ใครที่เป็นแฟนของ Samsung และเฝ้ารอการมาถึงของ One UI 7 คงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่กันหลายต่อหลายครั้ง เพราะล่าสุดข่าวการอัปเดตนี้ถูก สั่งหยุดชั่วคราว อย่างกะทันหัน หลังจากเพิ่งเริ่มปล่อยให้ใช้งานได้ไม่ถึงสัปดาห์เต็ม
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างแรง เพราะ One UI 7 คือหนึ่งในอัปเดตที่ใหญ่ที่สุดของ Samsung ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการยกเครื่องทั้งฟีเจอร์และรูปลักษณ์ใหม่ แต่แทนที่ผู้ใช้จะได้สัมผัสของใหม่อย่างราบรื่น กลับต้องเจอกับปัญหาทับซ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ย้อนดูดราม่าตั้งแต่ต้นปี
One UI 7 พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 15 ซึ่ง Google Pixel ได้อัปเดตกันไปตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยทั่วไป Samsung มักจะปล่อยเบต้าตามหลังไม่นาน แต่ในปีนี้กลับเงียบกริบทั้งเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ไม่มีแม้แต่คำอธิบายจากบริษัท
กระทั่ง 5 ธันวาคม 2024 จึงเริ่มเปิดเบต้าสำหรับ Galaxy S24 และทยอยอัปเดตเพิ่มเติมในเดือนมกราคม ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่าน Galaxy S25 series เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025
ผู้ใช้เริ่มมีความหวังว่า Samsung จะปล่อยอัปเดต One UI 7 ให้กับรุ่นก่อนหน้านี้ในไม่ช้า แต่ความหวังนั้นก็ต้องพังลง เพราะเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือนก็ยังไร้วี่แวว
ในที่สุด Samsung ก็ประกาศเมื่อ 5 มีนาคม ว่าจะเริ่มปล่อยให้ใช้งานในรุ่นอื่น ๆ ตั้งแต่ 10 เมษายน เป็นต้นไป โดยเริ่มจาก Galaxy S24 series, Galaxy Z Fold 6 และ Galaxy Z Flip 6 แต่เพียงแค่ 4 วันถัดมา เหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 ที่มีการพบปัญหาบั๊กจากเฟิร์มแวร์ของ Galaxy S24 ในเกาหลี ซึ่งนำไปสู่การระงับแผนการปล่อยอัปเดตในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงไทยและจีนด้วย
Samsung ก็หยุดการปล่อยอัปเดตอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าเจอบั๊กที่ต้องแก้ไข
แม้จะมีคำยืนยันในวันถัดมาว่าหลังการดูแลระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาปล่อยอัปเดต “ในเร็ว ๆ นี้” แต่ความผิดหวังจากการเลื่อนครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้ One UI 7 กลายเป็นหนึ่งในอัปเดต Android ที่น่าจดจำในทางลบที่สุด
ไม่ใช่แค่ความล่าช้า…แต่มันส่งผลเป็นลูกโซ่
ความล่าช้าครั้งนี้ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้ One UI 7 เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนา One UI 8 ที่เพิ่งมีภาพหลุดออกมาในวันเดียวกันกับที่หยุดปล่อย One UI 7 อย่างเป็นทางการอีกด้วย
ทั้งที่ Samsung เพิ่งสร้างความน่าเชื่อถือด้วยนโยบายอัปเดตนาน 7 ปีสำหรับมือถือระดับ flagship และ mid-range แต่เมื่อการปล่อยอัปเดตล่าช้าขนาดนี้ ก็เลยกลายมาเป็นคำถามสำคัญว่า “การรับประกันระยะเวลานานจะมีความหมายอะไร ถ้าอัปเดตช้าขนาดนี้?”
Samsung อาจไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกใน One UI รุ่นถัดไป เพราะในโลกของ Android ทุกวันนี้ หลายแบรนด์เริ่มใช้ “ระยะเวลาอัปเดตที่ยาวนาน” มาเป็นจุดขายเหมือนกันมากขึ้น แต่หากแค่ประกาศตัวเลขสวยหรู เช่น อัปเดตได้นาน 5 หรือ 7 ปี แต่ในทางปฏิบัติกับปล่อยอัปเดตได้ช้าจนคนใช้รอเก้อ ก็อาจทำให้ความรู้สึกเชื่อมั่นของผู้ใช้ลดลง และทำให้คำสัญญานั้นหมดความหมายไปในที่สุด
ข้อมูลบางส่วน ที่มา : Digital Trends