กันได้เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Note 2
สำหรับคนที่สงสัยว่าเอ….มันจะวาดบนหน้าจอได้ง่ายอย่างที่ผมบอกจริงๆหรือเปล่าก็ลองดูคลิปนี้นะครับ จะเห็นว่ามันสามารถวาดได้ใกล้เคียงกับวางบนกระดาษทีเดียว
ที่เขียนบทนี้ขึ้นมาเพราะคิดถึงครับ แถมมีคนถามมากันเยอะพอสมควรว่าในวันนี้เจ้า Samsung Galaxy Note 2 ยังน่าใช้อยู่หรือเปล่ากับราคาที่ลดลงมาเหลือ 19900 บาทสำหรับผมคิดว่ายังคุ้มนะ เพราะมันมีจุดเด่นที่รุ่นอื่นไม่มี แต่สิ่งที่รุ่นอื่นมีเจ้า Samsung Galaxy Note 2 ยังสามารถให้คุณได้ครบครับ และทำได้ในระดับที่น่าพอใจด้วย คนที่สนใจเจ้า Samsung Galaxy Note 2 อยู่ก็ลองไปอ่านบทความเก่าที่ผมเคยรีวิว Samsung Galaxy Note 2 เอาใว้ได้นะครับ แต่ที่แน่นอนที่สุดแนะนำไปลองเล่นด้วยตัวเองครับ ขอให้ซื้อมือถือในงาน Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End ได้ถูกใจและไม่เจอปัญหาใดๆไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหนแบรนด์ไหนกันนะครับ^__^