Samsung เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยทำผลประกอบการไปได้ที่ 58.48 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.75 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลประกอบการที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
โดย Samsung ได้ชี้แจงสาเหตุของผลประกอบการที่ตกลงนี้ว่าเป็นเพราะยอดการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือและหน้าจอมือถือที่ลดลงกว่าเดิม ในขณะที่ยอดขายทางฝั่งชิปหน่วยความจำนั้นยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันก่อนหน้านี้
ทั้งนี้แผนก IT & Mobile ของ Samsung ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของมือถือ Galaxy ทั้งไลน์นั้นทำยอดขายได้ลดลงไป 20% จาก 30 ล้านล้านวอน หลือ 24 ล้านล้านวอนเมื่อเทียบผลประกอบการรอบปี โดยสาเหตุหลักของยอดขายที่ลดลงนั้นเป็นเพราะคู่แข่งในตลาดที่มีความน่าสนใจและหลากหลายขึ้น กอปรกับมือถือตลาดล่างหลายๆ ตัวของแบรนด์นั้นเริ่มถึงอายุผลิตภัณ์และต้องค่อยๆ ลาจากตลาดกันไปแล้ว
ทั้งนี้ Samsung เชื่อว่ายอดขายของทางฝั่งสมาร์ทโฟนของค่ายนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นในรอบปีหลังนี้จากการเปิดจำหน่าย Galaxy Note 9 ก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3
แผนกที่ยังคงทำผลประกอบการได้ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลายนั้นต้องยกให้กับแผนกชิตเซ็ตและชิ้นส่วนต่างๆ โดยสามารถทำยอดขายชิปหน่วยความจำ NAND และ DRAM ไปได้สูงสุดทั้งทางด้านจำนวนและกำไร โดยทำรายได้ไปได้คิดเป็น 37% ของยอดขายทั้งหมด และเกือบ 80% ของกำไรรวมประจำไตรมาส