นาย อีแจยง (Lee Jae-yong) รองประธานกรรมการบริษัทซัมซุงอิเล็คทรอนิกส์และทายาทโดยชอบธรรมของบริษัทในเครือซัมซุงทั้งหมดถูกศาลเกาหลีใต้ตัดสินให้มีความผิดจริงในข้อหาเบิกความเท็จ ฉ้อโกง และติดสินบนเจ้าพนักงาน โดยมีโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี
นายอีแจยง ถูกคณะตุลาการศาลแขวงกลางของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ตัดสินให้มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา โดยนายอีแจยง ผู้ซึ่งปัจจุบันนี้อายุ 49 ปีและเป็นบุตรชายของนาย อีกอนเฮว (Lee Kun-hee) ประธานสูงสุดของกลุ่มบริษัทซัมซุงได้ถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามรายงานข่าวที่มีเสนอไปก่อนหน้านี้
ตามประเพณีของเกาหลีใต้แล้ว โดยปกติการรับมอบอำนาจการบริหารต่อจากผู้ปกครองนั้นจะไม่เกิดขึ้นต่อทายาทจนกว่าบิดาของนายอีแจยง จะอายุครบ 75 ปีบริบูรณ์หรือเสียชีวิตไปก่อนวัยที่ระบุ จึงทำให้ ณ ตอนนี้ นายอีแจยง ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะของทายาทหรือผู้เตรียมรับมรดกและอำนาจต่อจากผู้บริหารสูงสุดคนปัจจุบันเท่านั้น
นายอีแจยง และผู้บริหารระดับสูงกลุ่มซัมซุงอีก 4 คนถูกตั้งข้อกล่าวหาในโทษฐานติดสินบนอดีตประธานาธิปดีเกาหลีใต้อย่างปาร์กกึนเฮย (Park Geun-hye) และคนสนิทของเธอชื่อเชวซุนซิล (Choi Soon-sil) โดยข้อกล่าวหาระบุว่านายอีแจยง และพวกได้ติดสินบนเป็นเงินจำนวน 4.3 พันล้านวอน หรือประมาณ 1,270,000,000 บาท (หนึ่งพันสองร้อยเจ็ดสิบล้านบาท) ให้กับองค์กรที่ควบคุมโดยนางเชวซุนซิล เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
ซัมซุงคือกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ ที่ครอบครองกิจการตั้งแต่ธุรกิจมือถือ ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจเครื่องจักรกล ไปจนถึงเครื่องบินรบของกองทัพ กอปรกับความเคร่งเรื่องการคอร์รัปชั่นในประเทศนี้ที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ทำให้แม้ผู้ต้องหาจะใหญ่ระดับทายาทนักธุรกิจผู้เตรียมสืบทอดกิจการที่หากล้มจะสร้างความปั่นป่วนให้กับรายรับประเทศ และอดีตประธานาธิปดีหญิงที่มีอิทธิพลสูง ทั้งคู่และพรรคพวกก็ยังต้องถูกตัดสินตามสมควรตามกฏหมาย