เอสเอพี (SAP) เผยโฉมนวัตกรรมเพื่อความยั่งยื
โธมัส ซาวเออร์ซิก คณะกรรมการบริหาร ด้าน SAP Product Engineering ของ SAP SE กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้ องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการเพิ่มความคล่องตัว (agility) และเพิ่มความยืดหยุ่น (resiliency) ในภาวะวิกฤติโควิด-19 เป็นไปอย่างเฉียบขาด ในขณะเดียวกันองค์กรธุรกิจในปัจจุบันยังต้องรับมือกับสภาวะแวดล้อมและภาพรวมตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันแบบ hyperconnected ด้วยเช่นกัน เราเล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาเหล่านี้ จึงนำเสนอทางเลือกใหม่เพื่อช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ให้องค์กรสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม พร้อมขยายเครือข่ายธุรกิจได้ เรามั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ ความเชี่ยวชาญ ชุดโซลูชัน และพาร์ทเนอร์อีโคซิสเต็มส์ของเอสเอพี จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมุ่งสู่การเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ อย่างแท้จริง”
Climate 21
ภายในงาน เอสเอพีได้เปิดตัวโปรแกรม Climate 21 ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม กลยุทธ์เดินหน้าสู่อนาคตของเอสเอพีในอีกหลายปีข้างหน้า จะเน้นการสร้างความร่วมมือเชิงนวัตกรรมกับพาร์ทเนอร์ โดยผนวกกรอบแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าไปในทุกโซลูชันของเอสเอพี สนับสนุนให้ลูกค้ามีความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ประเมินผล ควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตจนถึงปลายทาง แอพพลิเคชัน SAP® Product Carbon Footprint Analytics เป็นโซลูชันแรกของโปรแกรม Climate 21 ที่เปิดให้บริการโดยแอพจะดึงข้อมูลจาก SAP S/4 HANA® และแหล่งข้อมูลจากที่ต่างๆ จัดการคำนวณข้อมูลเหล่านี้บนโซลูชัน SAP Analytics Cloud ช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และช่วยให้สามารถวางแนวทางสำหรับการวิเคราะห์และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ต่อไป
Industry Cloud
องค์กรที่เป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ นั้น นอกจากที่จะต้องมีความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจปัจจุบัน ได้แล้วนั้น ยังต้องสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขยายฐานรายได้และศักยภาพในการเติบโต ได้ในขณะเดียวกัน เอสเอพี จึงได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ นำเสนอโซลูชัน Industry Cloud เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของชุดโซลูชัน intelligent suite จากเอสเอพี และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหลักของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม
โซลูชัน Industry Cloud ของเอสเอพี เป็นโซลูชันเฉพาะด้านที่ตรงความต้องการของพาร์ทเนอร์และผู้ใช้งาน โดยจะถูกสร้างขึ้นภายใต้ Business Technology Platform และใช้ open API framework, open process model, open domain model เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าและผู้ใช้งาน โซลูชันนี้สามารถทำงานร่วมกันกับชุดโซลูชัน Intelligent suite ของเอสเอพีได้ ทำให้นักพัฒนาสามารถติดตั้งและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI, IoT และเทคโนโลยีขั้นสูงของเอสเอพี เพื่อเร่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและต่อยอดคุณค่าทางธุรกิจได้ โซลูชั่นนี้จึงทำให้การดำเนินงานและการสร้างสรรค์นวัตกรรมมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
เอสเอพี เพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับการจัดการซัพพลายเชน
เอสเอพี นำเสนอแนวคิด Industry 4.Now ที่ผนวก นวัตกรรมต่างๆ สำหรับซัพพลายเชน ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบไปจนถึงการดำเนินการ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ปรับระบบการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติ รวมถึงตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น โดยองค์กรธุรกิจสามารถปรับใช้นวัตกรรมเหล่านี้ เพื่อช่วยในการออกแบบและสร้างสินค้าและสินทรัพย์ ที่มีความชาญฉลาด สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจากเซนเซอร์ในซัพพลายเชนได้ การใช้นวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยลูกค้าให้เปลี่ยนกระบวนทัศน์ของอุตสาหกรรม 4.0 จากเดิมที่โฟกัสเพียงแค่การทำงานสายการผลิตในโรงงานเป็นสำคัญแทนที่ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจขององค์กรอย่างรอบด้าน เทคโนโลยีภายใต้ Industry 4.Now จะช่วยให้องค์กรสามารถสรรค์นวัตกรรมที่ต้องการ รวมถึงจัดเก็บชุดข้อมูลดิจิทัลของสินค้าและสินทรัพย์ที่ถูกสร้างขึ้นตลอด lifecycle เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์กลับสู่กระบวนการทางธุรกิจตั้งแต่การออกแบบจนถึงการดำเนินงาน ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์และการคาดการณ์ล่วงหน้า จะช่วยให้ผู้ใช้งานมีการตัดสินใจทางธุรกิจดียิ่งขึ้น ขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มรายได้ให้องค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอสเอพี ชูกลยุทธ์ Unified Business Network
เอสเอพี ชูกลยุทธ์การสร้าง network of intelligent enterprises หรือการสร้างเครือข่ายองค์กร อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์
เพื่อช่วยปรับกระบวนการทางธุรกิจภายในองค์กรให้เป็นระบบดิจิทัล ทำให้การทำงานร่วมกันภายในองค์กรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการซัพพลายเชน ทำให้เห็นภาพรวมของการทำงานในซัพพลายเชนตั้งแต่ การออกแบบ, การวางแผน, การจัดหา, การจัดซื้อ, การผลิต ไปจนถึง การขนส่งและการจัดการด้านสินทรัพย์ โดย เอสเอพีจะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ จากระบบ ERP และระบบเครือข่ายที่ได้รับความนิยม อาทิ ระบบเครือข่ายของ Ariba®, SAP Asset Intelligence Network, SAP Logistics Business Network รวมถึงโซลูชัน SAP Fieldglass® เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึง collective intelligence หรือข้อมูลเชิงลึกรวม บน Business network เปิดนี้ได้
ปัจจุบันมูลค่าทางการค้าที่เกิดขึ้นบนระบบเครือข่ายธุรกิจ B2B ของเอสเอพีคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เอสเอพีพร้อมเดินหน้าพัฒนาให้ระบบซัพพลายเชนขององค์กรมีความยืดหยุ่นและยั่งยืน พร้อมพลิกโฉมโมเดลธุรกิจ ทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวพร้อมรับมือ global disruption ที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชม SAP News Center และติดตาม เอสเอพี บนทวิตเตอร์ได้ที่ @sapnews.