Samsung Galaxy Tab S6 แท็บเล็ตระดับสูงของ Samsung ในระบบ Android และตัวนี้มันก็ได้มาถึงรุ่นที่ 6 กันแล้ว และยังคงความโดดเด่นเช่นเดิมนั้นคือ มาพร้อมกับปากกาเขียนหน้าจอที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์หน้าจอทัชสกรีน “S-Pen” เรามาเริ่มดูกันที่ความเป็นแท็บเล็ตของ Tap S6 ก่อนดีกว่าครับ โดย Samsung นำเข้าเจ้า Galaxy Tab S6 มาสองรุ่นในสามสีครับตามรายละเอียดต่อไปนี้นะครับ
- รุ่นแรม 6GB กับรอม 128GB ราคา 25,900 บาท มีสามสี Mountain Grey, Rose Blush และสีพิเศษ Cloud Blue ที่จะเป็นสีที่จำหน่ายผ่านทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว
- แรม 8GB และรอม 256GB ราคา 28,900 บาท มีสองสี Mountain Grey, Rose Blush
ตัวเครื่องและอุปกรณ์
Samsung Galaxy Tab S6 เป็นแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล สีสันสดจากหน้าจอแบบ SuperAMOLED ภาพสวยงามครับ รองรับการเขียนหน้าจอด้วยปากกา S-Pen ที่ให้มาคู่กัน และพัฒนามาเพื่อการใช้งานคู่กันอย่างเต็มที่
ปากกา S-Pen ก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่สุด ความสามารถเทียบเท่าปากกาสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy Note 10 ที่ใช้ได้ทั้งขีด เขียน และสั่งงานระยะไกลกับตัวเครื่องแท็บเล็ตด้วยสัญญาณบลูทูธ รวมถึงมีการใส่เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวของตัวปากกา เพื่อใช้ควบคุมการทำงานของแท็บเล็ตด้วยการเคลื่อนไหวของปากกาครับ เช่นการสะบัดปากกาไปซ้ายหรือขวา เพื่อเปลี่ยนหน้าสไลดของเอกสาร รวมถึงตัวอย่างการใช้งานปากกาเป็นรีโมทควบคุมกล้องแบบระยะไกลเป็นต้น
แถมตัวปากกา S-Pen สำหรับ Galaxy Tab S6 ยังมาในขนาดไซด์เท่าปากกาจริงอีกด้วย ใช้งานได้ในระดับโปรครับ
รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรงครับ เป็นระบบสแกนใหม่ของ Samsung สแกนได้ไวขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ มากครับ และรองรับการสแกนเข้าใช้งานด้วยใบหน้าได้เช่นกัน
เรื่องของเสียงบอกได้เลยว่าเป็นอุปกรณ์ที่ระบบเสียงสุดยอดอีกตัวหนึ่ง ใช้ลำโพงมากถึงสี่ตัวที่พัฒนารวมกับ AKG ตีตราสัญลักษณ์การันตีเรื่องเสียงไว้ด้านหลังตัวเครื่องเลยทีเดียวครับ ตัวเครื่องเองก็บางแค่ 5.7 มิลลิเมตร แต่ใส่แบตเตอรี่เข้ามาให้ถึง 7,040 mAh ตัวเครื่องภายนอกเรียกว่าสุดยอดทั้งด้านมาตรฐานและความสวยงาม แถมเบามากเพราะมีน้ำหนักเพียง 420 กรัมเท่านั้นครับ
ด้านหลังเรียบ แต่มีการออกแบบให้มีพื้นที่จับยึดตัวปากกา S-Pen เอาไว้ด้วยแรงแม่เหล็ก และเป็นการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายเข้าไปในตัวปากกาได้ด้วย ซึ่งการออกแบบตรงจุดนี้ผมว่ามันยังมีแรงยึดไม่มากพอนะครับ ตัวปากกาเลื่อนออกจากตำแหน่งได้ง่ายไปสักหน่อย แนะนำให้หาเคสเฉพาะของมันมาใช้ด้วยกัน จะยึดตัวปากกาได้แน่นหนามากขึ้นครับ
ใต้สันเครื่อง มีพินและช่องล็อคสำหรับเชื่อมต่อกับเคสและเคสคีย์บอร์ดของมันโดยเฉพาะครับ เอามาแปะทับติดกันและเชื่อมสัญญาณพร้อมใช้งานได้เลย
ด้านบนซ้ายเป็นตำแหน่งของกล้องหลังแบบคู่ ซึ่ง Samsung Galaxy Tab S6 นับเป็นแท็บเล็ตตัวแรกที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพเลนส์ไวด์มุมกว้างครับ ทำให้เราสามารถนำไปใช้ถ่ายรูปเก็บรายละเอียดกว้างๆ ได้มากกว่าเดิม
รองรับการใส่ซิมการ์ด สามารถรับสัญญาณ 4G และโทรออกรับสายได้ในตัวเหมือนโทรศัพท์ครับ รวมถึงด้านหลังสล็อตใส่ซิม จะเป็นสล็อตใส่ Micro SD card เพิ่มหน่วยความจำเครื่องได้ด้วยอีก 1TB
พอร์ตชาร์จใต้เครื่องเป็นแบบ USB Type-C สามารถต่อชาร์ตพลังงานรวมถึงเชื่อมต่อกับ PC เพื่อโอนถ่ายข้อมูลและเป็น OTG ที่สามารถโอนย้ายไฟล์ผ่านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกได้ และถ้าเราไปเสียบกับอุปกรณ์ที่พลังงานไฟน้อยกว่าเช่นสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสริม มันก็จะเป็นการชาร์จไฟออกไปให้กับอุปกรณ์นั้นได้ด้วยครับ
ตัวทดสอบของเรามาแค่ตัวเครื่อง, ปากก S-Pen และตัวชาร์จไฟเท่านั้นครับ จึงไม่รู้ว่าภายในกล่องของ Samsung Galaxy Tab S6 แบบครบชุดภายในกล่อง จะมีอะไรให้มาบ้างนะครับ แต่ต้องบอกว่าตัวเครื่องของ Galaxy Tab S6 สวยมากและดูทะมัดทะแมง เหมาะกับลุคคนทำงานมากๆ ครับ ก็เข้ากันดีกับฟังก์ชั่นการทำงานที่มันถูกออกแบบมาครับ เพราะเจ้าตัวนี้ฟังก์ชั่นด้านการทำงานเยอะซะยิ่งกว่าเรื่องความบันเทิงซะอีก
การใช้งาน
มาพูดเรื่องของการใช้งานด้านความบันเทิงก่อน อย่างที่บอกครับ หน้าจอของ Tab S6 สีสวยมากเพราะเป็น SuperAMOLED และเจ้าจอชนิดนี้ก็เป็นจอที่ดีที่สุดแล้วสำหรับงานด้านความบันเทิง เวลาดูหนัง ดูมิวสิควีดีโอ หรือการเล่นเกม ภาพสวย มุมมองกว้าง และยังมีลำโพงเสียงดังฟังชัดระดับนี้ ภาพและเสียงของ Tab S6 จะไม่ทำให้ใครผิดหวังครับ
ประสิทธิภาพการประมวลผลก็ตัวท็อปในวันนี้ของ Android ครับ หน่วยประมวลผลใช้ทาง Samsung เลือกใช้เป็นของ Qualcomm ในรุ่น Snapdragon 855 แรงครับ ส่วนแรมกับรอมมีมาให้สองรุ่น 6GB/128GB และ 8GB/256GB รุ่นไหนก็ได้ครับ แรม 6 กับ 8 ให้ความรู้สึกใช้งานต่างกันไม่มาก แต่รอม 128GB และ 256GB อันนี้คือสิ่งที่ต้องใส่ใจ ใช้เก็บข้อมูลหรือลงแอพลงเกมมากแค่ไหน เอาเรื่องของรอมเป็นสำคัญดีกว่าครับ
ทั้งเรื่องภาพ เสียง และประสิทธิภาพของชุดประมวลผล ทำให้ Galaxy Tab S6 เป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานด้านความบันเทิงได้เต็มที่แน่นอนครับ ผมใช้แล้วติดเลยเพราะเครื่องมันพกง่ายด้วย เบาและบางได้ใจมากๆ
ในด้านการทำงานต้องขอบคุณ Samsung ที่ใส่ฟังก์ชั่นเข้ามาให้เพียบเลยครับ เช่นโหมดแบ่งหน้าจอทำงานที่เรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นได้หลายแอพพร้อมๆ กัน เรียออกมาห้าถึงหกแอพ มันยังทำงานได้ปกติเลยครับ
แบ่งหน้าจอใช้งานได้ทั้งแบบแบ่งครึ่งจอ และทั้งแบบเรียกใช้งานเป็นหน้าต่างป๊อบอัพไปได้พร้อมๆ กัน ทำให้การทำงานโดยการอ้างอิงหลายๆ แหล่งข้อมูลพร้อมกันทำได้สะดวกมากขึ้นครับ
มีบริการเสริมสำหรับผู้ใช้งาน ทั้งแหล่งโหลดแอพแบบสิทธิพิเศษ Galaxy Store ที่ให้โหลดแอพใช้งานจากทาง Samsung และพาร์ทเนอร์ที่เขาออกแบบมาเพื่อระบบของ Samsung โดยตรง อย่าง Adobe Premiere Rush รุ่นพิเศษสำหรับซัมซุงโดยเฉพาะก็อยู่ในนี้ครับ
รวมถึงยังมีแอพสิทธิพิเศษหลังการขายต่างๆ เราได้ใช้งานกันทั้งหมดใน Galaxy Tab S6 ครับ เช่น Galaxy Gifts ตัวนี้พลาดไม่ได้เลยละ ^^
ฟังก์ชั่นใน Galaxy Tab S6 เต็มไปด้วยของใหม่ของ Samsung ครับ เช่นระบบการบันทึกหน้าจอเป็นวีดีโอตัวใหม่ มันมีความสามารถที่ดีและมีความเสถียรสูงเมื่อเทียบกับแอพอัดหน้าจอของผู้พัฒนาภายนอกที่เราต้องติดตั้งเอง มันเลือกความละเอียดของวีดีโอที่บันทึกได้ (สูงสุด FullHD) เลือกแหล่งเสียงที่เราต้องการให้เข้าไปในวีดีโอได้ เช่นเสียงจากสื่อที่เราเปิดจากแท็บเล็ตหรือเสียงจากภายนอกที่รับได้จากตัวไมค์เช่นเสียงพูดของเรา และใส่ภาพจากกล้องหน้าเข้าไปในวีดีโอด้วยครับ
และเรายังสามารถวาดเหรือเขียนสิ่งที่ต้องการลงไปในวีดีโอขณะบันทึกได้ด้วย หยิบปากกา S-Pen มาทำเครื่องหมายประกอบความเข้าใจในวีดีโอได้เลย ^^
ความสามารถของตัวปากกา S-Pen มันไม่ได้ยอดเยี่ยมเพียงแค่เรื่องของคุณภาพเท่านั้นครับ แต่มันถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งเพราะความเข้ากันกับระบบที่ทาง Samsung ออกแบบมาให้ใช้คู่กันกับเครื่องที่รองรับ มันไม่ใช่แค่การใช้งานร่วมกันได้ดี แต่มันเข้าขากันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันกับตัวอุปกรณ์หลักมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ฉะนั้นตัวปากกาจึงมีบทบาทและความสามารถที่ถูกใส่เข้ามาในทุกๆ การทำงานของ Tab Sุ เลยครับ สร้างงานบันทึก แก้ไขเอกสาร การมาร์คเครื่องหมายลงบนปฏิทินด้วยมือ แบบนี้หลายคนชอบครับ ^^
แม้แต่ในเรื่องการถ่ายภาพ ไม่ได้ใช้ปากกาไว้แค่เป็นรีโมทควบคุม แต่ใช้ปากกาเป็นตัวสร้าง AR ขึ้นมาในโลกจริงได้เหมือนเสก อยากวาดอะไรใส่ตรงไหน หรือวาดใส่ใคร ตัวระบบ AR+S-Pen+Tab S6 มันรวมกันเสกขึ้นมาให้คุณได้ในฟังก์ชั่น AR Doodle ครับ สิ่งที่สร้างขึ้นมาจะอยู่ในตำแหน่งเดิมของโลกจริง ไม่ว่าจะแพนกล้องหรือหน้าจอไปทางไหนก็ตามครับ
ในด้านการใช้งานยังไม่หมดง่ายๆ ครับ แม้จะจบรีวิวนี้ผมก็เชื่อว่าผมไม่สามารถนำมารีวิวสรรพคุณมันได้หมด แต่ยังไงต้องขอเอ่ยถึงไฮไลค์อีกด้านนึงของ Galaxy Tab S6 มันคือ “การเชื่อมต่อ” ครับ
ตัวระบบของ Galaxy Tab S6 ทำมาให้เหมือนกับเป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางของชีวิต มันสามารถสั่งงานอุปกรณ์ iOT ที่รองรับระบบของ Samsung ได้ทั้งหมด มีตัว Bixby สำหรับใช้เป็นผู้ช่วยคำสั่งเสียง และมีโหมดการเชื่อมการติดต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับตัวแท็บเล็ต ให้สามารถรับสาย โทรออก และรับการแจ้งเตือนข้ามอุปกรณ์ได้ด้วยการล็อคอิน Samsung Account เดียวกันเท่านั้นครับ
เราสามารถโทรออกจาก Tab S6 ด้วยซิมการ์ดที่ใส่อยู่ในเครื่อง Samsung Galaxy ที่รองรับระบบนี้ (ตัวทดสอบผมใช้ Galaxy Note 10) ทุกอย่างจะเหมือนว่ามีซิมการ์ดหมายเลขนั้นอยู่ในเครื่อง Tab S6 เลยครับ ทั้งโทรออกและรับสายโทรเข้า มีคนโทรเข้ามายังหมายเลขซิมบนสมาร์ทโฟน มันจะดังที่ตัวแท็บเล็ตให้เรารับสายแทนได้เลย
และตัว Galaxy Tab S6 รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกแทบทั้งหมดครั้บ คีย์บอร์ด, เมาท์, หน่วยความจำภายนอก รวมถึงจอแสดงผล เราสามารถทำให้ Galaxy Tab S6 กลายเป็นโน๊ตบุ๊คได้อยู่แล้วจากการต่อเมาท์และคีย์บอร์ด แต่เรายังทำให้ Galaxy Tab S6 เป็น PC เดสท็อปได้ด้วยแค่เพียงต่อจอมอนิเตอร์
ในตัว Galaxy Tab S6 จะเหมือนมีระบบใส่เข้ามาให้สองระบบเลยละครับ หนึ่งระบบคือตัว Android ตามปกติที่เราคุ้นชินกัน แต่อีกหนึ่งตัวเป็นระบบที่ทาง Samsung ออกแบบให้มาครอบทับไว้ เพื่อให้หน้าตาและการใช้งานของ Tab S6 กลายเป็น Notebook และ PC ที่เราคุ้นชิน
การทำงานที่ผมต้องบอกว่าตั้งใจทำให้เหมือนกับระบบ Windows และ Mac ที่มีเดสท็อป เราสามารถเปิดโปรแกรมเป็นหน้าต่างได้หลายๆ หน้าต่าง หน้าตาเหมาะสมกับการใช้งานร่วมกันกับเมาท์และคีย์บอร์ด ทำให้เกิดประสบการณ์การใช้งานแบบที่เราคุ้นกันบน Notebook และ PC แต่อันนี้ใช้บน Android และรันแอพของระบบ Android แทน
ซึ่งเจ้าโหมดนี้มันก็คือ Samsung Dex นั้นเองแหละครับ เป็นโหมดที่เราสามารถใช้ได้เมื่อต้องการ ทั้งขณะใช้บนหน้าจอของ Galaxy Tab S6 เอง และเมื่อเสียบเชื่อมต่อจอมอนิเตอร์ภายนอกแบบภาพด้านล่าง
และไม่จำเป็นที่ตัว Tab Sุ6 ต้องทำงานอย่างเดียวกับ Samsung Dex บนหน้าจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อนะครับ มันแยกทำงานกันได้แบบอิสระ ทำให้เหมือนเรามีอุปกรณ์ใช้งานเพิ่มขึ้นมาทันทีอีกหนึ่งอุปกรณ์เลยครับ
เปิด Tab S6 ดูหนังดูคลิป ฟังเพลงไป ส่วนหน้าจอก็ใช้ทำงานไปพร้อมๆ กัน จากข้อมูลเครื่องเดียวกันแต่ทำงานได้สองทางพร้อมๆ กันเลยครับ ยอดเยี่ยมมากๆ ฟังก์ชั่นนี้เพื่อคนทำงาน
ในด้านประสิทธิภาพตัวปากกา ไม่ต้องห่วง นี้คือ S-Pen ฉะนั้นการใช้งานในระดับละเอียดอย่างแนวดิจิตอลเพนติ้งก็สามารถใช้ทำงานได้จริงจังครับ
ฉะนั้นในเรื่องของการใช้งานจะเห็น Samsung เขาทำโปรดักส์รุ่นใหญ่ออกมา ไม่ใช่แค่ขายความแรงและความบันเทิงเท่านั้น แต่จะมีฟังก์ชั่นสำหรับการทำงานออกมาด้วยเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในรุ่น Tab S6 ตัวนี้ครับ
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณไร้สายต่างๆ ทดสอบใช้งานไม่มีปัญหาครับ จับตำแหน่งได้แม่นยำรวดเร็ว เชื่อมต่อ 4G และ Wi-FI ได้เร็วแรงไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานประมาณสองวันครับในแบบทั่วๆ ไป ถ้าเปิดหน้าจอทำงานต่อเนื่องจากที่ทดสอบใช้งานหนักๆ มา จะอยู่ได้ประมาณ 8 ชั่วโมงครับ ถือว่าอึกใช้ได้เลย
กล้องถ่ายภาพ
แท็บเล็ตเครื่องแรก ที่มาพร้อมกับระบบกล้องคู่ 13MP และ 5 MP ซูมดิจิทัลได้ 8x และมีเลนส์ไวด้ Ultra Wide มุมกว้าง ก็แปลกใหม่ดี และมันก็มีความสำคัญนะ เพราะเจ้าเลนส์ไวด์ตัวนี้มันถ่ายวีดีโอได้ และตัวมันเองหน้าจอใหญ่ ตัดต่อวีดีโอได้ดี ฉะนั้นการเก็บภาพได้หลากหลายระยะ หลายมุมมอง น่าจะสำคัญต่อการใช้งานนะครับ
คุณภาพของภาพที่ได้ถือว่าทำได้ดีครับในที่แสงสว่างเพียงพอ ถ่ายกลางแจ้ง ถ่ายวิว ถ่ายคน คุณภาพกล้องสอบผ่านครับ เป็นแท็บเล็ตที่ถ่ายภาพได้ดีเลยละ เพราะมันเป็นแท็บเล็ตที่มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพยกมาจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ๋ของแบรนด์เลย ทาง Samsung ใส่เข้ามาให้ทั้งโหมด “ไลฟ์ โฟกัส” การทำหน้าชัดหลังละลาย มีตัวจับซีนสิ่งที่ถ่ายและปรับแต่งภาพให้เราอัตโนมัติ และมีตัวช่วยจัดคอมโพสภาพให้เหมาะสมให้ด้วยครับ
หน้าชัดหลังเบลอจากแท็บเล็ต มันทำได้ดีครับ ด้วยกล้องหลังสองตัวและโหมด Live Focus ที่เราสามารถปรับรูปแบบการเบลอของฉากรอบข้างได้ด้วย
รวมถึงมีโหมดภาพถ่ายกลางคืน สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อีกด้วย ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ผมว่ายังคมไม่เท่างานภาพจากสมาร์ทโฟนของ Samsung เองครับ แต่ก็เรียกว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีโหมดถ่ายภาพสำคัญๆ มาให้ครบดี
เป็นกล้องแท็บเล็ตที่ฟังก์ชั่นมาเยอะครับ คุณภาพตัวกล้องใช้ได้ ผมเอาตัวอย่างภาพในหลายๆ โหมดมาฝากกันข้างล่างนี้ครับ
สรุปท้ายรีวิว
ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลสูง หน้าจอสวย และลำโพงเสียงดีมากครับ แถมมีปากกาเขียนจอที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบัน ฟังก์ชั่นการใช้งานด้านปากกาก็ยกมาชุดใหญ่จาก Galaxy Note 10 Series
ด้วยตัวฮาร์ดแวร์ บวกกับ ซอฟท์แวร์ฟังก์ชั่นที่ Samsung ออกแบบมาให้ Galaxy Tab S6 ตัวนี้จึงยอดเยี่ยมทั้งงานบันเทิง และเอามาใช้ทำงานแบบจริงจังครับ เป็นแท็บเล็ตที่ไม่ได้เอามาไว้เล่นเพียงอย่างเดียว ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เชื่อมต่ออุปกรณ์ และไปจนถึงการทำงานระดับสูงด้วยโหมด Samsung Dex กลายเป็น PC, Notebook ได้ในตัวครับ