ณ ตอนนี้เมื่อพูดถึงมือถือที่เป็นตัวพ่อแห่งฝั่ง Android ก็คงต้องยกให้ Samsung Galaxy Note 8 อย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ถ้าพูดถึงมือถือที่เป็นตัวพ่อของฝั่ง iOS นั้นก็ยังคงต้องเป็น iPhone 7 Plus อยู่เพราะถึงแม้จะมาสู่ช่วงปลายเจ็นของมันแล้ว แต่ Apple ก็ยังไม่ปล่อย iPhone 8 ออกมาในตอนนี้ ดังนั้นจึงอาจจะยังเป็นเรื่องโอเคถ้าจะมีใครสักคนหยิบเอามวยคู่นี้มาท้าประลองความเร็วกัน และใครสักคนที่ว่านั้นก็คือ @EverythingApplePro จาก Youtube นั่นเอง
การทดสอบครั้งนี้จะทดสอบด้วยการเอา Samsung Galaxy Note 8 และ iPhone 7 Plus มาเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราต้องใช้งานในชีวิตประจำวันไปพร้อมๆ กันเรื่อยๆ โดยแบ่งออกเป็นสองรอบ รอบแรกจะเป็นการเปิดแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นทั้งหมดใหม่แบบไม่มีการเปิดค้างเอาไว้ก่อน ส่วนรอบที่สองนั้นจะเป็นการวนเปิดแอพพลิเคชั่นเดิมตามลำดับอีกครั้ง โดยในครั้งนี้แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นจะถูกเปิดมาจากแบ็คกราวด์แอพพลิเคชั่นเพราะผู้ทดสอบได้เปิดพวกมันเอาไว้แล้วในรอบแรกนั่นเอง
ในแต่ละรอบจะเริ่มด้วยการจับเวลาเพื่อให้เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และจะมีแอพพลิเคชั่นบางแอพที่จะใช้เป็นบททดสอบในการประมวลผลความไวการแปลงไฟล์ต่างๆ ของหน่วยประมวลผลด้วย เช่นแอพพลิเคชั่น Photoshop ที่จะต้องมีการเอ็กซ์พอร์ตไฟล์ระดับ 4K แข่งกันว่าใครไวกว่ากัน
ผลที่ได้นั้นจะเห็นว่าในช่วงต้นถึงช่วงกลาง Samsung Galaxy Note 8 และ iPhone 7 Plus นั้นประมวลผลแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในเวลาใกล้เคียงกันมาก โดยมี iPhone 7 Plus นำ Galaxy Note 8 ไปเพียงไม่กี่สเต็ปเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม Galaxy Note 8 เหมือนจะมาเกิดปัญหาตอนช่วงปลายที่ผู้ทดสอบใช้แอพพลิเคชั่น VideoShop ในการเปิดและแก้ไขวิดีโอซึ่งเป็นไฟล์วิดีโอ 4K ความยาวประมาณ 1 นาทีไฟล์เดียวกันเด๊ะๆ ระหว่างสองเครื่องกลับพบว่า iPhone 7 Plus นั้นสามารถทำการประมวลผลงานวิดีโอ 4K ได้ไวกว่า Samsung Galaxy Note 8 ไปเยอะมาก ชนิดที่เรียกได้ว่า iPhone 7 Plus นั้นวิ่งเข้าสู่การทดสอบรอบที่สองจนทดสอบเสร็จไปสักพักเลยทีเดียวกว่าเจ้า Galaxy Note 8 ถึงจะประมวลผลไฟล์วิดีโอเสร็จ
ผลสรุปที่ออกมาของการทดสอบทั้งสองรอบตามปัจจัยที่ระบุไปด้านบนนั้นออกมาดังนี้
iPhone 7 Plus: รอบแรกเสร็จในเวลา 2 นาที 49 วินาที ส่วนรอบสองนั้นเสร็จสิ้นในเวลา 31 วินาที
Samsung Galaxy Note 8: รอบแรกเสร็จในเวลา 4 นาที 29 วินาที ส่วนรอบสองนั้นเสร็จสิ้นในเวลา 37 วินาที
ต่อไปเป็นการทดสอบที่ 2 ที่ว่าด้วยเรื่องของความไวในการเปิดเครื่อง ซึ่งผลปรากฏว่า iPhone 7 Plus นั้นเปิดเครื่องได้ไวกว่า Galaxy Note 8 เล็กน้อย แต่ทั้งนี้หากเราตัดเอาโลโก้ T-Mobile ตอนต้นออก ผู้ทดสอบก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าความไวในการเปิดเครื่องน่าจะพอๆ กันเลยทีเดียว
ในการทดสอบที่ 3 นั้นผู้ทดสอบเลือกเปิดแอพพลิเคชั่นทีละตัวแทนการเปิดรัวๆ เหมือนรอบแรกเพื่อดูว่าหากเราเลือกเปิดแอพทีละตัว เรือธงบนระบบปฏิการใดจะสามารถตอบสนองการเปิดแอพพลิเคชั่นได้ดีกว่ากัน ผลปรากฏว่าในการทดสอบนี้ Samsung Galaxy Note 8 สามารถทำความเร็วในการเปิดแอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัวได้ไวกว่า iPhone 7 Plus และดูเหมือนว่า Note 8 จะไปแพ้ความไวเมื่อเปิดพวกแอพพลิเคชั่นที่เป็นเว็บเบส (เช่น Netflix และ Google Map) เท่านั้น อย่างอื่นแล้ว Note 8 ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ผู้ทดสอบยังพาเราไปทดสอบความไวในการเปิดบราวเซอร์โดยการใช้งานบราวเซอร์หลักที่มากับเครื่องอย่าง Chrome Browser สำหรับ Galaxy Note 8 และ Safari สำหรับ iPhone 7 Plus ซึ่งในการทดสอบนี้พบว่า iPhone 7 Plus สามารถเปิดเว็บไซต์บน Safari ได้ไวกว่า Chrome ของ Galaxy Note 8 แทบทุกเว็บ เว้นก็แต่เว็บไซต์ Samsung ซึ่ง Note 8 โหลดรีซอร์สมาแสดงผลได้ไวกว่าเท่านั้นเอง
นอกจากนั้นแล้วยังมีการทดสอบผลคะแนนจาก Geekbench และ Antutu Benchmark ซึ่งผลที่ได้นั้น APPDISQUS ได้แคปเจอร์เอารูปมาให้เพื่อนๆ ได้ดูตามด้านล่างนี้เลย
และอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือผลทดสอบความร้อนเต็มที่ในขณะใช้งาน ซึ่งในเรื่องนี้ ผลที่ออกมาคือ iPhone 7 Plus นั้นร้อนกว่า Galaxy Note 8 ถึงเป็นสิบองศาเลยทีเดียว โดยมีความร้อนจากการทดสอบอยู่ที่ 104.1 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 40 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า iPhone 7 Plus นี่บทจะร้อนก็ร้อนจี๋ไปเลย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการทดสอบจาก @EverythingApplePro ในครั้งนี้ แม้ว่าช่องที่ลงจะเป็นช่องที่ออกกึ่งแฟนบอย Apple แต่ผู้ทดสอบก็ยืนยันผลการทดสอบว่าเป็นไปอย่างเป็นกลางตามที่เราได้เห็นกัน ทั้งนี้หลังจากได้ชมคงต้องบอกว่าทั้ง Samsung Galaxy Note 8 และ iPhone 7 Plus นั้นต่างก็เป็นมือถือตัวท็อปของยุคที่น่าสนใจและทำความไวได้ดีในระดับยอดเยี่ยมเมื่อว่ากันที่การใช้งานจริง APPDISQUS ขอฝากไว้สักนิดว่าให้เอาข้อมูลจากวิดีโอนี้เป็นตัวเลือกในการประกอบการตัดสินใจส่วนหนึ่งก็พอนะ เพราะยังไงแล้ว ทั้งสองเครื่องก็ต่างระบบปฏิบัติการกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นหากจะเลือกมือถือเครื่องไหนสักเครื่อง ควรเลือกจากหลายๆ องค์ประกอบควบคู่กันไป และองค์ประกอบที่ควรจะสำคัญกว่าเรื่องความไวเพียงเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่างกันจนแทบไม่รู้สึกเมื่อใช้งานจริงแบบไม่ได้มาเปรียบเทียบกันนั้นควรจะเป็นเรื่องของระบบปฏิการที่ชอบและถนัดเป็นสำคัญ