ไมโครโฟนซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเซนไฮเซอร์กำลังเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิด ในปี 1998 ไมโครโฟน เอโวลูชั่นได้พุ่งเข้าสู่วงการบันเทิงเป็นครั้งแรกทำให้วงดนตรีมีความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติพร้อมเสียงทองทรงคุณค่าทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี นับแต่นั้นมาบริษัทก็สามารถขายไมโครโฟน เอโวลูชั่นทั้งแบบมีสายและไร้สายได้ถึง 10 ล้านเครื่อง
ไมโครโฟน เอโวลูชั่นได้รับการออกแบบพิเศษให้ทนทานต่อพลังของการแสดงสดบนเวที และมีคุณภาพสูงขึ้นเรื่อยๆตรงตามความต้องการเฉพาะเจาะจงของตลาดที่ก้าวล้ำไปตอดเวลาในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ซีรีส์นี้ก็สร้างความสมดุลย์ได้อย่างลงตัวระหว่างราคาที่ผู้บริโภคสามารถรับได้กับเสียงที่ออกมาน่าประทับใจและคุณภาพการผลิตที่สูง ซีรีส์นี้มีไมโครโฟนที่เหมาะกับการแสดงทุกรูปแบบ ไม่ว่าเวทีจะเล็กใหญ่ขนาดไหน อย่างงานแกรมมี่ อะวอร์ดที่เพิ่งผ่านมา ได้ใช้ไมโครโฟน เอโวลูชั่น ถึง 80 ตัว ตั้งแต่ e 935 สำหรับการร้อง จนถึง e 602-II
ลองมองย้อนไปสักนิด ความกล้าหาญเพียงก้าวเดียวได้ปูทางให้เรามาถึงจุดนี้ ก่อนที่จะผลิตไมโครโฟน รุ่นเอโวลูชั่นออกสู่ตลาด มีรุ่นคลาสสิกเต็มไปหมด เช่น MD 441, MD 421 และ MD 409 รวมทั้งไมค์อื่นๆในโมเดลเดียวกัน
ไมเคิล โพลเท่น ผู้อำนวยการงานบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ กล่าวว่า “บริษัทฯโฟกัสชัดเจนเน้นไปทางสตูดิโอโทรทัศน์ ด้วยการผลิตไมโครโฟนคุณภาพสูงสำหรับใช้ในงานกระจายเสียงและสตูดิโอโทรทัศน์” และ กล่าวเพิ่มเติมว่า“ไม่ใช่ว่าไมโครโฟนทุกชิ้นที่มีสมรรถนะสูงสำหรับงานกระจายเสียงจะสามารถนำไปปรับใช้กับเวทีการแสดงสดได้ง่ายๆ”
เซนไฮเซอร์เผชิญปัญหาที่สลับซับซ้อนมาก กล่าวคือ ถ้าเซนไฮเซอร์ต้องการจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมดนตรีแล้วเรื่องราคาก็ต้องไม่สูงเกินกำหนด ในขณะเดียวกันบริษัทฯก็ต้องการจะโฟกัสที่คุณภาพต่อไปด้วยการผลิตไมโครโฟนที่ทำจากประเทศเยอรมนี ในที่สุดก็สามารถแก้ปัญหาผ่าทางตันได้ด้วยการผลิตงานคุณภาพที่เยอรมนีต่อไปโดยการใช้ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติทุกขั้นตอน แสดงว่าเกิดความเสี่ยงทั้งด้านการเงินและด้านเทคนิคครั้งใหญ่เพราะโรงงานผลิตแบบนี้ไม่เคยสร้างมาก่อนจากการที่ร่วมธุรกิจกับบริษัทที่มีความชำนาญด้านวิศวกรรมความเที่ยงตรงแม่นยำ นั้นทำให้วิศวกรอุตสาหการและผู้ชำนาญการผลิตภัณฑ์ได้ร่วมกันพัฒนาอุตสาหรรมการผลิตไมโครโฟนและแคปซูลที่ทรงพลัง
ในปี 1998 และปีต่อมา ไมค์ชุดที่หนึ่งเริ่มลำเลียงออกจากโรงงานและก็มีรุ่นเอโวลูชั่นเกิดขึ้น การที่บริษัทฯเต็มใจเสี่ยงและบริหารจัดการอย่างดีทำให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าเห็นผลชัดเจนเมื่อกลับเข้าสู่วงการอุตสาหรรมไมโครโฟนเครื่องเสียงอย่างเจิดจรัสอนึ่งโมเดลดั้งเดิมของซีรีส์ เอโวลูชั่นได้แก่ ไมค์สำหรับร้องเพลง แบบมีสายรุ่น e 825, e 835 และ e 845 รวมทั้งไมค์เครื่องดนตรี ได้แก่รุ่นe 602, e 604, e 608 และ e 609 และรุ่นอื่นๆอีกมากมายตลอดระยะเวลายาวนาน
เอโวลูชั่น900 ซีรีส์เป็นผลงานการออกแบบสำหรับงานเครื่องเสียงที่ท้าทายที่สุด ในปี 2003 เซนไฮเซอร์ได้เปิดตัวเอโวลูชั่น900โมเดลพรีเมี่ยมเป็นครั้งแรกของซีรีส์นี้
เกรกอร์ ซีลินสกี้ มาสเตอร์ด้านเสียงและผู้จัดการงานเครื่องเสียงประยุกต์นานาชาติ ของเซนไฮเซอร์ ได้เป็นผู้ควบคุมการปรับดีไซน์เสียงของซีรีส์ใหม่นี้ กล่าวว่า “จากการผลิตไมโครโฟนเอโวลูชั่น 900 ซีรีส์ ทำให้เราเริ่มประเพณีใหม่ในการทดสอบไมโครโฟนจากมุมมองภายนอกเข้ามา
คือสภาพแวดล้อมที่จะไปใช้งานจริง เรานำต้นแบบไปทดลองในผับแห่งหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี ให้นักดนตรี และนักพัฒนาการ ทดลองใช้ ณที่นั้นเราจะทราบว่าควรปรับเปลี่ยนเสียงตรงไหนบ้าง ลดเพิ่มด้านไหน และ ทำเสียงไหนให้ใสคมชัด นักพัฒนาการของเรามีความเชี่ยวชาญด้านงานดีไซน์และดนตรี จะทราบดีว่าควรปรับปรุงแก้ไขตรงไหนจึงจะบรรลุเป้าหมายคุณภาพเสียงที่ต้องการได้”
เอโวลูชั่น 900 ซีรีส์ทำสถิติมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการวงดนตรี ศิลปิน และ วิศวกรเครื่องเสียง อนึ่งเสียงของแคปซูลเสียงโดยเฉพาะแคปซูล 935 เป็นที่นิยมมาก ถึงขนาดได้รับเกียรติให้นำไปใช้ในแคปซูล MD 5235 ซึ่งดีไซน์ให้กับสุดยอดไมโครโฟนไร้สาย SKM 5200 รุ่นท๊อปเอ็น
ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม เว็บไซต์ www.sennheiserasia.com
หรือติดต่อฝ่ายประชชาสัมพันธ์ โทร 02 950 6667, 087 674 9068
อีเมล์: [email protected]