โซนี่ไทยส่งผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio เอาใจคนรักเสียงเพลงยุคดิจิตอล ยกระดับความสุนทรีย์สู่คุณภาพระดับออดิโอไฟล์
เมื่อวานนี้ โซนี่ มอบประสบการณ์ในการฟังดนตรีคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับคุณภาพจากห้องบันทึกเสียง หรือการแสดงสดอีกครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ซึ่งทั้งศิลปิน โปรดิวเซอร์ และค่ายเพลงมากมายในปัจจุบัน ต่างก็ได้ร่วมกันจับมือทำงานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานดนตรีคุณภาพสูงระดับ Hi-Res Audio ออกมาให้แก่ผู้รักเสียงเพลง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จากโซนี่ด้วยเช่นกัน
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ที่โซนี่ไทยเปิดตัวประกอบด้วย
MDR-10 Series – เป็นกลุ่มหูฟังรุ่นใหม่ที่สืบทอดความสำเร็จมาจากหูฟังระดับพรีเมี่ยม MDR-1 Series ที่ได้วางตลาดมาก่อนหน้านี้ และยังวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน โดยโซนี่ได้ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อถ่ายทอดรายละเอียดเสียงดนตรีคุณภาพสูง กับความสะดวกสบายในการใช้งานให้มีความกระชับพอดียิ่งขึ้น MDR-10 Series ได้ใช้ตัว Dynamic Driver ขนาด 40 ม.ม. ที่สามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว ทั้งในย่านความถี่ต่ำที่ทรงพลัง และย่านความถี่สูงที่กว้างขึ้น ในกลุ่มหูฟัง MDR-10 ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน MDR-10R, MDR-10RC ขนาดกะทัดรัด และสามารถพับเก็บได้, MDR-10RBT ใช้งานแบบไร้สาย และรุ่น MDR-10RNC (ไม่ใช่ Hi-Res Audio) ซึ่งเป็นรุ่นตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling) โดยทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้พอดี และสบายยิ่งขึ้น แม้ว่าต้องใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- MDR-10R – หูฟัง Hi-Res Audio สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ จำหน่ายราคา 5,990 บาท
- MDR-10RC – หูฟัง Hi-Res Audio ขนาดกะทัดรัด และสามารถพับเก็บได้ จำหน่ายราคา 5,990 บาท
- MDR-10RBT – หูฟัง Hi-Res Audio แบบบลูทูธ พร้อมเทคโนโลยี NFC (Near Field Communications) ซึ่งผู้ใช้สามารถฟังเพลงจากอุปกรณ์อื่นๆที่มี NFC เช่นกัน ด้วยการนำหูฟังไปแตะที่เครื่องเท่านั้น อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธจากเครื่องเล่นเพลงที่มีระบบบลูทูธสเตอริโอ และโทรศัพท์มือถือ จำหน่ายราคา 6,990 บาท
- MDR-10RNC – (ไม่ใช่ Hi-Res Audio) มีระบบตัดเสียงรบกวน (Noise-Cancelling) จำหน่ายราคา 7,990 บาท
[divider]
XBA-H Series – เป็นหูฟังแบบ in-ear ที่พัฒนาขึ้นมาจากกลุ่ม XBA เดิมเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น เป็นหูฟังแบบไฮบริดโดยมีไดรเวอร์ 2 แบบในตัวเดียวกันทั้ง Dynamic Drivers และ Balanced Armature Drivers ที่ให้มิติรายละเอียดเสียงคมชัด รวมทั้งขับย่านเสียงต่ำให้ทรงพลังยิ่งขึ้น เพื่อสร้างอรรถรส และสุนทรียภาพในการฟังเพลงทุกประเภทได้อย่างดื่มด่ำกว่าเคย
- XBA-H3 หูฟังรุ่นเรื่อธงในซีรี่ส์นี้ เป็นหูฟังที่รองรับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio มาพร้อมไดรเวอร์ 3 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 16 ม.ม. และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 2 ตัว สามารถขับเสียงได้ครอบคลุมทุกย่านความถี่เสียงได้อย่างมีมิติ คมชัด ชุ่มฉ่ำ รวมทั้งขับเสียงในย่านความถี่ต่ำได้อย่างทรงพลัง จำหน่ายราคา 9,990 บาท
- XBA-H2 (ไม่รองรับ Hi-Res Audio) – พร้อมไดรเวอร์ 2 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 13.5 ม.ม. 1 ตัว และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 1 ตัว ให้เสียงร้องที่ชัดใส และเสียงเบสลึกกังวาน จำหน่ายราคา 7,490 บาท
- XBA-1 (ไม่รองรับ Hi-Res Audio) – พร้อมไดรเวอร์ 2 ทางแบบไฮบริด ประกอบด้วย dynamic driver ขนาด 9 ม.ม. 1 ตัว และไดรเวอร์แบบ Balance Armature 1 ตัว ให้น้ำเสียงคมชัดใส ฟังสบาย จำหน่ายราคา 4,490 บาท
[divider]
Walkman ประกอบด้วยรุ่น NW-ZX1 และ NW-F880
- NW-F880 – ให้ผู้ฟังได้สัมผัสคุณภาพเสียงในระดับ Hi-Res Audio ที่ให้คุณภาพเสียงเหนือกว่าซีดีทั่วไป ด้วยความละเอียดระดับ 192KHz/24bit มาพร้อมภาคขยายเสียงดิจิตอล S-Master HX ที่ลดสัญญาณรบกวนในทุกย่านความถี่ เทคโนโลยี DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) HX ช่วยชดเชยรายละเอียดเสียงที่สูญหายไปในระหว่างการบีบอัดสัญญาณ เพื่อให้ได้รายละเอียดเสียงที่คมชัดเป็นธรรมชาติ เพิ่มคุณภาพสัญญาณที่ถูกบีบอัดให้สูงกว่าซีดีทั่วไป รวมทั้ง Clear Audio+ ย้งช่วยให้น้ำเสียงมีความกระจ่างชัด สมจริงยิ่งขึ้น หน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้ว แบบ TRILUMINOS Display for Mobile นอกจากนี้ยังมี NFC เพื่อใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ NFC ได้ด้วย พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 สามารถฟังเพลงแบบ MP3 ได้อย่างต่อเนื่อง 35 ช.ม. และ 26 ช.ม. สำหรับการฟังเพลงแบบ Hi-Res Audio (99KHz/24bits) วางจำหน่ายปลายเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ราคา 10,590 บาท
- NW-ZX1 เป็นเครื่องเล่นมีเดียระดับเรือธงที่รองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงได้ มีความจุ 128 GB มาพร้อมดีไซน์ และวัสดุคุณภาพสูง โดยตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว หน้าจอคมชัดแบบ TRILUMINOS Display for Mobile ความละเอียด 854 x 480 ขนาด 4 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี OptiContrast Panel ลดช่องว่างระหว่างหน้าจอ แผงเซนเซอร์ และกระจก ภาคขยายเสียง S-MASTER HX พร้อมวงจรเสียงคุณภาพสูง ใช้ตัวเก็บประจุ OS-CON สำหรับวงจรขยาย สายไฟ OFC ในการเชื่อมต่อภายใน และแบตเตอรี่คุณภาพสูง รองรับการเล่นไฟล์ความละเอียดสูงทั้ง WAV, AIFF, FLAC และ Apple Lossless ที่ 24 bit 192 KHz สามารถเลือกโหมดประมวลผลเสียงแบบ DSEE HX และ ClearAudio+ เชื่อต่อใช้งานได้ทั้งแบบ Wi-Fi a/b/g/n, Bluetooth และ NFC สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 32 ชม.ในการเล่นไฟล์ MP3 พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 มีพอร์ตเชื่อมต่อเฉพาะ (WM-Port) รองรับ USB Audio สามารถเชื่อมต่อกับเครื่อง DAC / แอมป์พกพาของ Sony รุ่น PHA-2 ได้ วางจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ราคายังไม่กำหนด
[divider]
PHA-2 – แอมปลิไฟเออร์แบบพกพาสำหรับใช้งานกับหูฟัง รองรับคุณภาพเสียง Hi-Res Audio (192KHz/24bit) นอกจากรองรับการใช้งานกับหูฟัง ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ NW-F880, NW-ZX1 รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ด้วย ตัวเครื่องทำจากซิงค์อัลลอย พร้อมตัวซับสัญญาณรบกวนจากภาพนอก มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบบิลท์อินสามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบอนาล็อก และ 6.5 ชั่วโมงเมื่อเชื่อต่อแบบดิจิตอล จำหน่ายราคา 21,990 บาท
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Hi-Res Audio ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาทิ PCM-D100 เครื่องบันทึกเสียงแบบ Hi-Res Audio เป็นต้น ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th
# # #
คุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์
XBA-H Range
Model | XBA-H3 | XBA-H2 | XBA-H1 |
High-Resolution
Audio Capability |
|||
Colours | Black | Black | Black |
Receiver Type | Closed, Hybrid | Closed, Hybrid | Closed, Hybrid |
Driver Unit | 3-way system:
– 16mm Dynamic (Woofer) – 1 BA (Full Range) – 1 BA (HD Super Tweeter) |
2-way system:
– 13.5mm Dynamic (Woofer) – 1 BA (Full Range)
|
2-way system:
– 9mm Dynamic (Woofer) – 1 BA (Full Range)
|
Wearing Style | In-ear; Ear Hanger | In-ear | In-ear |
Frequency Response | 3 – 40,000Hz | 4 – 25,000Hz | 5 – 25,000Hz |
Sensitivity | 107dB/mW | 106dB/mW | 105dB/mW |
Impedance (at 1 kHz) |
40 Ω | 40 Ω | 40 Ω |
Weight (Approx.) | 10g (without cable) | 8g (without cable) | 7g (without cable) |
Cable | – 1.2m detachable ear hanger OFC cable with In-line remote & microphone
– 1.2m detachable ear hanger OFC cable |
– 1.2m detachable OFC cable with In-line remote & microphone
– 1.2m detachable OFC cable |
– 1.2m OFC cable |
Features | – Beat Response Control
– Liquid Crystal Polymer Diaphragm |
– Beat Response Control
– Liquid Crystal Polymer Diaphragm |
– Beat Response Control
|
MDR-10 Range
Model | MDR-10R | MDR-10RC | MDR-10RBT | MDR-10RNC |
High-Resolution
Audio Capability |
(in passive mode) |
|||
Colours | Black, White | Black, White, Red | Black | Black |
Receiver Type | Closed, Dynamic | Closed, Dynamic | Closed, Dynamic | Closed, Dynamic |
Driver Unit | 40mm | 40mm | 40mm | 40mm |
Wearing Style | Around-ear | On-ear | Around-ear | Around-ear |
Frequency Response | 5 – 40,000Hz | 5 – 40,000Hz | 5 – 40,000Hz | 6 – 24,000Hz |
Sensitivity | 100dB/mW | 100dB/mW | 100dB/mW | 101dB/mW |
Impedance (at 1 kHz) |
40 Ω | 40 Ω | 40 Ω | 50 Ω |
Weight (Approx.) | 180g (without cable) | 165g (without cable) | 210g (including rechargeable battery) | 205g (without cable, incl. AAA battery) |
Cable | – 1.2m detachable OFC cable with In-line remote & microphone
– 1.2m detachable OFC cable |
– 1.2m detachable OFC cable with In-line remote & microphone
– 1.2m detachable OFC cable |
– 1.2m detachable OFC cable
– 50cm Micro USB cable
|
– 1.2m detachable OFC cable with In-line remote & microphone
– 1.5m detachable OFC cable |
eatures | – Beat Response Control
– Enfolding Structure |
– Beat Response Control | – Beat Response Control
– Enfolding Structure – Rechargeable 17hr Li-ion battery for Bluetooth operation – NFC for One Touch Listening |
– Beat Response Control
– Enfolding Structure – S-Master Amplifier – Dual Noise Sensor – AAA battery for Noise Cancelling operation |
PHA-2
Model | PHA-2 |
High Resolution Audio Capability | |
Frequency range | 10Hz – 100 kHz (AUDIO IN input)
Distortion 0.01% or less (1kHz) |
Supported impedance | 8 Ω – 600 Ω |
Maximum input | 1Vrms (AUDIO IN) |
Maximum output (when using the built-in lithium-ion rechargeable battery) |
Approx. 165 mW + 165 mW (8 Ω, 10 % distortion)
Approx. 90 mW + 90 mW (32 Ω, 1 % distortion) Approx. 25 mW + 25 mW (300 Ω, 10 % distortion) |
Audio output | Stereo mini jack*1 (PHONES jack)
Stereo mini jack*1 (Switching the input and output of the AUDIO IN/LINE OUT jack by the OUTPUT SELECT switch) |
Audio input | Stereo mini jack*1 (Switching the input and output of the AUDIO IN/LINE OUT jack by the OUTPUT SELECT switch)
Micro-USB port (type B) “WALKMAN” connecting port iPhone/iPad/iPod connecting port |
Operating temperature | 0 °C to 40 °C |
Charging temperature | 5 °C to 35 °C |
Power source | DC 3.7 V built-in lithium-ion rechargeable battery |
Battery life | Analog connection: Approx. 17 hours*2
Digital connection: Approx. 6.5 hours*2 |
Charging time | Approx. 7 hours*3 |
Dimensions (w/h/d) | Approx. 68 mm × 29 mm × 140 mm (Projecting parts are not included) |
Mass | Approx. 270 g |
Supported sampling frequencies/bit |
PCM: Maximum 192 kHz/24 bit/PC, WALKMAN® NWZ-F880 series
DSD (PC only): 2.8 MHz, 5.6 MHz |
*1 Only a 3-pole stereo mini plug is supported. Other plugs, including 2-pole mini plug or 4-pole stereo mini plug, are not supported.
*2 When using the unit at 1 mW + 1 mW output (24 Ω). Time may vary, depending on the immediate environment or conditions of use.
*3 Time required for empty battery to recharge.
ประชาสัมพันธ์
(กรุงเทพฯ / 14 พ.ย. 56) – บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด วันนี้ถือฤกษ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ ม Hi – Resolution Audio (ไฮเรส โซลูชั่น ออดิโอ) หลากหลายรุ่น เอาใจคนรักเสียงเพลงด้วยการยกระดับสุนทรียภาพของการรับฟังดนตรีในรูปแบบไฟล์ดิจิตอลต่าง ๆ ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยคุณภาพของเสียงดนตรีที่ดีที่สุดในทุกรายละเอียด ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟัง วอล์คแมน แอมปลิฟายเออร์แบบพกพา เป็นต้น ทั้งนี้ Hi – Resolution Audio หรือ Hi-Res Audio ก็คือไฟล์เพลงที่ให้รายละเอียดสูงกว่าซีดี เพลงทั่วไป ตั้งแต่ 3 เท่าขึ้นไป จนถึง 8 เท่า นั่นหมายถึง เพลงที่ให้รายละเอียดและคุณภาพที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่บันทึกจากสตูดิโอ หรือการแสดงสด โดยไม่ผ่านการบีบอัดใดๆ
แม้ว่าการรับฟังดนตรีจากไฟล์เพลงดิจิตอลรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นทางเลือกที่สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ฟังมากขึ้น และสามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ก็อาจพบข้อจำกัดในเรื่องของคุณภาพเสียงที่สูญหายไปในระหว่างการบีบอัดไฟล์ ส่งผลให้คุณภาพของเสียงดนตรีที่ได้ด้อยลงไปด้วย จึงทำให้ผู้ที่นิยมการฟังเพลงที่ถูกบีบอัดในรูปแบบไฟล์ดิจิตอลต่าง ๆ ยังคงถวิลหาความสุนทรีย์จากการรับฟังเพลงที่มีรายละเอียดครบครันในทุกย่านเสียง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ดี และถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง จึงมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้อย่างตรงใจผู้ฟังที่พิถีพิถันในคุณภาพและความเป็นดนตรี