นำเสนอสมาชิกใหม่สู่ตลาดอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลด้วย SSD แบบติดตั้งในตัวเครื่องและแบบพกพา รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมประสิทธิภาพระดับโลก แซนดิสก์ คอร์เปอเรชั่น (NASDAQ: SNDK) ผู้นำด้านโซลูชั่นอุปกรณ์การเก็บข้อมูลแบบแฟลช ก้าวสู่ตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD สำหรับผู้บริโภคในตลาดค้าปลีกพร้อมเปิดตัว SSD รุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่ม SSD แบบพกพา ไม่ว่าจะเป็นรุ่น SanDisk Extreme 500 ในขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพา หรือรุ่น SanDisk Extreme 900 ซึ่งเป็น SSD แบบพกพา ในรูปแบบ Type C ที่เร็วที่สุดในโลกรวมถึงรุ่น SSD Plus ไดร์ฟ SSD 2.5 นิ้ว รุ่นใหม่ ซึ่งให้ความคุ้มค่าต่อเงินของผู้บริโภคด้วยความเร็วขึ้นกว่าฮาร์ดดิสก์เดิมสูงสุดถึง 23 เท่า ที่จะมาช่วยให้ชีวิตใหม่แก่คอมพิวเตอร์ตัวเดิม
แซนดิสก์พร้อมนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ตลอดมา โดยล่าสุดได้ขยายตัวสู่นวัตกรรมใหม่ที่ครอบคลุมสู่กลุ่ม SSD เพื่อตอบสนองสู่ความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊คที่ต้องการความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่กลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งชำนาญด้านเทคโนโลยีที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีความเร็วมากขึ้นเพื่อรองรับเกมส์ใหม่ๆในปัจจุบัน หรือแม้แต่กลุ่มผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปหรือสื่อมวลชนที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานด้านสื่อมัลติมีเดียและโปรแกรมด้านธุรกิจต่างๆ
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชมากว่า 27 ปี แซนดิสก์จึงมีองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่งอย่างมาก แซนดิสก์ได้เริ่มผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่ม SSD มาตั้งแต่ปี 1991 จนถึงปัจจุบันโดยได้คิดค้นและจดสิทธิบัตรด้านนวัตกรรมมาจำนวนมาก 4 ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลเทคโนโลยีใหม่แบบ 3D Memory แซนดิสก์นับเป็นผู้นำในกลุ่มอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ซึ่งรวมถึงการมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม SSD ที่หลากหลายมากที่สุด ไม่ว่าจะเพื่อเสริมประสิทธิภาพของเซิฟเวอร์ในศูนย์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ รวมไปถึงลูกค้ากลุ่ม SSD รายย่อย แซนดิกส์จึงเป็นบริษัทที่ทำการผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเมื่อเร็วๆนี้ แซนดิกส์ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในวงการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีการผลิต SSD แบบครบวงจร โดยการรวบรวมทุกกระบวนการผลิตไว้ในที่เดียวกัน จึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างแท้จริง
เจษฎา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่ม SSD กำลังกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยคุณสมบัติเด่นในการเข้าถึงข้อมูลและการบูทเครื่องที่เร็วกว่า แต่กลับใช้พลังงานที่น้อยกว่า จึงไม่เพียงเหมาะแก่การใช้กับโน้ตบุ๊คเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านหรือใช้เพื่อการเล่นเกมส์ ที่ต่างเริ่มหันมาใช้ SSD เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มช่างถ่ายภาพและช่างถ่ายวิดีโอมืออาชีพ รวมถึงผู้ทำงานด้านกราฟฟิกต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งและหลากหลายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD ของแซนดิสก์ ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดของ SSD สู่กลุ่มต่างๆในท้องตลาดได้อย่างครอบคลุม
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม SSD สำหรับตลาดค้าปลีก ในปัจจุบัน ประกอบด้วย รุ่น SanDisk® SSD PLUS, SanDisk Ultra® II SSD และ SanDisk Extreme® Pro SSD ซึ่งใช้สำหรับติดตั้งภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีรูปแบบพกพาและใช้ภายนอกตัวเครื่องซึ่งอยู่ในกลุ่ม SSD แบบพกพา ในซีรี่ย์ของ SanDisk Extreme®
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 900 – SSD แบบพกพารุ่นใหม่ พร้อมประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบัน
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 900 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความจุของข้อมูล โดยสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 1.92 TB และยังทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์1พกพาโดยทั่วไปสูงสุด 9 เท่าตัว ผู้ใช้งานจึงสามารถทำงานได้อย่างง่ายดายแม้จะมีวิดีโอความละเอียด 4K มีการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงหรือการสร้างผลงานกราฟฟิกที่มีไฟล์ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 900 ยังมีขนาดที่สะดวกในการพกพาและมีความคงทนจากกรอบอะลูมิเนียม ผู้ใช้งานจึงสามารถพกพาไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสบาย โดยมีคุณสมบัติด้านการเข้าถึงหรือแชร์ไฟล์ดิจิตอลขนาดใหญ่ได้เพียงไม่กี่วินาทีด้วยความเร็วสูงสุด 850 MB/วินาที จึงช่วยลดเวลาในการทำงาน ผู้ใช้สามารถเร่งทำงานตามแผนได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลถึงขนาดไฟล์ นอกจากนี้ยังมีสาย USB Type-C และ Type-A เพื่อความยืดหยุ่นด้านการทำงานในแต่ละระบบ
SanDisk Extreme 900 SSDs จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคม ด้วยความจุขนาด 480 GB 960GB และ 1.92TB ในราคา18,500 บาท 27,500 บาท และ 45,500 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกัน 3 ปี
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 500 – ขนาดกะทัดรัดแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 500 มีขนาดที่เล็กเพียงครึ่งหนึ่งของสมาร์ทโฟน แต่มาพร้อมความเร็วที่สูงกว่าฮาร์ดดิสก์1พกพาทั่วไป สูงสุด 4 เท่าตัว ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายโอนไฟล์วิดีโอหรือภาพได้ด้วยความเร็วสูงสุด 415MB/วินาที** โดยให้ความจุสูงถึง 480 GB* แต่กลับมีน้ำหนักที่เบา ทนทานต่อการใช้งาน และให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและความปลอดภัยของข้อมูลตลอดระยะเวลาที่เดินทาง ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา มีความทนทาน ด้วยสไตล์สีดำที่ให้ความทันสมัยพร้อมกันชนที่ทำจากยาง รวมถึงวงแหวนที่ออกแบบมาสำหรับการคล้องกับกระเป๋า
SanDisk Extreme 500 Portable SSDs พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก ด้วยความจุขนาด 120 GB, 240 GB และ 480 GB ในราคา 4,500 บาท 7,000 บาท และ 11,500 บาท ตามลำดับสำหรับ พร้อมการรับประกัน 3 ปี
SanDisk SSD PLUS – ก้าวแรกสู่โลก SSD
SanDisk SSD Plus เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบการทำงานของเครื่อง โดยให้ความเร็วในการอ่านข้อูมลอย่างต่อเนื่องสูงสุดถึง 520 MB/วินาที จึงสามารถบูทเครื่อง เข้าโปรแกรม ถ่ายโอนข้อมูล และเล่นเกมส์ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อีกมากมายรองรับไฟล์ขนาดใหญ่ โปรแกรม ไฟล์ภาพ ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เพลง เกมส์ และอีกมากมาย โดยผลิตภัณฑ์มีวางจำหน่ายในความจุขนาด 120 GB และ 240 GB
SanDisk SSD Plus พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก ด้วยความจุขนาด 120 GB และ 240 GB ในราคา 1,850 บาท และ 3,150 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกัน 3 ปี
SanDisk Ultra II SSD – ให้คุณใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
SanDisk Ultra II SSD ได้รับการพัฒนาด้านแผงวงจร SSD เพิ่มความคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้ง่าย ทั้งยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่และพลังงานนอกจากนี้ SanDisk Ultra II SSD ยังทำให้คอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น2 กว่าฮาร์ดดิสก์ตัวเก่ามากถึง 28 เท่า และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ 3 ได้มากขึ้นถึง 20% พร้อมด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงถึง 550 MB/วินาที และความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงถึง 500 MB/วินาที สามารถบูทเครื่องได้เร็วขึ้นพร้อมเพิ่มความเร็วในการเปิดใช้โปรแกรมต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยี X3 NAND Flash จึงทำให้ SanDisk Ultra II SSD มาพร้อมกับเทคโนโลยี nCache Pro 2.0 เทคโนโลยีเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความเร็ว ความทนทานทั้งยังทนต่อการสั่นสะเทือนที่เกิดจากการร่วงหล่นของตัวเครื่องโดยที่ข้อมูลยังคงปลอดภัยอยู่เช่นเดิม
SanDisk Ultra II SSD พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก ด้วยความจุขนาด 120 GB 240 GB 480 GB และ 960 GB ในราคา 2,350 บาท 3,650 บาท 6,500 บาท และ 12,500 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกัน 3 ปี
SanDisk Extreme Pro SSD – ส่งมอบความรวดเร็วได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับนักออกแบบงานกราฟฟิกมืออาชีพ
SanDisk Extreme PRO® SSD มาพร้อมกับเทคโนโลยี nCache Pro ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับผู้รักการเล่นเกมส์ ผู้ที่จำเป็นต้องใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่บ่อยครั้งและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อต่างๆ ซึ่งมีความต้องการประสิทธิภาพในการทำงานขั้นสูง โดยได้ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงถึง 550 MB/วินาที และความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงถึง 520 MB/วินาที ดังนั้น SanDisk Extreme PRO จึงเหมาะแก่การใช้งานด้านโปรแกรมกราฟฟิกและการเล่นเกมส์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการจัดเก็บข้อมูลสูงถึง 1 TB พร้อมรองรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของโปรแกรม เกมส์ หรือไฟล์ประเภทต่างๆ รวมถึงความรวดเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปลี่ยนให้เครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดากลายเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการเล่นเกมส์ได้อย่างง่ายดาย
SanDisk Extreme PRO® SSD พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก ด้วยความจุขนาด 240 GB 480 GB และ 960 GB ในราคา 4,850 บาท 9,250 บาท และ 17,500 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกัน 10 ปี