และแล้ว Samsung ก็เปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ของบริษัทอย่างเป็นทางการกับ Galaxy Tab S10 ซีรีส์ โดยปีนี้มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Galaxy Tab S10+ และ Galaxy Tab S10 Ultra เท่านั้น ไม่มี Galaxy Tab S10 รุ่นธรรมดา ซึ่งยังไม่ทราบเหตุผลแน่ชัดว่าทำไม Samsung เลือกไม่จำหน่ายรุ่นธรรมดาในปีนี้
Samsung Galaxy Tab S10+ และ Galaxy Tab S10 Ultra มีดีไซน์ที่คล้าย ๆ กับ Galaxy Tab S9 ซีรีส์ กล้องหลังคู่ทรงแนวตั้ง มีแม่เหล็กสำหรับปากกา S Pen กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Moonstone Gray และ Platinum Silver
Galaxy Tab S10 Ultra ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ส่วน Galaxy Tab S10+ มีหน้าจอที่เล็กลงมา อยู่ที่ 12.4 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่นมีรีเฟรชเรตหน้าจอ 120Hz ที่พิเศษสำหรับปีนี้คือ Galaxy Tab S10 ได้รับการเคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสงหรือ Anti-Reflection ทำให้ใช้งานในที่แสงสว่างได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของกล้องนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากปีที่แล้วมาก โดยกล้องทั้งคู่มีกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่กล้องหลักความละเอียด 13MP และกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP ส่วนกล้องหน้ารุ่น Ultra มีกล้องหลัก 12MP และกล้อง Ultrawide 12MP ในขณะที่รุ่น Plus มีกล้องหน้า 12MP เพียงตัวเดียว
ความจุแบตเตอรี่ยังคงเหมือนกับ Galaxy Tab S9 โดย Tab S10+ มีแบตเตอรี่ความจุ 10,090mAh ส่วน Tab S10 Ultra มีแบตเตอรี่ความจุ 11,200mAh ทั้งคู่รองรับชาร์จไว 45W
จุดเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ด้านฮาร์ดแวร์จะอยู่ที่ชิปเซ็ต โดย Samsung เลือกใช้ชิป MediaTek Dimensity 9300+ ซึ่งในแง่ของประสิทธิภาพนั้น Samsung ยืนยันว่าเหนือกว่า Galaxy Tab S9 อย่างแน่นอน โดยมี CPU ที่แรงขึ้น 18%, GPU แรงขึ้น 28% และ NPU แรงขึ้น 14%
จุดเด่นอีกอย่างคือการรองรับ Galaxy AI ที่มีฟีฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น Circle to Search, Note Assist for summarizing text และ Sketch to Image เป็นต้น โดย Galaxy Tab S10+ เริ่มต้น $1,000 หรือราว 33,000 ส่วน Galaxy Tab S10 Ultra เริ่มต้น $1,200 หรือราว 39,000 บาท
ที่มา Android Authority