มาถึงยุค “หนึ่งครอบครัว หลายอุปกรณ์” ทุกคนในบ้านต่างก็มีสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน ใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร ใช้เพื่อการทำงานและความบันเทิง ทุกๆ คนต่างต้องการโทรศัพท์และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไว้ใช้เป็นของตัวเองกันทั้งนั้น ยังไม่นับอุปกรณ์หลายหลากที่วันนี้เข้าสู่ยุค IOT (Internet Of Things) ที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ แอร์ ทีวี เครื่องฟอกอากาศ รวมถึงกล้องถ่ายภาพติดบ้านติดรถยนต์ ทุกอย่างก็ใช้งานกับอินเตอร์เน็ตกันได้หมดแล้ว
ฉะนั้นไม่แปลกเลยถ้าเราจะมีอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งที่พกพาไปไหนต่อไหน และอีกหลายตัวที่ตั้งไว้ในบ้านหรือที่ทำงาน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นต่างก็ต้องการอินเตอร์เน็ตในการเชื่อมต่อถึงกันได้ตลอดเวลา
ความจำเป็นในการใช้งานสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตพร้อมกันหลายอุปกรณ์จึงมีความต้องการมากขึ้นกว่าเดิมมาก ค่ายผู้ให้บริการต่างๆ จึงมีการจัดแพ็กเกจไว้ให้ในรูปแบบแพ็กเกจยกครัว หลายอุปกรณ์แชร์กันใช้ภายใต้แพ็กเกจเดียวกันในราคาพิเศษ ได้สิทธิและราคาถูกกว่าแบบรายหัว ซึ่งน่าจะเหมาะกว่าในชีวิตประจำวันของหลายคนและครอบครัวในวันนี้
เราก็มาดูกันดีกว่าครับ AIS, dtac และ True แพ็คเกจแบบแฟมิลี่ของเครือข่ายไหนในตอนนี้ ที่จะคุ้มค่าน่าใช้กว่า? สำหรับใครที่สนใจจะนำไปใช้กันภายในครอบครัว หรือจะนำไปใช้กัลกลุ่มเพื่อนฝูงหรือเพื่อนที่ทำงานก็ใช้ได้เช่นกันนะครับ
โดยพื้นฐานของบริการแพ็กเกจกลุ่มแบบครอบครัวเหล่านี้ คือการโทรหากันฟรีภายในกลุ่มได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่อั้น ความแตกต่างของแต่ละค่ายนั้นจะเป็นเรื่องของจำนวนนาทีการโทรไปยังหมายเลขอื่นๆ และจำนวนดาต้าอินเตอร์เน็ตที่ให้มาใช้กัน รวมถึงจำนวนซิมการ์ดที่นำออกมาใช้แชร์กันได้ในแต่ละแพ็จเกจจะมีจำนวนไม่เท่ากันครับ
AIS 4G Share
เริ่มกันที่แพ็กเกจ 4G Share ของ AIS ซึ่งดูจะเป็นค่ายที่ให้แพ็คเกจแบบกลุ่มมาได้หยืดหยุ่นน้อยมาก เพราะจำกัดจำนวนผู้ใช้ไว้ระดับเดียวทุกแพ็กเกจ คือ ใช้ได้สูงสุด 5 คน คนร่วมแชร์จะน้อยจะมากก็ใช้แพ็กเกจแบบเดียวกันทั้งหมดครับ
แถมอินเตอร์เน็ตที่ให้ใช้งานเป็นแบบมีจำนวนจำกัด จะใช้เกินจากแพ็กเกจที่ได้ต้องจ่ายเพิ่ม ทำให้ค่อนข้างควบคุมยากกว่า ยิ่งโดยเฉพาะบางครอบครัวอาจจะมีให้เด็กหรือผู้สูงอายุได้ใช้งานด้วย เครื่องไหนเปิดใช้งานเน็ตหนักๆ โดยไม่เข้าใจ ก็จะดึงดาต้าไปใช้จนหมด ในยามฉุกเฉินของเครื่องหลักก็อาจจะไม่มีเน็ตให้ใช้เมื่อยามจำเป็นได้ครับ ความหยืดหยุ่นในการใช้ค่อนข้างต่ำมากทีเดียว
แต่ก็จะแลกมากับจำนวนดาต้าอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานได้เต็มสปีดเยอะกว่าค่ายอื่นๆ ในระดับราคาเท่ากันครับ เราจะได้อินเตอร์เน็ตเต็มสปีดซึ่งจะได้มาถึง 30GB สำหรับแพ็คเกจราคาเริ่มต้น 888 บาท แต่อย่างที่บอกถ้าใช้ครบก็คือจบเลย ใช้งานต่อไม่ได้ถ้าไม่ซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตหรือจ่ายเงินเพิ่ม
AIS มีบริการเสริมหลายอย่างที่น่าสนใจมาให้ครับ เช่นบริการรับชมภาพยนตร์ผ่านแอพ AIS Play และ AIS Cloud+ สำหรับพื้นที่ฝากไฟล์ออนไลน์ 100GB
ข้อดี AIS 4G Share
- ให้อินเตอร์เน็ตเต็มสปีดมาเยอะมากที่สุด
- มีบริการเสริมดีๆ ให้ เช่น AIS Super Wi-Fi และ AIS Play
ข้อด้อย AIS 4G Share
- มีแพ็กเกจให้เลือกน้อย
- ทุกแพ็คเกจมีจำนวนซิมที่แชร์เท่ากันหมด คือไม่เกิน 5 หมายเลขเท่านั้น
- อินเตอร์เน็ตใช้ได้จำกัด ใช้หมดแล้วหมดเลย ใช้เพิ่มต้องเสียตังค์เพิ่ม
dtac Share package
สำหรับแพ็กเกจครอบครัวของ dtac มีจุดเด่นที่จำนวนนาทีการโทรที่ให้มาเยอะที่สุดครับ แต่ข้อเสียคือราคาสูงมากและจำนวนอุปกรณ์ที่แชร์กันได้ก็ให้น้อยมากเช่นกัน เพราะแพ็กเกจเริ่มต้นกำหนดอยู่ที่ราคา 1099 บาทต่อเดือน แต่แชร์ใช้งานได้เพียงสองอุปกรณ์เท่านั้น เท่ากับตกอุปกรณ์ละ 550 ต่อเดือนเลยทีเดียว มองไปถึงแพ็คเกจสูงสุด 2499 บาทต่อเดือน ก็ยังแชร์ใช้กันได้เพียง 4 เครื่องเท่านั้น
สำหรับ dtac Share package น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนใช้งานกันหนักและมีจำนวนผู้แชร์ไม่มากเท่านั้นครับ เพราะแม้จะมีแพ็กเกจให้เลือกถึง 5 ระดับ แต่ก็ถือว่าราคาสูงมากในทุกแพ็กเกจและแชร์กันได้น้อยคนอีกด้วย
แน่นอนว่าทาง dtac ก็ให้สิทธิรับบริการเสริมไปใช้กันได้ฟรีเช่นบริการ dtac WiFi, โทรหากันฟรีในกลุ่ม, ดูหนังผ่านแอพ PrimeTime ที่เขาจัดไว้ให้ 20 เรื่องต่อเดือน พร้อมพื้นที่ฝากไฟล์รูปและวีดีโอ 100GB
ข้อดี dtac Share package
- จำนวนนาทีโทรให้สูงมากที่สุดในราคาเท่ากัน
- มีบริการเสริมให้ใช้กันฟรี เช่นดูหนังที่จัดไว้ให้ 20 เรื่องผ่านแอพ PrimeTime
ข้อด้อย dtac Share package
- แพ็คเกจราคาค่อนข้างสูง
- จำนวนหมายเลขที่แชร์ได้ในแพ็กเกจค่อนข้างจำกัด เริ่มต้น 2 หมายเลข และสูงสุดเพียง 4 หมายเลขเท่านั้น
True 4G+ Family share plan
สำหรับแพ็กเกจครอบครัวของทาง True ดูจะมีความสมดุลมากที่สุดแล้วสำหรับการใช้งานกันหลายอุปกรณ์ภายในกลุ่มหรือครอบครัว ด้วยราคาต่ออุปกรณ์ไม่แพงเหมือนทาง dtac และใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่อั้นไม่ต้องกังวลว่าเน็ตจะหมดเหมือนทาง AIS ทำให้เราใช้งานได้คล่องตัวกว่า โดยเฉพาะถ้าใช้กันหลายคน จะควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายและอุ่นใจถ้าจะให้เด็กหรือผู้สูงอายุใช้งานร่วมด้วย
อีกอย่างที่สำคัญคือจำนวนหมายเลขที่เข้ามาแชร์ใช้งาน สามารถร่วมกันเป็นกลุ่มได้สูงสุดถึง 9 หมายเลขเลยทีเดียวครับ แม้ในแพ็กเกจต่ำสุด ราคา 899 บาท ก็อนุญาติให้แชร์ใช้กันได้ถึง 5 หมายเลขแล้ว ทำให้ราคาเฉลี่ยต่อหมายเลขค่อนข้างถูกมากๆ ต่ำสุดเฉลี่ย 180 บาทต่ออุปกรณ์ต่อเดือน และสูงสุดแค่ 278 บาทต่ออุปกรณ์ต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาที่ถูกที่สุดในสามค่ายตอนนี้ครับ
บริการเสริมของ True ก็จัดให้มาทั้ง True WiFi ใช้ได้ไม่อั้น, โทรหากันฟรีในกลุ่มตลอด 24 ชั่วโมง และบริการ True Cloud พื้นที่ฝากไฟล์ออนไลน์แบบไม่จำกัดพื้นที่
ข้อดี True 4G+ Family share plan
- ราคาค่าบริการต่อหมายเลขต่อเดือนถูกที่สุด
- มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายระดับที่สุด
- ใช้ได้หลายอุปกรณ์มากที่สุด สูงสุดถึง 9 อุปกรณ์ด้วยกัน
- มีบริการเสริมให้ใช้ True Wi-Fi และ True Cloud ที่ฝากไฟล์ได้ไม่อั้น
ข้อด้อย True 4G+ Family share plan
- จำนวนอินเตอร์เน็ตเต็มความเร็ว (100 Mbp/s) ให้มาน้อย แต่ใช้งานต่อเนื่องได้ไม่อั้นที่ความเร็ว 384 Kbp/s ไม่มีค่าบริการเพิ่ม
รายละเอียด True 4G+ Family share plan
สรุปแล้ว สำหรับแพ็คเกจการใช้งานแบบกลุ่ม/ครอบครัวในช่วงนี้ น่าจะเป็นโปร True 4G+ Family share plan ที่ดูน่าสนใจที่สุดครับ ออกแบบแพ็กเกจมาได้สอดรับกับการใช้งานทั่วไปของเรามากที่สุด ด้วยการกำหนดราคาต่อเครื่องที่ไม่แพงเกินไป มีจำนวนหมายเลขที่เปิดให้แชร์กันได้เยอะ และอินเตอร์เน็ตดาต้าที่ให้ใช้งานกันแบบ Non-Stop ต่อเนื่องไม่ตัด ไม่มีการจำกัดปริมาณการใช้ซึ่งเป็นข้อหงุดหงิดใจมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานร่วมกันหลายคนหลายอุปกรณ์ครับ